ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 445 กระเรียนขาว
SC:บทที่445: กระเรียนขาว!
“พวกเราไม่มีชื่อหรอกหรือก็คือตัวตนของพวกเรามันไม่มีความหมายอะไรสำหรับพวกนาย แต่ด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่รู้ พวกเรากลับลืมตาตื่นขึ้นมาหลังจากวันสิ้นโลก จากนั้นพวกเราก็พบว่าพวกคนอ่อนแอในสายตาของพวกเราได้ปกครองโลกหลังจากวันสิ้นโลก! หลังจากการสื่อสารกันหลายครั้ง พวกเราก็ค่อยๆรู้สึกถึงคุณสมบัติที่เหนือมนุษย์ อย่างเช่นความสามารถในการดูดพลัง และสัญชาตญาณเอาตัวรอดที่แข็งแกร่ง! ดังนั้น หลังจากที่พวกเราปรึกษาหารือกันในกลุ่ม พวกเราก็ตัดสินใจที่จะเริ่มเรียนภาษาและรูปแบบพฤติกรรมของมนุษย์ และอยากที่จะใช้ร่างกายของมนุษย์เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่สำคัญมากสำหรับพวกเรา….”
มันดูเหมือนว่าเขาจะสับสนเกี่ยวกับประสบการณ์ชีวิตของกลุ่มของตัวเองเพราะตอนที่หลิงฉงพูดออกมา เขาดูสับสน เห็นได้ชัดว่าเขากังวลเกี่ยวกับอนาคตของกลุ่มของเขา
“โอเค…”
หลังจากที่ฟังคำอธิบายของหลินฉงหลินเฉินก็เข้าใจทันที จากนั้นเขาก็ต้องขมวดคิ้วและเอ่ยถาม “ถึงแม้ว่าผมจะรู้สึกขอบคุณที่คุณอยากจะใช้ผมเรียนรู้ “ความแพร่หลายทางวิทยาศาสตร์พวกนี้ แต่ตอนนี้พวกเราเป็นศัตรูกัน ผมก็แค่อยากจะถามคุณเฉยๆ จริงๆแล้วผมไม่ได้ต้องการคำตอบเลย แต่คุณก็บอกผมมามากมาย นั่นมันออกจะไม่ค่อยเหมาะหรือเปล่า?”
เมื่อได้ยินแบบนั้นหลินฉงก็ส่ายหน้าเบาๆ “ข้อมูลพวกนี้ไม่ได้เป็นความลับอะไรขนาดนั้น ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่ได้พูดมันออกไป แต่นายก็คงจะรู้ได้ในไม่ช้าด้วยระดับไอคิวของนาย! และเหตุผลที่ฉันบอกนายนั้นง่ายมาก ทั้งหมดก็เพราะหลิงเหมิง! ในฐานะปู่ของเธอ ฉันรู้จักเธอดีกว่าใครทั้งหมด และชายหนุ่มสามารถที่ทำให้เธอเจ็บปวด แต่ยังคงเป็นที่ปราถนาของเธอ นายเป็นคนแรกในระยะเวลาอันยาวนาน….”
“ผมเริ่มคิดจริงๆแล้วว่าคุณเป็นบ้า….”
หลังจากที่ได้ยินหลิงฉงอธิบายหลินเฉิงก็ไม่พูดอะไรนอกจาก “หลานสาวของคุณคิดว่าความสัมพันธ์ของผมกับเธอคืออะไร? ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอหลอกอะไรผม ดีที่คุณเป็นปู่ของเธอ แต่คุณกล้าดียังไงถึงพูดถึงเธอต่อหน้าผม”
“ผู้เฒ่าหลินคุณมาที่นี่เพื่อจับตัวไอ้เด็กเลวนี่หรือว่ามาเพื่อนัดบอดให้หลานสาวของคุณกันแน่? อย่าลืมสิว่าผู้ชายคนนี้เป็นศัตรูของเรา คุณสับสนอะไรรึเปล่า?”
เมื่อเห็นว่าหลินฉงที่อยู่ต่อหน้าพวกเขาและหลินฉงเริ่มบ่นออกมาตามนิสัยกระเรียนขาวที่ถูกหลินเฉิงยั่วให้โมโหก็อดไม่ได้ เขาขัดบทสนทนาของทั้งสองคนอย่างโมโห และจากนั้นจึงถามหลินฉงอย่างเดือดดาล!
“ฉันรู้น่าฉันรู้!” เมื่อได้ยินคำของกระเรียนขาวหลิงฉงก็ปัดมืออย่างทนไม่ไหว จากนั้นเขาจึงหันไปมองหน้าหลินเฉิงอย่างทำอะไรไม่ได้และพูด “กระเรียนของเราพูดถูก ถึงแม้ว่าฉันจะบ่นนายไปหลายอย่างก็จริง แต่ตอนนี้พวกเราต่างตัดสินใจว่าพวกเราไม่สามารถอยู่ด้วยกันด้วยความสงบสุขได้ แต่ในฐานะคนของหลิงเหมิง ผู้ที่ให้ความสำคัญกับหญิงงาม นายควรจะหาของที่คู่ควรกับหญิงสาว ไม่เช่นนั้น ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่ได้ฆ่าคนมาเป็นเวลานานมากแล้ว แต่ฝีมือของพวกเราก็ไม่เคยลดลงหรอกนะ! “”
“ไร้สาระชะมัด!”
เมื่อได้ยินแบบนั้นหลินเฉิงก็ตะคอกเสียงเย็น ในขณะเดียวกันด้วยนิ้วมือกว่าสิบนิ้ว เขาก็เห็นว่าปีกน้ำแข็งที่ถูกทำลายด้วยแรงกระแทกที่รุนแรงได้ถูกสร้างใหม่อีกครั้ง จากนั้น ด้วยการขยับอย่างรุนแรง หลินเฉิงก็บินขึ้นไปบนฟ้าอย่างรวดเร็ว!
“หนีไปไหนได้บ้างเนี่ย?” เมื่อเห็นว่าหลินเฉิงพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูงกระเรียนขาวที่รู้สึกแค้นก็เดือดดาลทันที เขาแกว่งมือพร้อมกับแยกส่วนร่างกาย ชิ้นส่วนของร่างกายทั้งหมดตกลงบนพื้นพร้อมกัน และพุ่งขึ้นไปบนฟ้าตามหลังหลินเฉิงไปที่ละชิ้นอย่างรวดเร็ว!
“รอก่อนเถอะ!”
ในขณะเดียวกันหลินเฉิงก็หมุนตัวกลางอากาศอย่างรวดเร็วและมองลงไปด้านล่าง และขาก็พบว่ากระเรียนขาวกำลังควบคุมชิ้นส่วนต่างๆให้ไล่ตามเขามาอีกครั้ง ทันใดนั้นเท้าของเขาก็แบออก จากนั้นก็มีใบมีดน้ำแข็งออกมาจากเท้าและพุ่งออกไปที่ชิ้นส่วนที่พุ่งมาหาเขาด้วยความเร็วสูง!
“ตู้ม!”
“ตู้ม!”
เมื่อใบมีดนำแข็งถูกปล่อยออกไปพร้อมกับความเร็วตอบสนองของชิ้นส่วนร่างแยกที่เร็วมากอยู่แล้ว และด้วยคลื่นพลังของมีดสั้นที่พุ่งตรงไปหามัน มันก็ปัดใบมีดน้ำแข็งออกเมื่อเห็นแบบนั้น หลินเฉินกลับไม่รู้สึกเสียใจ แต่กลับแสดงรอยยิ้มประหลาดออกมาแทน!
กระเรียนขาวที่ยืนอยู่บนพื้นสังเกตสถานการณ์การต่อสู้ทั้งหมดเขาคิดว่าเขาจะสามารถตามหลินเฉิงได้ทันหลังจากที่เขาหยุดการโจมตีได้
แต่ทันใดนั้นเขาก็เห็นหลินเฉิงที่มองมาที่เขาด้วยใบหน้าขบขันและเขาก็ต้องตกตะลึง เขานึกถึงร่างแยกของตนเมื่อตอนที่ได้ยินเสียง “ตู้ม” บนฟ้า ทันใดนั้นชิ้นส่วนร่างแยกชองเขาก็เริ่มบีบอัดเข้าด้วยกันเป็นไอศกรีมก้อนใหญ่ จากนั้นชิ้นส่วนของร่างกายทั้งสิบส่วนก็ถูกไอศกรีมที่แผ่ไอเย็นออกมาทำให้กลายเป็นน้ำแข็งไปทั้งหมด!
”ราตรีสวัสดิ์!”
หลังจากที่ใช้ใบมีดน้ำแข็งแผ่ไอเย็นเข้าไปที่ชิ้นส่วนทั้งหมดเพื่อแช่แข็งหลินเฉิงก็หัวเราะออกมา จากนั้นเขาก็ทำวงแหวนนิ้วอีกครั้ง และเขาก็ได้ยินเสียงดังกริ๊ก ชิ้นส่วนร่างกายที่ถูกแช่แข็งที่ตกลงไปด้านล่างก็ระเบิดออกกลางอากาศ!
“ตู้ม!”
“ตู้ม!”
“ตู้ม!”
“…”
เมื่อชิ้นส่วนแรกระเบิดออกชิ้นส่วนชิ้นต่อๆไปก็เริ่มระเบิดติดต่อกัน และในพริบตา ชิ้นส่วนของร่างกายทั้งหมดที่พุ่งเข้ามาอย่างรุนแรงก่อนหน้านี้ก็ระเบิดกลายเป็นผงผลึกน้ำแข็งก่อนที่จะตกถึงพื้น!
“อ่อค!”
ในเวลาเดียวกันกับที่ชิ้นส่วนชิ้นสุดท้ายระเบิดในอากาศกระเรียนขาวก็ล้มลงพื้นและกระอักเลือดออกมา ใบหน้าของเขาขาวซีดราวกับกระดาษ เห็นได้ชัดว่าเกิดจากความเสียหายของชิ้นส่วนพวกนั้น และเขาก็ยังบาดเจ็บภายในอย่างสาหัส!
“กระเรียนขาว!”
“รับเขาไว้!ฉันคิดว่าเขาน่าจะบาดเจ็บสาหัส!”
เมื่อเห็นว่ากระเรียนขาวกระอักเลือดออกมาใบหน้าของชายชราทั้งสามที่ยังไม่ลงมือทำอะไรก็เปลี่ยนไปทันที พวกเขารีบวิ่งไปหากระเรียนขาวและรับร่างของเขาก่อนที่จะตกลงพื้นได้อย่างทันเวลา และในขณะเดียวกันพวกเขาก็ตรวจดูอาการบาดเจ็บของเขา
“เร็ว..แค่ก… รีบลงมือเร็วเข้า! ไอ้เด็กเวรนี่น่ากลัวจริงๆ ฉันสู้มันไม่ได้เลย”
ฝั่งที่กระอักเลือดออกมากระเรียนขาวที่ได้รับการช่วยเหลือจากคนอื่นๆก็ค่อยๆยืนขึ้นอย่างยากลำบาก เขารีบเร่งชายชราทั้งสามทันที
เมื่อได้ยินน้ำเสียงเร่งปนกังวลของกระเรียนขาวไป๋เฟย ชายชราที่มีพลังในการสั่นสะเทือนและหลิงฉงก็มองหน้ากัน จากนั้นจึงพยักหน้าอย่างหนักแน่น และพูดกับชายวัยกลางคนที่ดูเด็กกว่าพวกเขาทั้งสามคนมาก “ฉิงมู่ เราจะปล่อยให้กระเรียนขาวอยู่กับนาย นายจะต้องรักษาอาการบาดเจ็บของเขาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนชายหนุ่มหลินเฉิงคนนั้นพวกเราจะจัดการเอง!”
เมื่อได้ยินแบบนั้นชายวัยกลางคนที่ชื่อฉิงมู่ก็พยักหน้าหนักแน่น “ไม่ต้องห่วง พี่ไป๋ ตราบใดที่เขายังหายใจ ฉันก็สามารถทำให้เขากลับไปในสนามรบได้ในระยะเวลาที่สั้นที่สุด!”
เมื่อได้ยินคำตอบที่มั่นใจจากฉิงมู่ไป๋เฟยและหลิงฉงก็โล่งอก จากนั้นพวกเขาก็เลิกพูดเรื่องไร้สาระและส่งร่างที่บาดเจ็บของกระเรียนขาวให้กับฉิงมู่ และหมุนตัว เดินกลับไปหาหลินเฉิง!
————————————-