ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 64
ปัง!
ประตูไม้ไม่สามารถทนแรงถีบของ หลินเฉิง ได้ดังนั้นประตูทั้งบานจึงกระเด็นออกไป หลังจากที่เดินเข้าไปดูด้านในมันทำให้ หลินเฉิง รู้สึกหงุดหงิด ไม่ใช่เพราะด้านใดไม่มีสิ่งใดแต่กลับกลายว่าด้านในเต็มไปด้วยเสบียง ปืนและกระสุนมากมายซึ่งทำให้ หลินเฉิง รู้สึกหงุดหงิดที่เขาไม่สามารถนำพวกมันทั้งหมดออกไปได้!
พื้นที่ในแคปซูลจัดเก็บของเขามีเพียง 5 ลูกบาศก์เมตรและมันก็เต็มไปด้วยของเดิมอยู่แล้ว และพวกเขามีเพียง 3 คนเมื่อรวมโคล่า พวกเขาสามารถนำของเหล่านี้ไปได้เพียง 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
หลังจากต่อสู้มานานในใจของ หลินเฉิง เริ่มนึกถึงแคปซูลจับเกรดระดับ D
แต่ว่าแคปซูลจัดเก็บระดับD จะมีความจุถึง 50 ลูกบาศก์เมตรแต่มันต้องใช้ค่าพลังงานถึง 500 การที่ หลินเฉิง ฆ่า เฉินหยูหมิน และชายสวมแว่น เขาได้รับค่าพลังงาน 1,000 และ 200 ตามลำดับ ดังนั้นในตอนนี้ค่าพลังงานที่เขามีอยู่เพิ่มขึ้นถึง 1857 คะแนน แต่ความต้องการเร่งด่วนในขณะนี้ของเขาคือการแลกเปลี่ยนแคปซูลยาระดับ D อย่างรวดเร็วที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้นเพียงแค่อาหารที่อยู่ในแคปซูลระดับ E ก็เพียงพอสำหรับเขาและโคล่าในระยะเวลา 1 ปี ตราบใดที่พวกเขาสามารถพามู่หยิงเสวี่ยไปยังเขตทหารเหลียนเฉิง ค้นหาข่าวที่เขาต้องการ แม้ว่าเสบียงในแคปซูลของพวกเขาจะหมดไปแต่เขามั่นใจว่าเขาจะพบวัสดุสิ้นเปลืองเหล่านี้บนท้องถนนได้ตลอดเวลา
หลินเฉิง หยิบกระเป๋าใบใหญ่ออกมาจากกองวัสดุเหล่านั้น จากนั้นเขาพยายามบรรจุปืนและกระสุนลงไปในกระเป๋า จากนั้นผิวปากเรียกโคล่าแล้ววางไว้พาดเอาไว้บนหลังของมัน
แม้น้ำหนักของกระเป๋าไม่ใช่เบาๆ โคล่าก็สามารถรองรับน้ำหนักมันได้มันพยายามเห่าออกมา 2 ครั้งเพื่อเรียกร้องถึงความยุติธรรมแต่มันทำได้เพียงถอนหายใจและยอมรับชะตากรรม
หลินเฉิง เข้าใจคำร้องของโคล่า แต่เขาทำเพียงหัวเราะอย่างชั่วร้ายจากนั้นสะพายกระเป๋าอันนึงไว้ที่หลังของเขาส่วนอีกอันหนึ่งไว้ที่หน้าอก และกระเป๋าใบสุดท้ายอยู่ในมือของเขา จากนั้นเดินออกมาจากห้อง
เมื่อเห็นกระเป๋า ใบใหญ่ 2 ใบที่อยู่บนร่างกายของ หลินเฉิง อีกทั้งมีอีก 1 ใบอยู่ในมือของเขาแล้วยังไม่พอบนหลังของโคล่าก็มีกระเป๋าพาดอยู่อีก 1 ใบ มู่หยิงเสวี่ย ที่กำลังคุยอยู่กับผู้หญิง 3 คนขมวดคิ้วและต้องการจะถามว่าพวกนี้คืออะไร แต่ก่อนที่เธอจะพูด หลินเฉิง ก็โยนกระเป๋าที่อยู่ในมือให้กับหญิงสาว
“อ๊ะ!”
เมื่อต้องรับกระเป๋าใบใหญ่อย่างฉับพลันทำให้ มู่หยิงเสวี่ย ส่งเสียงตกใจและรีบคว้ากระเป๋าที่โยนมาอย่างรวดเร็วจากนั้นบ่นออกมาว่า
“นายกำลังทำอะไร!”
“เธอต่างหากที่กำลังทำอะไร ผมกำลังยุ่งกับการรวบรวมของเหล่านี้แต่เธอทำอะไรบ้าง?”
“ฉัน…ฉันกำลังคุยกับพี่สาวทั้งสามคนนี้ เฉินหยูหมิน เป็นคนชั่วร้ายมาก!ไร้มนุษยธรรม!ฉันเกลียดเขา!”
“โอ้ เก็บความเกลียดของเธอเอาไว้ เธอควรที่จะถือกระเป๋าและออกไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว เธอไม่เห็นหรอว่าตอนนี้ท้องฟ้ากำลังจะมืดแล้ว?”
หลังจากได้ยินคำพูดของ หลินเฉิง มู่หยิงเสวี่ย ก็ตะโกนออกมาว่า
“ทำไมนายเป็นคนใจร้ายแบบนี้!นายจะไปที่ไหนแล้วพี่สาวพวกนี้ล่ะ?”
เมื่อเห็น มู่หยิงเสวี่ย เปร่งรัศมีความเมตตาอีกครั้ง หลินเฉิง แสดงออกอย่างเย็นชา
“ผมเคยบอกคุณไปแล้ว วิถีชีวิตของมนุษย์ในปัจจุบันได้เปลี่ยนไปแล้ว คุณไม่สามารถช่วยเหลือคนอื่นได้ มีเพียงแต่ต้องรักษาชีวิตของตัวเองให้นานที่สุด! ถือกระเป๋า!เราต้องรีบไปจากที่นี่!”
มู่หยิงเสวี่ย รู้สึกตกตะลึงในคำพูดของ หลินเฉิง เธอเพิ่งพูดกับผู้หญิงทั้ง 3 คน ในตอนนี้ชายหนุ่มกับพยายามให้เธอทอดทิ้งผู้หญิงทั้ง 3 คนทันที
“แต่….”
“ไม่มีแต่ !ผมฆ่า เฉินหยูหมิน ไปแล้วถือว่าเป็นการช่วยเหลือพวกเขาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นมีเสบียงมากมายอยู่ในห้องด้านใน..”
เมื่อพูดถึงสิ่งนี้หลินเฉิงหันไปหาผู้หญิงทั้ง 3 คนและพูดว่า
“ถ้าคุณไม่สามารถอยู่รอดแม้จะมีของเหล่านี้ ผมจะให้คนอื่นมาเอาของเหล่านี้แทน”
“ไม่..ไม่..!พวกเราสามารถอยู่กันได้!พวกเราจะไม่รบกวนคุณ!คุณเป็นคนดี!”
เมื่อได้ยินว่า หลินเฉิง ต้องการหาคนอื่นมาเอาเสบียงเหล่านี้หญิงสาวทั้งสองคนซ้ายขวารีบยืนขึ้นและคว้ามือของ หลินเฉิง ทันที เพื่ออ้อนวอน หลินเฉิง เหลือบมอง มู่หยิงเสวี่ย และยังคงเห็นว่าหญิงสาวมีความกังวลอยู่เล็กน้อยดังนั้น หลินเฉิง จึงหันหลังกลับและเดินตรงไปชั้นล่างพร้อมกับโคล่า
ครูต่อมา มู่หยิงเสวี่ย เห็นว่า หลินเฉิง ไปไม่เหลียวหลัง เธอจึงหันกลับมามองหญิงสาวทั้งสามคน ดูเหมือนหญิงสาวทั้งสามคนได้ตัดสินใจแล้วดังนั้น มู่หยิงเสวี่ย จึงลุกขึ้นและติดตาม หลินเฉิง ลงมา
หิมะตกหนักตั้งแต่เที่ยงด้วยเหตุผลบางอย่าง และตอนนี้ไม่มีวี่แววว่ามันจะหยุดลง หลินเฉิง ถือไฟฉายในขณะที่เหยียบย่ำหิมะที่สูงเกือบถึงน่องของเขา เขาค่อยๆเดินฝ่าหิมะไปทีละคน โคล่าที่แบกสัมภาระหนักอยู่ตรงกลางในขณะที่ มู่หยิงเสวี่ย เดินอยู่ท้ายสุดเพื่อคอยช่วยเก็บของที่อาจตกหล่นระหว่างทาง
พายุหิมะและลมหนาวทำให้ใบหน้าของ มู่หยิงเสวี่ย และ หลินเฉิงเต็มไปด้วยเกล็ดหิมะ พวกเขาไม่พูดอะไรกันสักคำเพียงแต่เดินอย่างเงียบๆเป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงพวกเขาก็มาถึงมุมที่ G65 จอดอยู่
ในเวลานี้รถทรงสูง G65 เต็มไปด้วยหิมะ หลังจากที่เก็บของทั้งหมดลงไปยังด้านหลังของรถยนต์ หลินเฉิง ปัดหิมะลงจากรถของเขา จากนั้นขับรถออกจากที่กำบังไปจอดที่โรงเรือนแห่งหนึ่ง เมื่อเขาตรวจสอบ 2- 3 รอบจนแน่ใจว่าไม่มีอันตรายใดๆเขาจึงเอนหลังลงกับเบาะอีกครั้ง
เมื่อเห็นว่ามู่หยิงเสวี่ยยังคงเงียบตั้งแต่เดินออกมาจากโรงแรม หลินเฉิง เองก็ขี้เกียจเกินไปที่จะปลอบประโลมจิตใจของเธอ หลังจากเปิดเครื่องทำความร้อนในรถ หลินเฉิง ลดกระจกลงเพื่อช่วยทำให้เขาพอหายใจได้ มีหลายข่าวที่เคยพูดถึงการนอนในรถขณะที่ติดเครื่องยนต์อาจทำให้เสียชีวิตได้
หลังจากนั้น หลินเฉิง มองดูพายุหิมะที่ยังคงตกหนักอยู่ด้านนอกร่างกายของเขาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าทำให้เขานอนหลับอย่างรวดเร็ว
…….
เช้าวันรุ่งขึ้น!
หลังจากผ่านไป 1 วันพายุหิมะก็หยุดลง หิมะที่เกาะตัวหนากลายเป็นชั้นน้ำแข็งบางๆ ตอนนี้ หลินเฉิง กำลังมองดูก้อนน้ำแข็ง 2 ก้อนในมือของเขา การแสดงออกของเขาค่อนข้างหดหู่
การเผชิญหน้าเมื่อบายวันก่อนทำให้เขาเข้าใจความจริงว่ายังมีคนที่แข็งแกร่งอยู่อีกมาก เพียงแค่เขาเจอกับ เฉินหยูหมิน ผู้มีพลังที่เปลี่ยนแปลงผิวหนังได้มันทำให้เขาเกือบเสียชีวิต อย่างไรก็ตามในขณะที่เขากำลังเผชิญกับวิกฤตก็มีกำแพงน้ำแข็งเกิดขึ้น หลินเฉิง รู้สึกสับสน และเขาก็พบว่าในขณะที่กำแพงน้ำแข็งปรากฏครึ่งความแข็งแกร่งในร่างกายของเขาก็ลดลงอย่างกะทันหันเช่นกัน เมื่อคิดถึงเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลินเฉิง ยิ่งมั่นใจมากยิ่งขึ้นว่ากำแพงน้ำแข็งนั้นเกี่ยวข้องกับตัวเขาอย่างแน่นอน
ดังนั้นเมื่อเขาตื่นเช้ามาในวันนี้ หลินเฉิง กระโดดออกมาจากรถและพยายามลองทำดู
หลังจากพยายามถึงครึ่งชั่วโมง ไม่มีกำแพงน้ำแข็งอะไรบางอย่างที่คล้ายคลึงปรากฏออกมา มีเพียงน้ำแข็ง 2 ก้อนที่ปรากฏอยู่ในมือของเขาหลังจากพยายามถึงครึ่งชั่วโมง
หลินเฉิง มองก้อนน้ำแข็ง 2 ก้อนที่อยู่ในมือของเขาจากนั้นหลับตา เขาพยายามเรียกกำแพงน้ำแข็งออกมาให้ได้และกำลังคิดว่าเขาจะต้องใช้น้ำแข็งหรือหิมะอย่างไร
อีกสักครู่ต่อมา หลินเฉิง ลืมตาขึ้นและจ้องมองไปที่หิมะเบื้องหน้า ทันใดนั้นเขาก็เห็นกรวยน้ำแข็ง 3 แท่งปรากฏขึ้นจากกองหิมะ
ประสบความสำเร็จแล้ว!
เมื่อเห็นกรวยน้ําแข็งขนาดเล็กทั้ง 3 อัน หลินเฉิง เต็มไปด้วยความประหลาดใจ การปรากฏตัวของกรวยน้ำแข็งทั้ง 3 อันนั้นเป็นการเปิดความคิดบางอย่างในจิตใจของ หลินเฉิง ตราบใดที่เขาสามารถควบคุมน้ำแข็งได้เขาสามารถกลายเป็นนักฆ่าที่ทรงพลังอย่างแน่นอน
หลินเฉิง พยายามสงบสติอารมณ์ลงอีกครั้งและหลับตาในครั้งนี้เขาพยายามคิดถึงวิธีการในการต่อสู้ จนกระทั่ง มู่หยิงเสวี่ย ตื่นขึ้นมา หลินเฉิง ก็ลืมตาเช่นกัน
หลินเฉิง ไม่ต้องการให้ใครรู้เกี่ยวกับพลังของเขารวมทั้ง มู่หยิงเสวี่ย ด้วย ดังนั้นเมื่อเธอตื่นขึ้นมา หลินเฉิง จึงกลับขึ้นไปบนรถและปลุกโคล่าที่นอนหลับอยู่ด้านหลัง จากนั้นพวกเขาก็เอาอาหารออกมากินร่วมกันก่อนที่จะออกเดินทางต่อไป…
—————————————–