ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 434 ดาบรัตติกาลปรากฏตัว
SC:บทที่434: ดาบรัตติกาลปรากฏตัว!
เมื่อได้ยินดังนั้นฉางเหล่าอู๋ ชายหนุ่มผู้ที่เป็นหัวหน้าของกลุ่มเห่ยซานก็อดที่จะดูถูกออกมาไม่ได้ “ผมไม่ได้เพิ่งพูดไปหรอว่าพี่น้องของผมอยู่ห่างกันเกินไป…”
“เฮอะ!”
เขารู้ว่านี่เป็นเพียงข้อแก้ตัวของฉางเหล่าอู๋ ดิงเฮาหยวนไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ หลังจากส่งเสียงเย็นในลำคอ เขาก็พูด “โอเค เลิกไร้สาระได้แล้ว! ตลาดมืดที่บริษัทเห่ยซานของนายตั้งอยู่ในฐานทัพสมุทรสีครามมาเป็นเวลานาน ฉันเห็นรายงานการขอกวาดล้างของนายมามากกว่าหนึ่งครั้ง! ถ้าหากฉันไม่ปิดหูปิดตาเรื่องนี้ พวกนายทุกคนก็คงได้ออกไปเก็บกรวดกินแล้ว! วันนี้ถึงเวลาใช้งานนาย จัดการผู้ชายคนนั้นซะ แล้วนายจะได้ทำสิ่งที่นายเรียกว่า “ธุรกิจขนาดเล็ก”ของนายในฐานทัพต่อไป แต่ถ้านายทำไมสำเร็จ ก็เตรียมตัวเก็บของแล้วออกไปซะ!”
เมื่อได้ยินคำสั่งที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของดิงเฮาหยวนดวงตาของ ฉางเหล่าอู๋ก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที แต่เขาไม่ได้พูดอะไรออกไปมากนัก หลังจากพยักหน้า เขาก็กวักมือให้กับคนที่อยู่ข้างหลังของตน “นายได้ยินคำของท่านผู้บัญชาการดิงแล้วใช่มั้ย? ถ้าหากยังอยากจะกินดื่มอาหารในฐานทัพ พวกนายต้องทำงานหนักแล้วแหละวันนี้!”
“มันก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกนะท่านผู้บัญชาการคุณก็เห็น”
“ใช่แล้ว!ไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนที่มีพลังควบคุมน้ำแข็งหรอกหรอ? บริษัทเห่ยซานของพวกเราไม่พอใจกฎแบบไหนทั้งนั้น!”
“หยุดพูดจาไร้สาระสักทีและเอาไอ้โง่นี่ออกไปและกลับไปดื่มซะ!”
“ฆ่ามัน!”
“ระวังด้วยนายไม่คิดรึไงว่าเขาบินได้?”
“แล้วยังไง?ฉันก็บินได้เหมือนกัน!” เมื่อเห็นว่าลูกน้องของฉางเหล่าอู๋ไม่ได้สนใจหลินเฉิงเลยแม้แต่นิดเดียว ดิงเฮาหยวนก็ส่งเสียงออกมาทันที “พวกนายควรจะระวังนะ ความแข็งแกร่งของผู้ชายคนนั้นเหนือกว่าที่พวกเราจิตนาการเอาไว้ ถ้าหากไม่วางแผนล่วงหน้า ลูกน้องของนายก็คงไม่ได้ดีไปกว่าพวกเรานักหรอก!”
เมื่อได้ยินแบบนั้นใบหน้าของฉางเหล่าอู๋ก็แสดงถึงความเข้าใจในที่สุด เพราะจากความเข้าใจของเขาต่อดิงเฮาหยวน ปกติแล้วตาแก่นี่เป็นคนที่ดื้อร้นและเย่อหยิ่งเป็นที่สุด ถ้านี่หากไม่ใช่เพราะความกดดันที่ได้รับมาจากฝั่งตรงข้า เขาก็คงไม่พูดอะไรแบบนี้ออกมา
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ฉางเหล่าอู๋ก็หันไปมองรอบๆและตะโกนไปหาลูกน้อยของตน “ทุกคนเงียบ!” หลังจากนั้น พวกคนที่ยังลอยอยู่รอบๆหยุดทะเลาะกันทันที ฉางเหล่าอู๋จึงพูดกับพวกเขา “ท่านผู้บัญชาการดิงเพิ่งบอกมาว่าความแข็งแกร่งของชายคนนี้นั้นเทียบไม่ได้เลยกับพวกที่พวกนายเคยมีเรื่องด้วย ถ้าหากพวกนายยังอยากที่จะมีชีวิตที่ดี ก็แสดงพลังของพวกนายออกมาทั้งหมด โอเคมั้ย?”
“รับทราบ!”
“ไม่ต้องกังวลไปคุณฉางพวกเราจะไม่ทำตัวเหมือนกับฟืนเผาขยะพวกนั้น!”
เมื่อเห็นว่าฉางเหล่าอู๋จริงจังกับเรื่องนี้อย่างที่หาได้ยากในที่สุด พวกลูกน้องของเขาก็เข้าใจทันทีว่าชายหนุ่มที่ยืนกอดอกลอยอยู่ในอากาศนั้นไม่ง่ายเลย!
“อ้าว?นั่นมันคุณฉีฮองไม่ใช่หรอ?”
ขณะที่โดนจับจ้องโดยกลุ่มคนน่ากลัวหลินเฉิงไม่ได้สนใจคนพวกนั้นเลยด้วยซ้ำ เขายังคงกอดอกและมองดูอย่างเงียบเชียบราวกับว่าเขาไม่รับรู้เลยว่าเป้าหมายของการรวมตัวกันครั้งนี้ก็คือตัวเขาเอง ไม่ใช่แค่นั้น หลังจากที่เขาเห็นร่างสีแดงที่กระพริบอยู่รอบๆตัวของคุณฉาง เขาก็เอ่ยสวัสดีออกมาจากปากทันที เมื่อเห็นว่าหลินเฉิงเอ่ยทักทายตนสายตาหลายคู่ที่จับจ้องไปที่ใบหน้าแดงก็เปลี่ยนเป็นถมึงทึง อยากจะฉีกร่างของหลินเฉิงเป็นชิ้นๆทันที !
“คุณ…สวัสดีค่ะคุณหลิน ไม่เจอกันนานเลย!”
ร่างแดงเข้มที่ได้ตกเป็นเป้าที่ถูกพูดถึงทำได้เพียงแค่รับมือกับความกดดันมหาศาล และครั้งนี้ก็พูดออกไปอย่างรวดเร็ว “ถึงแม้ว่าฉีฮองตะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอก็อยากจะแนะนำให้คุณเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นออกมาดีกว่า…”
“อืม…แม้แต่คุณฉีฮองเองก็พูดแบบนั้นมันก็คุ้มที่จะลองคิดดู!”
เมื่อเห็นว่าฉีฮองกำลังเหมือนกำลังคิดกับตัวเองแต่ในเวลาเดียวกัน เธอก็ต้องการที่จะก้าวออกจากขอบเขตของตัวเองเช่นกัน หลินเฉิงหัวเราะออกมาและไม่เห็นด้วย “แต่ผมก็ยังอยากจะถามคุณอยู่ดี นี่เป็นความคิดของคุณเพียงคนเดียวหรอว่าเป็นความคิดของกลุ่มเห่ยซานของคุณ?” “หะ?”
เมื่อได้ยินคำถามของหลินเฉิงเห็นได้ชัดว่าฉีฮองไม่รู้ว่าจะตอบมันยังไงดี และในครั้งนี้ก็ดูเหมือนว่าฉางเหล่าอู๋จะรับรู้สึกได้ว่าบรรยากาศนั้นค่อนข้างผิดปกติ เขาจึงหัวเราะออกมาและเดินไปด้านข้างของฉีฮอง หยุดลงข้างหลังเธอและจากนั้นจึงพูดกับหลินเฉิง “ฉีฮองหมายถึงกลุ่มเห่ยซานของพวกเรา คุณหลินสบายใจได้! แต่ก็เหมือนกับที่เธอเพิ่งพูดไป กลุ่มเห่ยซานของพวกเราไม่ได้รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นภายในวันนี้เลย ที่เรามาก็เพื่อมาช่วยตามคำสั่งของท่านผู้บัญชาการเท่านั้น ดังนั้นผมก็หวังว่าไม่ว่าวันนี้ผลจะออกมาเป็นอย่างไร ทั้งคุณและพวกเราจะไม่คิดแค้นกันจนเกินไป!”
“อย่างนั้นหรอ?กลุ่มเห่ยซานของพวกคุณมีการเตรียมใจด้วยจิตวิทยาแบบนี้สินะ!”
เมื่อได้ยินแบบนั้นหลินเฉิงก็เผยรอยยิ้มประหลาดออกมาอย่างอดไม่ได้ เมื่อได้เห็นรอยยิ้มของหลินเฉิง ฉางเหล่าอู๋ก็ไม่รู้ว่าทำไมสัญชาตญาณอันตรายที่อยู่ในใจของเขาถึงส่งสัญญาณเตือนอย่างกระทันหัน!
เมื่อเห็นฉางเหล่าอู๋ที่เขาเป็นคนเรียกมากำลังพูดกับหลินเฉิงและเสียงของพวกเขาก็ดูไม่แสดงถึงความโกรธเลยสักนิด ดิงเฮาหยวนก็อดที่จะรู้สึกไม่ดีไม่ได้ เขาก็เกือบจะตะโกนด่าฉางเหล่าอู๋อีกครั้งเพื่อให้รู้ถึงตำแหน่งของตัวเอง แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นมาจากด้านหลังของเขา!
“ตู้มตู้ม….”
ด้วยเสียงลงจอดที่ดังสนั่นดาบรัตติกาลของเหลียงได้มาถึงแล้ว หลังจากที่สมาชิกทุกคนก้าวลงถึงพื้น เหลียงก็เดินไปหาดิงเฮาด้วยสีหน้าขอโทษและพูด “ผมต้องขอโทษด้วยผู้บัญชาการดิง เพราะว่าท่านผู้บังคับคัญชาและรองผู้บังคับบัญชาถูกจับตัวไปเป็นนักโทษ ดาบรัตติกาลของพวกเรากำลังตรวจสอบเรื่องของนักฆ่าอยู่ตอนที่เราได้รับคำสั่งของคุณ ดังนั้นเราจึงมาช้า…”
“ไม่เป็นไรไม่เป็นไรเลย!” เมื่อเห็นว่าเหลียงเลามาถึงเขาก็เอ่ยขอโทษกับตัวเอง หลายต่อหลายครั้ง เขารู้สึกว่าดิงเฮาหยวน ผู้ที่ไม่ได้รับความเชื่อถือจากฉางเหล่าอู๋และพรรคพวกของเขาก็ยิ้มออกมาและโบกมืออย่างรวดเร็ว
“เหลียงเลาผู้ที่สามารถเป็นผู้นำของกลุ่มได้ด้วยตนเอง ได้ให้เกียรติกับสำนักงานใหญ่ของพวกเราขนาดนี้ ผมจะโทษคุณได้ยังไง?”
เมื่อพูดถึงตรงนี้เหลียงเลาก็รู้สึกอีกครั้งว่าดิงเฮาหยวนที่เชื่อในตัวเขาชี้ไปที่หลินเฉิงที่ลอยอยู่บนฟ้าและหันไปพูดกับเหลียงอย่างโกรธเคือง “ผู้ชายคนนั้นมีหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับฆาตกรที่เอาตัวฉวนเอ๋อไป แต่ในเวลาเดียวกัน เขาก็แข็งแกร่งมากจริงๆ! ถึงแม้ว่าทางสำนักงานใหญ่ของเราจะส่งคนที่มีความสามารถสูงเท่าที่จะเป็นไปได้ตามไป แต่ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอยู่ดี! เพราะฉะนั้นผมจึงทำได้แค่ขอให้คุณ มาเป็นกำลังเสริม ตราบใดที่คุณสามารถจับตัวเขาได้ คุณก็จะสามารถบังคับให้เขาพูดที่อยู่ของฉวนเอ๋อออกมาได้!”
“คุณหมายความว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องของรองผู้บังคับบัญชางั้นหรอ?”
หลังจากที่ฟังคำของดิงเฮาหยวนเหลียงเลาก็แสดงสีหน้าประหลาดใจออกมาอย่างอดไม่ได้ “แต่ผู้ชายคนนี้ถูกเกณฑ์เข้ามาในดาบรัตติกาลของพวกเราโดยเด็กของเซียวฮันเมื่อไม่กี่วันก่อน! ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้ว่าชายคนนี้จะอารมณ์ร้อนแต่เขาก็แข็งแกร่งและมีหัวใจที่ดี เขาดูไม่เหมือนคนที่จะทำอะไรแบบนั้นเลย ไม่ใช่หรอ?”
————————————–