ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 451 สิ่งที่ต้องจ่าย
SC:บทที่451: สิ่งที่ต้องจ่าย?
“กำแพงป้องกัน?ดูเหมือนว่าพวกคุณบางคนจะยังมีไม้ตายอยู่สินะ!”
หลังจากที่ถูกสกัดด้วยกำแพงกระแทกหลินเฉิง ที่เพิ่งปรากฏตัว มองคนทั้งสี่ที่อยู่ภายใต้การป้องกันของกำแพงที่สร้างขึ้นเพื่อคุยกันถึงวิธีตอบโต้ที่เร็วที่สุด พึมพำออกมา
“อย่านิ่งนอนใจไปเด็กน้อย! ถ้าเข้ามาได้ก็ลองดู!”
เมื่อได้ยินคำประชดประชันของหลินเฉิงที่มีความหมายตรงตัวกระเรียนขาวที่อารมณ์ร้อนแรงที่สุดก็เป็นคนแรกที่ไม่สามารถทนไหว เขาตะคอกกลับไปทันที!
เมื่อได้ยินแบบนั้นหลินเฉิงก็ยิ้มออกมาทันที “ผมว่า ถึงแม้ว่าคุณทั้งสองคนจะติดอยู่ในกรง ไม่สามารถออกไปไหนได้ แต่ปากก็ยังเก่งอยู่จริงๆสินะ?” “หนุ่มน้อยฉันไม่ต้องการจะพูดอะไรอีกแล้ว แต่ฉันแค่อยากรู้ว่านายทำลายลำแสงเอื่อยเฉื่อยของฉันได้ยังไง?!”
เมื่อเห็นว่าหลินเฉิงและกระเรียนขาวอาจจะสู้กันข้ามกำแพงได้หลิงฉงก็ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้และเอ่ยถามขัดทั้งสองทันที
“มันใช่หน้าที่ของผมที่ต้องบอกคุณหรอ?”
เมื่อเห็นหลิงฉงมองมาที่เขาอย่างสงสัยหลินเฉิงก็หันไปมอง “มันก็ต้องมีการเรียนรู้บ้าง คุณเองก็ควรจะคิดเกี่ยวกับเรื่องที่จะรับมือการโจมตีถัดไปของผมเหมือนกัน”
หลังจากนั้นปีกน้ำแข็งที่อยู่ด้านหลังของเขาก็เริ่มขยับ พายุน้ำแข็งมากมายหลุดออกมาจากปีกทั้งสองข้าง หลังจากที่ถูกปล่อยออกมาเรื่อยๆ มันก็หมุนไปทางด้านหน้าของกำแพงที่ละลูก!
“ฟิ้วฟิ้ว ฟิ้ว!” “ตู้ม!”
“ตู้ม!”
“ตู้ม…”
ด้วยแรงกระแทกที่หนาแน่นและรุนแรงกำแพงกระแทกที่ไป๋เฟยสร้างขึ้นมาก็เริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง และสิ่งที่อยู่ด้านนอกของกำแพงป้องกันก็กลายเป็นน้ำแข็งและมีหิมะตกลงมาภายใต้พายุหิมะมากมาย ลมหนาวที่เหมือนกับมีดพัดผ่านต้นไม้ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะหนาเป็นครั้งคราว ตัดกิ่งไม้ที่ถูกแช่แข็งทีละอัน!
ตอนนี้สถานการณ์ของเหล่าผู้อาวุโสเผ่ารัตติกาลที่อยู่ภายในกำแพงกระแทกไม่ดีมากนักถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากพายุที่อยู่ด้านนอกอยู่พักหนึ่ง แต่อากาศที่อยู่รอบตัวเขาเริ่มลดลงอย่างรวดเร็วภายใต้อิทธิพลของพายุพวกนั้น ภายในพริบตา อุณหภูมิของเขาก็ลดลงต่ำเกือบ -40 องศา!
“จะแข็งตายหรือจะออกมาและตายอย่างลูกผู้ชาย คุณเลือกเอา!” ขณะที่สร้างพายุหิมะขึ้นมาหลินเฉิงก็สร้างความกดดันให้คนทั้งสี่ที่อยู่ในกำแพง เขาไม่อยากเสียเวลาอยู่กับตาแก่สี่คนที่ควบคุมสถานการณ์ได้ แต่อยากให้มันจบเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เมื่อได้ยิน“ตัวเลือก” ที่หลินเฉิงให้มา จู่ๆชายชราทั้งสี่ก็รู้สึกถึงความหดหู่ที่ไม่สามารถอธิบายได้ ครั้งหนึ่ง พวกเขาแต่ละคนก็เคยเป็นคนตัดสินใจเรื่องชีวิตการมีตัวตนอยู่ของผู้คนนับไม่ถ้วน แต่วันนี้ ที่พวกเขาทั้งสี่ร่วมมือกันและช่วยกัน แต่พวกเขากลับกลายเป็นปลาที่อยู่บนเขียงและจะถูกคนอื่นฆ่า!
“สู้กับเขาเถอะ!”
เมื่อมองไปที่หิมะที่อยู่รอบๆกำแพงที่ตอนนี้สูงกว่าหนึ่งเมตรและในอีกสักครู่มันก็น่าจะฝังกำแพงป้องกันอย่างสมบูรณ์ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คืออุณหภูมิที่ลดลงเรื่อยๆ และข้างในกำแพงก็เริ่มแข็งตัว ถ้าหากพวกเขายังอยู่ในนี้ พวกเขาก็จะต้องแข็งตายแน่ กระเรียนขาวไม่รู้จะทำอย่างไรอีกต่อไป เขาลูบกำปั้นและสั่นมือของตัวเอง พร้อมทั้งตะโกนใส่คนทั้งหมดอย่างเดือดดาล
“ไม่ต้องห่วง!”
เมื่อได้ยินคำพูดของน้องชายไป๋เฟยก็พยักหน้าเห็นด้วย ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถรอได้อีกต่อไป พวกเขาจะต้องตัดสินใจให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และเขาก็รอความคิดเห็นของอีกสองคนที่เหลือ ทันใดนั้นเขาก็เห็นว่าหลิงฉงยกมือขึ้น ขมวดคิ้วและถาม “มันแปลกไหมที่จะไม่มีปัญหา?”
“ปัญหาอะไร?!”
หลังจากได้ยินคำถามของหลิงฉงคนทั้งสามก็ชะงัก เมื่อหลิงฉงพบว่าทั้งสามคนนี้ไม่ได้รู้อะไรเลย เขาก็ทำได้แค่ถอนหายใจและพูดออกมา “การจะทำอะไรสักอย่าง ล้วนมีสิ่งที่จะต้องจ่ายทั้งนั้น ไม่พวกพลังของพวกคุณแข็งแกร่งมากแค่ไหน แต่มันก็ยังมีข้อบังคับที่ไม่สามารถละเลยได้อยู่!”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้หลิงฉงก็หมุนตัวและชี้ไปที่หลินเฉิงที่กำลังรวบรวมพายุอยู่ข้างนอกภายใต้สายตางุนงงของทั้งสาม “ความแข็งแกร่งของผู้ชายคนนี้นั้นยากที่จะหยั่งถึง อาจจะเป็นที่หนึ่งของโลกเลยก็ได้! แต่ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่เขาก็ไม่สามารถมองข้ามคุณสมบัติพลังและข้อจำกัดของเขาได้! เพราะฉะนั้นผมคิดว่าเขาน่าจะยังสามารถรักษาความเร็วที่ยอดเยี่ยมของเขาเอาไว้ได้ถึงแม้ว่าเขาจะโดนลำแสงเอื่ยเฉื่อยของผมก็ตาม แต่มันจะต้องจ่ายด้วยบางสิ่งบางอย่างแน่นอน! และ “สิ่งที่ต้องจ่าย” นี้ก็จะต้องปรากฏออกมาเร็วๆนี้แน่ถ้าหากไม่เกิดอะไรขึ้น เพราะหากคุณจับตาดูเขาอย่างละเอียดแล้ว คุณจะพบว่าตอนนี้เขากำลังเร่งรีบอยู่นิดหน่อย!”
“จริงหรอ?!”
“เป็นไปไม่ได้?!”
“ดูเหมือนว่ามันจะเป็นอย่างนั้น!”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้พวกเขาไป๋เฟยทั้งสามคนล้วนต่างตกตะลึง พวกเขาหันไปมองหลินเฉิงที่อยู่ด้านนอกของกำแพง จากนั้นพวกเขาก็พบว่าใบหน้าของหลินเฉิงเป็นอย่างที่หลิงฉงพูดจริงๆ และท่าทางของเขาดูย่ำแย่มาก เม็ดเหงื่อเริ่มปรากฏขึ้นบนหน้าผากมากขึ้นเรื่อยๆ!
“เยี่ยม!ถ้าหากไม่มีการสังเกตอย่างละเอียดถี่ถ้วนของผู้เฒ่าหลิง พวกเราก็อาจจะโดนเขาหลอกแล้ว”
หลังจากที่พบว่าสภาพของหลินเฉิงกำลังแย่ลงเรื่อยๆกระเรียนขาวก็ปรบมือและถอนหายใจออกมาทันที
“แล้วพวกเราควรจะทำยังไงต่อไป?”
ไป๋เฟยไม่ได้ออกไปหาหลินเฉิงหลังจากที่เห็นว่าหลินเฉิงอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่เขาหันไปถามความคิดเห็นของหลิงฉงอย่างสงบ
“มี2ตัวเลือก!”
เมื่อได้ยินแบบนั้นหลิงฉงก็ชูนิ้วสองนิ้วขึ้นมาและพูดกับอีกสาม “ข้อแรกพวกเราจะรออยู่ในนี้รอจนกว่าเขาจะทนไม่ไหวหรือเราจะแข็งตายก่อนกัน หรือไม่พวกเราก็หาจังหวะเหมาะๆตอนที่เขาสภาพย่ำแย่และรีบเอากำแพงกระแทกนี่ออกและฆ่าเขาตอนที่เขายังอ่อนแออยู่!”
“ฉันเลือกข้อสอง!”
เมื่อได้ยินแบบนั้นกระเรียนขาวก็เป็นคนแรกที่เอ่ยตัวเลือกของตนอย่างทนไม่ไหว “แต่ฉันไม่คิดว่าพวกเราจะต้องรอเขา เพราะอุณหภูมิที่นี่มันแย่มาก พวกเราอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ แต่ในเมื่อเขาไม่สามารถเอาชนะลำแสงเอื่อยเฉื่อยของคุณได้ เขาเพียงใช้โอกาสบางอย่างในการเพิ่มความเร็วให้กับตัวเอง ถ้าเป็นอย่างนั้นตอนนี้ทุกอย่างก็แทบจะเป็นเหมือนเดิม ด้วยสถานะของพวกเราตอนนี้ มันไม่จำเป็นเลยที่จะต้องมากลัวแมวป่วยตัวนี้!”
“อย่าหุนหันพลันแล่น!”
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของกระเรียนขาวไป๋เฟยก็ยกมือขัดให้อีกฝ่ายสงบและใจเย็นลง “ความแข็งแกร่งของผู้ชายคนนั้น หลังจากที่ได้ต่อสู้กันแล้ว พวกคุณทั้งหมดคงเข้าใจดี! ระดับของพลังเขาก่อนหน้านี้ การจะฆ่าเขามันไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปได้ง่ายๆ! ยิ่งไปกว่านั้น คุณจะมั่นใจได้ยังไงว่าเขาจะไม่พร้อมสู้ถึงแม้ว่าเขาจะยังอ่อนแอ? รู้รึเปล่าว่าเรากำลังเผชิญหน้าอยู่กับ “คนบ้า” ที่มีความแข็งแกร่งและระดับสมองที่เหนือกว่าคนปกติ….”
“ถ้าอย่างนั้น…แล้วคุณคิดว่ายังไง?”
เมื่อได้ยินข้อสรุปของไป๋เฟยกระเรียนขาวก็นึกถึงหลินเฉิงที่ดูเหมือนจะแตกต่างจากคนธรรมดาทั่วไปจริงๆ เมื่อคิดถึงการเคลื่อนไหวแปลกประหลาดและพลังที่เหนือธรรมชาติของผู้ชายคนนี้ กระเรียนขาวก็รู้สึกกลัวเล็กน้อย!
——————————-