ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 51
เนื่องจากรถบัสถูกตัวกินคนโจมตีโดยฉับพลันทำให้ขบวนรถทั้งหมดหยุดอยู่กับที่เกือบ 2 ชั่วโมงก่อนที่จะออกเดินทางต่อไป รถบัสที่ถูกโจมตีคือรถบัสหมายเลข 2 แต่เดิมมีผู้รอดชีวิต 78 คนส่งผลให้คนเกือบครึ่งนึงของรถบัสคันนี้บาดเจ็บแต่พวกเขาไม่ได้เสียชีวิตทันที…จากนั้นพวกเขาถูกจัดให้อยู่ในสถานที่เดียวกันมันเป็นทางเลือกที่โหดร้ายมาก เมื่อพิจารณาว่ามีผู้รอดชีวิตเกือบ 500 คนในขบวนรถแห่งนี้พวกเขาจำเป็นจะต้องป้องกัน ซอมบี้ที่เกิดจากผู้บาดเจ็บเหล่านี้ หากใครถูกกำหนดว่าเป็นผู้ติดเชื้อจะถูกทิ้งเอาไว้ด้านหลัง
และรถบัสที่ถูกโจมตีนั้นยังคงใช้งานได้เลือดที่เลอะเกอะกรังถูกชะล้างด้วยน้ำที่ละลายจากหิมะจากนั้นมันก็พร้อมที่จะใช้งานได้อีกครั้ง ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเรื่องสุดวิสัยพวกเขาเองต้องทำตัวให้ชินกลับความไม่แน่นอนของชีวิตพวกเขาถูกบังคับให้ชาชินกับความตาย
อย่างไรก็ตามอารมณ์หดหู่แผ่กระจายไปทั่วขบวน แม้ว่าทุกคนจะรู้อยู่แล้วว่าการเดินทางของพวกเขาไม่ใช่เรื่องปลอดภัยแต่พวกเขาก็ไม่เคยคิดเลยว่าพวกเขาจะถูกโจมตีโดยตัวกินคนเพียงวันที่ 2 การโจมตีอย่างกระทันหันนี้ทำให้เพื่อนร่วมทางของพวกเขาหายไปมากกว่า 30 คนในทันที
หลินเฉิง ยังคงขับรถG65 ตามอยู่ด้านหลัง ในขณะที่นั่งรถเขาพูดคุยเกี่ยวกับแผนการในการเดินขบวนรถในครั้งนี้จาก มู่หยิงเสวี่ย
“ ฉันได้ยินพวกเขาพูดว่า สัตว์ประหลาดเหล่านี้กระโดดออกมาจากหิมะแล้วมันโจมตีขบวนรถอย่างรวดเร็ว ทำให้พวกเราไม่ทันระวังตัวและเกิดความเสียหายหนักมากดังนั้นพวกเขาจึงหารือกันว่าจะเดินทางไปอีก 20 กิโลเมตร ที่นั่นมีโรงงานเหล็กร้างอยู่ พวกเขาจะหยุดพักที่นั่นและดูอาการผู้ที่บาดเจ็บพร้อมกับซ่อมรถที่เสียหาย จากนั้นรอหิมะละลายเล็กน้อยและค่อยเดินทางต่อ
เมื่อได้ยินแผนการนี้ หลินเฉิง ขมวดคิ้ว
“โรงงานอย่างนั้นหรอ?ดูเหมือนว่าคนเหล่านี้ไม่รู้จักกลัวตาย โรงงานเป็นสถานที่ที่ซับซ้อนและอาจมีตัวกินคนแอบอยู่ที่นั่นพวกเขาอาจถูกโจมตี ถ้าพวกเขาต้องการจะหยุดพักก็ให้พวกเขาหยุดไป แต่ผมจะพาคุณไปคนเดียวอย่างน้อยผมก็สามารถรับประกันความปลอดภัยของคุณได้”
เมื่อได้เห็นทัศนคติของ หลินเฉิง มู่หยิงเสวี่ย รู้สึกวิตกกังวล
“อย่าทำอย่างนั้น หลินเฉิง! คุณเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถฆ่าสัตว์ประหลาดเหล่านั้นได้ หากคุณแยกตัวออกไปในเวลานี้มันจะทำให้ขวัญและกำลังใจของทุกคนตกต่ำ! เราควรที่จะหยุดพักและค่อยออกเดินทางพร้อมกับพวกเขา อีกอย่างฉันเคยเห็นโรงงานแห่งนี้ มันถูกทอดทิ้งมาเป็นเวลานานแล้วไม่มีใครอยู่ที่นั่น หากไม่มีมนุษย์อยู่ที่นั่นคงไม่มีตัวกินคนอยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน”
“ ผมต้องบอกคุณเลยว่าตัวกินคนนั้นมีพฤติกรรมที่แปลกมากผมไม่อาจคาดเดาว่าพวกมันจะมาจากไหนและพวกมันคิดจะทำอะไร พวกเราอาจเจอตัวกินคนได้ทุกที่….เอาละ ผมจะหยุดรอขบวนการเดินทางนี้ 1 วัน หากพวกเขาไม่ออกเดินทางในเช้าวันรุ่งขึ้นก็อย่าโทษว่าผมบังคับคุณเลย!”
เมื่อ มู่หยิงเสวี่ย เห็นว่าในที่สุด หลินเฉิง ก็ปะนีปะนอมเธอพยักหน้าอย่างมีความสุข
“ฉันรู้อยู่แล้วว่านายจะต้องตอบแบบนี้ ขอบใจมากนะ หลินเฉิง! ตอนนี้นายมีผลกระทบอย่างยิ่งต่อขวัญและกำลังใจของทุกคนตราบใดที่นายยังอยู่ในทีม พวกเขาจะได้ไม่รู้สึกหวาดกลัวเกินไป ถ้าพวกเขาไม่ออกเดินทางในวันพรุ่งนี้…ฉันจะเชื่อฟังนายและไปกับนายเอง!”
หลินเฉิง ส่ายหัวเขาได้แต่ถอนหายใจ….
….
ท้องฟ้าใกล้มืดพระอาทิตย์ตกดินแล้ว
ในที่สุดขบวนผู้รอดชีวิตก็มาถึงโรงงานร้างก่อนมืด มีรถยนต์ส่วนตัว 4-5 คันต้องหยุดอยู่ที่นี่เพราะน้ำมันรถของพวกเขาหมดลง
เมื่อขบวนรถหยุดที่ทางเข้าโรงงานผู้รอดชีวิตก็ลงมาจากรถของตัวเอง อย่างแรกพวกเขารีบส่งคนไปตรวจสอบความปลอดภัยด้านในทันทีหลังจากที่พวกเขาตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนพวกเขาพบว่ามีเพียงซอมบี้เล็กน้อยในห้องรักษาความปลอดภัย จากนั้นคนอีกกลุ่มนึงก็เข้าไปยังโรงงานเพื่อค้นหาต่อไปและส่งสัญญาณหากด้านในปลอดภัยแล้ว
หลังจากได้เห็นสัญญาณผู้คนจากขบวนรถต่างรู้สึกมีความสุข พวกเขารู้สึกหวาดกลัวตั้งแต่ออกเดินทางจนมาถูกจู่โจมด้วยตัวกินคนเมื่อกลางวันนี้ และโรงงานแห่งนี้เป็นสถานที่เหมาะสมที่ขบวนของพวกเขาจะหยุดพัก
บรรดาผู้คนเริ่มทยอยเข้าไปยังพื้นที่โล่งกว้างของโรงงาน หลินเฉิง เองยังคงขับ G65อยู่ด้านหลัง เขามองมาที่ประตูโรงงานที่ยังคงมีป้ายของบริษัทอยู่ โรงงานเหล็กบริษัทฉีปิง
หลินเฉิง รอให้ยานพาหนะทุกคันเข้ามาในโรงงานก่อน จากนั้นเขาจอดรถตัวเองไว้ท้ายขบวน เผื่อเวลาฉุกเฉินเขาสามารถหลบหนีได้ตลอดเวลา เมื่อ มู่หยิงเสวี่ย เห็นความวิตกกังวลของ หลินเฉิง เธออดไม่ได้ที่จะปิดปากหัวเราะอย่างลับๆ
หลังจากขบวนรถทั้งหมดหยุดลง เหล่าผู้คนก็ยืนอยู่ในที่โล่ง พวกเขากำลังส่งเสียงพูดคุยกันจนไม่เหมือนโรงงานล้างอีกต่อไป
หลินเฉิง เดินไปพร้อมกับ มู่หยิงเสวี่ย เขาอุ้มโคล่าไว้ในอ้อมแขน พวกเขาแทรกตัวเข้าไปในฝูงชนที่แออัดในที่สุดเขาก็ได้พบกับ ฉีรุย ที่ถูกบีบให้ออกจากฝูงชนในเวลาเดียวกัน เมื่อเห็น ฉีรุย มู่หยิงเสวี่ย ต้องการที่จะวิ่งไปทักทายเพื่อนของตัวเองแต่เธอก็ถูกหยุดโดย หลินเฉิง
“ จำเอาไว้คุณห้ามอยู่ห่างผมเด็ดขาด หากคุณตกอยู่ในอันตรายเพียงตะโกนชื่อผม ผมจะให้โคล่าอยู่กับคุณ!”
หลังจากนั้น หลินเฉิง พูดกับโคล่า 2-3 คำก่อนพยักหน้าและส่งโคล่าให้กับ มู่หยิงเสวี่ย หลังจากนั้นมู่หยิงเสวี่ยก็อุ้มโคล่าไปหา ฉีรุย ส่วน หลินเฉิง นั้น เดินเข้าไปในอาคารด้านหลังเพื่อดูว่ามีอันตรายหรือไม่ ทันทีที่เขาเข้าประตูโรงงานมาเขาก็ได้ยินเสียงลมกรรโชก จากนั้นเขารู้สึกว่าแขนของเขาถูกโอบกอดไปด้วยสิ่งที่นุ่มและยืดหยุ่น
เมื่อรู้สึกว่าแขนตัวเองถูกกอด หลินเฉิง ขมวดคิ้วและหันหน้าไป เขาเห็นสาวสวยคนหนึ่งอายุประมาณ 30 ปี ใบหน้าของเธอยังคงสวยงามผิวขาว ผมของเธอเปรียกเล็กน้อยคาดว่าเธอเพิ่งสระผมมา แม้ในวันที่เหน็บหนาวเธอยังคงสวมเสื้อทวิตเตอร์สีชมพูบางๆบนร่างกายของเธออีกทั้งยังใส่กระโปรงสั้นซึ่งทำให้ชายหนุ่มเห็นถุงน่องสีดำของหญิงสาวชัดเจน
“หนุ่มหล่อคุณว่างไหม?”
หญิงสาวสวยคนนั้นพยายามใช้น่าอกของตัวเองกดลงไปที่แขนของ หลินเฉิง และถามขึ้นด้วยเสียงมีเสน่ห์
หลินเฉิง พยายามดึงแขนของตัวเองออกมาและพูดออกมาอย่างเย็นชาว่า
“ไม่ว่าง!”จากนั้นเขาหันหลังและเดินจากไปทันที
อย่างไรก็ตามหญิงสาวไม่ได้คิดจะยอมแพ้เธอติดตาม หลินเฉิง ไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นจับแขนของ หลินเฉิง โดยไม่คำนึงถึงสายตาของคนอื่น
“ไม่ว่านายจะยุ่งแค่ไหนก็ต้องพักผ่อนกันบ้างใช่ไหม?พี่สาวคนนี้จะพานายไปพักผ่อนดีไหมเอ่ย?”
เธอกอดแขนของ หลินเฉิง และใช้หน้าอกของเธอถูไถ หลินเฉิง มองเธออย่างเย็นชาและพูดอีกครั้งว่า
“คุณมีเวลา 5 วินาทีที่จะปล่อยมือในตอนนี้ 5…. 4….. 3…”
เมื่อเห็นว่าการล่อลวงของเธอนั้นไม่มีผลกระทบต่อ หลินเฉิง อีกทั้งชายหนุ่มยังคงขู่โดยการนับถอยหลัง หญิงสาวตกตะลึงและรีบปล่อยแขนของ หลินเฉิง และจากไปทันที ชายหนุ่มคนนี้เป็นคนเลือดเย็นสามารถ ฆ่าตัวกินคน 3 ตัวภายในไม่กี่นาที ความจริงแล้วเธอเพียงแค่อยากจะขึ้นรถของชายหนุ่ม แต่ดูเหมือนว่าชายหนุ่มนั้นซื่อบื้อเกินไป แม้ว่าเธอจะดุด่า หลินเฉิง ลับหลังยังไง เธอก็ไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับเขาโดยตรง
เมื่อหญิงสาวหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว หลินเฉิง จ้องมองอย่างไร้ความรู้สึกบางทีอาจเป็นเพราะเขาอยู่คนเดียวมานานเกินไปเขาจึงเกลียดการอยู่ร่วมกับคนแปลกหน้าไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ตาม
เมื่อมองดูฝูงชนที่อยู่รอบตัวเขา หลินเฉิง ได้แต่ส่ายหัวและไม่สนใจ จากนั้นเดินต่อไปจนถึงส่วนลึกของโรงงาน
สำหรับวิธีของหญิงสาวคนนี้ที่ปฏิบัติต่อ หลินเฉิง หลินเฉิง เข้าใจได้ว่าในช่วงยุคภัยพิบัตินี้ผู้หญิงมักเป็นสิ่งเปราะบางเธอต้องการได้รับการปกป้องจากชายที่แข็งแกร่ง มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้ชายบางคนเต็มใจที่จะได้รับผลประโยชน์นี้
แต่สำหรับ หลินเฉิง ไม่คิดอย่างนั้น เพราะทัศนคติของเขาไม่จำเป็นต้องดูแลคนอื่นในยุคภัยพิบัตินี้แต่ละคนต้องช่วยเหลือตัวเองเพื่อให้มีชีวิตรอดอยู่ให้นานที่สุด!
Comments for chapter "บทที่ 51"
MANGA DISCUSSION
Leave a Reply Cancel reply
This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.
สอใส่เกือก
ถุ๋ย อย่ามาเก๊กไอ้สัสถ้ายังพกอีมู่หยิงเสวี่ยไปไหนมาไหนอ่ะ ปากบอกไม่มีความคิดจะช่วยคนอื่นแต่ทิ้งหีไม่ลง ย้อนแย้งจัด ส่วนอีกตัวถ่วงก็โลกสวยโคตรๆ ขอให้โดนลักพาตัวไปข่มขืนสักสามสี่วันจะได้ตาส่วางสักทีอีดอก