ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 464 การเยี่ยมเยียนของหลิงฉง
SC:บทที่464: การเยี่ยมเยียนของหลิงฉง
“แปะแปะ แปะ……”
เขาหันหลังไปปรบมือเบาๆและปัดเศษน้ำแข็งที่ติดอยู่ที่มือของตัวเองหลินเฉิงก้มลงมองก้อนน้ำแข็งที่อยู่บนพื้น จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นและมองไปรอบๆ เมื่อเห็นว่าทุกคนในห้องล้วนตกตะลึงกับสิ่งที่เขาเพิ่งทำ เขาก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม้ได้และเอ่ย “พวกคุณเป็นอะไรกัน?”
“นาย…นาย… นาย…”
ทันทีที่หลินเฉิงเปล่งเสียงออกมาทุกคนที่ตกอยู่ในความหวาดกลัวก็ได้สติ พวกเขาชี้ไปที่เขาทีละคน แต่ไม่มีใครสามารถพูดอะไรออกมาได้ สีหน้าของผู้บัญชาการเฉินยื่งดูน่าเกลียดมากขึ้นกว่าเดิมมาก การกระทำของหลินเฉิงเมื่อครู่ไม่ใช่แค่เป็นการฉีกหน้าเขาอย่างรุนแรง แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่อีกฝ่ายคิดกับพวกเขาอย่างชัดเจน!
หลินเฉิงไม่ได้สนใจกลุ่มปฏิกิริยาของพวกระดับสูงไม่รู้ว่าพวกเขารู้อะไรหรือคิดอะไร เขาเดินไปหาเหลียงเลา
“ดูเหมือนว่าสัญญาของคุณที่ให้ไว้กับผมเมื่อวานจะไม่ค่อยราบรื่นนะ?”
เมื่อเขาเดินมาถึงตัวเหลียงเลาหลินเฉิงก็จุดบุหรี่และถามเขาเสียงเรียบ
“นี่…”
เมื่อได้ยินคำถามเหลียงเลาก็เปิดปาก เขาอยากจะอธิบายอะไรบางอย่าง แต่หลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง เขาก็ถอนหายใจ จากนั้นก็พยักหน้าและเอ่ย “ใช่ วันนี้ฉันจัดการกับเรื่องนี้ได้ไม่ค่อยดี แต่ขอล่ะ……”
“ผมหวังว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย!”
เมื่อเห็นว่าผู้เฒ่าเหลียงไม่สามารถหาข้อแก้ตัวอะไรได้หลินเฉิงก็ไม่พูดอะไรไปมากกว่านี้ เขาพยักหน้าและเอ่ยเสียงเย็น
“นายคือหลินเฉิงหรอ?” แต่ก่อนที่เหลียงจะได้เอ่ยตอบฉีเหลาที่มองหลินเฉิงมาสักพักก็เอ่ยขัด “ฉีเฟย ปู่ของเซียวฮัน นายจะเรียกฉันว่าเหลาฉีก็ได้”
“ท่านผู้เฒ่าฉี!”
แน่นอนว่ามันไม่มีทางที่หลินเฉิงจะเรียกอีกฝ่ายที่อายุสามารถเป็นปู่ของเขาได้ว่าเหลาฉีเฉยๆหลังจากทักทายอีกฝ่านด้วยความเคารพ เขาก็เอ่ยถาม “ผมไม่รู้ว่าจะต้องอธิบายอะไร?”
“ไหนที่ไหน…”
เมื่อได้ยินแบบนั้นผู้เฒ่าฉีก็โบกมือ “ในโลกสุดท้าย ความแข็งแกร่งคือสิ่งที่สำคัญที่สุด! ฉันจะพูดอะไรเกี่ยวกับพลังของนายได้? มันก็แค่คนหนุ่มแบบนายมันหาได้ยากมากก็เท่านั้น ฉันก็เป็นแค่คนแก่ที่อยากเป็นเพื่อนกับนาย…”
เมื่อได้ยินคำของคุณฉีหลินเฉิงก็หัวเราะออกมาและเอ่ย “พูดได้ดี และตัวเลือกของคุณก็แสดงถึงทัศนคติของคุณ ตราบใดที่คุณไม่เปลี่ยนใจ ผมก็จะไม่เปลี่ยนใจเช่นกัน!” หลังจากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีกกลับกัน เขากันไปหาเหลียงและเอ่ยต่อ “ผมหยุดพวกทหารข้างล่างไว้แล้ว คุณต้องให้ผมบอกรึเปล่าว่าต้องทำยังไงกับที่เหลือ?”
“ไม่จำเป็น!”
เมื่อได้ยินดังนั้นเหลียงก็รีบส่ายมือและเอ่ย “ไม่ต้องห่วง ครั้งนี้ฉันจะไม่ทำให้นายผิดหวัง!”
“ดี!”
เมื่อได้ยินคำสัญญาของเหลียงหลินเฉิงก็พยักหน้าเบาๆ “ผมมีหลายอย่างที่จะต้องทำ เพราะฉะนั้นผมจึงไม่มีเวลามาช่วยคุณแก้ปัญหาพวกนี้ สองวัน ผมให้เวลาคุณสองวันในการจัดการทุกอย่าง หลังจากสองวัน ผมหวังว่าฐานทัพจะสามารถกลับมาดำเนินการตามปกติและพวกภัยคุกคามทุกอย่างจะหายไปโดยไม่เหลือร่องรอย!”
“เข้าใจแล้ว!”
เมื่อได้ยินหลินเฉิงเน้นตรงคำว่า“ภัยคุกคาม” ในใจของเหลียงก็รู้ทันทีและพยักหน้าอย่างรวดเร็ว แต่ทันใดนั้นเขาก็ขมวดคิ้วและเอ่ยถาม “นั่น…”
“ผมรู้ว่าคุณจะถามอะไร”
ก่อนที่เหลียงจะพูดอะไรหลินเฉิงจึงทำมือให้หยุดและพูดขัด “ผมจะแก้ปัญหาของเผ่ารัตติกาลเอง ตราบใดที่คุณทำให้ผมมั่นใจได้ว่าจะไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นในฐานทัพอีก ผมรับรองเลยว่าพวกเผ่ารัตติกาลจะไม่มาคุกคามฐานทัพสมุทรสีครามอีกเลย!”
“ดีดีแล้ว…”
เมื่อเห็นใบหน้าที่มั่นใจของหลินเฉิงถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะทำยังไง เหลียงก็ยังเลือกที่จะพยักหน้าและเชื่ออีกฝ่าย เพราะอย่างไรแล้ว ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อวานก็ชัดเจน กลุ่มเผ่ารัตติกาลได้ส่งผู้อาวุโสสี่คนมาหาหลินเฉิง แต่พวกเขาก็ทำไม่สำเร็จ ตอนนี้พวกเขาควรคิดเกี่ยวกับวิธีการแก้ไขความขัดแย้งระหว่างพวกเขาแทนที่จะส่งใครไปตาย
“ดีในเมื่อแก้ปัญหาเสร็จแล้ว ผมไปล่ะ!” หลังจากพูดกับเหลียงไม่กี่คำหลินเฉิงก็คายก้นบุหรี่ทิ้งและมองไปที่กลุ่มพวกระดับสูงที่อยู่รอบๆเขาที่นั่งตัวสั่นอยู่บนเก้าอี้ของตนและแสยะยิ้มออกมา
เขาไม่สนใจพวกที่กำลังจะตายพวกนี้อยู่แล้วเขาจึงหันไปพยักหน้าให้ผู้เฒ่าฉีและจากนั้นจึงหมุนตัวและเดินจากไป!
หลังจากที่ออกมาจากสำนักงานใหญ่หลินเฉินก็ไม่ได้สนใจกับพวกทหารที่ถูกกำแพงน้ำแข็งสกัดเอาไว้ เมื่อเขารู้สีกถึงการปรากฏตัวของบางอย่าง ทันใดนั้นเขาก็ขมวดคิ้วและมองออกไป!
“เร็วจัง?”
เมื่อคิดถึงนิสัยที่เป็นเอกลักษณ์ของกลุ่มเผ่ารัตติกาลหลินเฉิงก็พึมพำออกมา เขาคิดว่าอีกฝ่ายจะคุยกันอยู่หลายวัน แต่เขาคงดูถูกตำแหน่งสำคัญของหลิงเหมิงที่มีกลุ่มเผ่ารัตติกาลเกินไป
“ฟึ่บ” ในเมื่อกลุ่มเผ่ารัตติกาลมาถึงแล้วหลินเฉิงก็ไม่อยากเอ้อระเหยไปมากกว่านี้ เมื่อเขาก้าวเท้า ร่างของเขาก็หายไปอย่างรวดเร็วราวกับเสือชีต้า ตรงด้านหน้าของสำนักงานใหญ่!
…
เมื่อหลับมาถึงคฤหาสน์หลินเฉินก็พบว่ามีเพียงหลิงฉงคนเดียวเท่านั้นที่มาที่นี่ ตอนนี้เขากำลังยืนอยู่หน้าประตูคฤหาสน์ เขาไม่ได้เคาะประตูแต่กลับยืนอยู่นิ่งๆ ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
“คุณมาคนเดียวหรอ?”
หลังจากตรวจดูอีกทีเขาก็แน่ใจว่าหลิงฉงเป็นเพียงคนเดียวที่มาที่นี่จริงๆ หลินเฉิงจึงค่อยๆเดินออกมา หยิบกุญแจประตูออกมาและเอ่ยถาม
เมื่อได้ยินคำถามร่างของหลิงฉงสะดุ้ง จากนั้นจึงหันมาทางเขาและถาม “ทำไม? ไม่ใช่ว่ามันเป็นสิ่งที่นายต้องการงั้นหรอ?” “ดูเหมือนว่าผมจะทำถูกแล้วที่ยังไม่ฆ่าคุณ!”
เมื่อได้ยินคำพูดหลิงฉงหลินเฉิงก็หัวเราะออกมาและพูด “ไปเถอะ ในเมื่อเราอยู่ที่นี่แล้ว งั้นก็เข้าไปข้างในและดื่มชากัน!”
“ผมหมายความว่าอย่างนั้นจริงๆ!”
เมื่อได้ยินแบบนั้นหลิงฉงก็พยักหน้า จากนั้นจึงถอยและรอให้หลินเฉิงเปิดประตู จากนั้นก็เดินตามเข้าไปในคฤหาสน์ขนาดเล็กนี่
“หืม?หลิน… พี่หลิน กลับมาแล้วหรอ?”
ทันทีที่เดินเข้าไปข้างในไม่ทันที่หลินเฉิงจะได้ถอดเสื้อโค้ทของเขาออกก่อน เขาก็เห็นหยูซานที่กำลังนั่งอยู่ที่โซฟาโดยที่ยังสวมชุดนอน กินขนมและดูทีวี เมื่อเห็นว่าเขากลับมา เธอก็พูดเสียงดัง ปิดทีวีและลุกขึ้นทันที
เขายิ้มพร้อมโยกมือหลินเฉิงเดินไปหาเธอและเอื้มมือออกไปแตะที่หน้าผาก เมื่อพบว่ามันไม่ร้อนเขาก็เอ่ยถาม “รู้สึกยังไงบ้าง? รู้สึกไม่สบายตรงไหนรึเปล่า?” “ไม่นะไม่เลย! ตอนนี้รู้สึกสบายมากๆ!”
เมื่อได้ยินแบบนั้นใบหน้าของหยูซานก็เต็มไปด้วยความดีใจ “พี่หลิน ยาที่พี่ให้ฉันกินเมื่อวานมันคือยาอะไร? เมื่อวานฉันรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังจะตาย ฉันไม่คิดเลยว่าจะฟื้นตัวกลับมาได้หลับจากหลับไป มันมหัศจรรย์มาก!”
“ก็ได้เดี๋ยวพี่จะเล่าให้ฟังทีหลัง”