ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 337 คำถามสามข้อ
“ฮึ่ย!ฉันว่าแล้วเชี่ยว….”
ฉีเซี่ยวฮันคิดว่าหลินเฉิงต้องไม่ยอมอยู่แล้วเขาจะกลับคำใส่เธออีกครั้ง “จะให้ฉันพูดว่าอะไรอีก!? ฉันบอกความลับนั้นกับนายไม่ได้ถ้านายไม่สัญญาว่าจะเข้าร่วมก่อน!”
“ฉันรู้”
หลินเฉิงพยักหน้าอย่างง่ายๆส่วนหนึ่งเขาก็สัญญาว่าจะคุยกับผู้sญิงคนนี้เพราะจะช่วยเลาฟางเป็นกรณีพิเศษ แต่ที่สำคัญที่สุดหลังจากที่ต้องรับมือกับเธออยู่หลายครั้ง เขาก็เข้าใจนิดหน่อยแล้วว่างานปริหารที่ทีมของเธอทำอยู่นั้นต้องซับซ้อนมากๆ และงานบริหารประเภทนี้ก็ต้องอาศัยศักยภาพมากกว่าแผนก อื่นๆ อีกด้วย!
หลังจากที่เขามาเยือนฐานทัพแห่งนี้เขาก็พบเจอกับอะไรแปลกๆ มากมาย บางอย่างก็เป็นปัญหา บางอย่างก็เป็นเรื่องง่ายๆ และแน่นนอนว่าด้วยวิธีปกติแบบนี้ไม่สามารถหาเบื้องหลังของฉางเหวินฉวนและเหย่เหม่ยจู เลยแม้แต่นิดเดียว
ตอนแรกเขาอยากจะเข้าร่วมกับกองพันที่หนึ่งเพราะสถานะการณ์ของที่นั้นแปลกมากๆ และเป็นเพราะการนำทัพของฉางเหวินฉวนด้วย เพราะงั้นการเข้าร่วมกองพันที่หนึ่งก็เหมือนกับทางลัดที่เร็วที่สุด สู่การไขความลับของเขา
แต่เมื่อเขารู้เบื่องลึกของที่แห่งนี้มากขึ้นตัวตนของฉางเหวินฉวนก็เป็นปริศนามากขึ้นเช่นกัน ตอนนี้ปริศนามากมายก็เกิดขึ้นในฐานทัพแห่งนี้อีก และความลับของชายคนนั้นกับปีศาจรัตติการก็ดันเพิ่มขึ้นมาอีก!
ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้อันดุเดือดของเขากับเผ่าเสน่รัตติการก่อนหน้านี้ไม่ว่าพวกนั้นจะตายไปมากขนาดไหน แต่หลิงเหมิงก็หลบหนีไปได้ เขาก็ไม่ใช่นางฟ้าที่จะหาล่องลอยของเธอในแนวหุบเขาไม่มีที่สิ้นสุดแห่งนี้ด้วย ผลที่ตามมาทำให้เขาอยู่ในการตั้งรับอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อหลินเหมิงดีขึ้นแล้วเธอคงจะกลับมาที่นี่อีก ถ้าเขาติดตามเจ้าพนักงานระดับสูง พวกเขาอาจจะติดต่อกับอีกฝ่ายอย่างลับๆ ก็ได้ ตอนนี้คนพวกนั้นก็เหมือนหิ่งห้อยในที่มืด พวกเขาคือเป้าหมายที่มีชีวิต!
ด้วยความมั่นใจในพลังของตัวเองหลินเฉิงก็ยังไม่ดูถูกคู่ต่อสู้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ต่อสู้อยู่คนเดียว แต่ถ้าอีกฝ่ายรู้ถึงความสัมพันธ์ของเขากับครอบครัวของป้าฉิน นั้นคงจะเป็นปัญหาอย่างแน่นอน
เขาต้องอาศัยความได้เปรียบที่ชนะหลิงเหมิงไปได้ในรอบนี้ให้เป็นประโยชน์เขาต้องหาความลับเกี่ยวกับเผ่านั้นให้ได้ และฉีเซี่ยวฮันดันมาปรากฏตัวต่อหน้าเขาอีก แถมเธอยังบอกว่าแผนกการจัดการของเธอรู้ความลับมากมายมากกว่าที่คนทั่วไปรู้ เวลานั้นมีค่านัก เขาควรจะเข้าถึงความลับพวกนั้นให้เร็วที่สุด!
ดังนั้นเมื่อการพิจารณาอย่างครอบคลุมทุกปัญหาแล้ว หลินเฉิงก็ให้ความสนใจกับฉีเซี่ยวฮันในทันที เพื่อไม่ให้เธฮสงสัยในตัวเขามากนัก เขาต้องทำเป็นไม่เต็มใจและขอเวลาคิด หลินเฉิงยกนิ้วขึ้นมา 3 นิ้ว และถามฉีเซี่ยวฮัน ด้วยสีหน้าจริงจัง “ฉันมีคำถามแค่ 3 ข้อเท่านั้น ถ้าเธอตอบได้หมดฉันจะยอมเข้าร่วมทันที!”
“3อย่างงั้นหรอ! ถามมาเลย!”
เห็นทีท่าของหลินเฉิงฉีเซี่ยวฮันก็เข้าใจขีดจำกัดของอีกฝ่าย ถ้าเธอให้ความร่วมมือเช่นเดียวกันกับเขา ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เธอก็จะได้ยอดฝีมือเข้าร่วมทีม!
เห็นเซี่ยวฮันพยักหน้าหลินเฉิงก็หยุดพูดจาไร้สาระ เขาถามคำถามแรกตรงๆ “อย่างแรกเลยก็คือ บอกมาหน่อยว่าตอนนี้ฉางเหวินฉวนแห่งกองพันที่หนึ่งเป็นอย่างไรบ้าง”
“ฉางเหวินฉวน?ทำไมนายถึงถามเรื่องของไอหมอนั้น? ไม่ควรมีจุดตัดระหว่างนายสองคนใช่ไหม?” ได้ยินคำถามแรกไป เธอก็นิ่งไปเลย เธอคิดว่าหลินเฉิงจะถามอะไรที่ยากจนเธอตอบไม่ได้ เธอไม่คิดว่าเขาจะถามถึงฉางเหวินชวนสักนิด
หลินเฉิงส่ายหัวอย่างไม่อยากรอ“แล้วเธอจะทำไมหละ? ตอบฉันมาก็พอ!”
“ก็ได้…”
เห็นแบบนี้ฉีเซี่ยวฮันก็เก็บความสงสัยเอาไว้ก่อน“งั้นอยากรู้เรื่องอะไรของฉางเหวินฉวนหละ? อย่าลืมนะว่าถามได้แค่สามข้อ แม้ว่านายจะรู้ถึงตัวตนของฉางเหวินฉวน มันก็ยังมีอะไรอีกเยอะ ฉันบอกได้ไม่หมด แม้ว่าแผนกของเราจะทำงานอย่างอิสระแต่ก็ทำอะไรกับเขาได้ไม่มาก…”
หลินเฉิงพยักหน้า“งั้นบอกเรื่องความสามารถของชายคนนี้ให้ฟังหน่อย”
“อ่า?”
เห็นคำถามที่หลินเฉิงพูดออกมาฉีเซี่ยวฮันก็ไม่ทันตั้งตัว เธอนิ่งไปอีกครั้ง ก่อนที่จะขมวดคิ้ว “ทำไมนายถามแต่อะไรยากๆ นักห๊ะ!พลังของฉางเหวินฉวนเป็นเรื่องที่แผนกของเราพยายามตามติดตามตั้งแต่ฐานทัพแห่งนี้ก่อนตั้งขึ้นมาแล้ว แต่ก็ยังยืนยันอะไรไม่ได้จนถึงตอนนี้ ตามข้อมูลจากสายลับหลายๆ คน การเคลื่อนไหวแปลกๆ ของกองพันที่หนึ่งขณะออกทะเลแล้ว ฉันบอกได้แค่ว่า พลังของฉางเหวินฉวนน่าจะเกียวกับคมเขี้ยวจักพรรดิ์!”
“คมเขี้ยวจักพรรดิ์งั้นหมายความว่า…”
แม้คำตอบของฉีเซี่ยวฮันจะยังไม่ได้รับการยืนยันแต่หลินเฉิงก็ไม่รู้สึกไม่พอใจแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตามข้อมูลนี้เขาไม่มีปัญญาหามันมาได้แน่ๆ ตอนนี้ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ที่ได้ยินจากปากของฉีเซี่ยวฮัน
เห็นหลินเฉิงไม่ติดใจกับเรื่องนี้แล้วเขาก็ถามคำถามที่สองต่อทันที “ฉันได้ยินมาว่าฉางเหวินฉวนเป็นพวกเพลย์บอยที่มีชื่อเสียงมาก่อน หญิงสาวนับไม่ถ้วนถูกทำให้ป่นปี้ เธอรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างไหม?”
“นายรู้เรื่องนั้นด้วยหรอ?คนที่บอกนายมาน่าจะไม่ใช่คนธรรมดาแล้วนะ!”
ได้ยินคำถามข้อที่สองฉีเซี่ยวฮันก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจอดีตของฉางเหวินฉวน มีใครไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากที่ฐานทัพแห่งนี้ผ่านการสับเปลี่ยนมาหลายครั้ง มันแทบที่จะเป็นไปไม่ได้เลยที่มีคนพูดถึงเรื่องนี้หลงเหลืออยู่อีก เธอจึงแปลกใจมากที่หลินเฉิงรู้ถึงเรื่องนี้ได้!
เห็นสีหน้าของฉีเซี่ยวฮันเขาก็ไม่ได้มีแผนที่จะบอกว่าเขารู้เรื่องนี้มาจากใคร เขาจึงบอกไปว่า “หนูก็มีทางของหนู งูก็มีทางของงู เธอก็มีทางของเธอ แน่นอนว่าฉันก็มีทางของฉันเหมือนกัน!”
“….เล่นขี้โกงหนิ!”
เห็นหลินเฉิงไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับเธอว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ฉีเซี่ยวฮันก็ได้แต่แสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา “แน่นอนว่าฉางเหวินฉวนไม่ใช่คนดี ฉันก็สาปแช่งเขาทันทีที่รู้เรื่องอดีตของเขา! แต่….แม้ว่าเขาจะเป็นพวกกระล่อนมาก่อน แต่มันก็ไม่สำคัญสำหรับนายใช่ไหมหละ? นอกเสียจากนายจะเป็น…”
“จะเป็นอะไรก็เรื่องของฉันสิ!”
ก่อนที่ฉีเซี่ยวฮันจะได้พูดจบหลินเฉิงก็ขัดจังหวะเธอไว้และพูดต่อ “ถ้าเธอไม่ยอมตอบฉัน อย่าหาว่าฉันไม่เตือนนะ!”
ได้ยินคำสวนฉีเซี่ยวฮันก็รีบยิ้มให้และพูด “อย่านะ! อย่า! พี่หลิน นายก็แก่กว่ามาก อย่าทำกับน้องแบบนี้เลย! มีอะไรก็ถามมาเลย ฉันจะไม่นอกเรื่องแล้ว!”
————————–SC: บทที่ 338 ดาบแห่งรัตติการ