ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 452 การกระตุ้นศักยภาพ
SC:บทที่452: การกระตุ้นศักยภาพ!
“อย่างที่หลิงฉงเพิ่งพูดไปพวกเราก็แค่ต้องรอให้อีกฝ่ายอ่อนแอลงในกระดับหนึ่งก่อน แล้วพวกเราถึงจะลงมือได้!”
เมื่อได้ยินคำพูดของกระเรียนขาวไป๋เฟยก็คิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาหันไปมองหน้ากับหลิงฉงอีกครั้งและพูดการตัดสินใจสุดท้ายของตัวเองออกมา
“นี่…..แข็งตายนะ!รอก็รอ!”
เมื่อเห็นไป๋เฟยและหลิงฉงตัดสินใจกระเรียนขาวก็ไม่คัดค้านอีกต่อไป หลังจากที่สบัดมือสองสามรอบ เขาก็กระชับเสื้อผ้าให้แน่นขึ้นและเอนหลังพิงต้นไม้ที่อยู่ข้างๆและรอต่อไป
…
หลังจากที่สร้างพายุหิมะขึ้นมาให้ไปทางกำแพงป้องกันอีกครั้งหลินเฉิงก็อ้าปากหอบหายใจอย่างหนักหน่วง จากที่กระเรียนขาวสังเกต หลินเฉิงน่าจะสามารถควบคุมความเร็วของเขาไม่ให้เปลี่ยนไปได้หลังจากถูกลำแสงเอื่อยเฉื่อย เพราะตอนนี้หลินเฉิงได้เปิดช่องสุดท้ายที่เขาไม่อยากเปิดเพื่อหลีกเลี่ยงผลของลำแสงเอื่ยเฉื่อย ‘การกระตุ้นศักยภาพ’!
หลังจาก‘รูปแบบต่อสู้’ ‘รูปแบบปีกน้ำแข็ง’ ‘รูปแบบเกราะต่อสู้’ และ ‘รูปแบบต่อสู้สูงสุด’ รวมกัน หลินเฉิงก็เริ่มลดการควบคุมน้ำแข็งน้อยลง และเพ่งสมาธิอยู่กับการใช้ความแข็งแกร่งของร่างกายที่กำลังและความเร็วของเทียบเท่าพวกเขา จากนั้นก็คิดพัฒนาการทดลองศักยภาพทางกายอื่นๆขึ้นมาแทน!
ถึงแม้ว่าพลังควบคุมน้ำแข็งจะเป็นพลังธรรมชาติระดับสูงแต่พลังของมันก็เทียบไม่ได้เลยกับพวกที่มีร่างกายที่แข็งแกร่ง แต่เนื่องจากการใช้พลังทั้งหมดอย่างต่อเนื่อง มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่ยุ่งเหยิงมากขึ้นเรื่อยๆโดยที่ใช้พลังเดียว เพราะฉะนั้นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่พลังควบคุมน้ำแข็งไม่สามารถรับมือได้ การใช้ไพ่ตายที่เก็บไว้ก็สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีได้
ถึงแม้ว่า“การกระตุ้นศักยภาพจะไม่ได้ใช้เพื่อยับยั้งลำแสงเอื่อยเฉื่อยโดยเฉพาะ แต่ผลกระทบของมันก็ทำให้เขาหลุดจากการพันธนาการของลำแสงเอื่อยเฉื่อยได้ในเวลาอันสั้น และยังรักษาจังหวะการต่อสู้ที่สูงมากอย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับสิ่งที่ต้องจ่าย ‘ความแข็งแรงทางกายภาพที่’การกระตุ้นศักยภาพ’ใช้จะทำให้เกิดความเสียหายมากมายกับร่างกาย เพราะฉะนั้นหลินเฉิงจึงไม่อยากใช้ “ความสามารถ” นี้ตั้งแต่ต้น!”
ตอนนี้เขามองไปที่เผ่ารัตติกาลทั้งสี่ที่มีชีวิตอยู่และกำลังจะตายอยู่ในกำแพงกระแทก หลินเฉิงรู้สึกหมดหนทางอย่างมาก จากท่าทางของคนทั้งหมดแล้ว เขาเข้าใจได้ว่าจิ้งจอกเฒ่าพวกนั้นคงคาดการณ์บางอย่างได้ เป็นไปได้ว่าทั้งสี่จะรอหาโอกาสฆ่าและทำให้เขาประหลาดใจตอนที่เขาหมดกำลังลง! เมื่อคิดมาถึงตรงนี้หลินเฉิงก็รู้สึกถึงความแข็งแรงทางกายภาพของเขาที่ลดลงอย่างรวดเร็วในร่างกายของตน แขนขาของเขาปวดไปหมด เขาหยิบเม็ดพลังออกมาและเอาใส่ปาก จากนั้นก็ย่อเข่าลงและทันใดนั้นเขาก็แนบฝ่ามือลงกับพื้นตรงหน้าเขา หลังจากกลืนน้ำลาย เขาก็ได้ยินเสียง “กริ๊ก” แล้วจู่ๆ น้ำแข็งที่ปกคลุมอยู่รอบๆตัวเขาก็สั่นสะเทือน
“นี่….เกิดอะไรขึ้น?”
เมื่อรู้สึกถึงการสั่นไหวจากพื้นเบื้องล่างคนทั้งสี่ที่อยู่ภายในเขตกำแพงต่างตกตะลึง พวกเขาคิดว่าหลินเฉิงหมดพลังแล้ว แต่พวกเขาไม่คิดว่าหลังจากที่เขากินเม็ดพลังเข้าไป มันจะเหมือนกลับสู่สภาพเดิมได้แบบนี้!
“ไม่นะ!”
เมื่อเห็นว่าหลินเฉิงยังไม่ลุกขึ้นหลังจากที่ตนหายตกใจทันใดนั้น ไป๋เฟยก็รู้สึกได้ว่าเขาลืมสิ่งสำคัญบางอย่างไป เขาทำมือให้ทั้งสามคนหยุดพูดและนึกดีๆ ทันใดนั้นเองเขาก็นึกได้ว่าพื้นที่พวกเขาเหยียบอยู่ไม่ได้ถูกคลุมด้วยกำแพงกระแทก!
“ฉิบหาย!”
เมื่อนึกได้ไป๋เฟยก็อย่างจะด่าตัวเอง แต่เขาก็ไม่กล้าชักช้าไปมากกว่านี้ ด้วยมือที่แข็งแรงของเขา เขาได้ยินเสียง “ครืด” คลื่นกระแทกที่เหมือนกับน้ำก็ปรากฏขึ้นจากเท้าของเขาและแพร่กระจายไปทั่วพื้นที่อยู่ภายในกำแพง!
“ตอนนี้เนี่ยนะ?มันช้าไปนิดนึง!”
เมื่อเห็นว่าไป๋เฟยที่ตอนนี้คลุมพื้นที่ยืนอยู่ด้วยกำแพงกระแทกหลินเห็นที่อยู่ด้านนอกก็พูดออกมา เขาแนบฝ่ามือลงที่พื้นอีกครั้ง และจากนั้นก็ได้ยินเสียงสั่น “กริ๊ก” “กริ๊ก” ทันใดนั้น พื้นภายในกำแพงที่ไม่ถูกคลุมด้วยกำแพงกระแทกถูกแช่แข็งอย่างรวดเร็ว จากนั้นหลินเฉิงก็ทำวงแหวนนิ้ว พื้นที่กลายเป็นน้ำแข็งอย่างสมบูรณ์ก็ยกสูงขึ้น บีบอัดพื้นที่ภายในกำแพงอย่างฉับพลัน!
“ปลดกำแพงป้องกันซะ!ไม่อย่างงั้นพวกเราจะต้องถูกบีบตายอยู่ที่นี่แน่!”“ ในเวลาเดียวกันหลิงฉงก็รีบวิ่งไปหาไป๋เฟยเพื่อเลี่ยงพื้นน้ำแข็งที่กระจายไปทั่วทุกที่ หากพิจารณาในเรื่องของความปลอดภัย พื้นที่ภายในกำแพงป้องกันนี้ไม่ได้ใหญ่มากนัก แต่มันก็ไม่ได้เล็กเช่นกัน หลังจากที่ถูกหลินเฉิงพูดขัด พวกเขาที่เป็นเหมือนกับสัตว์ที่ติดกับดักก็ทำให้ได้แค่วิ่งหนีด้วยความตื่นตระหนก แต่พวกเขาก็ไม่กล้าจะโดนกำแพง เพราะหลักการของการสั่นสะเทือนก็คือการใช้การสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันผู้ที่อยู่ด้านในจากการถูกล่วงละเมิด แต่คนที่อยู่ภายในก็สามารถติดอยู่ในกำแพงได้เหมือนกัน!
“ไอ้เด็กเหลือขอนี่…”
ร่างของไป๋เฟยกำลังทรมานกับกองน้ำแข็งที่เย็นจัดตอนนี้ใจของเขาเต็มไปด้วยความเสียใจที่ไม่มีที่สิ้นสุด เนื่องจากความเร่งด่วนของสถานการณ์ เขาจึงสามารถทำได้แค่ปกป้องกระเรียนขาวให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่เขาลืมนึกถึงความอันตรายจากพื้นและเขาก็ไม่คิดว่าหลินเฉิงจะคิดถึงช่องโหว่แล้วนำเขาไปก้าวหนึ่ง!
“ฟิ้ว…”
หลังจากหายใจอย่างหนักหน่วงไป๋เฟยก็ยกมือขวาขึ้นและได้ยินเสียง “ครืด” กำแพงป้องกันที่ใช้ปกป้องพวกเขาทั้งสี่คนเพียงไม่กี่นาทีก็หายทันที และรอยแตกที่พื้นที่อยู่ภายใต้กำแพงป้องกันก็ย่ำแย่ลงเมื่อไม่ได้อยู่ในขอบเขตของกำแพงป้องกัน “เสียงคำราม”ของการระเบิดดังขึ้นท่างกลางหิมะ!
“ตู้ม!”
“ตู้ม!”
“ตู้ม!”
“ตู้ม…”
เกิดเป็นภาพที่แย่ขึ้นเรื่อยๆเมื่อชายชราทั้งสี่ถูกยิงออกไปที่ละคนโดยที่ไม่มีการต้านทานใดๆและร่วงลงบนหิมะที่อยู่ไม่ห่างออกไปมากนัก
“ตุบตุบ…” ก่อนที่ทั้งสี่คนจะลุกขึ้นหลินเฉิงก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าคนทั้งหมด เขาไม่รีบมาก กลับกัน เขาส่ายหน้าและเปิดปาก “ถ้าคุณทำหน้าแบบนี้ เวลาคนอื่นเห็น เขาจะกลัวคุณรึเปล่า?”
“ฟึ่บ!”
หลังจากที่ได้ยินแบบนั้นตอนแรกกระเรียนขาวก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง เขาพยายามทนความเจ็บของร่างกายตัวเอง เขายืนขึ้นและ “พรึ่บ” แบ่งร่างออกมามากมาย จากนั้นเขาก็พุ่งไปหาหลินเฉิงโดยที่ไม่พูดอะไรทั้งสิ้น!
เมื่อเห็นแบบนั้นหลินเฉิงก็ส่ายหัวอย่างหมดหนทาง เขาชูดาบน้ำแข็งที่รวมกับมือของเขาขึ้นอีกครั้ง และหันไปทางชิ้นส่วนร่างกายพวกนั้น จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียง “ฟึ่บ” ลิ่มน้ำแข็งที่ยาวและบางพุ่งออกมาจากใบมีดและแทงเข้าตรงกลางอกของร่างแยกพวกนั้น!
“ฉึก”
“อ๊าก!!!” เนื่องจากความเร็วของลิ่มน้ำแข็งที่ยาวและบางนี้เร็วเกินไปแม้ว่าผู้ที่ใช้การแยกร่างจะสามารถหลบได้ แต่ความเร็วร่างกายของพวกเขาไม่สามารถตามทัน พวกมัน ชิ้นเนื้อพวกนั้นต่างถูกแทงด้วยลิ่มน้ำแข็ง และกระเรียนขาวก็ร่วงลงตรงหน้าของหลินเฉิง!
————————————-