ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 458 หลบหนีจากอันตราย
SC:บทที่458: หลบหนีจากอันตราย
หลังจากที่ส่ายหัวและปล่อยความคิดร้อยแปดทั้งหมดไว้ข้างหลังหลินเฉิงก็ค่อยๆเช็ดเลือดที่ปากของหยูซานและพูดกับเธอเบาๆ “อย่าคิดมากนักเลยเด็กน้อย เพราะการพัฒนาของเธอ ฉันถึงแก้ปัญหาหลายอย่างได้สำเร็จ เพราะฉะนั้นเธอไม่ต้องโทษตัวเองแล้ว เธอทำงานของตัวเองได้เยี่ยมยอดมาก แม้แต่ฉันก็อาจจะไม่สามารถทำได้ครึ่งนึงของเธอ…..”
ขณะที่พูดเขาก็หยิบขวดยาในมือและจ่อไปที่ปากของหยูซาน บอกให้เธออ้าปาก “ตอนนี้เธอยังไม่หายดี รีบดื่มยานี่ซะและจากนั้นก็นอนเยอะๆ! และตอนเธอตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอจะพบว่าทุกอย่างจบลงแล้ว เข้าใจมั้ย?”
“อือ…ขอบคุณ พี่หลิน…… “
เป็นครั้งแรกที่หลินเฉิงพูดกับเธออย่างอ่อนโยนขนาดนี้หยูซานอารมณ์ดีขึ้นทันที มันเหมือนกับว่าความเจ็บปวดในร่างเธอบรรเทาลง เธอพยักหน้าราวกับลูกแมวและดื่มยาสีชมพูที่หลินเฉิงป้อนเข้าไป
ทันทีที่ตัวยาไหลลงคอหยูซานก็รู้สึกถึงความอุ่นที่แผ่ไปตามร่างกายและแขนขวาของเธอ แต่ก่อนที่เธอจะรู้สึกได้ถึงความรู้สึกสบายๆนี้ ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกเหมือนว่าท้องฟ้าและโลกหมุนและเธอก็หมดสติไป!
เมื่อเห็นว่าหยูซานสลบไปโดยไม่ทันพูดอะไรหลังจากที่ดื่มยารักษาเข้าไปหลินเฉิงก็รู้สึกอึดอัดในใจ และจากนั้นก็พบว่าถึงแม้ว่าหยูซานจะหมดสติไป แต่จังหวะหายใจของเธอก็คงที่ ดังนั้นเขาถึงรู้ว่ายาเริ่มออกฤทธิ์แล้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะดีใจกับฤทธิ์ยา!
“ก๊อกก๊อก……”
“ขอเข้าไปหน่อยได้มั้ย?”
ขณะที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้และมองหยูซาที่หลับสนิทหลินเฉิงก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เขากำลังจะออกไปจากห้องเพื่อให้เธอได้พักผ่อน แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตูเบาๆดังขึ้น และจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของฉีเซี่ยวฮันดังมาจากประตู
ก๊อก
“เข้ามา!”
เมื่อเห็นว่าเด็กหญิงดูท่าทางเป็นห่วงหยูซานหลินเฉิงก็ไม่สามารถปัดความเป็นห่วงของเธอไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงบอกให้เธอเข้ามาได้
“เอ่อ?นี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?!”
เมื่อได้ยินคำของหลินเฉิงฉีเซี่ยวฮันที่ถูกหลินเฉิงไล่ออกไปนอกห้องก็รีบผลักประตูและพุ่งเข้ามา เพียงเพื่อจะได้เห็นว่าหยูซาน ที่แต่เดิมแล้วมีใบหน้าซีดเซียวและกำลังจะตายหลับไหลอยู่ และสีหน้าของเธอก็ค่อยๆแดงขึ้น เห็นได้ชัดว่าชีวิตเธอพ้นขีดอันตรายแล้ว!
เมื่อได้ยินคำถามหลินเฉิงก็ส่ายเล็กน้อย “เป็นอะไร? รู้แค่ว่าตอนนี้เธอพ้นขีดอันตรายแล้ว!”
“หึ!” เธอรู้สึกว่าหลินเฉิงมักชอบทำเหมือนกับเธอเป็นเด็กอยู่ตลอดฉีเซี่ยวฮันก็มองเขาอย่างโมโห “ฉันพูดได้รึเปล่าว่าฉันช่วยนายเอาไว้มากในเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้ความดีความชอบก็เถอะ แต่ฉันทำงานหนักนะ? นายจะเคารพป้าของตัวเองหน่อยไม่ได้รึไง?”
“ถ้าหากเธอเรียกตัวเองว่าป้าต่อหน้าฉันอีกเธอจะไม่ใช่แค่ไม่ได้ความเคารพ แต่จะโดนตีไขมันด้วย!”
เมื่อเห็นว่าเด็กสาวเริ่มพูดเข้าข้างตัวเองอีกครั้งหลินเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมอง “ตอนนี้ที่ฐานทัพยังวุ่นวายอยู่ เธอไม่มีโอกาสออกไปเที่ยวเล่นสนุกข้างนอกอยู่แล้ว แล้วมีปัญหาอะไรที่จะเฝ้าที่นี่?
“ฉันไม่ใช่หมาแล้วฉันก็ยินดีที่จะอยู่กับน้องสาวนาย!”
เมื่อได้ยินคำแหย่ของหลินเฉิงฉีเซี่ยวฮันจึงพูดออกมาอย่างโมโห “ฉันจะพูดได้ยังไงว่าฉันเป็นคู่หูปฏิวัติกับซานซาน ยิ่งตอนนี้คู่หูของฉันบาดเจ็บอยู่ ฉันจะไปสนใจเรื่องปัญหาของฐานทัพได้ยังไง? จากนั้น หยูซานก็อ่อนโยนและใจดีกับฉันมาก แล้วนายทำไมนายถึงยังชอบพูดจาถากถางพวกเขาอยู่นั่นแหละ?”
“เห้เห้!”
เมื่อได้ยินคำตอบของฉีเซี่ยวฮันหลินเฉิงก็มองไปที่เธออย่างคาดไม่ถึง “เธอไม่เห็นรึไง สาวน้อย หยูซานผู้ไร้เดียงสาของเธอเป็นยังไง? แหกตาดูซะ!”
“อย่าพูดจาไร้สาระ!”
เธอพบว่าถ้าเธอคุยกับหลินเฉิงไปมากกว่านี้เธอจะต้องโมโหตายแน่ๆ ฉีเซี่ยวฮันจึงส่งเสียงฮึมฮำออกมาและถาม “ด้วยความสัตย์จริงนะ นายทำได้ยังไง? อาการของซานซานเมื่อกี้มันคาบเส้นด้วยซ้ำ ฉันยังคิดหาวิธีที่จะช่วยคนใกล้ตายให้รอดภายในไม่กี่นาทีไม่ได้เลย!”
“อยากรู้หรอ?”
เมื่อได้ยินคำถามหลินเฉิงก็ยิ้มออกมา “ถ้าเธออยากรู้จริงๆก็ขอร้องฉันสิ บางทีฉันอาจจะบอกเธอก็ได้ถ้าฉันใจอ่อน…”
“เฮอะ!”
เมื่อเห็นว่าหลินเฉิงไม่ได้จริงจังนักฉีเซี่ยวฮันก็ขี้เกียจที่จะโต้เถียงกับเขา “ฉันชอบพูด แต่ฉันไม่ชอบฟัง”
หลังจากนั้นเธอก็ก้มหัวลงและแตะที่หน้าผากของหยูซานและเมื่อเธอพบว่าอุณหภูมิของเธอยังปกติ เธอก็หันไปมองหลินเฉิงดุๆและเตรียมจะเดินออกไป
“เธอจะไปไหน?”
เมื่อเห็นว่าฉีเซี่ยวฮันกำลังจะออกไปหลินเฉิงก็ทำมือให้เธอหยุด “เธอยังไม่ได้บอกฉันเลยว่าเธอขังหลิงเหมิงไว้ที่ไหน!”
“ห้องถัดไป!”
เมื่อได้ยินคำถามของหลินเฉิงฉีเซี่ยวฮันก็โบกมือลาอย่างทนไม่ไหวและรีบออกไปโดยไม่หันกลับมามองสักนิด
ในที่สุดหลินเฉิงก็ได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกหลังจากที่เขาหลุดจากยัยเด็กฉลาดนั่นได้เมื่อเร็วๆนี้ เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงทำให้IQ ของหยูซานและเด็กคนนี้สูงกว่าคนอื่น เขาถึงต้องคิดถึงสิ่งที่เขาจะทำล่วงหน้า ซึ่งมันเขาให้เขาไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก
หลังจากส่ายหัวหลินเฉิงก็เลิกกวนหยูซานที่นอนหลับสนิท เขาค่อยๆเดินออกจากห้องและล็อคประตู จากนั้นก็เดินไปห้องถัดไป
“กริ๊ก-”
เขาหมุนลูกบิดประตูและทันทีที่เขาก้าวเข้าไปในห้อง เขาก็รู้สึกได้ถึงอันตรายที่พุ่งมาที่เขา เขารีบหมุนตัวและหลบอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกันเขาก็สะบัดมือข้างขวาของตัวเองและน้ำแข็งก็ถูกปล่อยออกไปจากมือ พุ่งตรงไปที่อีกฝ่ายทันที!
“อื้อ!”
เสียงฮึมฮำดังขึ้นแต่ก่อนที่หลิงเหมิงจะได้ทำอะไรมากกว่านี้ เธอก็ถูกแช่แข็ง มือ เท้า และปากของเธอถูกปิดหมด!
“เป็นนักโทษก็ควรมีสามัญสำนึกของนักโทษนะถ้าเธอไม่ยอมเชื่อฟัง ฉันก็คงจะทำอะไรลำบาก…”
หลังจากหลบจากการซุ่มโจมตีของหลิงเหมิงและสอนบทเรียนให้เธอหลินเฉิงก็เปิดไฟหน้าห้องและมองไปที่หลิงเหมิงที่ถูกล่ามโซ่ไว้หนาแน่นอยู่ตรงมุมห้อง หลินเฉิงไม่รู้จะทำยังไง
“หึ!”
เมื่อได้ยินแบบนั้นหลิงเหมิงที่แม้ว่าจะถูกปิดปากอยู่ก็ส่งเสียงฮึดฮัดในลำคออย่างอดไม่ได้ ม้นเป็นครั้งที่สองแล้วที่เธอตกอยู่ในมือของหลินเฉิง มันเป็นความน่าอัปยศที่ใหญ่หลวง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือผู้ชายคนนี้ไม่เคยฆ่าเธอเลยตอนที่จับตัวเธอมา แต่เขามักจะทรมานเธอด้วยวิธีต่างๆ พยายามบังคับให้เธอคายข้อมูลสำคัญออกมา ซึ่งนั่นทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่าเธอเป็นตัวช่วยในการแก้ปัญหาของคนอัปยศคนนึง
หลิงเหมิงจ้องมองหลินมู่ด้วยความเกลียดชังหลินเฉิงทำเพียงแค่ค่อยๆดึงเก้าอี้มาและนั่งลง ในขณะเดียวกันเขาก็จุดบุหรี่ขึ้นมาสูบและถาม “เธอไม่คิดจะเปลี่ยนใจรึไง? เอาแบบนี้ละกัน ถ้าเธอมีอะไรจะพูดก็พูดออก ฉันสัญญาว่าจะรับฟัง!”
—————————————