ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 70
หลินเฉิง หันไปมองชายที่อยู่มุมห้องจากนั้นหันไปหา ซูหยวน และพูดว่า
“นี่ถือว่าเป็นภัยคุกคามหรือเปล่า?”
เมื่อเห็น หลินเฉิง หันมามองตัวเอง ซูหยวน รู้สึกถึงอันตรายอย่างยิ่ง ทันใดนั้นเขาเริ่มระมัดระวังตัวแม้ว่ามนุษย์ทั่วไปจะไม่ใช่ภัยคุกคามสำหรับเขาเนื่องจากเขาสามารถปลุกพลังขึ้นมาได้ แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่ต้องการเป็นศัตรูกับ หลินเฉิง การที่ชายคนหนึ่งสามารถเอาชีวิตรอดจากการเดินทางข้ามจังหวัดเพียงแค่สองคน ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน ในอนาคตหากมีโอกาส ซูหยวน ต้องการคนเช่นนี้เข้าทีมของเขา
เมื่อคิดได้ดังนั้น ซูหยวน ขมวดคิ้วและหันไปหาชายวัยกลางคนก่อนหน้านี้ที่พูดข่มขู่ หลินเฉิง และพูดอย่างเย็นชาว่า
“ ใครให้นายพูด ออกไปจากที่นี่ซะ!”
เมื่อชายวัยกลางคนคนนั้นได้ยินคำสั่งของ ซูหยวน เขาปฏิเสธที่จะยอมรับและพูดว่า
“คุณต้องการให้ผมออกไปจากที่นี่อย่างนั้นหรอ?เพื่ออะไร?เขาเป็นเพียงคนนอก!”
เมื่อเห็นว่าชายคนนั้นกล้าปฏิเสธคำสั่งของ ซูหยวน ดวงตาของ ซูหยวน กลายเป็นเยือกเย็นและพูดว่า
“คุณต้องการคำตอบจากผมอย่างนั้นหรอ?”
ชายคนนั้นพยักหน้า แต่ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงความสยองขวัญของชายที่อยู่ตรงหน้า ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็เต็มไปด้วยเหงื่อและกลืนคำพูดก่อนหน้านี้ลงไปและรีบออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว
หลังจากไล่ชายวัยกลางคนคนนั้นไปแล้ว ซูหยวน หันมาขอโทษ หลินเฉิง และพูดว่า
“เฉินหยาน เป็นคนหยิ่งแต่ไม่มีสมอง สิ่งที่ฉันพูดก่อนหน้านี้นายโปรดมั่นใจได้ว่าหากพบปัญหาอะไรเมื่ออยู่ด้านนอกสามารถมาหาฉันได้! แต่ฉันขอแนะนำให้นายทบทวนข้อเสนอของฉันอีกรอบ ทุกวันนี้โลกของเราเปลี่ยนไปแล้วเราต้องรวมตัวกันอยากเป็นครอบครัวเพื่ออาศัยอยู่ในเขตทหารเหลียนเฉิง”
เมื่อเห็น ซูหยวน ผู้เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน หลินเฉิง ได้แต่ส่ายหัว ดูเหมือนชายคนนี้จะเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานสมแล้วที่เป็นพวกเดียวกับ เต๋าไค่
แต่ หลินเฉิง ไม่สนใจการแข่งขันอำนาจหรือผลกำไรใดๆเขาจึงส่ายหัวและปฏิเสธอีกครั้ง
“ผมได้อธิบายอย่างชัดเจนแล้วว่าผมไม่สนใจเรื่องนี้!และที่สำคัญผมจะไม่ปักหลักอยู่ที่ค่ายทหารเหลียนเฉิง เป็นระยะเวลานาน การที่ผมมาที่นี่ผมมีภารกิจบางอย่างดังนั้นพวกคุณไม่จำเป็นจะต้องคิดถึงผม หวังว่าพวกคุณจะหาพักพวกคนใหม่ได้ในเร็วๆนี้!”
หลังจากฟังคำพูดของ หลินเฉิง ซูหยวน เองก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ทันทีที่ หลินเฉิง ดึงประตูเตรียมที่จะออกไป ซูฉิน ก็พูดขึ้นว่า
“พรุ่งนี้นายจะออกไปพร้อมกับพวกเราไหม?”
หลินเฉิง พยักหน้าและพูดว่า
“แน่นอน สิ่งที่ผมชอบที่สุดก็คืออยู่เฉยๆโดยไม่ต้องทำอะไร และถูกปกป้องด้วยคนอื่นที่มีปืน!”
เมื่อพูดเสร็จหลินเฉิงไม่ลังเลที่จะเบียดผู้คนออกจากบาร์
หลินเฉิง เดินออกมาบนถนนที่มืดมิดและสูดลมหายใจลึก อากาศข้างนอกดูเหมือนจะดีกว่าข้างในบาร์เป็นอย่างมาก จากนั้นเขาโยนเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นในบาร์ทิ้งไปและกำลังนึกถึง มู่หยิงเสวี่ย และโคล่าพวกเขาอยู่ที่ไหน
หลินเฉิง กลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุกับหญิงสาว เขารีบตรงไปยัง ซุปเปอร์มาเก็ต ซึ่งเห็น มู่หยิงเสวี่ย อยู่ที่นั่นเป็นครั้งสุดท้าย หลังจากที่อาศัยแสงเทียนจากผู้รอดชีวิตคนอื่นๆที่นอนอยู่ในซุปเปอร์มาร์เก็ต ในที่สุดเขาก็พบ มู่หยิงเสวี่ย ที่กำลังนอนกับ หลิวยูฉิน อยู่มุมห้อง
“ตื่น ตื่นได้แล้ว!”
หลังจากถูกเขย่าหลายครั้ง มู่หยิงเสวี่ย ลืมตาขึ้นและหลังจากเห็นว่าคนที่ปลุกเธอนั้นเป็น หลินเฉิง เธอก็ร้องไห้ออกมา
เมื่อ หลินเฉิง เห็นดังนั้นเขาจึงพูดว่า
“ ถ้าคุณยังร้องไห้อยู่แบบนี้ผมจะทิ้งคุณไว้ที่นี่แล้วไปค่ายทหารเหลียนเฉิงเพียงคนเดียว!”
เมื่อ มู่หยิงเสวี่ย ได้ยินดังนั้นเธอรีบเช็ดน้ำตาของเธอแล้วคว้าแขนของ หลินเฉิง จากนั้นพูดด้วยความกังวลว่า
“ นายหายไปนานมาก!และดูเหมือนว่า ..รถของพวกเราจะถูกขโมยไปแล้ว!ฉันเดินหาตั้งหลายรอบแต่ก็ยังไม่พบ!”
เมื่อ หลินเฉิง ได้ยินว่า มู่หยิงเสวี่ย พูดถึงรถ G 65 ของเขา เขาจึงนึกขึ้นมาได้ว่าหลังจากที่เขาจอดรถ เขากลัวที่จะเกิดเหตุเช่นเดียวกับ ฉูไต๋เกอ ดังนั้นในตอนที่ มู่หยิงเสวี่ย กำลังไปสอบถามข่าวคราวเกี่ยวกับ ฉีรุย หลินเฉิง จึงเก็บรถเป็นแคปซูล เมื่อคิดได้ดังนั้น หลินเฉิงจึงตบไหล่ ของมู่หยิงเสวี่ยเพื่อปลอบโยนเธอและพูดว่า
“รถยนต์ของพวกเรายังอยู่ผมกลัวว่าใครบางคนจะขโมยไปจึงขับมันไปซ่อน เอาล่ะคุณรออยู่ที่นี่เดี๋ยวผมจะไปขับมันมา!”
เมื่อได้ยิน หลินเฉิง พูดว่ารถไม่ได้หายไปมู่หยงเสวี่ยรู้สึกโล่งใจและรีบบอกให้ หลินเฉิง ไปเอารถมาเพราะเธอกลัวว่าจะมีคนขโมยมันไป
หลินเฉิง รู้สึกขบขันเมื่อเห็นปฏิกิริยาของหญิงสาว เขาเดินออกจากซุปเปอร์มาร์เก็ตและซ่อนตัวอยู่ที่มุมหนึ่งจากนั้น นำแคปซูลรถยนต์ออกมาเปลี่ยนเป็นรถยนต์ G65 และขับรถมายังประตูซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อพบกับ มู่หยิงเสวี่ย จากนั้นเขาขับรถรอบเมืองเป็นครึ่งวงกลมก่อนจะนำรถไปจอดไว้ที่ซอยแห่งหนึ่ง
เมื่อเห็นว่า หลิวยูฉิน กำลังนอนอยู่บนเบาะหลังพร้อมกับโคล่า หลินเฉิง ขมวดคิ้วและถามมู่หยิงเสวี่ยว่า
“เด็กคนนี้หมายความว่าไง?”
เมื่อเห็น หลินเฉิง ถาม มู่หยิงเสวี่ย ตอบอย่างลังเลว่า
“เธอ….พ่อแม่ของเธอตายแล้วและไม่มีใครดูแลเธอ…ดังนั้นฉันจึงคิดว่า….”
“เธอต้องการพาเด็กคนนี้ไปด้วยอย่างนั้นหรอ?เธอดูแลเด็กคนนี้ได้อย่างนั้นหรอ”
เมื่อได้ยินคำพูดของ หลินเฉิง มู่หยิงเสวี่ย พยายามรวบรวมความกล้าหาญและพูดว่า
“ ฉัน..ฉันจะพยายามทำให้ดีที่สุด!อย่างไรก็ตามพวกเราจะถึงเหลียนเฉิงในเร็วๆนี้ ตราบใดที่ฉันพบกับลุงของฉัน ฉันก็จะสามารถดูแลเธอได้อย่างดี!”
หลินเฉิง ส่ายหัวอย่างไร้ประโยชน์ และไม่พูดสิ่งใดอีก อย่างไรก็ตามพวกเขาจะไปถึงเขตทหารเหลียนเฉิงในวันพรุ่งนี้ และเมื่อไปถึงที่นั่นสองคนนี้จะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาอีก ตราบใดที่เขาได้รับข่าวจากมู่หวู่หยวน เขาไม่จำเป็นต้องดูแลผู้หญิงและเด็ก 2 คนนี้อีกต่อไป
ในตอนขับรถรอบเมือง หลินเฉิง ได้ตรวจสอบและพบว่าไม่พบอันตรายเขาจึงล็อคประตูและเปิดเครื่องทำความร้อนก่อนที่จะนอนหลับ
…..
“ สาวน้อยการที่เธอจ้องมองฉัน ต้องการจะพูดอะไรอย่างนั้นหรอ!”
เช้าวันต่อมา หลินเฉิง เปิดประตูรถและนั่งอยู่บนเก้าอี้เพื่อให้อาหารโคล่าในขณะเดียวกันเขาก็เห็น หลิวยูฉิน กำลังจ้องมองเขาตั้งแต่เธอตื่นขึ้นมา
เมื่อได้เห็นว่า หลินเฉิง จ้องมองเธอ หลิวยูฉิน ตัวสั่นสะท้านแล้วพูดอย่างหลังเลว่า
“พ่อ…พ่อของหนูอยู่ไหน”
“อะไร?เธอคิดถึงเขาอย่างนั้นหรอ?”เมื่อเห็นเด็กผู้หญิงตัวน้อยลังเลที่จะพูด หลินเฉิง จึงถามขึ้นอย่างติดตลก
เมื่อ หลิวยูฉิน ได้ยินคำพูดของ หลินเฉิง ร่างกายของเธอสั่นอีกครั้งเธอส่ายหัวอย่างรวดเร็วเพื่อปฏิเสธคำพูดของ หลินเฉิง เมื่อ หลินเฉิง เห็นดังนั้นเขาจึงยิ้มและพูดว่า
“ไม่ต้องห่วง เขาจะไม่มารบกวนเธออีก!”
หลิวยูฉิน ไม่รู้ถึงความหมายที่ หลินเฉิง ต้องการจะสื่อ เธอเพียงคิดว่าพ่อนิสัยเสียของเธอได้รับการสั่งสอนจาก หลินเฉิง และไม่กล้าปรากฏตัวอีกต่อไป จากนั้นหญิงสาวพูดด้วยสีหน้ากังวลว่า
“ถ้าอย่างนั้น…แล้วหนู…”
หลินเฉิง เห็นสายตาขอความช่วยเหลือจากเด็กน้อย เขาถอนหายใจและพูดว่า
“ไม่ต้องกังวลไป พี่สาวคนสวยของเธอตัดสินใจจะพาเธอไปด้วยและนับตั้งแต่นี้ไป เธอต้องปฏิบัติตัวให้ดีอย่าเป็นภาระให้กับพี่สาวเข้าใจไหม!”
เมื่อได้ยินคำพูดของ หลินเฉิง หลิวยูฉิน พยักหน้าอย่างรวดเร็ว จากนั้นเธอนึกอะไรบางอย่างและพูดขึ้นว่า
“หนู…หนูจะหาอาหารด้วยตัวเองหนูจะไม่รบกวนพี่สาวเลย!”
หลินเฉิง ได้ยินดังนั้นเขาหัวเราะเบาๆและโบกมืออย่างไม่สนใจ จากนั้นหันกลับไปให้อาหารโคล่าต่อ….
——————————————-