ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 467 นาฬิกาข้อมือ
SC:บทที่467: นาฬิกาข้อมือ
“เข้าใจแล้ว…”
หลังจากที่ฟังคำอธิบายของหลินเฉิงหลิงฉงก็อยากจะเอ่ยกลับไปสักประโยคสองประโยค เขาอ้าปากแต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกไป เพราะอย่างไรแล้ว การที่หลินเฉิงกังวลนั้นมันเป็นเรื่องปกติมาก เขาไม่มีเหตุผลที่จะไม่ให้หลิงเหมิงไปกับอีกฝ่าย
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้หลิงฉงก็ทำได้แค่ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน จากนั้นก็ตบไหล่ของหลิงเหมิงและเอ่ยปลอบเธอ “ไม่เป็นไรนะ หลานไปกับเขาได้อย่างสบายใจ เพราะหากเขาจะทำอะไรไม่ดีกับหลานจริงๆ เขาไม่จำเป็นจะต้องรอจนถึงตอนนี้หรอก…”
“หลานทราบดีท่านปู่”
หลิงเหมิงเข้าใจสิ่งที่หลิงฉงคิดได้ทันทีเธอพยักหน้าเล็กน้อยและหันไปมองหลินเฉิงจากนั้นก็เดินนำขึ้นไปด้านบน
เมื่อเห็นว่าหลิงเหมิงเดินขึ้นไปด้านบนหลินเฉิงก็พยักหน้าให้หลิงฉงและเลิกพูดอะไรไร้สาระ เขาเดินตามหลังหญิงสาวขึ้นไปด้านบน
“ก๊อกก๊อก!”
“หยูซานอยู่ในห้องรึเปล่า?”
เมื่อพวกเขาเดินไปถึงที่หน้าประตูห้องของหยูซานหลินเฉิงบอกให้หลิงเหมิงรออยู่ใกล้ๆ ต่อมาเขาจึงเคาะประตูและยืนรออย่างอดทนหลังจากที่ได้ยินเสียงดังออกมาจากด้านใน
“เอี๊ยด-”
“มีอะไรหรอพี่หลิน?จะให้ฉันช่วยอะไรงั้นหรอ?”
เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูของหลินเฉิงหยูซาน ที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียงก็กระโดดลงจากเตียงและวิ่งไปเปิดประตู เมื่อเห็นหลินเฉิงและหลิงเหมิงที่มีใบหน้าเหน็ดเหนื่อย เธอก็ถามออกไปอย่างแปลกใจ
“ก็นะพี่จะออกไปข้างนอก พี่เลยจำเป็นที่จะต้องอธิบายบางอย่างให้เธอฟังล่วงหน้า”
เมื่อเห็นว่าหยูซานไม่เข้าใจหลินเฉิงก็พยักหน้า จากนั้นก็เรียกให้หลิงเหมิงเข้ามาในห้องกับเขา และทั้งสามก็เดินเข้าไปในห้อง ถึงแม้ว่าพื้นที่ในห้องจะไม่ได้ใหญ่มาก แต่การตกแต่งนั้นน่ารักสมกับเป็นห้องของหญิงสาว จากนั้นก็ปิดประตู
“รับนี่ไปก่อน”
หลังจากเข้ามาในห้องนอนหลินเฉิงก็มองไปที่หลิงเหมิงที่มองของตกแต่งน่ารักๆในห้องอย่างตื่นเต้น และหยิบโลหะสี่เหลียมสีดำขนาดเล็บมือออกมาจากกระเป๋าและส่งให้หยูซาน “เธอหาที่ใส่มันได้ตามใจเลย และอย่าออกไปไหนหากไม่จำเป็นจริงๆ เพื่อความปลอดภัยของเธอเอง!”
“เข้าใจแล้ว!”
ขณะที่ถือชิ้นเหล็กประหลาดอยู่ในมือหยูซานไม่เข้าใจว่ามันใช้เพื่ออะไร แต่ในเมื่อหลินเฉินบอกว่ามันสำคัญมาก เธอก็จะจำไว้ เธอหยิบกระเป๋าผ้าที่แขวนอยู่ตรงหน้าอกของเธอตั้งแต่ตอนที่ลงมาจากภูเขาฟีนิกซ์ออกมา และเก็บมันเข้าไปอย่างระมัดระวัง ต่อหน้าหลินเฉิง
หลังจากที่หยูซานรับชิ้นเหล็กไปหลินเฉิงก็หยิบนาฬิกาข้อมือผู้หญิงที่ละเอียดอ่อนออกมาจากกระเป๋าและช่วยหยูซานใส่มันและเอ่ยจริงจัง “ส่วนนาฬิกานี่ เธอสามารถดูเวลาได้ตามปกติ แต่ถ้าเธอได้ยินเสียงกระพริบ ให้กดตรงนี้ -”
เขาก็เอานิ้วกดลงไปเบาๆที่ปุ่มสีแดงที่อยู่ด้านขวาของนาฬิกาข้อมือจากนั้นก็ได้ยินเสียงกริ๊ก กระจกบนหน้าปัดของนาฬิกาข้อมือก็แสดงแผนที่สามมิติขนาดเล็กออกมา ตรงกลางแผนที่มีเครื่องหมายสามเหลี่ยมสีแดงโดดเด่นสว่างอยู่ และมันก็ขยับซ้ายขวาไปตามการกระทำของหลินเฉิง
นี่เป็นนาฬิกาข้อมือตามหาตำแหน่งมันสามารถใช้ดูเวลาและต่ำแหน่งของเป้าหมายในสถานการณ์ปกติ แต่ถ้าเธอเอาชิ้นเหล็กที่พี่เพิ่งให้เธอไปวางลงบนนี้ เมื่อไหร่ที่เป้าหมายเจออันตราย อย่างเช่นเธอเกิดตกไปอยู่ในการต่อสู้ที่รุนแรง ให้กดปุ่มสีดำด้านซ้ายนี้ แล้วนาฬิกาข้อมืออันนี้ก็จะส่งสัญญาณแจ้งเตือนมาที่นาฬิกาข้อมือของพี่ทันที สามเหลี่ยวสีแดงจะยังสว่างต่อไปและพี่จะไปช่วยเธอทันที! และถ้าหากพี่เจอปัญหาที่ไม่สามารถแก้ได้ พี่ก็จะส่งสัญญาณไปที่นาฬิกาของเธอเหมือนกัน เข้าใจรึเปล่า?
หลินเฉิงก็อธิบายวิธีใช้นาฬิกาข้อมือให้อีกฝ่ายฟังอย่างใจเย็นแน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะเรียนรู้ของแบบนี้จนอยู่ระดับเดียวกับหลินเฉิง แต่เขาสนใจแค่ว่าสถานที่ที่เขาจะไปนั้นอันตรายและเขาห่วงเรื่องของความปลอดภัยของเธอตอนที่เขาไปที่ฐานของเผ่ารัตติกาล ดังนั้นเขาจึงยอมใช้แต้มพลัง50000แต้มเพื่อซื้อนาฬิกาข้อมือที่ทำได้แค่ติดตามตัวตอนเกิดเหตุจำเป็นเท่านั้นทั้งสองเรือนนี้มา “สุดยอด……”
หลังจากได้ยินคำอธิบายของหลินเฉิงหยูซานก็สนใจนาฬิกาข้อมือที่ประณีตนี้ทันที เพราะเธอมาจากครอบครัวที่ยากจน เธอจึงไม่เคยมีนาฬิกาข้อมือเป็นของตัวเองเลยตั้งแต่เด็ก แต่ตอนนี้เธอมีนาฬิกาข้อมือที่ทรงพลังมาก มันจึงเป็นเหมือนกับความฝันวัยเด็กของเธอ
“นั่นแค่ก…”
หลินเฉิงไม่สนใจหลิงเหมิงตอนที่เขาอธิบายการทำงานของนาฬิกาข้อมือให้หยูซานฟังซึ่งนั่นทำให้เธอเป็นผู้ชมไปโดยปริยาย ในเวลาเดียวกันเธอเองก็สนใจนาฬิกาข้อมือที่แสนประณีตนี้เหมือนกัน เพราะอย่างไรแล้ว ในฐานะ “มนุษย์ถ้ำ” เธอตื่นขึ้นมาพร้อมกับการไม่มีน้ำและไฟ นาฬิกาอัจฉริยะแบบนี้เธอเพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก และมันก็ทำให้เธออยากดูมัน
เมื่อเห็นว่าหลินเฉิงหันมามองตัวเองหลิงเหมิงเม้มปากแน่นและเอ่ยออกไป “ถ้านายเอานาฬิกาข้อมือนี่ให้ฉันด้วย ฉันรับรองได้เลยว่าการเดินทางไปที่ฐานของเผ่ารัตติกาลของนายจะราบรื่นและอาจจะได้รับการช่วยเหลือจากกลุ่มสาวงามด้วย!”
“หืม?”
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวจะขายพี่น้องของตัวเองเพื่อแลกกับนาฬิกาข้อมือหลินเฉิงก็ทำได้แค่เบิกตากว้าง แต่เขาไม่ได้สนใจสาวงามเลยสักนิด และราคาของนาฬิกาข้อมือนี้ก็สูงมาก
มองไปที่หลิงเหมิงด้วยสายตาเหยียดหยามหลินเฉิงถอดนาฬิกาข้อมือของเขาและพูด “จะเอามันไปทำอะไร? ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ให้นาฬิกาข้อมือนี่กับเธอ ฉันก็ยังสามารถไปเดินเล่นในฐานของเธอได้อย่างราบรื่นอยู่ดี ไม่เชื่องั้นหรอ?”
“เฮอะ!ฉันจะกล้าไม่เชื่อนายได้ยังไง?”
เมื่อเห็นสายตาเหยียดหยามของหลินเฉิงหลิงเหมิงก็เลิกสนใจเรื่องนาฬิกาข้อมือทันที เธอจ้องหน้าเขาอย่างเดือดดาล จากนั้นก็นั่งพิงหลังลงที่โซฟาและไม่พูดอะไรอีก เขาเลิกให้ความสนใจกับเด็กน้อยอยากรู้อยากเห็นหลินเฉิงหันหน้ากลับมาพูดกับหยูซานด้วยใบหน้าจริงจังอีกครั้ง “สิ่งที่พี่จะกำลังจะทำมันออกจะดูอันตราย เพราะฉะนั้นพี่อาจจะต้องขอความช่วยเหลือจากเธอหากจำเป็นจริงๆ จำไว้นะ ถ้าหากนาฬิกาดังขึ้นเมื่อไหร่ เธอต้องไม่ไปหาพี่ด้วยตัวคนเดียว อย่างน้อยให้เอาโคล่าหรือใครสักคนไปด้วย ไม่อย่างนั้นพี่ก็คงไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เธอจะต้องปลอดภัย!”
“…เทพแห่งการสังหารกลัวเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่?น่าประหลาดใจจริงๆ…”
เขาไม่รอให้หยูซานตอบอะไรอาจจะเป็นเพราะภายในหัวใจของหลินเฉิงนั้นเหี่ยวเฉา หลิงเหมิงก็อดไม่ได้ที่จะเย้ยหยันออกมา
“หึ…”
เมื่อได้ยินแบบนั้นหลินเฉิงก็หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ “ฉันไม่เคยสู้ในการต่อสู้ที่ไม่แน่นอน ถ้าหากทุกคนที่เป็นเหมือนเธอที่รับต่ออย่างง่ายโดยที่ไม่รับรู้รายละเอียดของอีกฝ่ายหรือไม่เตรียมพร้อมสำหรับกรณีฉุกเฉิน ผลลัพธ์สุดท้ายก็จะเหมือนที่เธอเป็นตอนนี้ นักโทษคนต่อไป!”
——————————-