ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 466 มนุษย์ถ้ำใต้ดิน
SC:บทที่466 มนุษย์ถ้ำใต้ดิน
“นายอยากรู้ความลับอะไร?ฉันเองก็เป็นผู้อาวุโสของเผ่ารัตติกาล ฉันอาจจะบอกนายไม่ได้หมดแต่ฉันก็รู้เกือบทุกอย่าง ถ้านายมีคำถามอะไร ก็ถามฉันมาตรงๆได้เลย ไม่จำเป็นจะต้องไปเผ่าของเราก็ได้ไม่ใช่รึไง?”
ถึงแม้ว่าหลินเฉิงจะสัญญาว่าเขาจะไม่สร้างปัญหาที่เผ่าหลิงฉงก็ยังไม่กล้าที่จะปักใจเชื่ออีกฝ่าย ประชากรของเผ่ารัตติกาลนั้นน้อยมาก เมื่อพิจารณาถึงจำนวนทหารและผู้อาวุโสสองคนที่ตายในการต่อสู้เมื่อวานแล้ว พวกเขาก็ไม่อาจรับมือกับความวุ่นวายเมื่อวานได้
เมื่อได้ยินแบบนั้นหลินเฉิงก็ส่ายหัวไปมาเล็กน้อย สิ่งที่เขาต้องการจะรู้นั้นไม่ได้ชัดเจนอย่างหลิงฉง ยิ่งไปกว่านั้น ที่หลิงเฉิงอยากไปที่เผ่ารัตติกาลด้วยตัวเองก็เพื่อจะได้เห็นว่ามันเป็นยังไง และมันแตกต่างจะถ้ำใต้ดินในภูเขาฟีนิกซ์อย่างไร
เมื่อเห็นว่าหลินเฉิงส่ายหน้าหลิงฉงก็เข้าใจทันทีว่าผู้ชายคนนี้ตั้งใจจะให้เขาพาไปที่เผ่ารัตติกาลจริงๆ ถ้าหากเขาไม่ทำตาม เขาอาจจะต้องสู้กันอีกครั้ง
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ความรู้สึกของหลินงฉงก็ยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ ในก้นบึ้งหัวใจของเขานั้นยังลังเลที่จะพาหลินเฉิง เทพแห่งการสังหารไปที่บ้าน แต่เมื่อพิจารณาถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นถ้าหากยั่วโมโหผู้ชายคนนี้ เขาก็รู้ดีว่าเขามีเพียงแค่ทางเลือกเดียว
“ก็ได้ในเมื่อนายยืนยันที่จะไป ก็ไป!”
หลิงฉงหันไปมองหลิงเหมิงที่ใบหน้าแดงขึ้นเล็กน้อยหลิงฉงไม่อยากให้เธอต้องกลับไปทรมานอยู่ภายในคุกน้ำแข็งอีก ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าและตกลงกับเงื่อนไขของหลินเฉิง
“ท่านปู่…”
เมื่อเห็นว่าหลิงฉงถูกบังคับจนตอบตกลงหลิงเหมิงก็อดไม่ได้ที่จะเรียกอีกฝ่ายเสียงดังไม่ใช่แค่หลิงฉง แต่เธอเองก็รู้ดีว่ามันอันตรายแค่ไหนที่จะนำทางหลินเฉิงไปที่ฐานทัพของเผ่ารัตติกาลของพวกเธอ เธอไม่อยากจะสร้างความเสียหายมากไปกว่านี้ แต่มันก็เหมือนกับที่หลิงฉงเป็นห่วงอันตรายของเธอ เธอเองก็ไม่ต้องการให้หลิงฉงถูกทำร้ายอีกครั้งเพราะเรื่องนี้ ดังนั้นเธอจึงทำได้แค่ครางออกมาและไม่พูดอะไรอีก ทำแค่มองไปที่หลินเฉิงด้วยสายตาที่เย็นชามากขึ้นเรื่อยๆ!
“พวกคุณสองคน…”
เมื่อถูกจ้องอย่างไม่เป็นมิตรโดยคนชรากับคนตัวเล็กหลินเฉิงก็รู้สึกอึดอัดไปทั้งตัว “ทำไมถึงคิดว่าผมอยากจะฆ่าคุณตอนที่ขอไปที่ฐานของคุณ? ผมมีอย่างอื่นที่สำคัญมากที่จะต้องทำมากกว่าการจัดการพวกคุณ ไม่คิดมากเกินไปหน่อยรึเปล่า?”
“ใครจะรู้ว่านายพูดจริงหรือโกหก!”
เมื่อได้ยินแบบนั้นหลิงเหมิงก็พูดอย่างหมั่นไส้ “ตอนนี้นายเหนือกว่าทั้งเรื่องของความเร็วและพละกำลัง โดยธรรมชาติแล้วนายสามารถทำอะไรที่นายต้องการได้ และสิ่งที่นายพูดออกมาก็เป็นสิ่งที่พวกเราไม่มีสิทธิที่จะถามเลยด้วยซ้ำ…”
“นี่?”
จากหน้าของหญิงสาวหลินเฉิงมองหน้าเธออย่างคิดไม่ถึง “ไม่เข้าใจรึยังไง? เธอกล้าดียังไงมาพูดกับฉันแบบนี้ เชื่อรึเปล่า –”
ทันใดนั้นเขาก็เผยใบหน้าชั่วร้ายออกมาขู่หลิงเหมิงให้กลืนคำพูดไปและไม่กล้าพูดขัดอีก
“หึ!”
เมื่อเห็นว่าในที่สุดหญิงสาวก็สงบเสงี่ยมหลินเฉิงก็คำรามออกมา จากนั้นเขาก็ยืนขึ้นและเอ่ย “ในเมื่อคุณตกลงแล้ว งั้นก็อย่างมัวเสียเวลาที่นี่เลย ไปกันได้แล้ว!”
“อะไรนะ?ตอนนี้?!”
เมื่อเห็นว่าหลินเฉิงอยากจะไปตอนนี้เลยหลิงฉงก็รู้สึกตกใจทันที “นาย…ฉัน…นี่…”
“อะไร?คุณมีอะไรจะทำที่นี่อีกรึไง? หรือว่าคุณอยากจะขอเวลาเพื่อที่จะได้กลับไปและบอกทางนู้นก่อน?”
เมื่อเห็นหลิงฉงยังไม่อยากที่จะไปในตอนนี้เลยหลินเฉิงก็ขมวดคิ้ว หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นเขาก็คิดขึ้นมาได้ เขาเอ่ยถามพร้อมกับยิ้มมุมปาก
“เอ่อ…”
หลินเฉิงรู้แผนของอีกฝ่ายทันทีเพียงแค่มองและนั่นทำให้หลิงฉงรู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก เมื่อเขาพบว่าตนเองไม่สามารถหยุดหลินเฉิงไม่ให้ไปที่ฐานของเผ่ารัตติกาลไม่ได้ เขาจึงหาโอกาสที่จะส่งจดหมายกลับไปรายงานก่อนล่วงหน้า แค่เขาไม่คิดว่าหลินเฉิงจะจริงจังขนาดนี้ ในเมื่อคิดหาข้อแก้ตัวไม่ได้ เขาจึงเริ่มเดินทางทันที
“ผมจะพูดเป็นครั้งสุดท้ายผมไม่ได้ไปที่ฐานของคุณเพื่อฆ่าคน แต่ผมมีสิ่งสำคัญต้องทำ! คุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่ แต่ผมไม่อยากเห็นคุณเล่นตุกติกอะไรต่อหน้าต่อตาผมอีก เพราะมันจะทำลายความสัมพันธ์ของพวกเรา!”
เมื่อเห็นว่าหลิงฉงเงียบไปตอนเขาถามหลินเฉิงก็ทำเสียงฮึดฮัดในลำคอและพูดกับอีกฝ่ายตรงๆ!
“ก็ได้เข้าใจแล้ว เราไปกันเลย!”
เมื่อพบว่าหลินเฉิงรู้ถึงความคิดตุกติกเล็กน้อยของตนและสีหน้าเย็นชาของอีกฝ่ายหลิงฉงก็กังวลเป็นอย่างมาก เขาไม่กล้าตุกติกอะไรอีก จากนั้นจึงพยักหน้าเบาๆและลุกยืนขึ้น หลังจากถอนหายใจออกมา เขาก็พร้อมที่จะพาหลินเฉิงไปที่ฐาน
“รอผมตรงนี้…”
ใครจะรู้หลินเฉิงกลับไม่ได้ให้หลิงฉงนำทางไปทันทีตอนที่เขาลุกขึ้น แต่กลับทำมือให้เขารอก่อนครู่หนึ่ง จากนั้นก็ชี้ไปที่หลิงเหมิงและเอ่ยสั่ง “เธอ กลับไปข้างบนกับฉัน!”
“หะ?!”
เมื่อเห็นว่าหลินเฉิงสั่งให้เธอขึ้นไปด้านบนกับเขาหลิงเหมิงตกตะลึง แต่เธอก็ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว เอามือปิดหน้าอกและเดินกลับไปหาหลิงฉง แล้วหันมองไปที่หลินฉงอย่างระมัดระวัง!
หลิงฉงได้สติหลังจากการกระทำของหลิงเหมิงในที่สุดสีหน้าของเขาย่ำแย่ลง ขมวดคิ้วแน่นและถามหลินเฉิง “พวกเราตกลงทำตามคำขอของนายแล้ว นายยังจะให้เหมิงขึ้นไปข้างบนทำไมอีก?”
“หะ?”
เมื่อถูกทั้งคนที่เป็นปู่และคนที่เป็นหลานมองด้วยสายตาของหมาป่าที่ระมัดระวังหลินเฉิงก็นิ่งไปครู่หนึ่ง เขาสงสัยว่าแมลงสองตัวนี้กำลังทำอะไรกันอยู่ เมื่อเห็นว่ามือของหลิงเหมิงจับที่อกของตัวเอง เขาก็เข้าใจทันที จากนั้นเขาก็เอ่ยพร้อมกับยิ้มออกมา “คุณคิดว่าผมเป็นใคร?! นี่ขนาดมองตั้งแต่หัวจรดเท้าหลายพันรอบ ผมจะยุ่งกับพวกใต้ดินอย่างคุณไปทำไม?”
“นายมันพวกมนุษย์ชั้นต่ำ!พวกเราคือจิตวิญญาณราตรี สิ่งมีชีวิตที่สูงส่งกว่านาย! พูดอะไรก็ช่วยให้ความเคารพด้วย หยาบคาย!”
เมื่อได้ยินคำของหลินเฉิงโดยเฉพาะความคิดที่หลินเฉิงไม่คิดจะบ่นอะไรออกมา หลิงเหมิงก็โล่งใจ จากนั้นก็โมโหและกลับไปที่เดิม
หลิงฉงโล่งใจเมื่อได้รู้ว่าหลินเฉิงไม่ได้มีแผนอะไรแบบนั้นเขาจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย “ถ้าอย่างนั้นนายก็ปล่อยให้เหมิงขึ้นไปข้างบนก็เพราะ….”
“คุณว่ายังไงล่ะ?”
เมื่อได้ยินแบบนั้นหลินเฉิงก็มองไปที่คนทั้งคู่ด้วยสายตาเหยียดหยัน “ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ไม่ว่าผมจะไปที่ไหน ผู้หญิงคนนี้จะต้องตามผมไปด้วย ไม่อย่างนั้นแผนที่ผมปล่อยให้คุณหลบหนีออกไปด้วยความบังเอิญก็คงไม่ถูกทำลายหมดงั้นหรอ? ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องที่คุณกลัวว่าผมจะทำไม่ดีกับคุณ ผมเองก็กังวลว่าเมื่อผมไปถึงที่ฐานของคุณ ผมจะถูกคุณโจมตี เพราะฉะนั้นผู้หญิงคนนี้จึงสำคัญกับผมมาก!” ———————————–