ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 491 ร่างที่แท้จริงคือตะขาบ
SC:บทที่491 ร่างที่แท้จริงคือตะขาบ!?
เถียนเฟยและโทรศัพท์ที่อยู่ภายในช่องแคบนั้นคือคนที่โดนแรงปะทะจากคลื่นเสียงเป็นพวกแรกเมื่อเจ้าสัตว์ยักษ์นั้นคำราม พวกเขาจะก็กลายเป็นเศษฝุ่นไปในทันทีโดยไม่ทันได้สู้กลับ!
เขาเห็นเถียนเฟยและโทรศัพท์ของเขากลายเป็นฝุ่นต่อหน้าต่อตาหลินเฉิงก็เปี่ยมไปด้วยความโกรธเกรี้ยวแบบหาที่สุดไม่ได้
“ไอ้บ้าเอ้ย!!”
เขาลดมือกลับมาและปิดหูทั้งสองข้างไว้ในตอนนั้นสายตาของหลินเฉิงชัดเจนมากๆ เขาปรบมืออย่างหนักหน่วงและมันก็ปรากฏดาบน้ำแข็งมากมายจนนับไม่ถ้วนที่แข็งมากๆที่ด้านหลังช่องว่าง และในวินาทีนั้นพวกเขาก็ถูกปกคลุมไปด้วยกำแพงน้ำแข็งทั้ง 4 ภายในช่องแคบนั้น! “โฮก!”
ทันทีที่ค่ายกลนั้นปรากฏขึ้นมาสัตว์ยักษ์ตัวเดิมก็คำรามออกมาแบบพอดิบพอดี จากนั้นเสียงของน้ำแข็งแตกก็ดังขึ้นจากภายใน กำแพงน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่หลินเฉิงเรียกขึ้นมานั้น เพื่อป้องกันให้เถียนเฟยสามารถหนีออกมาได้ และตอนนี้มันกำลังแตกเป็นเศษน้ำแข็งเล็กๆ!
“มาเลย!”
ถึงจะเห็นเช่นนั้นแต่หลินเฉิงก็ยังไม่ได้ถอดใจแต่อย่างใดถึงแม้ว่าประตูที่ขวางระหว่างเขาและสัตว์ยักษ์นั่นจะทำลายไม่ได้ แต่เขาก็ได้เตรียมการไว้แล้วในตอนนี้ เขาต้องฉีกเจ้าสัตว์ประหลาดนั้นเป็นชิ้นๆเลย!
“บะ–”
ด้วยแหวนบนนิ้วของหลินเฉิงดาบน้ำแข็งที่ถูกเรียกออกมาจนเต็มฟากฟ้าเกิดการสั่นอย่างพร้อมเพรียงกันก่อนจะพุ่งเข้าตัดหัวของสัตว์ประหลาดยักษ์ในทันที! “อุ้ก!!”
ภายใต้การโจมตีของดาบน้ำแข็งที่เข้าจุดตายนั้นสามารถทำลายเหล่าคนที่มีความแข็งแกร่งเป็นจำนวนมากได้ในทันทีแต่สำหรับสัตว์ยักษ์ตัวนี้ ถึงมันจะเหลือหัวเพียงครึ่งเดียวแต่มันก็ยังคำรามออกมาได้ คลื่นเสียงนั้นเข้าโจมตีใส่หลินเฉิงอย่างรวดเร็วราวกับว่าดาบน้ำแข็งไม่ได้ทำให้มันบาดเจ็บได้เลย!
เมื่อเห็นว่าสัตว์ประหลาดยักษ์นั่นแข็งแกร่งกว่าที่เขาคิดหลินเฉิงก็ขมวดคิ้วและทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ว่าในแคปซูลห้องเก็บของนั้นมีระเบิดประเภท C อยู่ หลังจากนั้นเขาจึงนำมันออกมาและหวดเข้าไปยังช่องว่างนั้นและอัดเข้าไปในปากที่อ้าค้างไว้ของมันทันที!
“3…2…1…ระเบิด!”
หลังจากที่ทั้งสามเงียบลงไปหลินเฉิงก็แสยะยิ้มขึ้นมาในขณะเดียวกัน ความน่าเบื่อแบบสุดๆก็ระเบิดออกมาจากร่างของสัตว์ยักษ์ตนนั้นทันที!
“ตู้ม…” เนื่องจากการระเบิดครั้งใหย่ของระเบิดประเภทC นั้น เสียงของมันดังขึ้นมากว่าครึ่งนาทีภายในตัวสัตว์ยักษ์ตรงหน้า หลังจากที่มันกลืน”บางสิ่งบางอย่าง”ที่หลินเฉิงโยนเข้าไปแล้ว สัตว์ยักษ์ลึกลับก็เปิดเผยร่างที่แท้จริงของมันออกมา!
เจ้าสัตว์ร้ายนี่น่าจะยาวราวๆ30 เมตรได้ และไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร ตัวของมันปกคลุมไปด้วยเกล็ดที่แข็งและดำขลับ สิ่งที่เหมือนเหล็กแหลมแข็งเหมือนกรงเล็บยื่นออกมาจากเอวทั้งสองข้าง หัวของมันใหญ่เหมือนหัวรถจักรรูปสามเหลี่ยม เรียบและดำสนิท ทั่วทั้งตัวของมันนั้นเหมือนกับตะขาบที่กำลังขยายตัวอยู่เรื่อยๆ แต่รวมๆแล้วก็ต่างกับตะขาบอยู่เหมือนกัน!
ในตอนนั้นจิตวิญญาณแห่งตะขาบดูไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่ หลังจากที่กลืน ระเบิดประเภท C เข้าไปแล้ว ดูเหมือนอวัยวะภายในมันจะบาดเจ็บจากแรงระเบิดไม่น้อยเลย ในตอนนี้ มันห้อยอยู่ที่ปลายของผาด้วยความทุกข์ทามาณและดิ้นไปมาด้วยร่างกายที่ใหญ่โตนั้น มันร้องคำรามออกมาเป็นครั้งคราวจากปากใหญ่ๆที่มีงาแข็งๆอยู่ด้านใน
“นี่มัน…นี่มัน…นี่…”
เมื่อหลินเฉิงเตรียมที่จะยัดระเบิดลูกอื่นลงไปเพิ่มเพราะเห็นว่าเจ้าตะขาบนี่กำลังบาดเจ็บหลิงเชิงและลูกสาวผู้ที่ซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่งมาก่อนก็โผล่มาข้างๆเขาและมองเจ้าปีศาจที่กำลังบิดตัวไปมาด้วยความเจ็บปวดภายในช่องแคบ พวกเขาตาเบิกโพลงสุดๆ
“พวกนายมาทำอะไรที่นี่น่ะ!กลับไป!!”
เมื่อเห็นทั้งสองโผล่เข้ามาอีกเขาก็พยายามไม่สนใจนักหลินเฉิงขมวดคิ้วและดุไปเฉยๆ
หลังจากที่ถูกหลินเฉิงตำหนิหลิงเหมิงก็สะดุ้งและจ๋อยพร้อมกับถอยกลับออกไปเลย เธอหันกลับมาก็พบว่าพ่อของเธอนั้นไม่สนใจคำพูดของหลินเฉินใดๆทั้งสิ้นและยังคงมองอสูรกายที่คล้ายตะขาบซึ่งอยู่ภายในนั้นต่อ ดูเหมือนทั่วทั้งร่างของเขาจะโดนเจ้าสิ่งนั้นดึงดูเอาไว้แล้วมันเลยทำให้เขาไม่ได้สนใจคำตำหนิของหลินเฉิงไปโดยปริยาย
“พ่อคะเราควรถอยออกไปก่อนนะ!?”
เมื่อรับรู้ได้ว่าท่าทีของหลินเฉิงในตอนนี้ต่างจากแต่ก่อนด้วยความกลัวว่าเขาจะตบะแตกมันเลยทำให้หลิงเหมิงทำได้เพียงข่มความอยากรู้อยากเห็นในใจเอาไว้และดึงแขนเสื้อพ่อของเธอออกมาแทน
“สถานการณ์มันวุ่นวายมากฉันมองเห็นไม่ดีนักว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ แต่ดูจากสถานการณ์ด้านในแล้ว ฉันคิดว่าเถียนเฟย…เถียนเฟย…”
หลังจากที่โดยหลิงเหมิงดึงออกอยู่หลายครั้งหลิงเชิงก็หันกลับไปมองไปที่หลินเฉิงด้วยใบหน้าที่ดูสับสน และเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่หดหู่สุดๆ เขาคิดว่า บางทีเถียนเฟยอาจจะตายไปแล้ว และไม่สามารถทนพูดจนจบได้
“อ่า…”
เมื่อเห็นใบหน้าหดหู่ของหลิงเชิงหลินเฉิงก็อดที่จะถอนหายใจแล้วพูดออกไปไม่ได้ “ใช่ เถียนเฟยตายแล้ว!”
“แค่ก!”
หลังจากที่ได้ยินความจริงจากหลินเฉิงหลิงเชิงก็กุมอกและไอออกมาอย่างหนักหน่วงหลายครั้ง จากนั้นก็ค่อยๆถอยหายใจออกมาพักใหญ่ๆและโบกมืออย่างปวกเปียก จากนั้นจึงเอ่ยถาม “นี่เขา…?”
ก่อนที่หลิงเชิงจะถามเสร็จหลินเฉิงก็หยุดเขาไว้ก่อน “เขาทำสำเร็จแล้ว แต่เป็นความผิดของฉันเองที่ไม่สามารถนำข้อมูลที่เขาส่งต่อออกมาได้…”
“นาย…”
หลิงเชิงย่นคิ้วเขาอยากจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็สายหน้าอีกครั้ง จากนั้นก็ถอยหายใจและมองตรงไปข้างหน้า
จากสถานการณ์ตอนนี้คงบอกได้แล้วว่าภารกิจล้มเหลวโดยสมบูรณ์ หลินเฉิงนั้นพยายามจะจบชีวิตเจ้าตะขาบที่ชั่วร้ายนี้ นี่คือสิ่งที่หลิงเชิงในฐานะผู้นำตระกูลสามารถเดาได้หลังจากได้ยินคำพูดของหลินเฉิง ความแตกต่างระหว่างเขาและหลินเฉิง นั่นคือหากเกิดโศกนาฏกรรมใดๆขึ้นกับเถียนเฟยภายในประตูแห่งรูนนี้ มันยากที่ยอมรับมากกว่าการที่ข้อมูลถูกทำลายไปเพราะสัตว์ร้ายนั่นอีก! เรื่องทั้งหมด มันเป็นเพราะเขาเลือกคนมาด้วยตนเอง ในการที่จะไปพูดปลอบกับครอบครัวของเถียนเฟยนั้นมันช่างยากลำบากนัก เพราะเขาสัญญาไว้หลายต่อหลายอย่างในตอนนั้นจนครอบครัวเขายอม ในเมื่อมันเ็นแบบนี้ เขาควรจะอธิบายกับครอบครัวของเถียนเฟยอย่างไรดี…
ขณะที่จ้องมองเข้าไปยังช่องแคบนั้นอยู่เมื่อเห็นว่าหลิงเชิงออกไปแล้ว หลินเฉิงก็รู้สึกอารมณ์เสีย ความพยายามของพวกเขานั้นกลับทำให้ไม่ได้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์กลับมา ในทางกลับกัน มันยังทำให้ชีวิตของชายหนุ่มอนาคตไกลต้องมาดับลงไปอีก สิ่งนี้มันทำให้เขารู้สึกผิดสุดๆ! มือถือระเบิดประเภทC ไว้ 2 ลูกจากนั้นก็โยนมันออกไป หลินเฉิงมองตะขาบยักษ์ที่กำลังตกลงไปในช่องแคบ ในจังหวะที่เขายกมือขึ้นมา เขาก็พร้อมที่จะระเบิดไอ้ร่างที่สู้ไม่ได้นี่แล้ว!
“ตู้ม…”
ในจังหวะที่หลินเฉิงนั้นกำลังจะสั่งระเบิดประตูหินที่กั้นระหว่างเขาและตะขาบยักษ์นั่นก็เกิดเสียงทื่อๆขึ้นมา จากนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปนี้มันคือสิ่งที่ทุกคนทำอะไรไม่ได้ ประตูมันปิดสนิทพร้อมเสียงปังก่อนที่หลินเฉิงและเจ้าตะขาบนั่นจะได้ตัดสินกัน!
———————————-