ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 440 การตัดสินของฉีฮอง
��SC:
SC:บทที440: การตัดสินของฉีฮอง!
“ฟิ้วฟิ้ว -”
“ตู้มตู้ม!”
หลินเฉิงกางปีกน้ำแข็งอย่างรวดเร็วเสียงน้ำแข็งจับตัวดังขึ้น ทันใดนั้น กำแพงน้ำแข็งทรงครึ่งวงกลมก็ปรากฏขึ้นเหนือหัวของเขา ป้องกันใบมีดน้ำแข็งของฉางเกอได้อย่างทันเวลา!
“ตายซะ!”
เมื่อเห็นว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เป็นคนอวดเก่งเขาก็โจมตีไปที่เธอขณะที่เธอหลบการโจมตีของฉางเหล่าอู๋ทันที หลินเฉิงมองอย่างโมโห และจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงแช่แข็งดังขึ้นจากทุกทิศทาง!
“พรึ่บ!”
“พรึ่บ!”
ในชั่วพริบตาเมื่อให้หลินเฉิงเป็นจุดกึ่งกลาง หมอกหนาสีขาวก็ลอยอยู่รอบตัวเขา แต่เมื่อฉางเกอที่อยู่เหนือหัวของเขาพบว่าสถานการณ์ดูไม่ปกติและกำลังจะหนีไป ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกว่าแขนขาของเธอแข็งและร่างทั้งร่างก็ถูกแช่แข็งโดยไม่ทันตั้งตัว!
“อึก-”
“ตู้ม!”
ในขณะเดียวกันฉางเกอเองก็ไม่สามารถขยับได้ หลินเฉิงขวัดขาขวาของเขาและเตะฉางเหล่าอู๋ที่เคลื่อนไหวช้าเพราะแขนขาถูกแช่แข็งออกไป จากนั้นก็ดัดนิ้วตัวเองเสียงดัง หลังจากนั้นก้อนน้ำแข็งก็เกิดการระเบิดอย่างต่อเนื่อง ฉางเหล่าอู๋และฉางเกอที่แขนขาถูกแช่แข็งอยู่ต่างก็แผดเสียงร้องออกมาพร้อมกัน พวกเขาล้มใกล้เท้าของหลินเฉิงพร้อมกับที่เลือดกระจายไปทั่ว!
เขามองไปที่ผู้โชคร้ายทั้งสองด้วยสายตาที่เย็นชาหลินเฉิงไม่ได้พูดอะไรกับพวกนั้นเลยด้วยซ้ำ ทันทีที่เขาหุบปีกของตัวเอง เขาก็ร่วงลงมาที่พื้น พร้อมกับดาบน้ำแข็งที่อยู่ในมือของขวาของเขา เขาก็เดินตรงไปที่ทั้งสองคนที่ส่งเสียงร้องออกมาอย่างทรมาน จากนั้นเขาแกว่งดาบและฟันร่างของทั้งคู่!
“ฟึ่บ-”
“ปั้ง!”
เขาแทงไปที่คอของฉางเหล่าอู๋แต่เลือดที่คิดว่าจะกระเซ็นออกมากลับไม่ปรากฏขึ้น กลับกัน เกิดเสียงปะทะดังลั่น หลินเฉิงก็รู้สึกเหมือนกับว่าเขาเป็นเสือที่อ้าปากค้างจนชา ในขณะที่ใบมืดอยู่ห่างจากคอของฉางเหล่าอู๋ไม่กี่มิลลิเมตรเท่านั้น แต่มันกลับไม่สามารถฟันได้!
“กำแพง?”
เมื่อตระหนักได้ว่าการฟันของเขาถูกใครบางคนหยุดเอาไว้หลินเฉิงก็ขมวดคิ้วและสังเกตสถานการณ์ของฉางเหล่าอู๋อย่างละเอียด จากนั้นเขาก็พบว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ที่เขาถูกคลุมด้วยกำแพงป้องกันโปร่งใสที่แทบจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า และใบมีดของเขาก็ถูกหยุดไว้ด้วยกำแพงป้องกันโปร่งใสที่ดูเหมือนบางแต่แข็งนี้!
“ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ถ้าหากคุณหลินต้องการชีวิตของพี่ฉาง ก็ต้องขอโทษด้วยค่ะ แต่ฉีฮองไม่เห็นด้วย!”
หลังจากช่วยให้ฉางเหล่าอู๋รอดจากความตายได้ทันเวลาเสียงผู้หญิงที่นุ่มนวลและมีเสน่ห์ก็ดังขึ้น เขาเห็นร่างสีแดงเดินออกมาจากหมอกอย่างเชื่องช้า และเมื่อเธอเดินมาหยุดอยู่ที่ด้านข้างของฉางเหล่าอู๋ เธอก็พูดกับหลินเฉิงอย่างใจเย็น
“เข้าใจแล้ว…”
เมื่อเห็นว่าคนที่หยุดเขาจากการตัดหัวคือฉีฮองดวงตาของหลินเฉิงก็หรี่ลง เขาประหลาดใจเล็กน้อย “ก็คือหัวหน้าฉางของคุณอยากได้ชีวิตผม แต่ผมไม่ได้ต้องการชีวิตเขา คุณหมายถึงอย่างนั้นใช่มั้ย?”
“ไม่ใช่ค่ะ…”
เมื่อได้ยินแบบนั้นฉีฮองก็ส่ายหน้าเบาๆ “ทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้ไม่มีความหมายสำหรับฉัน และการที่พี่ฉางเลือกที่จะเข้าร่วมสนามรบแห่งนี้ก็ไม่ใช่ผลจากคำชักจูงของฉัน ที่ฉีฮองทำได้ก็แค่ยอมสละชีวิตของฉีฮองเพื่อเขา ปกป้องเขาเท่าที่ฉีฮองจะทำได้…”
“น่าสนใจ…”
หลังจากที่ได้ยินคำอธิบายของฉีฮองหลินเฉิงก็ยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ “เพราะฉะนั้น ที่คุณมาที่นี่ก็เพราะว่าคุณพร้อมจะไปแล้วหรอครับ?”
“ใช่!”
เมื่อได้ยินแบบนั้นฉีฮองก็ถอนหายใจออกมา “ทีแรก ฉีฮองแค่อยากจะช่วยให้พี่ฉางทำตามคำสั่งบังคับของสำนักงานใหญ่เท่านั้น แต่เมื่อเขาพบว่าคู่ต่อสู้ของเขาคือคุณหลิน เขาก็เข้าใจทันทีว่าไม่ว่าสงครามจะจบลงอย่างไร บริษัทเห่ยซานของพวกเราก็ถูกใช้เป็นเพียงชนวนสงครามเท่านั้น….”
“ถ้าอย่างนั้นผมขอบอกคุณเลยว่าสิ่งที่คุณสังหรณ์นั้นถูกต้องแล้ว!” เมื่อได้ยินแบบนั้นหลินเฉิงก็เยาะเย้ยออกมาทันที จากนั้นเขาก็พูดขึ้น “แต่ถ้าหากฉางเหล่าอู๋ตายไป คนต่อไปที่จะมีหน้าที่ดูแลบริษัทเห่ยซานคือใคร?”
หลังจากที่ได้ยินสิ่งที่หลินเฉิงถามออกมาอย่างกระทันหันฉีฮองก็ตกตะลึง “ที่คุณหลินพูดหมายถึงอะไร?”
“ถ้าหากคุณไม่เข้าใจถ้าอย่างงั้นเรื่องการเกิดใหม่ของฉางเหล่าอู๋ล่ะ!”
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวที่ชาญฉลาดไม่มีตอบสนองอะไรหลินเฉิงก็สามารถส่ายหัวอย่างไม่ไม่พอใจและพูด
“นี่…”
หลังจากที่ได้ยินคำของหลินเฉิงในที่สุดฉีฮองก็มีปฏิกิริยาและเอ่ยถามหลินเฉิงด้วยความตกตะลึง “คุณหลินต้องการจะหมายถึง….?”
“คุณรู้ดี!”
หลังจากเห็นท่าทางสุดท้ายของฉีฮองหลินเฉิงก็ทำมือขัดและพูดขึ้นมา “ตั้งแต่สมัยโบราณ มันไม่เคยมีศัตรูนิรันดร์ มีเพียงความสนใจที่เป็นนิรันดร์เท่านั้น! ผมสามารถแกว่งมือและทลายกลุ่มเห่ยซานของคุณได้ และผมก็สามารถทำให้สำนักงานใหญ่หายไปจากโลกนี้ได้ด้วย! คุณจะเลือกอย่างไหน? เลือกด้วยตัวเองเลย!”
เมื่อถึงตรงนี้หลินเฉิงก็หันไปมองฉีฮองและชี้ไปที่ฉางเหล่าอู๋ที่กำลังนอนอยู่บนพื้นและครางเสียงต่ำออกมา “แต่ผมจะเชื่อแค่คุณเท่านั้น! ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจความหมายนะ!”
“ไม่!”
เมื่อมองไปตามนิ้วของหลินเฉิงฉีฮองเห็นว่าเขามองไปที่ฉางเหล่าอู๋อีกครั้ง เธอตกใจและรีบไปหยุดอยู่ตรงหน้าของฉางเหล่าอู๋และพูด “ฉันเข้าใจที่คุณหลินหมายถึงดี! แต่…แต่…แต่ในเมื่อคุณฉินเลือกที่จะเชื่อใจฉัน ทำไมถึงไม่เริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลยล่ะ? ฉันขอยืนยันด้วยชีวิตของตัวเองว่าตั้งแต่นี้ไป พี่ฉางและกลุ่มเห่ยซานจะไม่เข้าไปขวางทางคุณอีก!”
“คุณทำให้ผมลำบากใจนะ…”
เมื่อเห็นว่าฉีฮองสู้เพื่อช่วยชีวิตของฉางเหล่าอู๋หลินเฉิงก็ขมวดคิ้ว “ผมไม่สนใจพวกลูกน้องกลุ่มเห่ยซานของคุณหรอก แต่ชายคนนี้…”
เขาพูดแล้วชี้ไปที่ฉางเหล่าอู๋ที่อยู่ด้านหลังของฉีฮอง“ความแข็งแกร่งของเขาคืออันดับหนึ่งของฐานทัพสมุทรสีคราม ถึงเขาจะได้รับบทเรียนไปแล้ว แต่ผมไม่สบายใจเกี่ยวกับเขาเลยจริงๆ….”
เมื่อได้ยินแบบนั้นใบหน้าของฉีฮองก็เปลี่ยนไปทันที และเมื่อหลินเฉิงจะฆ่าฉางเหล่าอู๋ทีหลัง ฉีฮองก็หยิบมีดสั้นสีดำออกมาจากเอวทันที หันกลับไปทางแขนขาและเอ็นของฉางเหล่าอู๋และจากนั้นก็ตัดมัน!
“เธอ…เธอจะทำอะไรน่ะฉีฮอง?”
“ไม่นะ!ไม่!” “หายหัวไปอยู่ไหนกันหมด?มาช่วยฉันเดี๋ยวนี้!”
“อ๊าก!!!”
เสียงร้องที่เต็มไปด้วยความกลัวขอฉางเหล่าอู๋ดังขึ้นฉีฮองก็ทำเป็นไม่ได้ยินและหยิบเส้นเอ็นที่อยู่ในมือและเท้าของเขาออก ขณะที่ผู้มีพลังคนอื่นๆของกลุ่มเห่ยซานที่อยู่รอบๆเขาต่างตกอยู่ในหมอก แม้ว่าพวกเขาจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อหา แต่พวกเขาก็ไม่สามารถหาตำแหน่งของฉางเหล่าอู๋ได้
ขณะที่อดทนกับความตื่นตระหนกในใจของตัวเองเธอก็ดึงเอาเส้นเอ็นสีแดงของมาจากมือและเท้าของฉางเหล่าอู๋ทั้งหมดออกมา เธอหันไปมองหลินเฉิงนิ่งๆและพูด “แบบนี้เป็นยังไง? คุณหลิน ไม่ว่าคุณจะระมัดระวังแค่ไหน แต่คุณคงไม่เป็นกังวลกับคนไร้ประโยชน์หรอกใช่มั้ยคะ?”
————————–