ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 446 พลังเอื่อยเฉื่อย
SC:บทที่446: พลังเอื่อยเฉื่อย!
หลังจากที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับกระเรียนขาวหนึ่งในสี่ของชายชราเผ่ารัตติกาล ที่บาดเจ็บสาหัสจากการที่โจมตีหลินเฉิง ไป๋เฟยและหลิงฉงก็ไม่กล้าที่จะสบประมาทเขาอีกต่อไป
พวกเขาหยุดลงเมื่ออยู่ห่างจากหลินเฉิงประมาณสิบกว่าเมตรและจากนั้นไป๋เฟยก็หันไปกระซิบกับหลิงฉง “เดี๋ยวฉันจะเข้าไปหาเขาก่อน ส่วนคุณก็ดูสถานการณ์และเตรียมตัวลงมือ!”
“เข้าใจแล้ว!”
เมื่อได้ยินหลิงฉงก็พยักหน้า จากนั้นเขาก็ไม่ได้เข้าไปทางด้านข้างของหลินเฉิงและโจมตีอีกต่อไป แต่กลับยืนขมวดคิ้วสังเกตการเคลื่อนไหวของหลินเฉิงแทน
แต่บทสนทนาของทั้งคู่กลับได้ยินไปถึงหูของหลินเฉิงจากคำพูดของไป๋เฟยเมื่อครู่หลินเฉิงเข้าใจว่าชายชราทั้งสองน่าจะร่วมมือกัน แต่ถ้าหากพวกเขาไม่ระวังพอ พวกเขาอาจจะเจ็บตัวเหมือนกับกระเรียนขาว!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้หลินเฉิงก็พึมพำออกมาและตัดสินใจที่จะเป็นฝ่ายลงมือก่อน!
”ฟึ่บ”
ในเวลาเดียวกันกับที่หลิงฉงยกมือขึ้นจะโจมตีเขาหลินเฉิงก็ตวัดดาบน้ำแข็งของเขาและเกิดเป็นพลังฟันน้ำแข็งที่มีความยาวประมาณสามเมตร “ฟึ่บ” ออกไปจากตัวดาบ และด้วยการโจมตีที่รุนแรงนั้น เขาก็ฟันเข้าไปที่คอของไป๋เฟยอย่างรวดเร็ว!
เมื่อเห็นว่าหลินเฉิงใกล้เข้ามาไป๋เฟยพร้อมที่จะตาย แต่ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็ปรากฏความหวาดกลัว มือทั้งสองข้างเตรียมพร้อมที่จะโจมตีหลินเฉิง จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียง “ตู้ม” พร้อมกับคมดาบที่เกือบจะโดนตัวของเขา เขาก็สร้างบาเรียป้องกันขึ้นมาได้อย่างทันเวลา!
”ขี้ขลาด!” หลังจากที่รับมือกับปัญหาได้แล้วไป๋เฟยที่ยังมีอาการสั่นอยู่เล็กน้อยก็ย่นคิ้วและพูดกับหลินเฉิง
“แล้วไง?”
เมื่อได้ยินที่ไป๋เฟยพูดหลินเฉิงก็เย้ยหยันออกมา “ถ้ารอให้ตาแก่อย่างพวกคุณทั้งสองคนใช้วิธีสกปรกกับผม แล้วใครจะรู้ล่ะว่าจะเป็นยังไงต่อ….”
เมื่อได้ยินคำพูดถากถางพวกนั้นของหลินเฉิงไป๋เฟยก็หัวเราะออกมาและส่ายหัว “นายนี่ยังเด็กจริงๆสินะ…”
“หืม?!”
หลังจากที่ได้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของไป๋เฟยหัวใจของหลินเฉิงก็กระตุก จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นจากพื้นที่ว่างเปล่าข้างหลังของเขา!
“อึก!”
มันไม่มีเวลาให้ตอบสนองสักนิดหลินเฉิงรู้สึกว่าร่างกายของเขาสั่นและเขาก็ถูกยิงบริเวณหัวไหลด้วยลำแสงสีฟ้าที่ยิงมาจากด้านหลัง!
“อะไรน่ะ?!”
หลังจากที่พบว่าเขาถูกลำแสงสีฟ้าแปลกๆยิงคิ้วของเขาก็ย่นเข้าหากันทันที จากนั้นเขาก็รู้สึกว่าเขากำลังอยู่ในสถานะบางอย่าง หลินเฉิงรีบตรวจดูร่างกายของเขา แต่ก็พบว่าทุกอย่างยังครบถ้วน
เมื่อรู้ว่าแสงสีฟ้าไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับร่างกายของตัวเองหลินเฉิงก็ยังไม่ได้ลดการระมัดระวังของตัวเอง เพราะสุดท้ายแล้ว มันก็มีพลังอยู่หลากหลายรูปแบบ พลังบางอย่างที่อาจดูเหมือนไม่สามารถฆ่าใครได้ แต่สำหรับพวกที่มีจิตสังหารสูงนั้นกลับให้ผลที่อันตรายถึงชีวิต!
“ผมจับไว้แล้วทีเหลือก็แล้วแต่คุณเลย!”
หลังจากที่ลำแสงสีฟ้าพุ่งผ่านร่างของหลินเฉิงไปหลิวฉงก็เดินออกมาผ่านด้านหลังของเขา ปัดฝุ่นที่มองไม่เห็นบนตัวของเขาและพูดกับไป๋เฟย เมื่อพูดจบร่างขาวพยักหน้า ยกมือทั้งสองข้าขึ้นอีกครั้ง รวมพลังสั่นสะเทือนทั้งหมดเพื่อโจมตีหลินเฉิงโดยตรงอีกครั้ง!
เมื่อเห็นแบบนั้นหลินเฉิง ที่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ก็สามารถทำได้แค่กางปีกน้ำแข็งและพยายามหลบหนี แต่เมื่อเขากระพือปีก ทันใดนั้นเขาก็พบว่าการเคลื่อนไหวของเขามันช้าอย่างน่าตกใจ!
“ตู้ม!”
เพราะการเคลื่อนไหวที่เชื่อช้าทำให้ถึงแม้ว่าหลินเฉิงจะพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อที่จะหลบการโจมตี แต่เขาก็ยังถูกโจมตีอยู่ดี เสียงคำรามดังสนั่นขึ้น ร่างของหลินเฉินเป็นเหมือนกับหอยทาก ลอยไปข้างหลังอย่างช้าๆ!
“ตู้ม!!!”
ถึงแม้ว่าความเร็วจะช้ามากแต่พลังสั่นสะเทือนและผลกระทบของมันกลับไม่เบาเลยสักนิด หลังของหลินเฉิงที่ได้รับการกระแทกก็ลอยกลับไปพร้อมกับพวกต้นไม้ทั้งเสื้อผ้าและเศษไม้ต่างลอยอยู่ในอากาศอย่างเชื่องช้า มันแทบจะเหมือนกับฉากช้าๆในหนัง จนทำให้รู้สึกแปลกประหลาด!
“อั่ก!”
ในวินาทีต่อมาเสียงของหลินเฉิงและสิ่งแวดล้อมโดยรอบก็กลับสู่ปกติ จากนั้นก็เกิดเสียงดัง “ตู้ม” ร่างของเขาก็กระแทกเข้ากับหินขนาดใหญ่ และหยุดลงในที่สุด!
“ซี๊ด!”
เขารู้สึกเจ็บบริเวณอกจน
ในขณะเดียวกันปีกน้ำแข็งที่อยู่ด้านหลังก็ถูกทำลายด้วยแรกกระแทกจากก้อนหิน หลินเฉิงหายใจเข้าลึกๆ หลังจากนั้นก็ลุกขึ้น เช็กเลือดจากมุมปากตัวเอง และมองไปคนที่อยู่ห่างไกลด้วยความตกตะลึง!
“พลังเอื่อยเฉื่อย?!”
หลังจากที่รู้ถึงพลังของหลิงฉงความรู้สึกผ่อนคลายของเขาก็หน้านี้ก็หายไป ในฐานะที่เป็นผู้ที่มีพลังควบคุมน้ำแข็งที่ใช้ทั้งความเร็วและกำลัง เขารู้ดีกว่าใครว่ามันร้ายแรงแค่ไหนเมื่อเสียเปรียบในเรื่องของความเร็ว เพราะฉะนั้นมันจึงยากที่จะซ่อนสีหน้าตกตะลึงของเขาหลังจากที่รู้ถึงพลังของหลิงฉง!
“ใช่มันคือพลังเอื่อยเฉื่อยแน่นอน! นายไม่คิดอย่างนั้นหรอ?”
เมื่อเห็นว่าหลินเฉิงมองมาที่จนอย่างตกตะลึงหลิงฉงก็พยักหน้าและยอมรับออกมาตามตรง จากนั้นก็ถามด้วยรอยยิ้ม
“ผมคิดไม่ถึงเลย…”
หลังจากที่ได้รับการยืนยันจากหลิงฉงหลินเฉินก็ยิ้มแหย๋ออกมา และตอนนั้นเองเขาก็รู้สึกกับห่านป่าตาบอดมาตลอด
“ทีนี้นายจะทำยังไงล่ะ?หลังจากที่เสียเปรียบเรื่องความเร็ว แม้แต่นายก็ไม่สามารถเอาชนะพวกเราทั้งสองคนได้!”
มันดูเหมือนว่าหลินเฉิงจะอารมณ์เสียเล็กน้อยหลิงฉงก็ดีใจเป็นอย่างมาก เพราะความแข็งแกร่งของหลินเฉิงนั้นน่ากลัวจริงๆ
ถ้าหากเขาสติแตกเขาก็คงไม่สามารถได้เปรียบได้ เพราะฉะนั้นถ้าหากทำให้ทั้งสองฝ่ายหยุดได้ มันก็จะเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
เมื่อได้ยินแบบนั้นจู่ๆหลินเฉิงก็ยิ้มออกมาและพูด “คุณพูดถูก พลังของคุณควบคุมผมได้จริงๆ แต่คำถามก็คือ คุณรู้จักผมดีแค่ไหน?”
เมื่อเห็นรอยยิ้มบนหน้าของหลินเฉิงหลิงฉงก็ขมวดคิ้วทันที “ฉันไม่รู้จักนายเท่าไหร่ แต่ยังไงแล้ว ตราบใดที่นายทำอย่างอื่นไม่ได้เลย วันนี้ก็คงจบเท่านี้! ในสถานการณ์ที่จุดจบได้มาถึงแล้ว นายก็ไม่จำเป็นที่จะต้องต่อสู้อีกต่อไป!”
“ในความเชื่อของผมการยอมรับความพ่ายแพ้ไม่มีอยู่ในตัวเลือก!”
เมื่อเห็นท่าทางของหลิงฉงหลินเฉิงก็ตะโกนออกมาเสียงเย็น จากนั้นปีของเขาก็พยายามกระพือ และร่างของเขาก็ถูกดึงขึ้นไปบนอากาศ!
“เป็นเด็กหนุ่มที่ดื้อจริงๆ…”
เมื่อเห็นสิ่งที่หลินเฉิงทำหลิงฉงก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นมือขวาของเขาจึงชี้ไปที่หลินเฉิงและปรากฏเป็นแสงสีฟ้าพุ่งตามหลินเฉิงไปอีกครั้ง!
พรึ่บ
เมื่อเห็นว่าลำแสงสีฟ้าพุ่งตามมาจากด้านหลังหลินเฉิงก็ปัดมือ และทันใดนั้นก็มีกำแพงน้ำแข็งปรากฏขึ้นด้านหลังของเขา ซึ่งอยู่ตรงหน้าของแสงสีฟ้า!
“ฮึ่ม…”
แต่ใครจะรู้แสงสีฟ้าไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากกำแพงน้ำแข็งเลยทั้งนั้น เพียงครู่เดียว มันก็แทรกผ่านกำแพงน้ำแข็งและไล่หลินเฉิงต่อทันที!
“หยุดไม่ได้งั้นหรอ?มันดูเหมือนไม่ใช่ของจริงเลย…”
เมื่อเห็นว่าแสงสีฟ้าไม่ได้รับผลอะไรจากกกำแพงน้ำแข็งหลินเฉิงก็พึบพำเบาๆ และจากนั้นเขาก็เอียงหัวเพื่อหลบแสงสีฟ้าโดยตรง!
———————————–