ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 62
เมื่อมองไปที่กำแพงน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่เกือบ 5 เมตร ทำให้สมองของ หลินเฉิง รู้สึกสับสนไม่ใช่เพียงเฉพาะ หลินเฉิง เท่านั้นแม้แต่ เฉินหยูหมิน ยังตะโกนด่าทอ เมื่อทุกคนเห็นกำแพงน้ำแข็งขนาดใหญ่พวกเขาได้แต่ตกตะลึง เฉินหยูหมิน ไม่สามารถหลบหนีไปได้เขาหันหน้ามาหา หลินเฉิง และสาปแช่ง
“ไอ้เด็กเมื่อวานซืน แกกล้าทำตัวเป็นหมูกินเสืออย่างนั้นหรอ?”
หลินเฉิง ตอบด้วยความสับสน
“ถ้าฉันบอกว่าฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นล่ะ..จะเชื่อหรือเปล่า?”
“เชื่อพ่อง มึง!”
เมื่อ เฉินหยูหมิน รู้สึกว่าโดนดูถูกทางความคิดเขาจึงหันหลังกลับแล้ววิ่งตรงไปหา หลินเฉิง เขาใช้หมัดของตัวเองชกไปยัง หลินเฉิง ที่กำลังเหนื่อยล้าโดยตรง
ปัง!
ในเวลานั้น หลินเฉิง กระเด็นออกไปเหมือนว่าวสายขาด หลังจากที่เขากระเด็นขึ้นไปบนฟ้าหลายวินาทีเขาก็ตกลงมาในหิมะอย่างแรง เขาพยายามใช้พละกำลังทั้งหมดของเขาปกป้องหน้าอกของตัวเองจากการชก ความเจ็บปวดที่เขาได้รับทำให้เขาแทบจะยืนไม่ไหว ขาของเขาสั่นเทาจนรู้สึกอยากจะตัดขาทั้งสองข้างของตัวเองทิ้ง
เมื่อมองเห็น เฉินหยูหมิน กำลังวิ่งเข้าหาตัวเองอีกครั้ง หลินเฉิง พยายามกระชับมีดในมือและบังคับแขนขาที่กำลังสั่นอยู่นั้นให้มั่นคง เขาพยายามอย่างดีที่สุดที่จะหลบหลีกการโจมตีครั้งที่สองของ เฉินหยูหมิน และใช้โอกาสที่ เฉินหยูหมิน นั้นประมาท ก้มลงไปแทงเป้ากางเกงของเขาด้วยมีดอีกครั้ง!
อ้าก!!
คราวนี้ไม่มีเสียงกระทบของเหล็กชนกันเหมือนแต่ก่อน การแทงของมีดราบรื่นมาก หลินเฉิง รีบถอยหลังอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาได้ยินเสียงร้องอันเจ็บปวดของ เฉินหยูหมิน พร้อมกับชิ้นเนื้อบางอย่างตกลงกับพื้น! จากนั้น เฉินหยูหมิน กุมเป้าของตัวเองและนอนกลิ้งกับพื้นอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อลูกน้องของ เฉินหยูหมิน พบว่าลูกพี่เขาพวกเขาได้รับบาดเจ็บพวกเขาต่างตกตะลึงอย่างไม่น่าเชื่อ พวกเขาอดไม่ได้ที่จะเอามือกุมเป้าของตัวเอง แม้ว่าในขณะนี้หลินเฉิงจะรู้สึกอ่อนเพลียแต่มนุษย์ธรรมดาไม่สามารถต่อต้านเขาได้ดังนั้น หลินเฉิง จึงใช้มีดเริ่มเข่นฆ่าผู้คนอีกครั้ง
สักครู่ต่อมา นอกเหนือจาก หลินเฉิง และชายที่สวมแว่นตาคนอื่นต่างเสียชีวิตภายใต้คมมีดของ หลินเฉิง หรือไม่ก็วิ่งหนีหายไปแล้ว ชายสวมแว่นกำลังที่จะวิ่งหนีด้วยเช่นกันแต่ หลินเฉิง ขัดขวางเขาเอาไว้
ในเวลานี้ชายสวมแว่นไม่ได้มีความหยิ่งยโสเหมือนแต่ก่อนเขาสั่นเทาทั้งร่างกาย และเมื่อเห็นว่า หลินเฉิง กำลังจ้องมองตัวเองด้วยสายตาเย็นชา แม้แต่ความกล้าหาญที่จะก้าวขาออกไปก็หมดสิ้น
“นายเป็น น้อง 3 ที่ชายผมแดงพูดถึงใช่ไหม?”
หลินเฉิง มองไปที่ชายสวมแว่นผู้กำลังสั่นเทาและอ้าปากถามอย่างเย็นชา
“ใช่…ไม่ใช่!ผมไม่ใช่!”
ชายสวมแว่นตอบโดยสัญชาตญาณและรีบปฏิเสธอย่างรวดเร็ว หลินเฉิง ยังคงมองหน้าของเขาด้วยใบหน้าเยาะเย้ยและรู้ดีว่าไม่มีประโยชน์อีกต่อไปที่จะซ่อนต่อหน้า หลินเฉิง
“ ฉันได้ยินมาว่าความสามารถของนายคือญาณทิพย์?นายสามารถมองเห็นสถานการณ์บนทางด่วนจากที่นี่ใช่ไหม?”
เมื่อเห็นว่า หลินเฉิง สนใจในความสามารถของเขาชายที่สวมแว่นตารู้สึกมีความหวังอีกครั้งและตอบอย่างรวดเร็วว่า
“ใช่!ใช่แล้ว แต่มันก็ยังมีข้อจำกัด พลังสามารถใช้ได้แค่ 10 นาทีในแต่ละวัน”
“ถ้าอย่างนั้นนายเห็นรถของฉันโดยบังเอิญอย่างนั้นหรอ?”
หลินเฉิง ได้ยินคำอธิบายของชายสวมแว่น มันเป็นตามที่เขาคาดเอาไว้พลังที่ท้าทายธรรมชาติของมนุษย์นั้นไม่สามารถใช้งานได้เป็นเวลานาน
“ ใช่!…ผมไม่คิดว่า…”เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ชายสวมแว่นรู้สึกเสียใจ
“ผมไม่ได้คิดว่าการมองเห็นโดยบังเอิญในครั้งนี้จะนำตัวเองไปสู่ความตาย!”
ในขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกัน หลินเฉิง รู้สึกว่าร่างกายของเขากำลังจะหมดความรู้สึกดังนั้นเขาจึงไม่อยากจะเสียเวลาพูดเรื่องไร้สาระอีกต่อไป หลินเฉิง พุ่งตรงไปหาชายสวมแว่นและใช้ใบมีดของเขาสับลงไปที่คอทันที ศีรษะของชายสวมแว่นขาดกระเด็น
หลังจากที่ฆ่าชายสวมแว่นแล้ว หลินเฉิง ไม่เห็นคนอื่นที่อยู่แถวนี้อีกต่อไป เขาพยายามใช้มีดแทนไม้ค้ำและเดินกะเผลกไปยัง เฉินหยูหมิน อย่างไรก็ตามสภาพของชายผู้กล้าหาญและแข็งแกร่งเหมือนปราการเหล็กก่อนหน้านี้ กลายเป็นชายคนหนึ่งที่ตัวซีดเซียวพร้อมกับสายเลือดที่ละเลงอยู่บนหิมะ ร่างกายของเขาไม่ได้แสดงออกถึงการมีชีวิตอีกต่อไป
เพื่อความแน่ใจ หลินเฉิง ยกมีดขึ้นและแทงไปที่คอของ เฉินหยูหมิน และเมื่อเห็นว่ามีดของเขาสามารถแทงทะลุคอ เฉินหยูหมิน ราวกับตัดเต้าหู้ หลินเฉิง จึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก และวางมีดไว้บนหิมะ จากนั้นตัวเขาเองตกอยู่ในอาการโคม่าและล้มลง
…..
มู่หยิงเสวี่ยรอคอย หลินเฉิง อยู่ที่รถ แต่ มู่หยิงเสวี่ย นั้นรู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของ หลินเฉิง มากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้เธอพยายามห้ามความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองและไม่ได้ถาม หลินเฉิง ว่าเขาต้องการทำอะไรที่นี่ เธอคิดอยู่แล้วว่าถ้าหากเธอถามเธอคงไม่ได้คำตอบจาก หลินเฉิง
แต่ หลินเฉิง นั้นออกเดินทางไปตั้งแต่ 13:00 นและในตอนนี้เป็นเวลาเกือบ 6 โมงเย็นแล้วท้องฟ้าใกล้จะมืดแต่ หลินเฉิง ก็ยังไม่มีทีท่ากลับมา
ในที่สุด มู่หยิงเสวี่ย ก็ไม่สามารถอดใจรอได้อีกต่อไป เธอกลัวว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับ หลินเฉิง เธอจึงตัดสินใจที่จะออกค้นหา
ก่อนหน้านี้ หลินเฉิง ได้เปิดระบบนำทางและเธอได้เห็นว่าจุดหมายปลายทางที่เขาต้องการมานั้นคือโรงแรมที่ชื่อว่าเทียนเหอในเขตหลิงเซียน แม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจว่าเขาต้องการไปที่นั่นทำไมในเขตหลิงเซียนนั้นเต็มไปด้วยอาชญากรรม แต่ มู่หยิงเสวี่ย ไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องนั้นเธอวางโคล่าไว้ในรถ แต่ โคล่า ไม่ต้องการให้ มู่หยิงเสวี่ย นั้นออกจากรถแต่หญิงสาวยังคงดื้อดึงดังนั้นโคล่าจึงตัดสินใจที่จะติดตาม มู่หยิงเสวี่ย เพื่อออกตามหา หลินเฉิง
มู่หยิงเสวี่ย ไม่มีทางเลือกนอกจากเอาโคล่าไปด้วย เธอพยายามทำตัวเองไม่ให้โดดเด่นเกินไปในหิมะขาวโดยการเปลี่ยนเสื้อแจ็คเก็ตเป็นสีขาวและเปลี่ยนเป็นกางเกงกีฬา จากนั้นเธอใช้เสื้อทวิตเตอร์สีขาวของเธอพันรอบตัวโคล่าเพื่อปิดบังสีเข้มของมัน
หลังจากจัดการเรียบร้อย มู่หยิงเสวี่ย ถือมีดปอกผลไม้และปืนพกที่ หลินเฉิง มอบไว้ให้กับเธอจากนั้นเธอลูบหัวโตล่าเบาๆและเริ่มออกเดินทางท่ามกลางหิมะตก
เนื่องจากหิมะตกหนักและเธอไม่ค่อยคุ้นเคยกับเขตนี้เธอจึงค่อนข้างใช้เวลาและเมื่อเธอพบว่ามีถนนสาย หนึ่ง เชื่อมโยงไปยังโรงแรมเทียนเหอ เธอจึงมุ่งหน้าไปทางนั้น หากเธอหลงอยู่ที่นี่อาจทำให้เธอและโคล่าถึงแก่ความตายเนื่องจากพายุหิมะกำลังตกหนัก หากพวกเขายังคงเดินไปรอบๆอาจต้องเผชิญหน้ากับซอมบี้หรือไม่ก็ตัวกินคน ในขณะที่ มู่หยิงเสวี่ย และโคล่าเดินมาถึงถนนหน้าโรงแรมเทียนเหอ เธอก็พบกับบางอย่างที่คล้ายกับรูปปั้นหิมะเล็กๆ!
เมื่อมองไปที่กองหิมะเล็กๆ มู่หยิงเสวี่ย รู้ว่าภายใต้กองหิมะนี้คืออะไร
ทันใดนั้นโคล่าที่สงบเสงี่ยมอยู่ดีๆก็เห่าขึ้นและวิ่งไปยังสถานที่ใกล้เคียง มู่หยิงเสวี่ย รู้สึกตกใจและรีบตามโคล่าไปอย่างรวดเร็ว โคล่า นำเธอมายังกองหิมะกองหนึ่ง ที่มีมีดปักอยู่ พายุหิมะเกิดขึ้นทำให้หิมะตกลงมาปกคลุมจนแทบมองไม่เห็นมีดที่ปักอยู่
มู่หยิงเสวี่ย เห็นโคล่าพยายามที่จะขุดกองหิมะนั้นอย่างบ้าคลั่ง ความกังวลใจของเธอเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆเธอพยายามใช้มือที่สั่นเทาของตัวเองช่วยกันขุดกองหิมะนั้นด้วยเช่นกัน
ในเวลาต่อมาก็ปรากฏใบหน้าที่คุ้นเคย!
“บรู้ว..โฮงโฮ่ง!”
“ หลินเฉิง?”
ทันทีที่ได้ยินเสียงร้องของโคล่า มู่หยิงเสวี่ยเองก็เห็นใบหน้าผู้ที่อยู่ใต้กองหิมะเช่นกัน มู่หยิงเสวี่ย ตะโกนออกมาพร้อมกับน้ำตา เธอไม่กล้าที่จะชักช้าอีกต่อไปเธอร่วมมือกับโคล่าดึง หลินเฉิง ออกมาจากกองหิมะอย่างรวดเร็ว!
—————————————-