ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 87
หลินเฉิง ลุกขึ้น และดึงซองบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าของเขาจากนั้นยื่นให้กับ รั่วเหมิง ด้วยความปวดใจและพูดว่า
“ผมมีบุหรี่อยู่ 2 ชนิด บุหรี่ชนิดนี้มีค่าเท่าไหร่ผมคงไม่จำเป็นต้องบอกคุณ และไม่มีอะไรในตัวผมมีค่าเท่ากับบุหรี่ชนิดนี้แล้ว ดังนั้นนี่คือสิ่งที่ผมพอจะชดเชยให้กับคุณได้…”
หลังจากที่เห็นหญิงสาวตกตะลึงอยู่นั้น หลินเฉิง พยักหน้าให้กับเธอพร้อมกับส่งห่อบุหรี่ให้ จากนั้นเขาพร้อมที่จะเดินจากไป
“เดี๋ยวก่อน!”
เมื่อเห็นว่า หลินเฉิง กำลังจะจากไปเธอจึงพูดขึ้นว่า
“ฉันยอมรับบุหรี่ของคุณ เรื่องที่ผู้หญิงสวยอย่างฉันจะได้รับของขวัญที่มีค่าที่สุดนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่อย่าเพิ่งไป ฉันมีข้อมูลบางอย่างที่จะบอกคุณ!”
“ข้อมูลอะไรอย่างนั้นหรอ?”
หลินเฉิง รู้สึกสับสนเขาเดินกลับมาถามอีกครั้ง
“ในตอนที่ฉันกำลังค้นหา มู่หวู่หยวน ฉันเห็นบางอย่าง ฉันไม่รู้ว่าทำไมคนเหล่านั้นถึงกล้าทำเรื่องแบบนี้ แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าฉันมีความสามารถในการมองเห็น แต่พวกเขาไม่สนใจเลย”
ในขณะที่ รั่วเหมิง พูดในดวงตาของเธอมีร่องรอยแห่งความหวาดกลัว
“พวกเขา…พวกเขาดูเหมือนกำลังทดลองกับมนุษย์!”
การทดลองมนุษย์?!
เมื่อได้ยินคำพูดที่น่ากลัวนี้ หลินเฉิง เหงื่อตกทันที ก่อนจะถึงวันสิ้นโลกเขามักเคยได้ยินเรื่องราวที่น่าสนใจบางอย่างเช่น คนบางคนถูกเอาตัวไป แต่ทุกคนคิดว่ามันเป็นเพียงแค่เรื่องตลกและไม่คาดหวังว่าจะมีจริงๆ
หลินเฉิง พูดขึ้นด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า
“คุณแน่ใจหรือเปล่า?”
รั่วเหมิง ส่ายหัวอย่างไร้จุดหมายและพูดว่า
“ฉันเองก็ไม่อยากให้มีเรื่องแบบนี้ แต่ความจริงก็คือ ในอาคารชั้น 1 นั้นฉันพบว่ามีทหารลาดตระเวนอยู่ทุกชั้นและภายในนั้นพวกเขากำลังทดลองกับมนุษย์!คุณต้องระวังตัวเอาไว้..”
หลินเฉิง พยักหน้าขอบคุณอีกครั้งจากนั้นเขาออกจากบาร์ทันที
เกล็ดหิมะที่ร่วงโรยมาจากท้องฟ้ากำลังเปลี่ยนเป็นชั้นหิมะบางๆ แอลกอฮอล์ที่ หลินเฉิง ได้ดื่มไปก่อนหน้านี้ได้จางหายไปเกือบหมดแล้ว บนถนนยังเต็มไปด้วยผู้รอดชีวิตคนอื่นๆกระจัดกระจายอยู่ ในทางตรงกันข้ามทีมลาดตระเวนกำลังลาดตระเวนเส้นทางด้วยไฟฉาย
หลินเฉิง จุดบุหรี่ขึ้นแล้วเดินไปบนหิมะโดยไม่สนใจการลาดตระเวนของทหาร ทหารเองก็ไม่ได้สนใจเขาเช่นกัน พวกเขาเดินผ่านไปมา หลังจากผ่านไปนานกว่า 20 นาทีในที่สุดก็มาถึงบริเวณอาคาร 1
หลังจากที่มาถึงที่นี่ หลินเฉิง ไม่เลือกที่จะปรากฏตัวอยู่บนถนนอีกต่อไปเขาสูดลมหายใจลึกและเพิ่มความเร็วในการวิ่งไปทางด้านหลังของอาคาร 1 ทันที แม้แต่รอยเท้าของเขาก็ไม่ปรากฏให้เห็น มีเพียงรอยเล็กน้อยซึ่งหิมะที่ตกลงมาได้ปกปิดร่องรอยเหล่านั้นอย่างสมบูรณ์
หลังจากที่ หลินเฉิง วิ่งมาทางด้านหลังของอาคาร หลินเฉิง ได้เงยหน้าขึ้นมองและเห็นว่าด้านบนอาคารนั้นมีเครื่องปรับอากาศหลายแถว เขาคำนวณในใจจากนั้นคุกเข่าพร้อมกระโดดขึ้นอย่างแรง เขาสามารถยึดจับเครื่องปรับอากาศบนชั้น 2 ได้อย่างง่ายดาย
หลังจากปีขึ้นไปบนเครื่องปรับอากาศบนชั้น 2 หลินเฉิง พยายามก้มตัวลงและฟังอย่างระมัดระวัง หลังจากเห็นว่าฉากหลังหน้าต่างไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปและยังคงมืดสนิท หลินเฉิง หยุดสักครู่ก่อนที่จะกระโดดขึ้นไปเรื่อยๆหลังจากนั้นไม่นานเขาก็กระโดดมาถึงเครื่องปรับอากาศบนชั้น 4
หลังจากที่กระโดดมาถึงบนชั้นนี้ หลินเฉิง ไม่กล้าที่จะกระโดดขึ้นอีกต่อไป เพราะมีแสงอยู่เหนือศีรษะของเขาแสดงให้เห็นว่ามีใครบางคนอยู่ในห้องบนชั้น 5 เขาแค่อยากจะแอบเข้าไปช่วยเหลือ มู่หวู่หยวน ดังนั้นเขาไม่ควรที่จะส่งเสียงดังมากเกินไป
เมื่อผลักหน้าต่างเข้าไปด้านในเขาพบว่ากระจกปิดอย่างแน่นหนาดังนั้น หลินเฉิง ทำได้เพียงดึงมีดออกมาและตัดกระจกเท่านั้น
มีเสียง แกร็กๆ ที่ไม่ดังมากเกิดขึ้น แต่ในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบมันค่อนข้างที่จะเป็นเสียงที่น่าสงสัย โชคดีที่บนชั้น 4 ไม่มีคนอยู่ ดังนั้นหลังจากตัดกระจกอย่างระมัดระวังแล้ว หลินเฉิง สามารถเข้าไปยังช่องว่างของกระจก จากนั้นค่อยๆเปิดไฟฉายเพื่อตรวจสอบสถานะการภายในห้อง
ห้องนี้มีขนาดประมาณ 40 ตารางเมตร ค่อนข้างเละเทะและไม่มีอะไรมากไปกว่าเครื่องใช้สำนักงานเก่าๆ แต่นั่นคือสิ่งที่เขาต้องการเขาต้องการห้องที่ไม่มีใครสังเกตเห็นเพื่อที่จะแอบเข้าไป
หลินเฉิง ก้มพิงประตูสักพัก เมื่อไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าเขาปิดไฟฉายและค่อยๆจับที่บิดประตูเบาๆจากนั้นเปิดออกไปและคลำเส้นทางขึ้นไปยังชั้นบน
รั่วเหมิง ได้บอกไว้ว่า มู่หวู่หยวน นั้นถูกขังอยู่บนชั้น 10 และมีการป้องกันจากทหารแน่นหนา อีกทั้งสถานที่แห่งนี้ยังมีการทดลองเกี่ยวกับร่างกายมนุษย์ แต่สิ่งนั้นไม่สำคัญสำหรับเขา เขาเป็นห่วงว่าเขาจะขึ้นไปยังชั้น 10 ได้อย่างไรโดยไม่ให้คนที่อยู่แต่ละชั้นพบเขา
หลินเฉิง ขบคิดอย่างรวดเร็วในขณะที่เขาเดินมาถึงบันไดด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าเขาจะได้รับการปรับปรุงร่างกายจากแคปซูล E มันอาจไม่ดีเท่ากับการปลุกพลังแต่มันยังคงช่วยให้เขาสามารถมองเห็นในที่มืดได้อย่างชัดเจน ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องเดินชนสิ่งของหลายครั้ง เขาพยายามเดินเลี่ยงสิ่งกีดขวางเหล่านี้ก่อนจะไปถึงบันได
หลินเฉิง มองเห็นแสงสลัวๆตรงมุมบันได เขาระวังตัวมากขึ้นและค่อยๆย่องขึ้นไปบนชั้น 5 มีทหารลาดตระเวนไปมาบนชั้นนี้ แม้ว่าเขาไม่มั่นใจที่จะจัดการกับคนเหล่านี้ได้ในทันทีแต่ด้วยความแข็งแกร่งของเขาไม่ใช่เรื่องยากที่จะวิ่งหนี
หลินเฉิง ขยับอย่างช้าๆและเห็นว่าบนชั้น 5 มีประตู 1 ที่มีแสงลอดผ่านออกมา หลินเฉิง เห็นทีมลาดตระเวนผ่านมาเขารีบหลบอยู่ด้านหลังของประตูอีกบานทันที หลังจากเสียงฝีเท้าผ่านไป หลินเฉิง รอประมาณ 10 นาทีก็พบว่าทีมลาดตระเวนกลับมาอีกครั้ง
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ชั้นนี้จะมีทีมลาดตระเวน ผ่านมาครั้งละ 10 นาทีเนื่องจากพื้นที่ของอาคาร 1 นั้นกว้างใหญ่พวกเขาเป็นทีมลาดตระเวนทีมเดียวและเดินลาดตระเวนเป็นวงกลม ดังนั้น หลินเฉิง จะ ใช้ประโยชน์จากการกระทำของพวกเขา
หลังจากที่ทีมลาดตระเวนเดินออกไป หลินเฉิง รีบเปิดประตูออกอย่างช้าๆ หากคิดตามผู้ออกแบบอาคารแห่งนี้ หลินเฉิง คิดว่าประตูของชั้นถัดไปจะต้องอยู่ตำแหน่งเดียวกันกับที่เขาออกมา หากเขาไม่เข้าใจกฎของเวลาที่เหมาะสมในการเดินลาดตระเวนของทีมสำรวจบางทีเขาอาจจะ “บังเอิญ”พบกับทีมสำรวจอย่างแน่นอน
แต่ตราบใดที่การลาดตระเวนเหล่านี้ยังคงดำเนินไปเช่นเดียวกับชั้นนี้ เขาจะสามารถหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ!