ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 13 เก็บศพต่อไป
ตอนที่ 13 เก็บศพต่อไป
“ตามไป!”
จางชุ่ยซานเพิ่งจะหนีไป หลวงจีนที่ถือไม้ขักขระก็ออกคำสั่งแล้ว NPC ทั้งเจ็ดแห่งเส้าหลินก็ไล่ตามไปทันทีเช่นกัน
เยี่ยเว่ยหมิงตั้งอกตั้งใจสร้างสถานการณ์ให้เจรจากัน แต่ชั่วประเดี๋ยวเดียวคนก็จากไป ในสำนักคุ้มภัยเหลือผู้เล่นอยู่แค่ยี่สิบเอ็ดคน เปลี่ยนเป็นฉากที่น่าอึดอัดในชั่วพริบตาเดียว
ในตอนนี้ หลวงจีนผอมแห้งรูปหนึ่งที่ติดตามอยู่ข้างหลังบะหมี่หมั่นโถวพลันเอ่ยขึ้นว่า “พี่ใหญ่หมั่นโถว ไม่สู้พวกเรากวาดล้างพวกเขาออกจากสนามก่อน จะได้ไม่ถูกพวกเขารบกวนภารกิจในตอนหลัง”
บะหมี่หมั่นโถวหันไปมองอีกฝ่ายปราดหนึ่ง ตามด้วยหันมาบอกเยี่ยเว่ยหมิงว่า “สหายเว่ยหมิง ตอนนี้น้องชายมี ‘เคล็ดกระบี่ลมหวน’ ระดับต้นเล่มหนึ่ง ยินดีมอบเคล็ดกระบี่นี้ให้ แลกกับให้เจ้าละทิ้งภารกิจนี้เป็นอย่างไร”
อันที่จริง จากการวิเคราะห์ของเยี่ยเว่ยหมิงก่อนหน้านี้ ก็ทำให้พวกเขาส่วนใหญ่เชื่อแล้วว่าผู้ร้ายอาจไม่ใช่จางชุ่ยซาน
แต่นั่นก็ไม่เกี่ยวกับพวกเขา ตราบใดที่พวกเขาช่วย NPC สำนักเส้าหลินจัดการตัวจางชุ่ยซานได้ พวกเขาก็จะได้รับรางวัลภารกิจแล้ว ดังนั้นความจริงของเรื่องนี้จึงไม่ได้สำคัญกับพวกเขา
และสาเหตุที่พวกเขาต้องการ ‘จัดการ’ ศิษย์สำนักอู่ตังที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ก็เพียงเพราะอยากจะกวาดล้างคู่ต่อสู้ที่ทำภารกิจชนกับตัวเองก็เท่านั้น มีแต่ต้องทำอย่างนี้ พวกเขาถึงจะร่วมมือกับ NPC จับกุมจางชุ่ยซานได้
ส่วนที่บอกว่าความสามารถของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันมาก นั่นก็ยิ่งไม่ใช่ปัญหาแล้ว
เพราะในเกม ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’ NPC แบ่งเป็นโหมดสภาพปกติกับโหมดภารกิจ เมื่ออยู่ในโหมดภารกิจ เลเวลของ NPC กับค่าสเตตัสด้านอื่นๆ จะไม่สูงกว่าผู้เล่นที่ทำภารกิจมากนัก แต่หลังจากตายแล้วจะฟื้นคืนชีพ สิ่งที่ดรอปได้จากตัว NPC เหล่านี้ก็ไม่ต่างกับ BOSS ทั่วไปที่เลเวลพอๆ กัน แม้จะยังสูงกว่าผู้เล่นทั่วไปอยู่มาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีหวัง
ก็เหมือนกับจางชุ่ยซาน เมื่ออยู่ในโหมดสภาพปกติ เขาก็คือ BOSS ใหญ่เลเวล 90 โดยสมบูรณ์ แต่เมื่ออยู่ในภารกิจของวันนี้ เขาก็จะถูกกดให้เหลือประมาณเลเวล 20 ยังสูงไม่เท่าเลเวลของโฉวป้าด้วยซ้ำ แม้ที่จริงความสามารถจะเหนือกว่าโฉวป้า แต่ถ้าผู้เล่นสิบกว่าคนร่วมมือกับ NPC โจมตี ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเสียเลย
ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงย่อมไม่ปล่อยให้พวกเขากวาดล้างศิษย์สำนักอู่ตังออกจากสนามอยู่แล้ว เพราะในสถานการณ์ที่ไม่มีอะไรมาควบคุม เขาไม่คิดว่าผู้เล่นเส้าหลินพวกนั้นจะใช้เหตุผลพูดคุยกับเขาอย่างใจเย็นต่อไป
เยี่ยเว่ยหมิงยิ้มบางๆ ให้ แล้วโบกมือบอกว่า “ความจริงของเรื่องนี้ยังรอการตรวจสอบ ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ภารกิจของข้าครั้งนี้มีบทลงโทษจากภารกิจล้มเหลวที่ร้ายแรงมาก ข้าคิดว่าทุกคนสืบความจริงจะดีกว่า”
บะหมี่หมั่นโถวได้ยินแล้วขมวดคิ้ว แต่จากนั้นก็ยิ้มอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมาอีก “ในเมื่อสหายเว่ยหมิงยืนกรานขนาดนี้ เช่นนั้นก็ทำตามที่เจ้าบอกก็แล้วกัน ถ้ามีเบาะแสก็อย่าลืมบอกข้าสักหน่อย ทุกคนสืบหาความจริงด้วยกัน” พอพูดจบ ก็นำกลุ่มผู้เล่นเส้าหลินหันตัวจากไปเลย
หากไม่มีเยี่ยเว่ยหมิง พวกเขาก็พอยอมเจ็บเล็กน้อยเพื่อกวาดล้างผู้เล่นอู่ตังออกจากสนาม แต่เมื่อมีเยี่ยเว่ยหมิงเข้ามาเกี่ยว ก็ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปทันที กลายเป็นว่ากำลังสองฝ่ายสูสีกัน หากต่อสู้กันแล้วตาย พวกเขาก็จะเสียหายไปเกินครึ่ง ในระหว่างการทำภารกิจ การตายจะถือว่าภารกิจล้มเหลว ไม่ว่าใครก็ไม่อยากแบกรับความเสี่ยงนี้ ทุกคนจึงทำได้เพียงถอยคนละก้าว ทำตามที่เยี่ยเว่ยหมิงบอก สืบหาความจริงต่อไป
หลังจากพวกบะหมี่หมั่นโถวออกไปแล้ว อินปู้คุยก็เพิ่มเพื่อนเยี่ยเว่ยหมิง พูดทิ้งท้ายไว้ว่า “หาเวลาคุยกันดีๆ สักหน่อย” แล้วก็นำกลุ่มผู้เล่นอู่ตังออกจากสำนักคุ้มภัยหลงเหมินไป
ภารกิจของผู้เล่นอู่ตังและผู้เล่นเส้าหลิน โดยเฉพาะภารกิจฆ่าศัตรู ไม่สู้ปกป้อง NPC ฝ่ายตัวเองดีกว่า ตอนนี้ NPC ไปแล้ว พวกเขาก็ย่อมไม่อยากอยู่ตรงนี้นาน
ชั่วขณะนั้น สำนักคุ้มภัยหลงเหมินที่ใหญ่โตก็เหลือเพียงเยี่ยเว่ยหมิงกับ…ศพเกลื่อนพื้น!
สายตากวาดมองศพที่อยู่รอบๆ บนใบหน้าเยี่ยเว่ยหมิงเผยประกายแห่งความตื่นเต้นทันที ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว หยิบม้วนเสื่อออกมาเก็บศพแทนพวกเขา!
ได้รับตำราลับ ‘ตระหนักรู้เคล็ดฝ่ามือ’ ×1
ได้รับตะปูเจ็ดดาว ×1
ได้รับตำราลับ ‘ตระหนักรู้กำลังภายใน’ ×1
ได้รับเข็มปากยุง ×1
ได้รับ ‘ตระหนักรู้ฝีมือทำครัว’…
……
วันนี้เป็นวันแห่งการเก็บเกี่ยวจริงๆ ด้วย!
ใช้เสื่อม้วนทีละศพแล้วเก็บเข้ากระเป๋าสะพายหลัง ขณะเดียวกัน ตำราลับตระหนักรู้ต่างๆ ก็ทำให้เขามีแรงขับเคลื่อนเต็มเปี่ยม จนกระทั่งเก็บศพยี่สิบสามร่างเสร็จในอึดใจเดียว เขาถึงได้ต้องหยุดแล้ว
ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากทำต่อ แต่เป็นเพราะกระเป๋าสะพายหลังเต็มแล้ว
กระเป๋าสะพายหลังในเกม ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’ ถูกตั้งค่าให้คล้ายแหวนมิติในนิยายแฟนตาซี ของที่โยนเข้ากระเป๋าสะพายหลังจะไม่ได้รับผลกระทบด้านน้ำหนัก แต่จุดที่แตกต่างกันก็คือ ความจุของพวกเขาไม่ได้นับตามปริมาตรของไอเทม แต่นับตามช่อง
ค่าสเตตัสบางอย่างก็เป็นไอเทมที่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่นยาเม็ดประเภทเดียวกัน เก็บซ้อนในกล่องเดียวกันได้ ส่วนไอเทมที่เป็นอุปกรณ์ แต่ละชิ้นก็จะกินพื้นที่ไปหนึ่งช่อง เช่นเสื่อที่เยี่ยเว่ยหมิงใช้เก็บศพ มากสุดซ้อนกันได้เก้าร้อยเก้าสิบเก้าผืน กินพื้นที่กระเป๋าสะพายหลังไปแค่หนึ่งช่องเท่านั้น ก็เก็บรวบรวมศพไว้ด้วยกันได้ แต่ตำราลับตระหนักรู้ที่รื้อค้นออกมาได้ แต่ละเล่มกลับกินพื้นที่หนึ่งช่อง
กระเป๋าสะพายหลังของเยี่ยเว่ยหมิงมีแค่หกสิบสี่ช่อง ถ้าตัดไอเทมจำเป็นบางอย่างที่ซื้อไว้ก่อนหน้านี้ไปแล้ว ก็ยังเหลือช่องว่างอยู่เกือบห้าสิบช่อง ทว่าการจะเก็บศพหนึ่งร่าง กลับต้องกินพื้นที่สองสามช่อง สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาก็แบ่งเป็นร่างศพ ตำราลับตระหนักรู้ รวมทั้งอาวุธลับไม่กี่อย่าง
อาวุธลับนั้นทำความเข้าใจได้ไม่ยาก นั่นคือของที่ตอกอยู่บนศพอยู่แล้ว นับเป็นหลักฐานในชั้นศาลได้เช่นกัน แต่ไอเทมลับที่สกิลเวทบรรจุศพแนะนำไว้ ทำไมถึงเป็นตำราลับตระหนักรู้หมดเลยล่ะ
อย่าบอกนะว่าสิ่งที่เรียกว่าไอเทมลับ ทั้งหมดเป็นงานเขียนตำราลับตระหนักรู้?
เยี่ยเว่ยหมิงตรวจนับของในกระเป๋าสะพายหลังของตัวเองด้วยความสงสัย รวมแล้วได้ตำราลับตระหนักรู้ยี่สิบเอ็ดเล่ม อัตราดรอปได้สูงมาก
ถ้าแยกโดยละเอียดก็แบ่งเป็น
‘ตระหนักรู้กำลังภายใน’ หกเล่ม
‘ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่’ สองเล่ม
‘ตระหนักรู้เคล็ดวิชาดาบ’ สามเล่ม
‘ตระหนักรู้เคล็ดฝ่ามือ’ สี่เล่ม
‘ตระหนักรู้วิชาตัวเบา’ สองเล่ม
‘ตระหนักรู้วิชากระบอง’ สองเล่ม
‘ตระหนักรู้ฝีมือทำครัว’ หนึ่งเล่ม
‘ตระหนักรู้วิชาแพทย์’ หนึ่งเล่ม
ตำราตระหนักรู้ทักษะยุทธ์ที่อยู่ตรงหน้า ไม่ต่างกับที่ค้นได้จากศพผู้เฒ่าหลี่และโฉวป้าก่อนหน้านี้เท่าไรนัก เพียงแต่ระดับประสบการณ์เพิ่มขึ้นเยอะมาก ค่าสเตตัสของสองเล่มหลังสุดนี้แบ่งเป็น
ตระหนักรู้ฝีมือทำครัว: บันทึกความรู้ประสบการณ์ฝีมือทำครัวของฮูหยินเจ้าสำนักคุ้มภัยหลงเหมิน หลังจากใช้งานแล้วจะเพิ่มระดับความชำนาญฝีมือทำครัว 400 แต้ม
ตระหนักรู้วิชาแพทย์: ความรู้และประสบการณ์รู้วิชาแพทย์ของคนงานในสำนักคุ้มภัยหลงเหมิน หลังจากใช้งานแล้วจะเพิ่มระดับความชำนาญวิชาแพทย์ 86 แต้ม
ของสองอย่างนี้ ใช้งานได้โดยตรง?
ไม่มีอะไรต้องพูดแล้ว เขาคลิกใช้งานเสียเลย ได้ยินเสียงระบบแจ้งเตือนสองรายการทันที
[ติ๊ง! ระดับความชำนาญฝีมือทำครัวของคุณเพิ่ม 400 แต้ม อัปฝีมือทำครัวถึงเลเวล 2]
[ติ๊ง! ระดับความชำนาญวิชาแพทย์ของคุณเพิ่มขึ้น 86 แต้ม]
พอเปิดอ่านหน้าค่าสเตตัสตัวละคร เยี่ยเว่ยหมิงถึงได้พบว่า ที่แท้แล้วสกิลการดำรงชีวิตของตัวละครล้วนถูกปลดล็อกโดยธรรมชาติ อย่างเช่นวิชาแพทย์ ขุดแร่ ตีเหล็ก ปลูกพืช สกิลที่ควรจะมีก็มีหมด แต่ทั้งหมดล้วนอยู่ใน ‘เลเวล 0’ ถือเป็นระดับของคนนอกวงการโดยสมบูรณ์ แต่ดูท่าแล้ว เหมือนจะไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ทีละสกิล แค่ใช้ระดับประสบการณ์ก็เพิ่มเลเวลของสกิลพวกนี้ได้แล้ว?
ไม่ต้องคำนึงถึงปัญหาสกิลการดำรงชีวิตอีกแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงแบ่ง ‘ตระหนักรู้กำลังภายใน’ หกเล่ม ‘ตระหนักรู้วิชาตัวเบา’ สองเล่ม รวมทั้ง ‘ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่’ สองเล่ม เพิ่มไปที่ ‘เคล็ดชำระปราณ’ ตามด้วย ‘แปดก้าวไล่ทันคางคก’ และ ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ เพิ่มระดับความชำนาญให้สามสกิลนี้ แต่ทั้งหมดยังไม่ถึงระดับที่จะอัปเลเวลได้
จากนั้น เยี่ยเว่ยหมิงก็หยิบ ‘ตระหนักรู้เคล็ดวิชาดาบ’ ออกมาอีกเล่ม
นี่คือตำราเล่มที่คุณภาพสูงที่สุดในบรรดาตำราตระหนักรู้ที่เขาได้มาก่อนหน้านี้
[ตระหนักรู้เคล็ดวิชาดาบ: บันทึกวิชาดาบของตูต้าจิ่น เจ้าสำนักคุ้มภัยหลงเหมิน เมื่อใช้งานวิชาดาบที่กำหนด จะเพิ่มระดับความชำนาญของสกิลนี้ 1600 แต้ม!]
ดูจากค่าตัวเลขของระดับความชำนาญที่ได้รับ ความสามารถของตูต้าจิ่นน่าจะเหนือกว่าโฉวป้า อาจจะถึงขั้นเหนือกว่าโฉวป้าโดยสมบูรณ์ด้วย เพียงแต่น่าเสียดายที่ตระหนักรู้เคล็ดวิชาดาบเล่มนี้ไม่มีประโยชน์ต่อเขา…
ช้าก่อน!
พอนึกถึง ‘ตระหนักรู้ฝีมือทำครัว’ กับ ‘ตระหนักรู้วิชาแพทย์’ ก่อนหน้านี้ ก้นบึ้งหัวใจของเยี่ยเว่ยหมิงก็เกิดความคิดที่กล้าหาญมากบางอย่างขึ้นมาทันที