ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 502 สื่อสาร
SC:บทที่502 สื่อสาร
“ดีเลย!”
เห็นดังนั้นหลี่เฉิงหยี่ก็พยักหน้าในขณะที่ฉินซูยี่ก็ยังดูกังวลอยู่แต่เธอเองก็ห้ามตัวเองไว้อยู่ หลินเฉิงมองก่อนจะพยักหน้าอย่างพออกพอใจและพูดขึ้น “ดี ในเมื่อลุงป้ารับยานี่ไปแล้ว เพราะงั้นก็ไม่ต้องเป็นห่วงฉันกับเสี่ยวเตี๋ยแล้ว ตอนนี้ฉันไม่มีอะไรต้องอธิบายเพิ่ม แต่ลุงป้าต้องจำไว้นะ ว่ายานี่น่ะจะดีที่สุดก็ต่อเมื่อดื่มมันก่อนจะนอน อย่าทำอะไรหลังจากดื่มไปแล้ว และเมื่อลืมตาตื่นขึ้นในเช้าอีกวัน ผิวอาจจะดูสกปรกหน่อยแต่อย่าได้กังวล เพียงแค่ไปอาบน้ำขัดผิวก็พอ ฉันต้องไปทำอย่างอื่นต่อแล้ว เพราะงั้นจะลงไปก่อน”
พูดจบหลี่เฉิงยี่และฉินซูยี่ก็พยักหน้าเบาๆก่อนประตูจะเปิดและเขาเดินออกไป
… หลังจากที่ลงมาจากด้านบนแล้วหลินเฉิงก็มองไปยังห้องนั่งเล่นและเห็นหยูซานกำลังเล่นกับโคล่าในขณะชูฉิงนั้นนั่งอยู่กับหลี่เหมิงเตี๋ยและคุยกันด้วยเสียงอันเบา
“ลงมาแล้วเหรอ?”
เมื่อเห็นหลินเฉิงลงมาจากด้านบนชูฉิงที่กำลังคุยกับหลี่เหมิงเตี๋ยอยู่ก็ยืนขึ้นและทักทายเขา “ป้าชิงกับลุงหลี่ล่ะ? ทำไมไม่ลงมาพร้อมกับนาย?”
“ทั้งสองกำลังแสดงความรักกันอยู่ในห้องอยากจะขึ้นไปดูหรือไง?”
ไม่พูดเปล่าหลินเฉิงยังยักคิ้วและยิ้มมุมปากให้เห็นด้วย
“คิดไว้แล้วว่าหมาอย่างนายไม่เคยพูดอะไรดีๆออกมาหรอก”
หลินเฉิงทำหน้ายั่วโมโหใส่ชูฉิงก็บ่นด้วยการเยาะเย้ยเลย จากนั้นเธอก็เดินไปที่ประตูและหยิบเอาเสื้อโค้ทของเธอขึ้นมา “ในเมื่อป้าชิงกับลุงหลี่นั้นยุ่งอยู่ ถ้างั้นฉันจะไม่รบกวนฝากบอกพวกเขาด้วยละกัน ฉันจะไปก่อน”
หลังจากนั้นเธอก็พยักหน้าให้หลี่เหมิงเตี๋ยและหยูซานที่กำลังยืนมองและไม่ลืมที่จะมองหลินเฉิงด้วยแววตาเยาะเย้ย เธอเปิดประตูและเดินออกไป
“เดี๋ยว!”
ทันทีที่ชูฉิงเดินออกไปจากบ้านหลินเฉงก็รีบหยุดเธอไว้ “ไม่ต้องกังวล ฉันจะออกไปพอดี ถ้ายังไงเดี๋ยวจะไปส่งเธอระหว่างทาง”
พูดเสร็จเขาก็เรียกหยูซานและโคล่าให้ตามไปด้วยจากนั้นก็พูดกับหลี่เหมิงเตี๋ย “ไปด้วยกันมั้ย?”
“เอ๋?ตอนนี้เหรอ? แต่มันมืดแล้วนะ…”
เมื่อเห็นหลินเฉิงนั้นจะให้เธอไปด้วยมันก็ทำให้หลิงเหมิงเตี๋ยงงไม่น้อยเลย เธอไม่เข้าใจว่าพี่ชายที่ทำตัวลึกลับของเธอนั้นกำลังจะทำอะไร
“พูดไร้สาระอะไรน่ะ?ถ้าเธออยากจะออกก็ออกมาสิ แต่ถ้าถามเยอะกว่านี้ฉันจะโกรธแล้วนะ”
ความร่าเริงอันบริสุทธิ์ของหญิงสาวถูกบดขยี้ไปเพราะการที่หลินเฉิงดุเธอนั่นแหละ!
เมื่อโดนดุแบบเยือกเย็นจากหลินเฉิงใบหน้าน้อยๆของหลี่เหมิงเตี๋ยก็จ๋อยลงไปสุดๆ เธอไม่พอใจมากๆที่โดนพี่ชายแกล้งแบบนี้
แต่ท้ายสุดเธอก็ไม่ได้พูดอะไรรู้ตัวอีกทีเธอก็เดินตามไปเสียแล้ว จริงๆเธอก็ไม่ได้อยากจะไปกับหลินเฉิงซักเท่าไหร่ แต่เพราะเธอยังไม่เคยเห็นฉางเหวินซวนเลยตั้งแต่กลับมา เพราะงั้นเธออยากจะเจอเขายิ่งตอนที่หลินเฉิงไม่ห้ามเช่นนี้ด้วย
หลินเฉิงนั้นเข้าใจดีว่าเด็กสาวคิดอะไรอยู่แต่การที่เขาเรียกให้เธอมาด้วยครั้งนี้ก็เพื่อจะได้ชำระเรื่องที่ค้างคาให้มันจบเสียที เพราะงั้นเขาจึงไม่ได้พูดอะไรให้เสียเวลา หลังจากที่เห็นท่าทีที่ไม่เต็มใจของเธอแล้ว เขาก็พยักหน้าและเดินไปกับชูฉิงที่กำลังรออยู่ที่หน้าประตูทันที เขาเดินตามไปพร้อมกับสองสาวและสัตว์เลี้ยง 2 ตัว ดูเหมือนว่าหลี่เหมิงเตี๋ยนั้นจะไม่พอใจมากๆกับท่าทีก่อนหน้าของหลินเฉิงเพราะตั้งแต่ที่พวกเขาเดินออกมา ทั้งหลี่เหมิงเตี๋ยและหยูซานต่างก็เดินตามอยู่ไกลๆ มีแค่ชูฉิงเท่านั้นที่เดินอยู่ข้างๆหลินเฉิง
“แม่สาวน้อยนั่นรู้จักฉางเหวินซวนขนาดไหนแล้วตอนนี้?”
หลินเฉิงนั้นขี้เกียจที่จะสร้างปัญหาให้ตัวเองในขณะที่หลินเฉิงนั้นก็หยิบบุหรี่และจุดสูบไปด้วย เขาสูดหายใจเข้าลึกๆจากนั้นก็ถามชูฉิงออกไป
ชูฉิงขมวดคิ้วช้าๆก่อนจะถามกลับ“ถามทำไมเนี่ย?”
“มันเกี่ยวกับการพัฒนาของยัยหนูนั่นในอนาคตเธอจะเลือกไม่พูดถึงมันก็ได้นะ”
เมื่อเห็นว่าชูฉิงไม่ยอมตอบคำถามในทันทีหลินเฉิงก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรก่อนจะโบกมือและสูบบุหรี่ต่อ
การที่ได้ยินหลินเฉิงพูดแบบนั้นพร้อมกับสีหน้าอันเป็นเอกลักษณ์ของเขามันก็ทำให้ความทุกข์ของชูฉิงค่อยๆกระจายหายไปกลับมาใหม่อีกครั้งอย่างไรก็ตาม เพื่อประโยชน์ของน้องสาวของเธอในอนาคต เธอต้องระงับความโกรธของเธอไว้ก่อนจะตอบกลับเสียงเย็น “เธอเคยแอบป้าชิงและลุงหลี่เพื่อมาหาฉันและถามเกี่ยวกับฉางเหวินซวน แต่ฉันไม่ได้บอกอะไรเธอ แค่บอกไปว่า ไม่รู้ แต่พวกเขาเพิ่งกลับมาวันนี้ ถ้าพวกเขาได้ติดต่อกับคนในฐานพรุ่งนี้ พวกเขาคงจะเข้าใจทุกอย่างเอง”
“แค่นั้น?”
หลังจากฟังเรื่องนี้แล้วหลินเฉิงก็หันกลับไปมองหลี่เหมิงเตี๋ยและเห็นว่าเธอไม่ได้ให้ความสนใจกับคนอื่นเสียเท่าไหร่ จากนั้นเขาก็ถาม “แล้วคิดว่าจะเป็นยังไงถ้าอีกฝ่ายรู้ว่าฉันเป็นคนฆ่าฉางเหวินซวน ยึดตามความสนิทสนมของเธอกับเด็กนั่นก็ได้?”
“ฉันไม่รู้”
ชูฉิงส่ายหน้าช้าๆ“แต่สิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างจะมั่นใจ เมื่อเธอรู้แล้วว่านายเป็นคนฆ่าฉางเหวินซวน มันคงยากที่จะให้เธอให้อภัยในเวลาสั้นๆ”
“อืมฉันก็คิดแบบนั้น”
หลังจากที่ฟังชูฉิงวิเคราะห์หลินเฉินก็พยักหน้ายอมรับด้วย “ดูเหมือนว่าเราต้องสื่อสารกับเธอดีๆ…”
“ฉันยังไม่ได้ถามนายเลยว่านายจะพาเธอออกมาข้างนอกทำไมตอนนี้? อย่าบอกว่าพามาเดินเล่นแล้วก็คุยด้วย ฉันไม่โง่!”
มองท่าทีที่รอบคอบและเจ้าเล่ห์ของหลินเฉิงชูฉิงก็ขมวดคิ้วแล้วถามไปทันที
“เธออยากรู้หรือไง?”
หลินเฉิงยิ้มมุมปากน้อยๆและถามออกไป
อีกฝ่ายนั้นขี้เล่นแบบนี้จนเป็นเรื่องปกติไปแล้วชูฉิงก็อดไม่ได้ที่จะหยิกแแก้มเขาและพูด “ใช่ ฉันอยากรู้! นั่นเพราะว่า ถ้าตามความเข้าใจของฉัน ฉันคิดว่าต่อไปเสี่ยวเตี๋ยคงไม่ได้อยู่เป็นสุขแน่!” “ทรงพลังไปเลย!”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไรเธอก็เดาได้เลยด้วยลางสังหรณ์ และหลินเฉิงก็ยอมรับมันแต่โดยดี ถ้าไม่ติดว่าหญิงสาวคนนี้บอบบางล่ะก็ ป่านนี้โดนผลักกระเด็นไปแล้ว เขาไม่ได้พูดอะไร แต่ด้วยความฉลาดและมีมีไหวพริบของเธอ ต่อให้เขาทำ เธอก็มีวิธีร้อยแปดพันเก้าในการหลบหลีก
“เร็วๆนายต้องบอกฉันว่านายจะทำอะไรกับกับเสี่ยวเตี๋ย”
เธอนั้นไม่ได้สนใจคำเยินยอของหลินเฉิงเลยชูฉิงมองกลับไปยังหลี่เหมิงเตี๋ยก่อนจะถามไปตรงๆ
ได้ยินดังนั้นเขาก็โบกมือ“ในเมื่อเธอสนใจเรื่องนี้ งั้นก็มากับพวกเรา! จำไว้ว่าฉันต้องการที่จะทรมาณเสี่ยวเตี๋ย”
พูดจบพอรู้ตัวอีกทีก็กำลังเดินอยู่ที่ชั้นล่างของบ้านหลินเฉิงเสียแล้วเขาไม่พูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลา หยิบกุญแจอละเปิดประตูจากนั้นก็ให้ทุกคนเข้าไปในห้องก่อนจะปิดประตูอย่างรวดเร็ว
“หยูซานเอาเทียนซือและโคล่าไปที่ชั้น 2 แล้วพักผ่อนซะ ฉันมีอะไรที่ต้องจัดการหน่อย เลยจะขออยู่คนเดียว”
หลังจากที่เข้ามายังห้องนั่งเล่นแล้วหลินเฉิงก็โยนกระเป๋าสะพายไปไว้บนโซฟาและพูดกับหยูซาน