ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 507 หลินเฉิงและลิ้นอสรพิษ
SC:บทที่507 หลินเฉิงและลิ้นอสรพิษ
“เรียบร้อย?”
มองทั้งสองที่นั่งเงียบๆหลินเฉิงก็ขมวดคิ้วช้าๆ จากนั้นเขาก็เดินไปยังหลี่เหมิงเตี๋ยและถามฉางเหวินฉวนที่อยู่บนเตียง
เมื่อได้ยินหลินเฉิงถามฉางเหวินฉวนก็ถนหายใจเบาๆจากนั้นก็พยักหน้าและพูด “ฉันพูดทุกอย่างที่ต้องพูดไปหมดแล้ว เพียงแค่เสี่ยวเตี๋ย…”
“อย่าเรียกฉันว่าเสี่ยวเตี๋ย!”
ก่อนที่ฉางเหวินฉวนจะพูดเสร็จหลี่เหมิงเตี๋ยวที่กำลังงุนงงมานานก็ชิงหยุดเขาด้วยเสียงไปเสียก่อน “มีแค่ครอบครัวของฉันเท่านั้นที่เรียกฉันด้วยชื่อนั้นได้! นายมันไม่คู่ควร!!”
พูดจบเธอก็ลุกขึ้นมาเลยเธอดูเหนื่อยมากๆก่อนจะหันหน้าหนีและเดินออกไป หลินเฉิงที่เห็นแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบตามองท่าทีของหลีเหมิงเตี๋ยที่เขาคาดเดาไว้แล้วสิ่งเดียวที่เขายังกังวลตอนนี้ก็คือสภาพจิตใจของเด็กสาวนั่นแหละ ถ้าเธอไม่สามารถก้าวผ่านขั้นนี้ไปได้ เธออาจจะกลายเป็นโรคจิตเลยก็ได้
กลับมามองที่ฉางเหวินฉวนที่ซึ่งกำลังมองมาทางเข้าอยู่หลินเฉิงก็ยิ้มออกมาและพูด “ไม่ต้องกังวล ฉันรู้ว่านายต้องการอะไร แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้”
เขาพูดเพราะเขาขี้เกียจที่จะจัดการอะไรตอนนี้หลังจากที่หลี่เหมิงเตี๋ยออกไปแล้ว เขาก็เดินออกมาเช่นกัน
“เกิดอะไรขึ้น?บอกฉันมาหน่อยสิ!”
เพียงแค่ออกจากคุกน้ำแข็งหลินเฉิงก็ได้ยินชูฉิงถามด้วยความกระตือรือร้นใกล้ๆหูเขา
เมื่อมองลงไปก็เห็นว่าหลี่เหมิงเตี๋ยนั้นกำลังนั่งอยู่บนโซฟาขณะที่ชูฉิงนั่งอยู่ข้างๆจับมือเธอไว้และถามอย่างรวดเร็ว สำหรับคำถามของชูฉิงนั้นมันไม่ได้เข้าหูของหลี่เหมิงเตี๋ยเลย เธอยังคงนั่งอยู่นิ่งๆด้วยสีหน้าไม่แยแสและดูไม่มีแรงจูงใจในการที่จะพูดอะไรด้วย
เขาส่ายหัวอย่างไม่เต็มใจนักหลินเฉิงเดินไปทางทั้งสองและพูดกับชูฉิงที่กำลังตื่นเต้น “มันโอเค เธอไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเสี่ยวเตี๋ยหรอก กลับไปพักก่อนแล้วรอพรุ่งนี้อีกที”
“ไม่มีทาง!”
ชูฉิงรีบส่ายหน้าและพูดต่อ“นายไม่เห็นสภาพของเสี่ยวเตี๋ยตอนนี้หรือไง! ถ้าฉันไม่อยู่กับเธอ เกิด…”
“เกิดอะไร?ทำไม? เธอกรีดข้อมือตัวเองหรือไง? หรือออกไปกระโดดตึกข้างนอก?”
ก่อนที่ชูฉิงจะพูดจบหลินเฉิงก็ตัดบทสนทนานั่นไปก่อนด้วยสีหน้าเย็นชา เขามองไปยังหลี่เหมิงเตี๋ยและพูด “ถ้าเธอนั่นจะทำตัวแบบนี้โดยไม่สนใจความรู้สึกคนอื่นแล้วจะตาย คนแบบนั้นก็ไม่ควรจะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้หรอก รีบๆตายแล้วให้สวรรค์ส่งคนใหม่มาเกิดได้แล้ว!”
“นาย!อย่ามาพูดอะไรไร้สาระน่า!”
เมื่อเห็นว่าหลินเฉิงนั้นไม่ได้จะปลอบใจหลี่เหมิงเตี๋ยเลยกลับกันเขายังเหมือนเอาน้ำไปราดเธอแบบนี้อีกชูฉิงก็รู้สึกช่วยไม่ได้แบบสุดๆเธอเข้าใจว่าหลินเฉิงต้องการจะทำอะไร แต่เธอก็ยังเข้าใจด้วยว่าในเวลาแบบนี้หลี่เหมิงเตี๋ยเจ็บปวดขนาดไหน ถ้าหลินเฉิงกระตุ้นด้วยวิธีนี้ตอนที่เธอไม่ได้คิดอะไรมันก็คงจะตื่นเต้นกว่านี้ไปแล้ว
ขณะที่หลินเฉิงและชูฉิงกำลังทะเลาะกันอยู่หลี่เหมิงเตี๋ยผู้ที่ซึ่งงุนงงอยู่พักใหญ่ก็เริ่มที่จะเปิดปากและพูดกับชูฉิงด้วยเสียงเบาๆแบบแหบพร่า “พี่ชิง พี่ไม่ต้องกังวล ฉันไม่ทำอะไรโง่ๆหรอก…”
ครั้นเมื่อสาวน้อยยอมเปิดปากพูดชูฉิงก็จ้องไปที่หลินเฉิงจากนั้นก็เลิกที่จะพูดไร้สาระกับเขาแล้วหันมาถามหลี่เหมิงเตี๋ยแทนด้วยเสียงนุ่ม “เสี่ยวเตี๋ย ถ้าเธอมีอะไรที่ไม่สบายใจ เธอบอกพี่ชิงได้เลยนะ ไม่ต้องอัดอั้นมันเอาไว้ มันไม่ดี…”
คำพูดของชูฉิงทำให้หลี่เหมิงเตี๋ยพยักหน้าแบบควบคุมไม่ได้“ฉันรู้แล้ว ขอบคุณมากๆเลยพี่ชิง แต่ฉันโอเค ก็แค่ผิดหวัง…”
หลี่เหมิงเตี๋ยเงยหน้าขึ้นและพูดกับหลินเฉิงผู้ที่กำลังกอดอกและมองเธออย่างเย็นชา“พี่ชาย ฉันถามอะไรพี่หน่อยได้มั้ย?”
“นอกจากจะให้ปล่อยเจ้านั่นให้มีชีวิตอยู่ต่อเธอจะพูดอะไรก็ได้!”
มองไปยังหลี่เหมืองเตี๋ยด้วยแววตาแห่งคววามคาดหวังหลินเฉิงเหลือบตามองช้าๆก่อนที่มุมปากเขาจะค่อยๆยกขึ้น
หลี่เหมิงเตี๋ยมองไปยังหลินเฉิงที่เดินเข้ามาก่อนจะก้มหน้าลงไปอีกครั้ง“ไม่เป็นไร ฉันรู้ว่าพี่กำลังดูถูกฉัน แต่ว่า…”
หลังจากที่โบกมือแล้วหลินเฉิงก็เดินไปนั่งตรงโต๊ะชาที่อยู่ตรงหน้าหลี่เหมิงเตี๋ยพอดีเขาหยิบบุหรี่มาจุดสูบและพูดกับเธอ “ไม่มีอะไรทั้งนั้น ฉันไม่ได้จะดูถูกเธอ แต่ในโลกใบนี้ มันมีหลายสิ่งหลายอย่างที่สำคัญกว่านี้ซึ่งรอให้เธอออกไปพบเจอ ไล่ล่า รวมถึงขยายเขตแดนหลังจากที่เจอดินแดนใหม่ๆด้วย ซักวันหนึ่งเธอจะพบว่าจุดแตกหักในวันนี้มันไม่มีอะไรเลย และมันไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะต้องมาเศร้าด้วย!”
ได้ฟังที่หลินเฉิงพูดหลี่เหมิงเตี๋ยก็เกิดสับสนขึ้นมานิดหน่อย แต่เธอก็ยังพูดต่อด้วยเสียงเบาๆ “ฉันไม่เข้าใจ…เรื่องดินแดนใหม่นั่น พี่ใหญ่ ฉันรู้สึกไร้ประโยชน์มากๆเลยตอนนี้ ฉันถูกไอ้ขยะนั่นหลอกลวงมาตลอด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ฉันก็ยังไม่สามารถที่จะทำเป็นมองข้ามความเป็นความตายของเจ้านั่นได้…”
“ลืมมันไปซะ…”
เมื่อเห็นเธอพูดอะไรเชิงลบและจริงจังออกมาหลินเฉิงก็เพียงแค่โบกมือเฉยๆ “แต่เดิมแล้ว แผนของฉันคือหลังจากที่ฉางเหวินฉวนอธิบายเรื่องทั้งหมดให้เธอฟังแล้ว ก็กะจะให้เธอจัดการเขาด้วยตัวเธอเอง แต่…”
ครั้นพอพูดออกไปหลินเฉิงก็สังเกตุเห็นว่าหลี่เหมิงเตี๋ยนั้นเกิดสั่นขึ้นมา เขาทำได้แค่ยิ่มและส่ายหัวก่อนจะพูดขึ้น “แต่อย่าเพิ่งฆ่าเจ้านั่นในตอนนี้เลย ฉันจะขอบคุณมากๆเลยถ้าเธอไม่ขอให้ฉันปล่อยเจ้านั่นไป! มาเร็ว มาทำวันนี้ให้จบๆ ไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว!”
“งั้น…”
หลี่เหมิงเตี๋ยเปิดปากเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่ท้ายสุดเธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงแค่พยักหน้าช้าๆจากนั้นก็ยืนขึ้น เธอมองไปยังประตูห้องที่ฉางเหวินฉวนถูกขังไว้จากนั้นก็พร้อมที่จะออกไปแล้ว
ในตอนนั้นชูฉิงที่อยู่ณ ที่นั่นด้วยชื่อชมหลินเฉิง เธอนึกว่าหลี่เหมิงเตี๋ยจะเละหลังจากที่โดนหลินเฉิงโจมตีด้วยวิธีนี้เสียแล้ว ไม่คาดคิดเลยว่าจะสามารถรอดมาได้ แต่ถึงจะเป็นเป็นตามที่หมอนั่นบอกไว้อยู่แล้ว แต่นี่มันก็เกินความขาดหมายของเธออญู่นะ
“ฉันยอมรับว่านายรับมือกับแม่สาวน้อยนี่ได้ดีกว่าฉันซะอีก”
ถึงไม่อยากจะทำแต่เธอก็ยกนิ้วโป้งชื่นชมหลินเฉิงไปชูฉิงลุกขึ้นจากโซฟาหยิบเสื้อโค้ดมาสวมทับก่อนจะพูดออกมาจากความรู้สึก
ได้ยินแบบนั้นหลินเฉิงก็ไม่ได้สนใจอะไรเขายักไหล่และตอบกลับ “ใช่ ฉันมีฝีมือในการหลอกล่อเด็กสาว แต่ฉันไม่รู้ว่าทำไม ฉันถึงหลอกเธอไม่ได้ แล้วนี่คิดอะไรอยู่ถึงพูดแบบนั้นออกมา?”
“เพราะว่าฉันไม่…”
ชูฉิงเตรียมที่จะตอบหลินเฉิงแล้วแต่เธอก็รู้สึกว่าเธอกำลังจะพูดเรื่องไร้สาระขึ้นมาระหว่างการสนทนาเพราะงั้นเธอเลยเปลี่ยนเป็นถอนหายใจและไม่ได้สนใจอะไรอีก หลังจากที่แสดงท่าทีแย่ๆให้เขาเห็นแล้ว เธอก็จับแขนหลี่เหมิงเตี๋ยไว้และเดินไปเปิดประตูเพื่อจะออกไป
“เสี่ยวเตี๋ยถ้าเธอคิดอะไรออกแล้วช่วยกลับมาอีกทีพรุ่งนี้นะ ฉันมีบางอย่างให้ทำ!”