ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 364 การต่อสู้ในห้องสูบบุหร
หลังจากที่ถามทางไปห้องน้ำจากพนักงานแล้วหลินเฉิงเขาก็เช็ครอบๆ ตัวเขา ว่าไม่มีใครกำลังเพ็งเล็งอยู่หรือไม่ แล้วเขาก็รีบพุ่งตัวไปยังห้องน้ำที่ห่างออกไปด้วยความเร็วสูง
“ปั้ง!”
ทันทีที่ปิดประตูเขาก็ถุกมือของใครบางคนดึงเอาไว้ก่อนที่เขาจะได้มองไปรอบๆตัวเสียอีก เขารู้สึกว่าร่างของตัวเองถูกฉุดเข้าไปยังห้องสูบบุหรี่ทางด้านขวามือในทันที
หลังจากที่ถูกลากเข้าไปแล้วหลินเฉิงก็รู้แล้วว่าไม่มีอันตรายอะไร เขาหันไปข้างๆ ก็พบกับในหน้านิ่งๆ ของชูฉิง และเขาก็ถามออกไปว่า “เธอรู้ไหมว่าท่าทีของพวกเราในตอนนี้มันดูเป็นอย่างไร?”
ได้ยินแบบนั้นชูฉิงก็ยักไหล่แสดงความไม่พอใจออกมาและพูดอย่างเฉยเมย “จะออกมาเป็นแบบไหนได้อีกหละ? ไอคนขี้โกง!”
“จะบ้าหรอ!อะไรทำให้ฉันดูเหมือนคนขี้โกงห๊ะ? ชื่อเสียงของฉันป่นปี้หมดพอดี!”
เห็นท่าทีอันไม่แยแสของชูฉิงหลินเฉิงก็รู้สึกไร้ซึ่งคำพูดอย่างสิ้นเชิง และจุดบุหรี่ เดินไปนั่งบนเก้าอี้แถวๆ นั้นอย่างชิวๆ
“นายจะทำตัวเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าฉันสักครั้งได้ไหม?จะสูบบุหรี่ทีไรก็ไม่ถามกันก่อนสักคำ!”
ชูฉิงที่กำลังจะถามคำถามเห็นหลินเฉิงจุดบุหรี่ต่อหน้าต่อตา ก็รู้สึกโกรธและบ่นออกมาอย่างไม่พอใจ
“เธอนี่จริงๆเลยนะ…”
เมื่อถูกหาว่ามีความเป็นสุภาพบุรุษไม่พอเขาก็มองไปยังป้ายข้างบนหัว
“เธออ่านป้ายไม่ออกรึไง?”
“นั้นมันคนละเรื่องกัน!จะสูบบุหรี่ต่อหน้าใครก็ต้องขออนุญาติก่อนสิ” เห็นชายคนนี้ตอบคำถามกลับมาแบบไม่คิดอะไรเธอก็ขมวดคิ้วและพูดแบบไม่อยากจะทน
แต่หลินเฉิงเองก็ไม่ใส่ใจในคำถามของเธอก่อนที่จะชี้ไปยังตัวอักษรบนป้ายและถามเธออีกครั้ง “งั้นอ่านให้ฉันฟังทีสิ ว่ามันเขียนว่าอะไร?”
“ห้องสูบบุหรี่…”
แต่ก่อนที่เธอจะพูดจนจบเธอเข้าใจแล้วว่าหลินเฉิงจะใช้มุกนี้สวนเธอกลับ!
“แม้มันจะเขียนว่าอย่างงั้นแต่ท่าทีของนายก็ไม่สุภาพอยู่ดี เอาเถอะฉันก็เข้าใจในความคิดในฝั่งของนายเหมือนกัน งั้นเราก็เข้าเรื่องกันเถอะ เรื่องของฉางเหวินฮวน…”
เมื่อรู้ว่าหลินเฉิงจะเยาะเย้ยเธอแน่นอนว่าเธอโกรธแต่เก็บมันไว้ในใจก่อนที่เรื่องมันจะยาวไปมากกว่านี้ เมื่อเธอจ้องตาเขา เธอก็ค่อยๆ หายใจเข้าให้ใจเย็นลงและเข้าเรื่องสำคัญได้ในที่สุด “งั้นจะให้พูดเรื่องอะไร?”
เห็นเธอจะคุยกับเขาเรื่องของฉางเหวินฉวนหลินเฉิงกว่าส่ายหัวและถามอย่างสงสัย “ฉันเองก็พึ่งจะเจอหน้าเขา และเขาก็นับถือฉันเหมือนกับพี่ชายคนนึง รวมถึงยอมที่จะช่วยเหลือฉัน นั้นไม่ใช่เรื่องของเธอเลยใช่ไหมหละ? แล้วเธอจะก้าวเท้าเขามายุ่งเรื่องของชาวบ้านทำไม?”
“ปั๊ง!”
ได้ยินคำพูดแบบนั้นชูฉิงก็เดือดก่อนที่จะพูดออกมาอย่างเกรี้ยวกราด “พึ่งจะเจอหน้ากัน? นับถือเหมือนพี่เหมือนน้อง? จะไปหลอกใครแบบนั้นก็ได้ แต่หลอกฉันไม่ได้ ฉันบอกเรื่องฉางเหวินฉวนกับนายไปแล้วจำได้ไหม?”
“ให้ตายเถอะ!”
เห็นชูฉิงไม่เชื่อคำพูดของเขาเขาก็อดที่จะด่าตัวเองที่พูดอะไรไม่เข้าท่าออกไป แม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูดจริงๆ ฉางเหวินฉวนมาเจอกับเขาโดยบังเอิญและเผยอีกด้านที่ไม่มีใครเคยเห็นให้กับเขา! “งั้นหมายความย่างไงห๊ะ?”
เมื่อเข้าใจแล้วว่าชูฉิงไม่ยอมเขาง่ายๆแน่ หลินเฉิงก็กดก้นบุหรี่ลง และลุกขึ้นมาอย่างหมดซึ่งความอดทน
“หมายความอย่างไงใช่ไหม?”
ชฺฉิงมองมายังหลินเฉิงสักวิสองวิและพูดอย่างแน่วแน่ไปว่า “ฉันหมายถึง….ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด นายต้องออกตัวกับเรื่องของฉางเหวินฉวนวันนี้แน่ๆ ใช่ไหมหละ! อาจจะ….อาจจะเป็นเร็วๆ นี้ก็ได้!”
“น่าสนใจดีหนิ…”
เห็นสีหน้าที่ชัดเจนของชูฉิงหลินเฉิงก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ “ฉันจะไม่ถามเธอนะว่าทำไมเธอถึงมั่นใจขนาดนั้น แล้วถ้าฉันจะออกตัววันนี้ ก็ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับเธอสักหน่อย เธอเป็นพี่สาวที่ดีของเสี่ยวเดีย เธอดูแลน้องสาวของฉันอย่างดีมาโดยตลอด แต่เธอก็จัดการปัญหาที่หยั่งรากลึกของฉางเหวินฉวนไม่ได้! แต่มันก็ไม่สำคัญ เพราะยังไงๆ ฉางเหวินฉวนก็มีอำนาจมากและอยู่สังกัดเดียวกันกับเธอ ถ้าจะปกป้องเสี่ยวเดียก็เป็นไปได้ยาก แน่นอนว่่าเธอช่วยอะไรฉันไม่ได้ในตอนนี้…”
พูดจบหลินเฉิงก็จุดบุหรี่ขึ้นมาอีกมวน“แต่ฉันหนะต่างจากเธอ ฉันไม่ต้องระวังเรื่องของการเงินหรือสังกัดอะไรทั้งนั้น ถ้าจะทำอะไรก็ย่อมมีอิสระมากกว่าเธอ แน่นอนว่าฉันไม่ต้องระวังเรื่องผลที่ตามมาอะไรทั้งนั้น ไอเดียของฉันนั้นง่ายมากๆ ถ้าเพื่อครอบครัวแล้ว ไม่มีอะไรที่ฉันทำไม่ได้!”
ได้ยินคำพูดอันหนักแน่นของหลินเฉิงชูฉิงก็พยักหน้าเข้าใจมาโดยตลอด เมื่อเขาพูดจบ เธอก็ตอบกลับไปอย่างนุ่มนวล “ฉันรู้ว่านายหมายความว่าอะไร และฉันก็ไม่ได้อยากมายุ่งกับเรื่องนี้ แต่ยังไงๆ เรื่องนี้มันเดียวข้องกับฉางเหวินฉวนโดยตรงใช่ไหมหละ ฉันเลยต้องการที่จะรู้แผนของนาย! ฉันกลัวว่าถ้านายทำอะไรโผงผางไปหละก็ มันอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะทำลายล้างนายและครอบคัวของนายได้เลยนะถ้ามันถูกแพร่ออกไป!” “ฉันกล้าเสนอหน้ามาถึงที่นี่แน่นอนว่าฉันวางแผนเอาไว้แล้ว ถ้าฉันต้องให้เธอมาเตือนเรื่องง่ายๆ พวกนี้ ฉันคงเน่าตายไปแล้วหละ”
เขารู้ถึงความเป็นห่วงของชูฉิงเขาเลยลดความเกรี้ยวกราดลงไปบ้าง เขามองไปยังเธอด้วยสีหน้าติดตลกและพูดออกมา
“งั้นนายจะทำอะไรหละ?ฉันต้องเตือนนายก่อนนะว่าพลังของฉางเหวินฉวนนั้นยังไม่มีใครรู้เลย ต่อให้นายเม็นผู้ควบคุมน้ำแข็งระดับ 4 มันก็ดูอันตรายมากนะ!”
หลังจากที่บาดหมางกันมามากและเธอก็ถามถึงแผนของเขา
“ทำไมฉันต้องบอกเธอด้วยหละ?”
แน่นอนว่าหลินเฉิงไม่อยากพูดออกมาแม้ว่าเธอจะเหมาะที่จะคุยกันถึงเรื่องนี้ อย่างไงๆ เธอก็เป็นหนึ่งในคนใกล้ตัวของฉางเหวินฉวน เธอเป็นเลขาของดิงเฮาหยวน และฉางเหวินฉวนก็เป็นตัวตายตัวแทนของดิงเฮาหยวน แม้จะเป็นอะไรที่ซับซ้อน แต่หลินเฉิงก็ไม่อยากจะบอกใครจนกว่าเรื่องนี้จะจบลง! เห็นหลินเฉิงไม่ต้องการจะบอกแผนให้เธอฟังสีหน้าของเธอก็ดูร้อนรนและจับแขนของหลินเฉิงเอาไว้ก่อนที่จะถาม “ทำไมไม่บอกกับฉันหละ? เพราะฉันเป็นคนของผู้บังคับบัญชาสูงสุดหรอ? แต่ฉันก็เป็นพี่สาวของเสี่ยวเดียนะ เป้าหมายขงพวกเราก็เป็นสิ่งเดียวกันอยู่แล้ว ฉันอาจจะช่วยอะไรได้บ้างก็ได้นะ?”
“เดี๋ยวเดี๋ยว” SC: บทที่ 365 ชูฉิง ผู้พ่ายแพ้