ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 499 วิธีการสั่งสอนของหลินเฉิง
SC:บทที่499 วิธีการสั่งสอนของหลินเฉิง
“โฮ่ง!!”
เมื่อพยายามคิดว่าทำไมโคล่าถึงแข็งแกร่งขนาดนี้ชูฉิงก็ได้ยินเสียงของโคล่ากำลังเห่าและมองไปที่มัน แต่ทันใดนั้นเจ้าหมานรกที่ดูแข็งแกร่งสุดๆนั่นก็กระโจนกลับมายังเธออย่างรวดเร็ว
“นี่มันหมายความว่ายังไงน่ะหลินเฉิง!”
พลันเมื่อเห็นว่าโคล่ากำลังเข้ามาทางเธอชูฉิงก็ตกใจมากๆและหันไปถามหลินเฉิงที่กำลังกอดอกอยู่
แต่หลินเฉิงนั้นไม่ได้สนใจเธอในตอนนั้นเขาเพียงแค่ยักไหล่เล็กน้อยจากนั้นก็พยักหน้าให้โคล่าเหมือนจะบอกให้ทำต่อ
หลังจากที่ได้รับคำแนะนำจากหลินเฉิงโคล่าก็เร่งสปีดขึ้นอีก ในตอนนี้มันกำลังง้างอุ้งมือขึ้นเตรียมที่จะตัดคอเธอแล้ว! “ไอ้บ้าเอ้ย!นายได้ตายแน่!”
เมื่อเห็นว่าโคล่ากำลังจะโจมตีเธอจริงๆชูฉิงก็บ่นด้วยความโกรธพร้อมกับดีดตัวออกและถอยหลังออกห่างให้ไว เธอไม่กล้าที่จะปะทะแรงกับเจ้าหมานั่น
แต่ถึงแม้ว่าเธอจะเร็วขนาดไหนเธอก็ไม่ใช้คู่ต่อสู้ที่เหมาะสมกับโคล่าที่อยู่ใน “ร่างพิเศษ” ชูฉิงที่กำลังหาทางหนี เจ้าหมาก็เข้ามาประชิดเธออีกครั้ง และเมื่อเธอไม่สามารถรับมือได้ทัน เธอก็โดนอีกฝ่ายกัดเข้าที่คอไปเต็มๆ!
ถึงแม้ว่าการต่อสู้นี้จะรวดเร็วขนาดไหนชูฉิงที่รู้ดีว่าตนเองไม่ใช่คู่มือให้โคล่าก็พยายามที่จะทำให้ดีที่สุด อีกฝ่ายนั้นได้เปรียบเธอในทุกๆทางเลย ไม่ว่าจะด้วยความเร็วและกำลัง ในขณะเดียวกันนั้นเขี้ยวของโคล่าก็ใกล้คอเธอขึ้นมาเรื่อยๆแล้ว ความสิ้นหวังนั้นทำให้เธอทำได้แค่ยิ้มฝืนๆก่อนจะหลับตาลงและพร้อมจะตาย
“อ๊ะ?” หลังจากที่หลับตารออยู่ครู่หนึ่งชูฉิงก็ค่อยๆลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกได้ว่าเธอยังไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรที่คอเสียที และนั่นก็ทำให้เธอได้เห็นว่าโคล่านั่นกลับไปเป็นร่างปกติแล้ว มันกำลังหมอบอยู่ตรงหน้าและมองเธอด้วยความไร้เดียงสาด้วยลิ้นที่แลบออกมา
“รู้สึกยังไงบ้าง?”
เมื่อเห็นชูฉิงลืมตาหลินเฉิงก็เดินมาตรงหน้าพร้อมกับยิ้มให้ขณะสัมผัสที่หัวของโคล่าเบาๆ
ได้ยินดังนั้นชูฉิงก็หรี่ตามองราวกับพระเจ้าได้กลับมาแล้วเลย เธอกำลังจะอ้าปากบ่นแต่ก็หยุดไปก่อน หลังจากที่ขมวดคิ้วและคิดเรื่องนี้อยู่ครู่หนึ่ง เธอก็เปิดปากถามขึ้นมา “นี่คือวิธีที่นายใช้สั่งสอนคนอื่นเหรอ?”
“ฮึ่ม…”
หญิงสาวที่ดูเหมือนจะเข้าใจแล้วหลินเฉิงก็พยักหน้าแบบปัดๆ “ฉันก็แค่รู้สึกว่าสิ่งที่ฉันพูดนั้นไม่ใช่ความรู้สึกที่ฉันคิดอยู่จริงๆ มันลึกล้ำกว่านั้นเลยใช้วิธีนี้ และนี่ก็น่าจะทำให้เห็นชัดเจนแล้วว่าฉันน่ะพูดถูก”
ระหว่างที่พูดหลินเฉิงก็ลูบหัวเจ้าโคล่าไปด้วย เขาโยนขวดยาเพิ่มสมรรถนะออกไปและมันก็เข้าไปเล่นกับขวดด้วยตัวมันเอง หลังจากที่มันเก็บขวดได้แล้วหันมาโชว์ เขาก็พูดต่อ “บอกฉันได้ไหมว่าทำไมตอนนั้นคิดจะเลิกต่อต้าน?”
“พูดอะไรนะ?”
ได้ยินแบบนั้นชูฉิงก็อดไม่ได้ก่อนจะมองเขาและพูดออกไป“ฉันนั้นสู้ความเร็วและแรงของเจ้านั่นไม่ได้เลย ในตอนนั้นฉันเข้าใจได้ว่า ถ้าหากอีกฝ่ายไม่หยุดล่ะก็ ฉันคงไม่มีชีวิตอยู่ต่อ แบบนี้ไม่ให้ยอมแล้วจะทำยังไง?”
“ก็รู้ดีนี่?”
ฟังชูฉิงอธิบายหลินเฉิงก็พยักหน้ารับช้าๆ “เธอรู้หรือเปล่า? หนทางที่จะมาถึงตอนนี้ได้ โคล่าน่ะผ่านความเป็นความตายมานับไม่ถ้วนเลย แถมเจ้านี่น่ะ มันมีประสบการณ์กับที่เสี่ยงตายต่างๆมากกว่าเธออีกนะ! ความแข็งแกร่งของมันน่ะมากพอที่จะช่วยทำให้วิกฤตต่างๆคลี่คลายได้เลย เธอคิดว่าเธอมีอะไรดีกว่าเจ้านี่บ้าง?”
“มันต่างกัน!”
ถึงแม้ว่าจะเข้าใจความหมายของสิ่งที่หลินเฉิงพยายามจะสื่อแต่ชูฉิงก็ส่ายหน้าอย่างดื้อรั้น “โคล่าน่ะยังเป็นเด็ก! ไม่ว่าจะแข็งแกร่งขนาดไหน หรือฉลาดขนาดไหน ถึงหลายๆครั้งมันจะรู้ว่าต้องผ่านอุปสรรคไปได้ยังไง แต่มันไม่รู้…”
“หยุดเลย!”
ก่อนที่ชูฉิงจะได้พูดจบหลินเฉิงก็ขมวดคิ้วและห้ามเธอไว้ก่อน “ฉันบอกเธอก่อนหน้านี้แล้ว ว่าในโลกข้างนอกน่ะ แผนการมันเปล่าประโยชน์! มีแค่ความแข็งแกร่งเท่านั้นที่จะช่วยเธอได้! เธอเพิ่งจะโดนโคล่าไล่ล่าแบบอนาถสุดๆเลยไม่ใช่รึไง ถ้ามันไม่ใช่โคล่า ป่านนี้เธอตายไปแล้ว! ข้างนอกน่ะ มีแต่ไอ้ตัวที่น่ากลัวกว่าโคล่าเยอะ! พวกนั้นมันไม่สนหรอกว่าเธอจะฉลาดขนาดไหน หรือแผนเธอจะสมบูรณ์แบบยังไง ตราบใดก็ตามที่มันจ้องเธออยู่ เธอไม่มีโอกาสแม้แต่จะหนีด้วยซ้ำ เพราะงั้นอยู่แล้วดูแลที่นี่ให้ดีขึ้นไม่ดีกว่าหรือไง?”
“นาย..!!”
หลินเฉิงทำให้เธอพูดไม่ออกเลยหัวใจของชูฉิงในตอนนี้เปี่ยมไปด้วยความไม่พอใจในตอนนี้ เธอกัดฟันและลังเลอยู่พักใหญ่ก่อนที่เสียงของเธอจะกลับมาเป็นนุ่มนวลมากๆ “ในเมื่อฉันไม่ตรงตามความต้องการของนายด้วยความแข็งแกร่งของฉันในตอนนี้ แต่…แต่…”
หลังจากที่เงียบมานานในที่สุดชูฉิงก็พูดสิ่งที่คิดออกมา ความอึดอัดบนสีหน้าของหญิงสาวทำให้หลินเฉิงสามารถเข้าใจได้ว่าต้องการจะสื่ออะไรพอๆกับที่สมองของเธอตัดสินใจสั่งให้พูดต่อพร้อมกับรอยยิ้มที่ฝืนสุดๆ
“ฉันรู้ว่าเธอหมายถึงอะไรด้วยความสัตย์จริง ฉันซาบซึ้งจริงๆนะ!”
เขาโบกมือก่อนจะคิดนิดหน่อยและพูดต่อ“แต่ฉันเสียใจจริงๆ ในหัวของฉันนั้นไม่มีวิธีอื่นเลย…เพราะงั้น..”
“ฉัน…ฉันเข้าใจ”
ก่อนที่หลินเฉิงจะพูดจบชูฉิงที่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรก็ส่ายหน้าช้าๆและมองไปยังใบหน้าของเขาอยู่นาน จากนั้นโดยที่ไม่พูดอะไรเธอก็หันหน้าหนีและเดินจากไป
เมื่อเห็นชูฉิงหายไปในเงามืดแล้วหลินเฉิงก็ถอนหายใจ มันเป็นเรื่องจริงที่เขานั้นไฝ่หาความรักจากเหล่าเด็กๆมามากกว่าหนึ่งครั้ง แต่ด้วยการที่โลกดันมาถึงวันสิ้นโลกเสียก่อนรวมไปถึงความผูกพันธ์กับระบบแคปซูลของเขา มันทำให้มุมมองความคิดของเขานั้นเปิดกว้างขึ้น สิ่งที่เขาทำในตอนนี้นั้นได้ออกมาจากวิถีของคนปกติไปหมดแล้ว สิ่งนี้ก็เพิ่อเป็นอะไรที่สูงกว่านั้น
ตรงหน้าเขานั้นมีความลับมากมายที่รอการไขออกอยู่ระหว่างนั้นแคปซูลที่ระดับสูงขึ้นก็รอเขาปลดล็อคแต่เพียงผู้เดียวอยู่และเหล่าสัตว์ประหลาดพวกนั้นที่ทำให้เขาไม่กล้าที่จะหยุดพัฒนาตนเอง ขับเคลื่อนโดยสิ่งเหล่านี้มันทำให้เขาแทบจะไม่มีเวลาหันมาพูดถึงเรื่องความรักเลย ปล่อยตัวปล่อยใจให้เดินคนเดียวไปบนหนทางที่เต็มไปด้วยปัญหาต่างๆราวกับเป็นผู้หญิงที่อ่อนแอคนหนึ่ง
ชูฉิงนั้นคิดว่าเธอนั้นจะเป็นภาระมากกว่าที่ต้องให้เขามาปกป้องผู้หญิงอ่อนแอเช่นเธอดังนั้นแล้วเธอก็จะก้าวต่อไป หลินเฉิงเข้าใจตัวเธอดีในหลายๆอย่าง เพราะงั้นจึงปล่อยให้เธอที่ซึ่งมีพลังเหมือนคนทั่วไปอยู่ที่นี่ดีกว่า เพราะแม้แต่หยูซานที่เคยออกไปกับเขา บางทีก็ยังไม่อาจจะรับประกันความปลอดภัยให้เธอได้เลย
มันยังมีหลายสิ่งหลายอย่างรวมถึงปัจจัยที่หลงเหลืออีกมากมายบนโลกใบนี้ที่ยังซ่อนอยู่ในขั้นแรก หลินเฉิงคิดว่าเขานั้นเป็นจ้าวแห่งโลกใบนี้ และหลังจากได้พบกับผู้ที่มีพลังพิเศษคนแรก เขาก็เข้าใจได้ถึงความโง่เขลาและไร้เดียงสาของความคิดข้างต้นทันที!
ไม่พูดถึงความสามารถทุกรูปแบบแหละอสูรกายแห่งรูนที่เขาเพิ่งพบเจอการมีอยู่ของสิ่งเหล่านี้มันทำให้เขาเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งขนาดไหน เขาก็ไม่สามารถประมาทได้ ถ้าเขาให้ชูฉิงไปด้วยเขาคงได้โดนตราหน้าว่าเป็นคน”พาน้องสาวไปเสี่ยงอันตราย” แน่ๆ!
————————————