ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 85
จากนั้น รั่วเหมิง ก็พูดอย่างไม่ใส่ใจว่า
“ทีนี้ฉันก็สามารถพูดได้เต็มปากแล้วว่าคุณเป็นลูกค้าคนหนึ่ง น้องชายคุณเป็นคนโชคดีมากและพี่สาวคนนี้แค่ต้องการที่จะช่วยคุณ!”
“ขอบคุณมากๆ แต่คุณไม่กลัวว่าหลังจากที่ผมออกไปแล้ว สถานที่แห่งนี้ของคุณจะมีปัญหาอย่างนั้นหรอ?”
“ฮ่า ฮ่า คุณไม่ใช่มือใหม่คนแรกที่เข้ามายังสถานที่แห่งนี้ และไม่ใช่คนแรกที่มีความคิดจะเปิดเผยสถานที่แห่งนี้ ดังนั้นหยุดสร้างปัญหาให้กับตัวเองจะดีกว่า!”
หลังจากนั้นหญิงสาวมองไปที่ หลินเฉิง อย่างดึงดูด แต่น่าเสียดายดวงตาที่มีเสน่ห์ของเธอกลับไม่สามารถส่งถึง หลินเฉิง ได้ หลินเฉิง ยังคงแสดงออกยังเฉยชาและพูดตรงๆว่า
“ ขอบคุณมากที่พาผมมาที่นี่ แต่มันคงถึงเวลาที่ผมจะต้องกลับไปพักผ่อนแล้ว โปรดพาผมออกไป!”
หลังจากได้ยิน หลินเฉิง พูดว่าเขาต้องการออกไปจากที่นี่ทำให้รอยยิ้มของ รั่วเหมิง แข็งค้างและพูดว่า
“เพิ่งเข้ามาเองคุณจะรีบไปไหน?มีอีกหลายสิ่งที่คุณยังไม่ได้เห็นและคุณต้องการที่จะรับการ์ดหรือไม่?ฉันจะคิดค่าเช่าพิเศษสำหรับคุณจริงๆ!”
หลินเฉิง ส่ายหัวและพูดว่า
“ไม่ล่ะ ผมมีสิ่งอื่นที่จะต้องทำ สำหรับเรื่องการ์ด….คงต้องเป็นครั้งต่อไป!ผมไม่มีสิ่งใดที่จะนำมาแลกเปลี่ยนด้วย ถ้าผมมีสิ่งที่ต้องการแลกเปลี่ยนผมจะมาที่บาร์อีกครั้งเพื่อพบคุณ”
รั่วเหมิง ค่อนข้างรู้สึกอึดอัดใจ
“คุณเป็นผู้ชายจริงๆหรือเปล่า ตอนนี้คุณอยู่กับหญิงสาวที่สวยงามอย่างฉัน แต่ตั้งแต่คุณเข้ามาคุณแทบไม่มองฉันเลยเอาแต่เล่นมีดพับนั้นอย่างเดียว หรือว่าคุณจะเป็น….”
เมื่อได้ยินคำพูดของ รั่วเหมิง หลินเฉิง ขมวดคิ้วและพูดว่า
“ คุณจะทดสอบด้วยตัวเองไหมล่ะ? แต่มีสิ่งหนึ่งที่คุณพูดถูก หากผมทำท่าล่วงเกินคุณคงต้องพบเจอกับเหตุการณ์บางอย่าง คุณเป็นนักธุรกิจที่ต้องการติดตามผมในฐานะ มือใหม่ คุณเดินไปรอบๆพร้อมกับช่วยต่อรอง เพื่อให้ผมรู้สึกดีกับคุณ การกระทำของคุณเห็นได้ชัดว่า เป็นการล่อลวงชายหนุ่มที่ไร้เดียงสาเท่านั้น!”
เมื่อได้ยินคำวิเคราะห์ของ หลินเฉิง รั่วเหมิง หัวเราะขึ้นอีกครั้ง
“โอ้ ฟังดูแล้วคุณคงไม่ใช่หนุ่มน้อยไร้เดียงสาอีกต่อไป น่าเสียดายอะไรเช่นนี้ เอาล่ะเรามาเปลี่ยนสถานที่คุยกันดีกว่า”
หลังจากผู้จบ รั่วเหมิง พา หลินเฉิง ไปอีกห้องหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล เธอต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่างจริงๆ แต่การมาของ หลินเฉิง ในครั้งนี้มีจุดประสงค์ที่ชัดเจน เขาต้องการรวบรวมข้อมูลต่างๆ ไม่มีความคิดที่จะฟังคำเพ้อเจ้อของผู้หญิงคนนี้อีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงยืนอยู่กับที่และพูดว่า
“คุณแค่ต้องบอกผมว่า ทำไมคุณถึงเข้าหาผม!ผมมีอย่างอื่นที่ต้องทำ อยู่ที่นี่นานไม่ได้!”
เมื่อเห็น หลินเฉิง พูดว่าเขาต้องการที่จะจากไป รั่วเหมิง ถอนหายใจด้วยความหงุดหงิดแล้วกระซิบว่า
“ฉันอยู่ที่นี่มันนานแล้วไม่เคยเห็นเด็กปากเสียอย่างคุณ อยากรู้อย่างนั้นหรอว่าทำไมฉันถึงเข้าหาคุณ?มันง่ายมากเพราะพลังของฉันคือการมอง!”
การมอง?!
หลินเฉิง ตกใจและทางขึ้นว่า
“มันเหมือนกับตาทิพย์ ที่มองเห็นพันไมล์หรือเปล่า?”
“ตาทิพย์คืออะไร?”
เมื่อได้ยินชื่อแปลกๆจาก หลินเฉิง รั่วเหมิง จึงถามขึ้น เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่รู้จักคำว่าตาทิพย์คืออะไร หลินเฉิง ขมวดคิ้วและถามขึ้นว่า
“คุณสามารถมองเห็นเหตุการณ์ที่อยู่ออกไปหลายพันไมล์ใช่ไหม?”
รั่วเหมิง หัวเราะอย่างขมขื่นและพูดว่า
“ OK! การที่คุณบอกว่าหลายพันไมล์อาจเป็นความสามารถอย่างหนึ่งของคนที่ปลุกพลังได้แต่สำหรับฉันมีความสามารถพิเศษมากกว่านั้น! แม้ว่าฉันไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ออกไปหลายพันไมล์ แต่ตราบใดที่ใช้อย่างถูกต้องฉันสามารถมองทะลุกำแพงหลาย 100 เมตรได้!”
“นี่มัน-”
หลังจากนั้น หลินเฉิง ก็พึมพำเบาๆแล้วพูดว่า
“คุณเห็นผมต่อสู้กับ เฉินฮงหยวน ใช่ไหม”
เมื่อเห็นว่า หลินเฉิง สามารถวิเคราะห์ได้อย่างรวดเร็วมันทำให้ รั่วเหมิง รู้สึกประหลาดใจ
“ ฉันไม่เห็นอะไรมาก ยกเว้นแค่ตอนคุณต่อสู้ ฉันเห็นคุณต่อสู้กับกัปตันเฉิน และสุดท้ายความสามารถของคุณคือจุดสนใจในธุรกิจของเรา..”
“คุณ-”
หลินเฉิง ถอนหายใจอย่างไร้ประโยชน์ทันทีที่ได้ยินคำพูดของ รั่วเหมิง ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็เย็นชาและทางขึ้นว่า
“คุณเห็นอะไรอีกนอกจากเห็นพวกเราต่อสู้กัน”
เมื่อเห็นว่าทัศนคติของ หลินเฉิง เย็นชาและเปลี่ยนแปลงสีหน้าอย่างรวดเร็ว
“ฉันเห็นแค่ว่า ในตอนแรกคุณต่างต่อสู้กันอย่างดุเดือด แต่ทำไมสุดท้ายพวกคุณกลับยอมจับมือกันและพูดคุยราวกลับเป็นฝั่งเดียวกัน เท่าที่ฉันรู้อารมณ์ของกัปตันเฉินไม่ค่อยดีนักนั่นคือเหตุผลที่ฉันต้องการที่จะเข้าใกล้คุณ การมีเพื่อนเป็นคนแข็งแกร่งนั้นเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม”
เมื่อได้ยินคำพูดของ รั่วเหมิง หลินเฉิง พูดอย่างหงุดหงิดว่า
“ผมไม่มีอะไรจะบอกคุณ!แต่เนื่องจากคุณมีพลังในการมองเห็นอีกทั้งยังเป็นนักธุรกิจดังนั้นผมมีบางอย่างที่ต้องการเจรจากับคุณ!”
“ธุรกิจอย่างนั้นหรอ…น้องชายค่าธรรมเนียมของพี่สาวนั้นไม่ใช่ถูกๆระวังนายจะถูกดูดจนแห้ง!”
หลินเฉิง ไม่สนใจมุกตลกของ รั่วเหมิง เขาคิดอยู่สักพักหนึ่งแล้วพูดว่า
“คุณสามารถมองเห็นสถานการณ์ในอาคาร 1 และอาคาร 2 ได้หรือไม่?”
เมื่อได้ยินคำพูดของ หลินเฉิง การแสดงออกของ รั่วเหมิง เปลี่ยนไปทันที
“น้องชาย คุณกำลังเล่นกับไฟ!”
หลินเฉิง ส่ายหัวและพูดว่า
“ไม่ต้องสนใจ เพียงแค่บอกว่าคุณทำได้ไหม?”
รั่วเหมิง ขมวดคิ้วอยู่ สักครู่ เธอกัดฟันแล้วพูดว่า
“ฉันทำได้ แต่ฉันไม่ต้องการทำ! ในเขตทหารนี้พวกเขาทั้งหมดรู้ว่าฉันมีพลังในการมองเห็น หากคุณบุกเข้าไปในอาคาร 1 หรืออาคาร 2 พวกเขาจะโยนเป้าหมายมาที่ฉันทันที!”
หลังจากได้ยินคำปฏิเสธของ รั่วเหมิง หลินเฉิง ไม่แปลกใจ เขาหัวเราะเบาๆแล้วหยิบขวดน้ำหอมออกมาจากกระเป๋าด้านหลังและส่งให้กับ รั่วเหมิง
“ เซียงไน เบอร์ 5?!”
เมื่อได้เห็นขวดน้ำหอมในมือของ หลินเฉิง รั่วเหมิง แทบจะกรีดร้องออกมา
“ ออ มันชื่อว่า เซียงไน อย่างนั้นหรอ ตอนที่ผมเก็บมันไว้ในกระเป๋าผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันจะเป็นของมีค่า…”
เมื่อได้ยินคำอุทานของ รั่วเหมิง หลินเฉิง รู้สึกดีใจ ในตอนที่เขาเก็บกวาดสิ่งของโดยแคปซูล เขากวาดสินค้าจนหมดเกลี้ยงและต่อมาเขาพบว่ามีสิ่งนี้ติดมาด้วย เขาขี้เกียจเกินไปที่จะโยนมันทิ้งจึงเก็บมันไว้ในแคปซูลตลอดและไม่คาดคิดว่าวันนึงมันจะมีประโยชน์
รั่วเหมิง รีบคว้าขวดน้ำหอมไว้อย่างรวดเร็ว เธอจ้องมองมันอย่างหลงใหลเป็นเวลานานก่อนที่จะถอนหายใจและพูดว่า
“แม้ว่าฉันจะพอคาดเดาได้ว่าคุณต้องการอะไร นี่มันเป็นปัญหาใหญ่จริงๆ…เฮ้อ…เอาล่ะพูดมา…ว่าคุณต้องการให้ฉันช่วยหาใคร?”