ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 150 ย้ายจุดอ่อน ก็ยังฆ่าได้เหมือนเดิม!
ตอนที่ 150 ย้ายจุดอ่อน? ก็ยังฆ่าได้เหมือนเดิม!
เมื่อได้เห็นค่าสเตตัสทั้งหมดของอ๋าวป้าย เยี่ยเว่ยหมิงก็ลอบตระหนกในใจ ขณะที่ควงกระบี่พุ่งไปข้างหน้า เขาก็บอกอินปู้คุยอย่างเร็วที่สุดว่า “ค่าสเตตัสของอ๋าวป้ายร้ายกาจกว่าที่ข้าเห็นครั้งก่อนมาก เจ้าระวังตัวเอาเองนะ”
ปากก็พูดไปอย่างนั้น แต่หลังจากได้ประมือกันอย่างจริงจัง เยี่ยเว่ยหมิงถึงได้พบว่า พลังต่อสู้ของอ๋าวป้ายคนนี้เหมือนจะไม่ได้ห้าวหาญเหมือนค่าสเตตัส
แม้ความสามารถโดยรวมของเขาจะเหนือกว่าเยี่ยเว่ยหมิงกับอินปู้คุยเยอะมาก แต่กลับห่างชั้นกับชวีหลิงเฟิงและเหมียวเหรินเฟิ่งที่สร้างผลบดขยี้รอบด้านได้ ขนาดเทียบกับอวี๋ชางไห่ในโหมดภารกิจก่อนหน้านี้ก็ยังเทียบไม่ติดเลย
ด้วยความสามารถของเยี่ยเว่ยหมิงตอนนี้ ก็ใช่ว่าจะสู้กับอีกฝ่ายสักยกไม่ได้
สิ่งเดียวที่ทำให้คนรู้สึกรังเกียจก็คือ พลังป้องกันอันน่ากลัวที่อาวุธฟันแทงไม่เข้าของเขา
ทว่าสำหรับผู้ที่ฝึกวิชาคนหนึ่ง การที่ถูกคนล่วงรู้จุดอ่อนของเขาแล้ว จะยังมีภัยคุกคามมากขนาดไหน
ทางฝั่งผู้เล่น ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ ของเยี่ยเว่ยหมิงก็ย่อมไม่ต้องพูดอะไรมาก ส่วน ‘กระบี่เมฆาละมุน’ ของสำนักอู่ตังที่อินปู้คุยใช้ กลับเป็นวิทยายุทธ์ที่ใช้กลยุทธ์เอาชนะแรง ถนัดเรื่องฉวยโอกาสที่สุด
ขณะที่ทั้งสองร่วมมือกัน อินปู้คุยก็ฉวยโอกาสได้แล้ว กระบี่วิเศษอ้อมศีรษะของอ๋าวป้ายราวกับเป็นงูเทพ ก่อนจะแทงลงไปตรงใต้หว่างขาของเขา
จากนั้นก็เป็นอย่างที่คาดไว้ กระบี่นี้คว้าน้ำเหลวแล้ว
อินปู้คุยเห็นสถานการณ์ดังนั้นก็อึ้งไปเลย ก่อนจะอุทานอย่างตกใจว่า “แม่งเอ๊ย หดจุดหยางเข้าท้อง!”
อ๋าวป้ายกลับใช้สองขาหนีบไว้ ทำให้กระบี่วิเศษในมืออินปู้คุยโดนกักไว้แน่น อีกฝ่ายหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ขณะกำลังจะฉวยโอกาสเยาะเย้ยว่าอินปู้คุยอวดเก่ง เยี่ยเว่ยหมิงกลับถลันตัวมาถึงจุดที่ห่างจากข้างหลังเขาห้าเมตรแล้วไพล่กระบี่อาญาสิทธิ์ในมือขวาไว้ข้างหลัง พร้อมทั้งยื่นมือซ้ายออกมา นิ้วหัวแม่มือและนิ้วกลางดีดลูกเหล็กขนาดเท่าลูกแก้วออกมาลูกหนึ่ง
[ลูกดีดเหล็ก (สีฟ้า): อาวุธลับประเภทลูกแก้วที่ทำจากเหล็กชั้นดี ใช้ได้ดีที่สุดกับอาวุธลับประเภทหนังสติ๊ก]
โจมตี +30
แม่นยำ +10%
(ผู้ประดิษฐ์: เมิ่งถ่าจี๋)
……
นี่คืออาวุธลับที่เว่ยหมิงซื้อจากร้านแผงลอยข้างทางระหว่างที่เดินทางมาจวนลู่ติ่งกง
ทำจากวัสดุเหล็กบริสุทธิ์ แต่เมื่ออยู่ภายใต้แรงเฉื่อย มันจะระเบิดประสิทธิภาพออกมาได้มากกว่า รูปลักษณ์ภายนอกของมันทำให้ควบคุมความแม่นยำได้ง่าย
เมื่อลูกดีดหนึ่งลูกอยู่ในมือ เยี่ยเว่ยหมิงก็เผยรอยยิ้มที่สื่อถึงความมั่นใจในชัยชนะออกมา
วินาทีต่อมา เขาก็กรอกกำลังภายในใส่แล้วดีดออกมาอย่างแรง ภายใต้การเสริมกันของพลังนิ้วและพลังลูกดีดเหล็ก ชั่วพริบตาเดียวลูกดีดก็ฝ่าความเร็วของเสียง มันส่งเสียงคำรามแสบหูขณะเสียดสีกับอากาศ
ก่อนที่ทุกคนจะรู้ตัว มันเล็งถูกปลายกระดูกสันหลังของอ๋าวป้ายอย่างแม่นยำแล้ว
แกร๊ง!
-413!
เมื่อเยี่ยเว่ยหมิงใช้ ‘ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ แบบเต็มกำลัง ก็ยังพอดันทุรังฝ่าเกราะป้องกันของอ๋าวป้ายได้ โจมตีจนเกิดดาเมจสี่ร้อยกว่า ทว่าสำหรับอ๋าวป้ายที่มีพลังชีวิตเจ็ดหมื่นกว่า การโจมตีนี้ก็ยังเหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำอยู่ดี
แต่ก็ไม่เป็นอะไร เพราะเยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้คิดจะอาศัยการโจมตีนี้สร้างความเสียหายอย่างหนักแก่อ๋าวป้ายอยู่แล้ว เขาเพียงอาศัยวิธีการก่อนหน้านี้ ทำลายสถานะหดจุดหยางเข้าท้องของอ๋าวป้ายก็เท่านั้นเอง
เมื่อบนปลายกระดูกสันหลังถูกโจมตีไปหนึ่งครั้ง อวัยวะที่ไม่อาจบรรยายออกมาได้ซึ่งหดอยู่ในท้องของอ๋าวป้ายก็เด้งออกมาทันที ชนบนคมกระบี่ของอินปู้คุยเข้าอย่างจัง
ยังคงเป็นส่วนประกอบดั้งเดิม ยังคงเป็นรสชาติที่คุ้นเคย
คำพังเพยกล่าวเอาไว้ดีมาก: สองคนผัดข้าวด้วยกัน รสชาติก็ยังเหมือนผัดคนเดียว!
แกร๊ง
-1!
ไม่น่าเชื่อว่าจะฝ่าการป้องกันไม่ได้!
เมื่อเห็นว่ายังฝ่าการป้องกันไม่ได้ ดันทุรังทำดาเมจไปได้แต้มเดียว ทั้งสองก็อึ้งไปพร้อมกัน ยังคงเป็นเยี่ยเว่ยหมิงที่รู้ตัวก่อน “ท่าไม่ดีแล้ว! จุดอ่อนของเขาเปลี่ยนไปแล้ว รีบทิ้งกระบี่แล้วหลบ!”
ทว่า คำเตือนของเขาเหมือนจะช้าไปหนึ่งก้าว
ยังไม่ทันรอให้เขาพูดจบ อ๋าวป้ายก็ยกเท้าขึ้นมาข้างหนึ่ง ถีบยอดอกอินปู้คุยโดยทันที
ด้วยอานุภาพของเท้านี้ ได้พรากพลังชีวิตของอินปู้คุยไปแล้วเกินครึ่ง ทั้งยังเตะจนเขากระเด็นออกไปกระแทกกับผนังข้างหลัง จากนั้นถึงได้เด้งตกลงพื้น
จากจุดนี้ก็มองออกได้เช่นกันว่าเลเวลที่เพิ่มสูงขึ้นของอ๋าวป้ายไปแสดงบนพลังป้องกันและค่าพลังชีวิตหมดแล้ว ส่วนในด้านพลังโจมตีกลับไม่เพียงพอให้ปลิดชีพผู้เล่น
เมื่อโจมตีสำเร็จหนึ่งครั้ง อ๋าวป้ายกลับปะทุความดุร้ายออกมา เขาคำรามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด กำลังจะไล่ตามไปพรากชีวิตของอินปู้คุยก่อน
ยังดีที่ตอนเยี่ยเว่ยหมิงเอ่ยเตือนไว้ก่อนหน้านี้ ตัวเองก็ตระหนักได้แล้วว่าไม่ทันการณ์ ขณะที่กล่าวเตือนเขาก็ใช้ท่าร่าง ‘แปดก้าวไล่ทันคางคก’ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ชิงไปขวางตรงกลางระหว่างอ๋าวป้ายกับอินปู้คุยล่วงหน้าก่อนแล้ว
กระบี่อาญาสิทธิ์ที่อยู่ในมือก็โจมตีต่อเนื่องหลายกระบวนท่าเช่นกัน
คืนเดือนมืดฤดูใบไม้ผลิ!
ลมตะวันตกแสงยามสายัณห์!
รินดื่มดาวไถ!
ลมสารทฤดูด่านชายแดน!
ทุกท่าที่เยี่ยเว่ยหมิงใช้ออกมา ล้วนเป็นกระบวนที่ร้ายกาจของ ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ ประกอบกับความแหลมคมของกระบี่มังกรคำราม แต่ผลลัพธ์ที่ได้จากการโจมตีอ๋าวป้ายกลับเป็น…
-1!
-1!
-1!
-1!
……
ระบบยังดันทุรังหักค่าพลังชีวิตให้นิดหน่อยเท่านั้น แต่ยังฝ่าการป้องกันไม่ได้!
เป็นแบบนี้ได้ยังไง
นี่มันไม่สอดคล้องหลักวิทยาศาสตร์!
ด้วยค่าสเตตัสเดิมของเยี่ยเว่ยหมิง บวกกับค่าสเตตัสของกระบี่มังกรคำราม พลังทำลายล้างจากเคล็ดกระบี่ของเขาเมื่อเทียบกับดรรชนีศักดิ์สิทธิ์แล้ว ก็น่าจะต่างกันไม่มาก อย่างน้อยเวลาเคล็ดกระบี่โจมตีจุดสำคัญ ก็ยังได้ผลดีกว่าการสร้างดามเจธรรมดาของดรรชนีศักดิ์สิทธิ์
แต่ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์ของเขาเมื่อครู่นี้โจมตีพรากพลังชีวิตอ๋าวป้ายได้สี่ร้อยแต้มชัดๆ ทำไมพอเปลี่ยนเป็นกระบี่วิเศษแล้วโจมตีฝ่าการป้องกันไม่ได้ล่ะ
ขณที่เยี่ยเว่ยหมิงกำลังแปลกใจ อินปู้คุยกลับเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ จึงถอยไปด้านข้างพร้อมบอกว่า “วิชาที่เขาฝึกคงจะมีผลป้องกันการบาดเจ็บภายนอกที่ยอดเยี่ยมมาก สำหรับพลังป้องกันของกำลังภายในแม้จะร้ายกาจเหมือนกัน แต่ก็ยังเทียบกับอย่างแรกไม่ได้”
เขากล่าวจบก็นำยาฟื้นฟูพลังชีวิตออกมาเม็ดหนึ่งแล้วกลืนเข้าปากไป
ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้!
เนื่องจากก่อนหน้านี้เยี่ยเว่ยหมิงกำลังกังวลอยู่กับการต่อสู้ รวบรวมสมาธิสูงมาก จึงไม่ได้ทำความเข้าใจตรงจุดนี้ ตอนนี้เมื่อได้ยินอินปู้คุยเตือนก็เข้าใจประเด็นสำคัญทันที!
แต่รู้เรื่องนี้ไปก็เหมือนจะไม่มีประโยชน์อะไร
อย่างไรเสีย ด้วยกำลังภายในอันน่าสงสารของเยี่ยเว่ยหมิงตอนนี้ หากใช้ ‘ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ ต่อเนื่องกัน ตอนใช้ครั้งที่เก้ากำลังภายในก็จะหมด ต่อให้นับความเร็วในการฟื้นฟูจากเอฟเฟ็กต์พิเศษ ‘ชำระปราณ’ ของเคล็ดวิชาจักรวาลไปด้วย อย่างมากก็ใช้ได้ต่อเนื่องสิบครั้งเท่านั้น
และทุกการโจมตีของเขา ถ้าโจมตีในจุดธรรมดา ก็จะสร้างดาเมจได้เพียง 400-500 หากโจมตีจุดสำคัญได้แม่นยำ ก็จะทำคริติคอลดาเมจได้ประมาณ 3000
แต่ว่า!
พลังต่อสู้ของอ๋าวป้ายเดิมทีก็ไม่ได้อ่อนแอ ถ้าอยากโจมตีให้เกิดคริติคอลดาเมจ จะทำได้ง่ายเหมือนที่พูดอย่างนั้นหรือ
พูดในอีกกรณีหนึ่ง ต่อให้เขาโจมตีเกิดผลคริติคอลดาเมจทุกครั้ง แต่ก็พรากพลังชีวิตได้เล็กน้อยเท่านั้น!
แม้เขาจะยืดเวลาให้อินปู้คุยได้ ยืดเวลาให้ตัวเองฟื้นฟูกำลังภายในได้รวดเร็ว แต่อ๋าวป้ายที่เป็น BOSS ก็ฟื้นฟูค่าพลังชีวิตโดยอัตโนมัติได้เช่นกัน!
ดูท่าทาง สงสัยจะทำได้เพียงใช้วิธีเก่าแล้ว!
ดังนั้น ขณะที่เยี่ยเว่ยหมิงกำลังรับมือกับอ๋าวป้ายต่อ ก็ฉวยโอกาสใช้ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์เพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้าของสายตาที่เห็นแต่เลขดาเมจ ‘-1 กับ -1…’
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เมื่อเห็นอินปู้คุยฟื้นฟูค่าพลังชีวิตกลับมาเรียบร้อยแล้ว จึงบอกทันทีว่า “เจ้าถ่วงเวลาเขาก่อนสักประเดี๋ยว ข้าจะคำนวณ!”
เมื่อพูดจบ ทั้งสองก็ถือโอกาสส่งต่อ BOSS ให้กันเรียบร้อย อินปู้คุยเริ่มอาศัยเคล็ดกระบี่ของสำนักอู่ตังที่เขาถนัดมารับมือกับอ๋าวป้ายช้าๆ ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงก็เริ่มงอนิ้วคำนวณ
จากนั้นก็เหมือนกับประสบการณ์หลายครั้งก่อน หลังจาก BOSS ได้รับการกระตุ้นจากไท้ซัวเป็นไฉน ก็เริ่มเข้าสู่โหมดสุนัขบ้า พลันกระโจนใส่เยี่ยเว่ยหมิงแล้ว
อินปู้คุยแม้จะพยายามสู้สุดกำลังแล้ว แต่ข้าก็ขัดขวางเขาได้เพียงประมาณสามสิบวินาที
ในเวลาเล็กน้อยเท่านี้ ไม่เพียงพอให้เยี่ยเว่ยหมิงใช้งานเอฟเฟ็กต์ไท้ซัวเป็นไฉนอย่างราบรื่นได้เลย
ขณะเห็นอินปู้คุยถูกอ๋าวป้ายโจมตีจนค่าพลังชีวิตลดลงอีกครั้ง เยี่ยเว่ยหมิงที่ถูกบีบให้หยุดคำนวณ ก็ทำได้เพียงรับ BOSS มาจัดการต่อ ให้อินปู้คุยได้กินยาฟื้นฟูค่าพลังชีวิต
หลังจากอินปู้คุยฟื้นพลังชีวิตกลับมาเต็มแล้ว ก็ส่งอ๋าวป้ายให้เขาจัดการอีกครั้ง
ทำซ้ำอย่างนี้ห้าครั้ง หลังจากเยี่ยเว่ยหมิงรับ BOSS มาจากอินปู้คุยแล้ว กลับแทงบนคอหอยของอีกฝ่ายจนทะลุทันที
-72136
ภายใต้กระบี่นี้ ค่าพลังชีวิตเหนือศีรษะของอ๋าวป้ายก็หายไปในชั่วพริบตาเดียว
ปลิดชีพ!
“นี่มันสถานการณ์อะไรกัน” ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกะทันหันทำให้อินปู้คุยตาค้าง “ก่อนหน้านี้ข้าโจมตีบนคอของอ๋าวป้ายไม่ใช่แค่ครั้งเดียว เป็นไปไม่ได้เลยที่มันจะเป็นจุดอ่อนของเขา เจ้าปลิดชีพเขาได้อย่างไร”
เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วกลับควงเงากระบี่อย่างสง่างาม พร้อมจับภาพค่าสเตตัสส่วนหนึ่งส่งไปให้เขาดูในช่องทีม
[ไท้ซัวเป็นไฉน (สุดยอดวิชา)]
เคล็ดจิตระดับสูงของสำนักไท่ซาน อาศัยความสามารถในการอ่านใจคนที่ทรงพลังเพื่อรู้แผนการของศัตรูล่วงหน้า โจมตีครั้งเดียวศัตรูแตกพ่าย!
เลเวล: 3
ค่าประสบการณ์: 3595/4000
ดาเมจโจมตี +30%
แม่นยำ +30%
คริติคอลดาเมจ +30%
โจมตีจุดสำคัญมีโอกาสปลิดชีพ 5%!