ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 443 ศึกจากทั้งสองฝั่ง
SC:บทที่443: ศึกจากทั้งสองฝั่ง!
“อย่ามาพูดไร้สาระ!”
เมื่อคิดได้ดังนั้นดิงเฮาหยวนก็พูดอย่าเหลืออด “เรื่องระหว่างฉวนเอ๋อและเผ่ารัตติกาลคืออะไร? ฉันจะจัดการหลังจากที่เรื่องนี้จบแล้วเอง! แต่สิ่งที่นายทำลงไปตอนนี้ถือเป็นภัยคุกคามต่อความสงบสุขของฐานทัพสมุทรสีครามเป็นอย่างมาก และผลของมันก็คือ นายและครอบครัวของนายต้องจ่ายมันด้วยชีวิต!”
อย่างไรก็ตามเพื่อป้องกันไม่ให้หลินเฉิงพูดสิ่งที่อาจจะทำให้เขาอับอายไปมากกว่านี้ เขาจึงยกมือและส่งสัญญาณให้กับกลุ่มผู้มีพลังที่อยู่รอบๆตัวเองให้เริ่มลงมือทันที!
“รู้รึเปล่าว่าตอนที่คุณพูดแบบนั้นออกมามันหมายความคุณได้ตายไปแล้ว?”
เมื่อได้ยินคำของดิงเฮาหยวนท่าทางของหลินเฉิงก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาสุดขั้ว และหลังจากเหลือบมองไปที่ผู้มีพลังคนที่โจมตีเขา เขาก็แกว่งดาบน้ำแข็งทันที จากนั้นก็ได้ยินเสียงกระซิบออกมาจากปากของเขา “ผลสะท้อนน้ำแข็ง!”
เมื่อเสียงกระซิบของหลินเฉิงดังขึ้นน้ำแข็งก็พุ่งออกมาจากปลายดาบน้ำแข็งทันที และด้วยการหมุนตัวของกลินเฉิง น้ำแข็งที่ถูกปล่อยออกมาจึงกลายเป็นวงแหวนน้ำแข็งที่เย็นจัด และขยายออกไปและตัดกลางลำตัวของคนที่อยู่รอบๆอย่างรวดเร็ว!
“ฉึกฉึก ฉึก -!”
“อ๊าก!!!”
“ขาฉัน!ขอฉันถูกตัด!”
“ช่วย…อั่ก!”
“ป้องกัน!ป้องกัน!”
“เคร้งเคร้ง -!”
เมื่อขอบที่แหลมคมของวงแหวนที่ตัดลำตัวของผู้มีพลังที่อยู่รอบๆกลุ่มคนที่เพิ่งตะโกนไปที่หลินเฉิงก็ถูกฟันและล้มลง คนที่โชคดีก็ถูกตัดแค่ขาทั้งสองข้าง ส่วนคนที่โชคร้ายก็จะถูกตัดบริเวณเอวพอดิบพอดี เลือดและลำไส้กระจัดกระจายไปทั่วทุกที่ พวกผู้ที่มีพลังป้องกันต่างก็สกัดกั้นการโจมตีของหลินเฉิง เมื่อเห็นภาพนองเลือดที่เกิดขึ้น พวกเขาต่างคลื่นไส้และอาเจียนออกมาอย่างอดไม่ได้
เมื่อเห็นว่าหลินเฉิงฆ่าผู้มีพลังมากมายในสำนักงานหลักด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวดิงเฮาหยวนตกตะลึงและเขาก็รู้สึกขอบคุณกับการตัดสินใจของตัวเองทันที ถ้าหากเขาไม่เลือกที่จะให้ความร่วมมือกับปีศาจรัตติกาล เขาก็คงไม่สามารถจัดการกับหลินเฉิงที่เป็นเหมือนเทพเจ้าแห่งความตายได้ด้วยกลุ่มคนจากสำนักงานใหญ่ บริษัทภูเขาสีดำและใบมีดราตรีที่ต้องการสู้กลับแน่!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้และนึกถึงประโยคสุดท้ายของหลินเฉิงที่ดิงเฮาหยวนได้ยินเขาก็เงยหน้าขึ้น ตอนที่หลินเฉิงสร้างดาบและจัดการกลุ่มผู้มีพลัง เขาก็เตรียมยกเท้าและถอยหลังกลับไป แต่ยังไม่ทันที่เขาจะก้าวได้สองก้าว ก็เกิดเสียงโอดครวญที่ดังก้อง ดิงเฮาหยวนรู้สึกถึงแค่ความมืดมิดที่อยู่ตรงหน้าของตน จากนั้นเขาก็รู้สึกตัวว่าตัวเองถูกห่อหุ้มด้วยห้องน้ำแข็ง
เมื่อได้ยินเสียงผลกระทบอย่างต่อเนื่องของห้องน้ำแข็งที่อยู่ไม่ไกลออกไปหลินเฉิงที่กำลังจะไปจากดิงเฮาก็อดไม่ได้ที่จะแสยะยิ้มเย้ยหยันออกมา เขาเลิกสนใจดิงเฮาหยวนและทำการฆ่าสมาชิกของสำนักงานใหญ่คนอื่นๆที่กลัวเกินกว่าจะหนีต่อไป!
“ฟึ่บ!”
ก่อนที่เขาจะถอยตัวออกมาห่างจากจุดนั้นสองถึงสามเมตรก็เกิดเสียงแหวกอากาศพุ่งเข้ามา หลินเฉิงรีบหยุดตัวเองอยู่กลางอากาศพร้อมกับกางปีกน้ำแข็งของเขาออก และเขาก็เห็นว่าส่วนหนึ่งของกระเรียนขาวได้พุ่งผ่านหน้าเขาไปและใบมีดสั้นที่อยู่ในมือของชายคนนั้นก็ห่างจากคอของเขาเพียงไม่กี่มิลลิเมตรเท่านั้น! “ไอ้เด็กเวรแกฆ่าคนไปมากมายแต่แกลืมไปแล้วหรอว่าพวกเราอยู่ที่นี่?” หลังจากที่เคลื่อนตัวไปหยุดหลินเฉิงเอาไว้ กระเรียนขาวที่ลอยอยู่บนอากาศพร้อมกับเล่นใบมีดสั้นที่อยู่ในมือของตนอยู่ก็เอ่ยถามหลินเฉิง
เมื่อได้ยินคำถามหลินเฉิงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ว่าชายชราเผ่ารัตติกาลทั้งสี่ก็อยู่ที่นี่เช่นกัน เขาก้มหน้าลงและเห็นชายชราทั้งสี่ของเผ่ารัตติกาลที่เขาคิดว่าขยับบีบเข้ามาเรื่อยๆ จนเกิดเป็นวงล้อมที่ชัดเจน!
มันสามารถพูดได้ว่าหลินเฉิงไม่ได้โจมตีคนของสำนักงานใหญ่ที่เหลืออยู่ซึ่งสูญเสียเกราะป้องกันและถูกเขาฆ่าอีกต่อไป แต่เขาตกอยู่ในวงล้อมของชายชราเผ่ารัตติกาลทั้งสี่
“ที่ท่านผู้เฒ่าทั้งสี่ถูกส่งมาที่นี่ในครั้งนี้มีแผนเดียวกับดิงเฮาหยวนหรือเปล่า เพื่อที่จะฆ่าผมที่นี่?”
หลังจากที่เท้าเหยียบพื้นเขาก็เห็นว่าชายชราทั้งสี่ไม่ได้โจมตีเขาโดยตรงทันที และหลินเฉิงก็ไม่ได้เริ่มลงมือทันทีเช่นกัน เขาจุดบุหรี่และเอ่ยถามคนทั้งสี่
เมื่อได้ยินคำถามเผ่ารัตติกาลทั้งสี่ก็ต่างมองหน้ากันและกัน จากนั้น เสียงของชายชราที่หยุดกระเรียนขาวก่อนหน้านี้ก็พูดกับเขา “เจ้าหญิงหลิงเหมิงบอกกับพวกเราก่อนจะมาที่นี่ว่า ระหว่างนายกับพวกเราเผ่ารัตติกาลไม่ได้มีความขัดแย้งอะไรต่อกัน เพราะฉะนั้นมันจึงไม่จำเป็นที่พวกเราจะเอาชีวิตนาย แต่…”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้จู่ๆท่าทางของชายชราก็เปลี่ยนไป และเอ่ยเสียงเย็น “ในความขัดแย้งมากมาย นายฆ่าคนของพวกเราไปเป็นจำนวนมาก ถึงแม้ว่าความสูญเสียจากสงครามจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สำหรับเผ่ารัตติกาลอย่างพวกเราที่มีจำนวนไม่มากนัก ชีวิตของพวกเขาจึงสำคัญมาก! เพราะฉะนั้นพวกเราเลยมาที่นี่เพื่อที่จะให้นายชดใช้ และสิ่งที่นายต้องชดใช้ก็คือความลับของความแข็งแกร่งที่เเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว!”
“มันเป็นเพราะเรื่องนี้จริงๆ…” เมื่อได้ยินคำของชายชราหลินเฉิงก็หลับตาลง เขาเคยเจอกับปีศาจรัตติกาลมาแล้วหลายครั้ง เขารู้ถึงนิสัยที่ชอบการแข่งขันของคนพวกนี้ดี ดูเหมือนว่าความคิดที่ว่า “ผู้ที่แข็งแกร่งจะได้รับความเคารพ” จะแพร่หลายในหมู่ปีศาจรัตติกาล การสู้จนตายดูเหมือนจะมีเกียรติในสายตาของพวกเขา ถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะจำนวนประชากรพื้นฐานของพวกเขาน้อย หลินเฉิงก็คาดว่าพวกเขาคงหาผู้ที่แข็งแกร่งในหมู่ของพวกเขาเองด้วย
หลังจากที่ต่อสู้กันมาหลายครั้งความแข็งแกร่งซึ่งต่างจากคนธรรมดาจะถูกจับตามองจากพวกที่ต้องการจะเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเอง สำหรับเผ่ารัตติกาลที่มีพลังทางการภายเหนือกว่ามนุษย์ในทุกๆด้าน และมักจะแพ้ด้วยน้ำมือของคนของพวกเขาเองแล้ว จึงสนใจในสิ่งที่แตกต่างออกไปจากพวกเขา
“ก็ได้!”
เมื่อคิดมาถึงนี่หลินเฉิงก็ทิ้งก้นบุรี่ของเขาไปและแกว่งดาบน้ำแข็งชี้ไปทางชายชราและพูดขึ้น “คุณพูดถุกและคุณก็เป็นศัตรู! ในเมื่อคุณต้องการที่จะล้างแค้นให้คนของคุณและอยากได้ความลับของผม ก็เอาเลย! แต่เมื่อผู้เฒ่าทั้งสี่อย่างพวกคุณแตะต้องผมเมื่อไหร่ นั่นหมายความว่ากลุ่มเผ่ารัตติกาลได้ประกาศสงครามกับผมอย่างสมบูรณ์ และผมก็หวังว่าคุณจะเตรียมใจพอ สำหรับการชดใช้ที่กล้ามาประกาศสงครามกับผม!”
“พวกเราจะกลับไปได้ยังไงในเมื่อพวกเรามาถึงจุดนี่แล้ว?”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเฉิงกระเรียนขาวก็คำรามออกมาอย่างอดไม่ได้ ในขณะเดียวกัน เมื่อเขาแกว่งมือ ชิ้นส่วนของร่างกายที่ยู่ข้างตัวของเขาก็พุ่งออกไป พร้อมกับกำมีดสั้นทั้งสองในมือแน่น และโจมตีไปที่หลินเฉิงอย่างรวดเร็ว!
เมื่อเห็นแบบนั้นดวงตาของหลินเฉิงก็หรี่เล็กลงและมือขวาของเขาก็กำแน่น จากนั้นชั้นน้ำแข็งบางก่อตัวอยู่เหนือหัวของเขา และขณะที่ทั้งสี่คนจะมาถึงตัวเขา ความเร็วของน้ำแข็งก็เพิ่งขึ้นอย่างกระทันหันและสกัดทั้งสี่คนก่อนที่มีดสั้นพวกนั้นจะมาถึงคอของเขาได้ทันเวลา!
“เคร้ง!”
“เคร้ง!”
“เคร้ง…”
หลังจากเสียงชนที่ดังขึ้นต่อเนื่องร่างของกระเรียนขาวก็ถูกรัดเข้ากับเกราะน้ำแข็งที่อยู่ตรงหน้าร่างของหลินเฉิง โล่น้ำแข็งที่ดูบางและอ่อนแอ กลับแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ มีดสั้นที่แยู่ในมือของผู้ที่มีฝีมือที่ยอดเยี่ยมของรุ่นกลับทำได้แค่ทิ้งรอยขาวตื้นๆไว้เท่านั้น
——————————