ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 498 “เอาฉันไปด้วย”
SC:บทที่498 “เอาฉันไปด้วย!”
เมื่อคิดถึงความมีอิทธิพลต่างๆของหลินเฉิงต่อฐานสมุทรสีครามชูฉิงก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจนักกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ จากมุมมองของวัตถุประสงค์ นานเท่านานที่หลินเฉิงอยู่ที่นี่ เธอสามารถทำให้ฐานสมุทรสีครามแห่งนี้พัฒนาไปได้อย่างราบรื่น ส่วนในด้านของมุมมองส่วนตัว เพียงแค่ได้รู้ว่าหลินเฉิงอยู่ที่นี่ เธอก็รู้สึกปลอดภัยอย่างแท้จริง!
ชูฉิงถอนหายใจเบาๆเธอรู้สึกช่วยอะไรไม่ได้จริงๆ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจที่จะให้หลินเฉิงไปก็จริง แต่เธอก็รู้จักคนๆนี้ดี ถ้าเขาต้องการจะไป ไม่ว่าใครในฐานนี้ก็ไม่สามารถหยุดเขาได้ แม้แต่ฉินซูยี่ ผู้ที่ยอมรับเขาเหมือนครอบครัวก็ตาม!
คิดถึงสิ่งนี้ชูฉิงก็มองไปยังหยูซาน ผู้ที่กำลังเล่นกับเทียนซือและโคล่าอยู่ไม่ไกลจากเธอนักจากนั้นก็มองไปยังหลี่เฉิงหยี่ผู้ที่กำลังดูทีวีด้วยความสนอกสนใจ เมื่อเห็นว่าพวกนั้นไม่ได้กำลังสนใจพวกเขามาซักพักใหญ่ๆแล้ว เธอก็พูดด้วยเสียงอันเบาแบบขมุบขมิบปาก “ในเมื่อไม่ว่ายังไงนายก็จะไม่อยู่ที่นี่ ถ้างั้นช่วยพาฉันไปด้วยได้ไหม?”
“อะไรนะ?”
ชูฉิงขมวดคิ้วและคิดหลินเฉิงมองเธอและไม่พูดอะไรมาพักใหญ่ จนกระทั่งเขาหยิบเอาบุหรี่มาจุดสูบ เขาไม่คาดคิดเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะขออะไรแบบนี้หลังจากที่ดูเหมือนจะครุ่นคิดอยู่นาน
เมื่อเห็นหลินเฉิงมองมายังตัวเธออย่างประหลาดใจชูฉิงก็หายใจเข้าลึกๆจากนั้นก็ยืนยันความคิดของเธอด้วยน้ำเสียงสุขุม “ฉันบอกว่า ถ้านายจะไป พาฉันไปด้วยได้ไหม?”
“เฮอะอย่ามาล้อเล่นน่า…”
มองชูฉิงที่กำลังทำหน้าจริงจังเมื่อพูดคำพวกนั้นออกมาหัวใจของหลินเฉิงก็เต้นเสียงดัง แต่ความรู้สึกที่แสดงบนใบหน้าของเขานั้นก็ยังดูหยิ่งเหมือนเดิม “ต้องการอะไร? ตราบใดก็ตามที่เธอยังอยู่ในฐานนี้ เธออยากได้อะไรก็ได้ที่เธอต้องการ ทำไมถึงอยากไปทำตัวให้ลำบากโดยการออกไปกับฉัน? บางทีเธออาจจะอยุ่ในนี้มานานเกินจนไม่รู้ถึงสถานการณ์ด้านนอกแล้วสินะ ระดับของเธอน่ะ ถ้าออกไปกับฉัน แค่ 2 วันเธอก็เหนื่อยแล้ว!”
“แค่ถ่ายรูปไปไม่ได้หรือไง?”
ถึงแม้ว่าหลินเฉิงจะมองว่าเธอไร้ค่าขนาดไหนชูฉิงก็ไม่ได้โกรธอะไร “ในเมื่อฉันตัดสินใจว่าจะไปกับนายแล้ว ฉันก็จะไม่ทิ้งนายไปไหนง่ายๆหรอก เพราะงั้นไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นเลย! แล้วก็ฉันน่ะ ไม่ได้แย่อย่างที่นายคิดนะ! ถึงแม้จะเปรียบเทียบกับนายไม่ได้ ฉันก็สามารถสู้ได้! ฉันรู้ตัวเองดีว่ามีพลังแค่ไหนและฉันจะไม่ทำให้นายต้องดิ่งลงเหวแน่!!”
“งั้นเหรอแม่ฮีโร่สาว?อย่ามาล้อฉันเล่นแบบนี้!”
หลังจากที่โบกมือห้ามและหยุดถ้อยคำของชูฉิงไว้หลินเฉิงก็พูดอย่างใจร้อน “ฉันไม่ต้องการที่จะเพิ่มสมาชิกในทีม และถึงจะต้องการ ฉันก็จะไม่คิดถึงเธอด้วย! ตามจุดประสงค์ของฉันแล้ว ถึงแม้ว่าไอคิวเธอจะสูงกว่าคนทั่วไป แต่เมื่ออยู่ด้านนอก เธอก็ไม่ได้เก่งไปกว่าพวกนั้น ไอคิวที่สูงของเธอนั้นไม่มีประโยชน์อะไรเลย บ้าเอ้ย! เธอห้ามออกจากที่นี่! จากความคิดส่วนตัวของฉัน ถ้าออกไปมีแต่เธอจะแย่ลง เอาจริงๆนะ ก่อนจะขออะไรแบบนี้ออกมา เธอควรจะรู้ถึงความแข็งแกร่งของหยูซานและโคล่าก่อน เมื่อไหร่ที่เธอเข้าใจเรื่องที่ฉันพูด เธออาจจะไม่คิดอยากจะพูดเรื่องไร้สาระนี่อีกเลย…”
“นายหมายความว่ายังไง?”
ได้ยินดังนั้นชูฉิงก็ขมวดคิ้วเธอเฝ้ามองดูความแข็งแกร่งของหลินเฉิงมาตลอดทั้งวันเมื่อวาน แต่สำหรับผู้ติดตามของหลินเฉิงอย่าง หยูซาน โคล่าและเทียนซือนั้นเธอไม่เคยรู้ถึงความแข็งแกร่งของพวกนี้มาก่อนเลย นั่นเพราะจากการสังเกตุของเธอ หลินเฉิงนั้นดูจะไม่ค่อยสนใจเกี่ยวกับผู้ติดตามของเขามากนัก ไม่ว่าจะปัญหาอะไรก็ตามที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่เขาก็จัดการมันคนเดียวตลอด เพราะงั้นแล้ว จนถึงวันนี้ เธอจึงยังไม่ได้เห็นว่าเจ้าสัตว์เลี้ยงสองตัวนั่นที่วันๆเอาแต่เล่นจะมีความสามารถพิเศษอะไรที่ทำให้หลินเฉิงอยากจะเก็บพวกมันไว้
“หมายความว่ายังไงงั้นเหรอ…”
เมื่อเห็นหญิงสาวงุนงงหลินเฉิงก็หัวเราะเบาๆแล้วผิวปาก
“โฮ่ง!”
ทันทีที่ผิวปากร่างของโคล่าที่กำลังเล่นกับเทียนซืออยู่ก็ชะงักไป จากนั้นเจ้าหมาโง่นั่นก็รีบวิ่งมาทางหลินเฉิงราวกับสายลมแทบจะทันที
“อ่าดี เด็กดี!”
เขาก้มหลบเจ้าหมาที่กระโดดเข้ามาจากนั้นก็ลุกขึ้นจากโซฟาและโบกมือเรียกชูฉิง“มากับฉัน เดี๋ยวจะแสดงให้ดูว่าฉันหมายถึงอะไร” เธอไปบอกกล่าวกับฉินซูยี่ที่ห้องครัวจากนั้นก็เดินออกไปกับโคล่าและเทียนซือ
ด้วยคำพูดนั้นมันเหมือนว่าเขาอยากจะพาเธอไปพิสูจน์อะไรให้ดู ชูฉิงที่กำลังเดาว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ก็ลังเลซักครู่ก่อนจะกัดฟันแน่นแล้วรีบเดินตามหลิงเฉินไป
หลังจากที่ตามหลังหลินเฉิงจนเข้ามายังป่าที่ค่อนข้างจะหนาแน่นไปด้วยต้นไม้ใกล้ๆหมู่บ้านทันใดนั้นเธอก็พบว่าหลินเฉิงได้หยุดขาลงช้าๆตรงจุดที่เป็นพื้นหญ้ากว้างก่อนจะเดินหน้าไปอีกหน่อย
“เห็นต้นไม้ใหญ่นั่นไหม?”
เมื่อชูฉิงมาหลินเฉิงก็ยกมือขึ้นและชี้ไปยังต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปกว่า 10 เมตรได้
ชูฉิงมองตามก่อนจะถาม“แล้วยังไงต่อ? นายคงจะไม่ให้เจ้าสัตว์เลี้ยงสองตัวนี่เข้าไปโค่นต้นไม้นั่นต่อหน้าฉันหรอกนะ? ถ้าใช่ ฉันแนะนำว่าอย่าทำ เพราะฉันก็ทำได้!”
เขายิ้มและส่ายหน้าหลินเฉิงก็ก้มมองไปยังโคล่าและเทียนซือ ผู้ที่ซึ่งดูจะมีความลับอะไรซ่อนอยู่ จากนั้นก็พูดขึ้น “ถ้าจะแค่โค่นต้นไม้ ในฐานนี้ก็คงมีคนทำได้แบบนับไม่ถ้วนเลย แต่…”
เมื่อพูดถึงสิ่งนี้หลินเฉิงก็มองไปยังโคล่า ทันทีที่มองมันก็ยังปกติอยู่แต่แล้วมันก็เริ่มจะสั่นไปทั้งตัว ร่างของเจ้าหมาโง่ขยายตัวใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว แสงสีแดงปรากฏขึ้นบนตัวของมันมากมาย และทันใดนั้น มันก็กลายเป็นหมานรกที่ตัวพอๆกับลูกวัวเลย
“เฮือก!?”
ได้เห็นดังนั้นชูฉิงก็สูดหายใจเข้าลึกในฐานะที่เป็นเลขาของนายพลแห่งฐานสมุทรสีครามนี้ เธอไม่เคยเห็นความสามารถประเภท “ร่างพิเศษ” เช่นนี้มาก่อน ฉีเซี่ยวฮันคือ 1 ในนั้น แต่เธอไม่คิดว่าแม้แต่เจ้าหมาดำตัวใหญ่ที่ใครๆก็มองเป็นแค่หมาโง่ จะมีความสามารถเช่นนี้อยู่ด้วย!
เมื่อโคล่าแปลงร่างเสร็จหลินเฉิงก็สั่งให้มันไปยังต้นไม้ตรงหน้าและพูด “ไปซะ ให้ 1 วิทำให้มันจบ”
“โฮ่ง!”
ตามคำสั่งของหลินเฉิงโคล่าก็เห่าออกมาจากนั้นร่างของมันก็โก่งเหมือนคันศรและพุ่งไปข้างหน้า ไฟที่รุกท่วมร่่างผนวกกับการหมุนเกลียวมันทำให้เหมือนพายุไฟที่กำลังพุ่งไปเลย ฝีเท้าเหยียบย่ำลงดินก่อนกระโจนเข้าไปยังต้นไม้ใหญ่อีก 1 ที
*เปรี๊ยะ*
เสียงของไม้แตกดังขึ้นภาพของต้นไม้ใหญ่ตรงหน้านั้นเหมือนกับฟองน้ำเมื่ออยู่ต่อหน้ากรงเล็บทั้ง 2 ของโคล่า และภายในพริบตาเดียว มันก็กลายเป็นเพียงขี้เลื่อยกองบนพื้นเท่านั้น
ตอนนี้เธอเริ่มจะกลัวโคล่าขึ้นมาจริงๆแล้วไม่ว่าจะเป็นทั้งความเร็วและความแข็งแกร่ง ชูฉิงนั้นสับสนมากๆ ณ ตอนนี้ เธอเข้าใจในทันทีถึงเรื่องที่หลินเฉิงสั่งให้โคล่าเข้าโจมตีต้นไม้ใหญ่ ถึงแม้ว่าจะมีคนมากมายในฐานแห่งนี้สามารถทำลายไม้ใหญ่นี่ได้แต่ไม่มีใครที่สามารถจัดการต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ห่างออกไป 10 เมตรเช่นนี้ได้รวดเรียวเทียบเท่ากับสิ่งที่โคล่าทำได้เมื่อครู่เลย!
——————————-