ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 406 วัสดุของหลินเฉิง
“ใช่แล้วหน้าสงสัยสุดๆ เลยหละ…”
ได้ยินแบบนั้นเหลียงก็พยักหน้าเห้นด้วยกับสิ่งที่หลินเฉิงถามเขาคิดอะไรบางอย่างออก ก่อนที่จะขมวดคิ้วและถามกลับไป “แต่เราส่งทีมไปติดตามเขาตลอด 24 ชม. เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี่เอง ทำไมพวกเขาไม่พบร่องรอยอะไรเลยหละ นายมาถึงที่นี่อาทิตย์นึง ทำไมถึงได้ข้อมูลนั้นมาหละ?”
“ทำไมผมถึงได้ข้อมูลที่สำคัญขนาดนั้นมาหรอ?แทนที่จะกังวลเรื่องนี้ กังวลเรื่องของฉางเหวินฉวนดีกว่าไหม!”
เห็นสีหน้าสงสัยของเหลียงหลินเฉิงก็ไม่พร้อมที่จะตอบคำถามนั้นเลย เขาจึงปัดเรื่องนี้ทิ้งไป
“เออ..ก็ใช่นะ”
เห็นหลินเฉิงไม่พูดถึงแผนนั้นเหลียงก็ได้แต่พยักหน้าเห็นด้วย เขายังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้และนึกถึงเรื่องของฉางเหวินฉวน
“ไม่สิ!”
ขณะที่ผู้เฒ่ากำลังทำสมาธิเซี่ยวฮันที่นั่งเงียบมานานมาก ก็พูดขึ้นมา เห็นสายตาของคนทั้งสองมองมายังเธอ เธอก็ลุกขึ้นและวิ่งไปใกล้ๆ หลินเฉิงทันที “ฉันรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง ฉันไม่รู้ว่าเป็นอะไร แต่หลังจากที่ได้ยินสิ่งที่นายพูดแล้ว ฉันก็นึกออกเลยว่านายมีปัญหาเรื่องอะไร!”
พูดจบเธอก็ส่งเสียงไม่พอใจออกมาและดึงคอเสื้อของหลินเฉิง “นายยังไม่บอกเป้าหมายที่นายมาวันนี้กับเราเลยไม่ใช่หรือไง? แน่นอนว่าการที่ให้เราส่งคนไปคุ้มกันครอบครัวของนายต้องไม่ใช้เป้าหมายที่สำคัญที่สุดแน่ๆ แม้ว่านายจะบอกว่ามีเรื่องกับฉางเหวินฉวน ถ้าฉางเหวินฉวนมีพลังสายฟ้าระดับ 5 จริงๆ นายก็ไม่กลัวเขาเพราะพลังของนายอยู่ดี ทำไมต้องการแรงสนับสนุนของพวกเราด้วย? นายมีแผนอะไรซ้อนเอาไว้อีกหละ!”
ด้วยคำเตือนของฉีเซี่ยวฮันผู้เฒ่าเหลียงที่กำลังคล้อยตามหลินเฉิงก็นึกถึงความจริงข้อนั้นได้ทันที เขาเองก็นึกขึ้นมาได้เหมือนกันว่าเหตุผลในการมาครั้งนี้ของหลินเฉิงยังมีอะไรที่มากกว่านั้น!
“ปล่อยฉัน ก่อน!”
หลินเฉิงพูดไม่ออกที่โดนเด็กตัวเล็กๆ แบบนี้ข่มขู่เอาได้ สมาชิกดาบรัตติการไม่รู้อยู่แล้วว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น ทำไมเวลาสงสัยอะไร พวกเขาต้องคอยดึงคอเสื้อกันแบบนี้ด้วยนะ? เขาเองก็เริ่มเซ็งแล้ว
หลังจากที่สลัดมือของเซี่ยวฮันลงหลินเฉิงก็จัดปกเสื้อของตัวเอง และหันกลับไปหาผู้เฒ่าด้วยรอยยิ้ม
“แน่นอนว่าที่ฉันมาต้องมีเหตุผลมากกว่า1 ข้ออยู่แล้ว และฉันตั้งใจที่จะบอกมันให้ฟังอยู่แล้ว ยังงงอยู่อีกไหม?”
“ก็ฟังดูเข้าท่าขึ้นมาบ้าง!” เหลียงไม่อยากคิดมากเขาโบกมือให้ “ถ้านายอยากจะให้เราร่วมมือจริงๆ ก็บอกมาได้แล้ว ไม่งั้นก็ไปไหนก็ไป!”
“ก็ได้!”
เห็นผู้เฒ่ายังคงมุ่งมั้นหลินเฉิงก็รู้อยู่แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้ เขาส่ายหัวแล้วหยิบบุหรี่ขึ้นมา “งั้นก็พูดอย่างเปิดอกเลยก็แล้วกันนะ”
หลินเฉิงเริ่มกลับมาหน้านิ่งอีกครั้งเขาพิ้งเก้าอี้และหมุดตัวไปทางผู้เฒ่า “ผมไม่รู้ว่าดาบรัตติการต้องการอะไรจากฉางเหวินแวน ถ้าเขาทำผิดกฏ แต่ข้อมูลเล็กๆ ที่ได้มา ผมมั่นใจอย่างยิ่งว่า เรื่องที่เขาเข้ามาตีสนิทน้องสาวของผมนั้น ต้องมีอะไรที่ไม่ธรรมดาอยู่เบื่องหลังแน่ๆ! โดยปกติแล้วถ้าเขามาไม่ดีผมจะจัดการกับเขาไปแล้วแน่ๆ !”
“ดะ…เดี๋ยวสิ!”
เห็นหลินเฉิงพุดอย่างเฉียบคมและเด็ดเดี่ยวแม้แต่ผูเฒ่าเหลียงที่พบผู้ใช้พลังมาแล้วมากหน้าหลายตา ก็อดที่จะรู้สึกกลัวนิดๆ ในใจไม่ได้ “เพียงเพราะการมาหาน้องสาวของเขาไม่ปกติ นายถึงกับจะฆ่าเขาเลยหรอ?!”
“แน่นอน!”
หลินเฉิงพยักหน้าแล้วขมวดคิ้ว “แล้วมันมีปัญหาอะไรหละ?”
“ปัญหาหรอ?เรื่องใหญ่เลยหละซิ!”
เห็นความดุเดือดของชายคนนี้เหลียงก็รุ้สึกโกรธขึ้นมา เขาชี้หน้าหลินเฉิงและถามอีกครั้ง “นายรู้ไหมว่านายหมายปองชีวิตของใคร? รองผบ. ญาติของ ผบ.สูงสุดเลยนะ!”
“เชื่อผมเถอะผมรู้ดีมากว่าใคร ว่าฉางเหวินฉวนคนนี้มีผลต่อใครบ้าง!”
ก่อนที่เหลียงจะได้พูดต่อหลินเฉิงก็ขัดจังหวะเขาเอาไว้ “เมื่อเทียบสิ่งที่เขาซ่อนเอาไว้แล้ว ตัวตนที่เรายังไม่รู้จักนั้นน่ากลัวกว่านี้อีก!”
“อะไรนะ?”
ได้ยินเหลินเฉิงพูดถึงอีกตัวตนนึงของฉางเหวินฉวนแล้วคนที่กำลังโกรธก็เปลี่ยนเป็นแปลกใจในทันที “ฉางเหวินฉวนยังมีตัวตนที่พวกเราไม่รู้จักซ่อนเอาไว้ด้วยหรอ?นายไปรู้ความลับอะไรมาหนะ?”
“ผู้เฒ่าต้องใจเย็นกว่านี่นะให้ผมพูดให้จบก่อน!”
หลินเฉิงยิ้มและพูดตำหนิชายแก่
“อย่าทำเป็นเล่นนะ!”
รอบนี้เหลียงไม่ต่อปากต่อคำเขาลุกขึ้นและเดินเข้าไปใกล้ และเอามือทุบโตะถามขึ้นเสียงดังฟังชัด “เราเองก็คิดว่าฉางเหวินฉวนอาจจะมีตัวตนที่ซ้อนเอาไว้ แต่พวกเราก็ไม่รู้เรื่องนั้นเลยสักนิด ตามที่นายพูดเอาไว้เมื่อกี้นี้ ตัวตนของเขาเปิดเผยให้นายเห็นแล้วอย่างงั้นหรอ?”
“อื่ม….ใช่แล้วครับ!”
หลินเฉิงคิดก่อนที่จะพยักหน้าให้ “แน่นอนว่าเขาไม่ได้แสดงให้ผมเห็นตรงๆ ตามที่ผมคาดคะเนเหตุการณ์แปลกประหลาดที่ดันเกิดขึ้นรอบๆ ตัวของฉางเหวินฉวนแล้วมันก็พอพูดออกมาได้บ้าง…”
“งันก็…”
ได้ยินแบบนั้นผู้เฒ่าก็รู้สึกผิดหวังเล็กๆ แต่เขาก็พยักหน้าให้ เพราะยังไงๆ เรื่องของฉางเหวินฉวนก็เป็นอะไรที่ไม่สามารถเข้าไปยุ่งได้ง่ายๆ อยู่แล้ว มันคงเป็นอะไรที่ยากลำบากมาที่หลินเฉิงได้ข้อมูลมามากขนาดนี้ “งั้นมันคืออะไรหละ?”
ตอนนี้ก็พูดมาถึงจุดสำคัญที่สุดแล้วหลินเฉิงยกมุมปากขึ้น ดับบุหรี่ลง แล้วนั่งลงไปบนโซฟา หลังจากที่มองไปรอบๆ ห้องแล้ว หลินเฉิงก็หันกลับมาที่เหลียง พร้อมกับพูดอย่างจริงจัง “ถ้าสิ่งที่ผมคิดนั้นไม่ผิด ฉางเหวินฉวน เป็นแบบเดียวกับสัตว์ทะเลพวกนั้น … เขากับพวกมันมีความสัมพันใกล้ชิดกันมาก!”
———————-SC: บทที่ 407 การเจรจาที่หยุดชะงัก