ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 54
เมื่อได้ยินเสียงของ โคล่า เห่า หลินเฉิง ก้มศีรษะลงและลูบหัวของมันจากนั้นถามว่า
“มีบางอย่างใช่ไหม?”
โคล่าพยักหน้าจากนั้นเห่า 2 ครั้งเพื่อเป็นการยืนยัน หลินเฉิง ลูบหัวของมันและพูดว่า
“ นำทางไป!”
โคล่าเป็นผู้นำและ หลินเฉิง เดินตามไปโคล่าพาเขาไปยังโรงงานร้างที่อยู่ในระยะไกล ชายคนหนึ่งและสุนัขของเขาเดินรอบๆบริเวณโรงงานที่เงียบสงัด ซึ่งอยู่ห่างจากโรงงานที่ทุกคนรวมตัวกัน
อีกสักครู่ต่อมา หลินเฉิง เดินตาม โคล่า มาถึงประตูโรงงานร้างและมองเห็นแต่ความมืด เขารู้สึกอันตราย เขาดึงมีดออกมาและลูบหัวโคล่าเบาๆ จากนั้นค่อยๆเดินไปด้านใน
ทันทีที่ หลินเฉิง เดินเข้าไปใกล้ประตู โคล่า ครางออกมาเบาๆ เมื่อได้ยินเสียงครางนี้ หลินเฉิง ขมวดคิ้วและรู้ว่าโคล่าต้องการเตือนตัวเองว่ามีอันตรายอยู่ด้านหน้าและให้ระวังตัว!
หลังจากได้รับสัญญาณเตือนจากโคล่า หลินเฉิง ค่อยๆย่างเท้าเข้าไปอย่างจะช้าๆ จากนั้นเขาส่องไฟฉายเข้าไปในโรงงานแต่เขากลับไม่พบสิ่งผิดปกติ เขาหันกลับไปมองโคล่าอีกครั้งแล้วมันยังคงครางเสียงต่ำ ดังนั้นเขาไม่อาจลดการระมัดระวังได้
กฎข้อที่ 4 ของเมอร์ฟี่บอกไว้ว่า ถ้าคุณกังวลเกี่ยวกับบางอย่างสิ่งนั้นมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น
หลินเฉิง คิดถึงกฏนี้เสมอเขากระชับมีดแน่นและค่อยๆขยับเข้าไป เขาสำรวจรอบๆแล้วยังคงเห็นว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น เขารู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อยแต่โคล่าที่อยู่ด้านหลังกรรโชกเห่าอย่างรุนแรง
หลินเฉิง รีบวิ่งไปยังจุดที่โคล่าเห่าและเอาไฟฉายส่อง เขาพบกับหลุมที่มีขนาดประมาณ 30 ซม.และลึกลงไปในพื้นดิน
เมื่อเห็นหลุมแปลกๆ หลินเฉิง รู้สึกได้ทันที เขาหยิบไฟฉายและส่องเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะเห็นสิ่งที่อยู่ด้านในเขาก็ได้ยินเสียงดังมาจากโรงงานที่ฝูงชนอยู่
มีบางอย่างเกิดขึ้น!
เมื่อคิดได้ว่า มู่หยิงเสวี่ย นั้นยังคงอยู่ในโรงงาน หลินเฉิง รู้สึกราวกับสมองของเขาจะระเบิด เขาไม่สามารถอยู่สำรวจหลุมแปลกๆนี้ได้อีกต่อไป เขารีบหันกลับและเตรียมที่จะออกไปช่วย มู่หยิงเสวี่ย ทันที หญิงสาวคนนั้นอ่อนแอยิ่งกว่าลูกไก่ซะอีก มันจบแล้ว!
แต่ทันทีที่เขาหันหลังเขากลับรู้สึกถึง เสียงแปลกๆที่ดังออกมาจากหลุมด้านหลังของเขา เมื่อเขามองย้อนกลับไปตัวกินคนหลายตัวกระโดดออกมาจากหลุมอย่างรวดเร็วอ่านนิยายกับไอรีน
เวรแล้ว!พวกมันซ่อนตัวอยู่ที่นี่!
เมื่อคิดได้ก็สายเกินไป หลินเฉิง ผิวปากเรียกโคล่า หนึ่งคนหนึ่งสุนัขรีบพุ่งออกจากโรงงานร้างทันที แต่ตัวกินคนเหล่านี้จะปล่อยเหยื่อของมันไปได้อย่างไร
พวกมันกระโดดออกมาจากหลุมทีละตัวและพุ่งเข้าหา หลินเฉิง เมื่อตัวกินคน 2 ตัวติดตาม หลินเฉิง ทันมันพยายามที่จะกัด หลินเฉิง หลินเฉิง ไหวตัวทันและยกมีดสับลงมาเพื่อจัดการหนึ่งในนั้น จากนั้นเขาหันไปมองโคล่าแล้วตะโกนว่า
“ไปหา มู่หยิงเสวี่ย!”
เมื่อได้ยินคำสั่งเร่งด่วนของ หลินเฉิง โคล่า เห่าเสียงดังเพื่อแสดงว่ามันเข้าใจและรีบตรงไปยังโรงงานที่มีผู้คนรวมตัวกันอีกครั้ง
เมื่อเห็นว่าโคล่ารีบวิ่งไปตามคำสั่งอารมณ์หงุดหงิดของ หลินเฉิง ก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย เขาหันกลับไปแล้วหั่นตัวกินคนที่พยายามพุ่งมาหาเขา เมื่อเห็นว่ามีตัวกินคนมากกว่า 10 ตัวกระโดดออกมาจากหลุม หลินเฉิง ไม่กล้าที่จะลุยเดี่ยวอีกต่อไป เขาหยิบระเบิดที่เพิ่งเก็บเกี่ยวได้เมื่อครู่ออกมาจากแคปซูลจัดเก็บและโยนมันลงไปในกลุ่มของตัวกินคน จากนั้นเขากดสวิตช์ทันที ในขณะเดียวกันรีบวิ่งให้เร็วที่สุดเพื่อจะหลบหนีระยะของระเบิด
บูม!!
การระเบิดเกิดขึ้นอย่างรุนแรงจนทำให้หูของ หลินเฉิง ดับ ยังคงมีเสียงของตัวกินคนร้องอย่างโหยหวน ด้วยแรงของระเบิดเกือบทำให้ หลินเฉิง ล้มลง เขาเซไป 2- 3ก้าว และพยายามยืนหยัดอย่างมั่นคงอ่านนิยายกับไอรีน
ไม่ว่าสถานการณ์ด้านหลังจะเป็นอย่างไรเขาไม่สนใจและรีบวิ่งตรงไปยังอาคารโรงงานที่มู่หยิงเสวี่ยอยู่!
ในเวลานี้โรงงานได้กลายเป็นโรงฆ่าสัตว์ เศษแขนขากระเด็นอยู่ทุกที่ ร่างกายของผู้คนเกือบ 30 คนกระจัดกระจายอยู่ในโรงงาน ร่างของพวกเขาฉีกขาดเกินกว่าที่จะมีชีวิตรอด คนที่ไม่ได้ถูกโจมตีรีบวิ่งออกมาจากโรงงานอย่างรวดเร็ว แต่มีบางคนที่ล้มลงและถูกเหยียบอย่างไม่เหลียวแล
เมื่อมองเห็นฉากที่อยู่ด้านหน้าดวงตาของ หลินเฉิง เปลี่ยนเป็นสีแดง เขารู้สึกเกลียดชังความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ จากนั้นเขาพยายามตั้งใจฟังเสียงตำแหน่งของโคล่าอย่างระมัดระวัง
ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงครางต่ำ ที่แสดงออกถึงความเจ็บปวดมาจากส่วนลึกของโรงงานอีกทั้งยังมีเสียงของ มู่หยิงเสวี่ย ร้องไห้อย่างขมขื่น เมื่อได้ยินดังนั้น หลินเฉิง ไม่รอช้าอีกต่อไปเขาจัดการกับตัวกินคน 2 ตัวที่ติดตามมาและวิ่งเข้าไปยังทิศทางของเสียงทันที!
…..
มู่หยิงเสวี่ย รู้สึกหมดหวัง…
หลังจากที่เธอพบกับ ฉีรุย เธอได้บอกแผนของ หลินเฉิง ให้กับเพื่อนสาว จากนั้นเธอยังบอกอีกว่า หลินเฉิง นั้นสัญญาที่จะให้ ฉีรุย ขึ้นรถไปด้วยกันแต่ ฉีรุย กลับไม่เห็นด้วย เธอรู้สึกลังเล ภายใต้การสอบถามซ้ำๆของ มู่หยิงเสวี่ย ในที่สุด ฉีรุย ก็บอกเหตุผล
ฉีรุย นั้นชอบ เต๋าไค่ ตั้งแต่เธอเรียนอยู่มหาวิทยาลัยแต่เนื่องจาก เต๋าไค่ นั้นมีแฟนแล้วในตอนนั้นเธอจึงเก็บซ่อนความรู้สึกไว้ในหัวใจแทน
อย่างไรก็ตามไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดวันสิ้นโลก ฉินฟาน แฟนสาวของ เต๋าไค่ ได้หายตัวไปตั้งแต่เริ่มเกิดภัยพิบัติ และเมื่อ ฉีรุย หนีกลับไปยังมหาวิทยาลัย เธอก็ได้พบกับ เต๋าไค่ ถ่านไฟเก่าของเธอลุกขึ้นอีกครั้ง
หลังจากใช้เวลาครึ่งเดือนทั้งกลางวันและกลางคืนพวกเธอต่างใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน แม้เธอไม่ได้พูดออกมาอย่างชัดเจนแต่ เต๋าไค่ ก็ยอมรับตัวตนของเธอให้เป็นแฟนใหม่ของเขาด้วยดี แต่ไม่คาดคิดว่านิสัยของ หลินเฉิง ที่แสดงออกในวันนี้จะทำให้เกิดรอยร้าวในกลุ่ม
เมื่อสักครู่ เต๋าไค่ ได้กลับมาอย่างอารมณ์เสียและบอกกับ ฉีรุย อย่างชัดเจนว่าให้อยู่ห่างจาก หลินเฉิง แม้ว่า มู่หยิงเสวี่ย จะพยายามเกลี้ยกล่อม ฉีรุย ฉีรุย ก็ไม่เต็มใจที่จะเชื่อฟัง เธอไม่ต้องการถูก เต๋าไค่ ทอดทิ้ง
หลังจากฟังเรื่องเล่าของ ฉีรุย แล้ว มู่หยิงเสวี่ยก็ทำอะไรไม่ถูก สุดท้ายแล้วไม่มีใครถูกหรือใครผิดจากมุมมองของพวกเขา มู่หยิงเสวี่ย ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของใครได้ หลังจากที่เธอพยายามยืนยันกับ ฉีรุย ซ้ำๆในที่สุดเธอก็ตัดสินใจเคารพในตัวเลือกของเพื่อนสาวและไม่ต้องการพูดเรื่องนี้อีกต่อไป
มู่หยิงเสวี่ย รู้สึกหดหู่ๆและกำลังหันหลังกลับไปเพื่อไปพบกับ หลินเฉิง แต่ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงกรีดร้องและเสียงฉีกขาดของร่างกาย แล้วเมื่อเธอหันไปรอบๆเธอเห็นตัวกินคนตัวหนึ่งปรากฏขึ้นในส่วนลึกของโรงงาน ในเวลานี้มันกำลังกัดคอของหญิงสาวและฉีกทึ้งอย่างเมามัน!
เมื่อ มู่หยิงเสวี่ย เห็นดังนั้นเธอตกใจจนแทบเสียสติ เธอต้องการหันหลังวิ่งไปหา หลินเฉิง ทันที แต่เมื่อเธอกำลังจะพุ่งตัวไปก็ได้ยินเสียงกรีดร้องมาจากด้านหน้าอีกครั้ง
ภายในเวลาไม่กี่วินาทีทั้งโรงงานเต็มไปด้วยตัวกินคนล้อมรอบ ฝูงผู้คนจำนวนมากวิ่งกระจัดกระจายกันไปมา มู่หยิงเสวี่ย ได้แต่จ้องมองฝูงชนที่กำลังหนีเอาชีวิตรอด และเธอเองก็ไม่สามารถต้านทานแรงผลักดันของฝูงชนได้ เธอล้มๆและพยายามหลายครั้งที่จะลุกขึ้น แต่ฝูงชนยังคงเหยียบย่ำเธอ เธอรู้สึกหมดหวังมากยิ่งขึ้นและในที่สุดตัวกินคนก็พบเธอแล้ว!
ในขณะที่เธอกำลังหมดหวังเธอก็ได้ยินเสียงเห่า โฮ่งโฮ่ง ที่คุ้นเคยมาจากระยะไกลในพริบตา สุนัขตัวนั้นพุ่งใส่ตัวกินคนและกดลงกับพื้นทันทีอ่านนิยายกับไอรีน
เมื่อเห็นว่าโคล่ามาช่วยเหลือตัวเอง หลินเฉิง อดไม่ได้ที่จะร้องไห้แต่เมื่อเห็นร่างกายของโคล่าเธออดรู้สึกเจ็บปวดไม่ได้ หญิงสาวเข้าไปอุ้มโคล่าไว้ในอ้อมแขนและไม่ยอมปล่อยให้มันสู้กับตัวกินคนอีกต่อไป
โคล่าถูกกอดโดย มู่หยิงเสวี่ย และมันพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอด เพื่อที่จะจัดการกับตัวกินคนที่กำลังพุ่งเข้ามา
ภาพต่อมาคือโคล่าที่พุ่งเข้าไปหาตัวกินคนถูกตบและกระเด็นออกไปอย่างรุนแรง เสียงครางต่ำด้วยความเจ็บปวดออกมาจากปากของมัน ปากของมันเต็มไปด้วยเลือดและพยายามที่จะลุกขึ้นโจมตีตัวกินคนอีกครั้ง
มู่หยิงเสวี่ย ไม่สามารถทำอะไรได้เธอหวังว่า หลินเฉิง จะมาเร็วๆ ไม่ใช่เพื่อช่วยชีวิตเธอแต่เพื่อมาปกป้องโคล่าจากการต่อสู้ที่แสนขมขื่นนี้