ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 153 ร่างแผนปฏิบัติการ
ตอนที่ 153 ร่างแผนปฏิบัติการ
เมื่อเห็นทุกคนนั่งลงแล้ว หวงโส่วจุนจึงได้เริ่มกล่าวว่า “เมื่อหลายวันก่อนหน้านี้ พวกเราได้รับรายงานมาจากหน่วยงานท้องถิ่นว่าพบศพสองศพนอกเมืองลั่วหยาง หลังจากผ่านการชันสูตรศพยืนยัน ก็พบว่าผู้ตายคือหัวหน้าสำนักคุ้มภัยฝูเวย หลินเจิ้นหนานกับฮูหยิน”
หลินเจิ้นหนานกับฮูหยินตายแล้ว!
เมื่อได้ยินหวงโส่วจุนประกาศข่าวอันน่าตกใจนี้ เยี่ยเว่ยหมิงกับเฟยอวี๋ก็มองหน้ากันเลิกลั่ก ขณะเดียวกัน พวกเขาก็พบว่าซานเย่ว์ที่นั่งอยู่ตำแหน่งท้ายสุดไม่เพียงแค่ไม่เผยสีหน้าตกใจใดๆ นางยังเผยสีน่าภาคภูมิใจเล็กๆ ออกมาด้วย
หลังจากสังเกตเห็นจุดนี้แล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็เปิดช่องทีมในหน้าอินเตอร์เฟสระบบทันที ปลดทีมชั่วคราวระหว่างเขากับอินปู้คุยออกก่อน จากนั้นส่งคำขอตั้งทีมให้เฟยอวี๋กับซานเย่ว์
[ติ๊ง! ซานเย่ว์เข้ามาอยู่ในทีมของคุณแล้ว]
[ติ๊ง! เฟยอวี๋เข้ามาอยู่ในทีมของคุณแล้ว]
ตอนนี้พลันได้ยินหวงโส่วจุนเอ่ยต่อว่า “ตอนหลัง ข้าให้คนของจวนขุนนางท้องถิ่นนำศพมาส่งที่สำนักมือปราบเทพ หลังจากให้หลินผิงจือซึ่งเป็นบุตรชายของหลินเจิ้นหนานยืนยันตัวตนเอง ตรวจสอบศพด้วยตัวเองพร้อมกับใต้เท้าซ่งในห้องชันสูตร ข้อสรุปที่ได้ก็คือ สองศพนี้เป็นหลินเจิ้นหนานกับฮูหยินจริงๆ ส่วนสาเหตุการตายของพวกเขา ก็คือถูกพลังฝ่ามือโจมตีหัวใจแตกตาย”
หลังจากชะงักไปครู่เดียว หวงโส่วจุนก็กล่าวเสริมอีกว่า “ข้าถึงขั้นยืนยันขั้นแรกได้เลยว่า ทักษะยุทธ์ตอนที่ผู้ร้ายสังหารก็คือ ‘ฝ่ามือทะลวงใจ’ ของสำนักชิงเฉิง อีกทั้งกำลังภายในของเขาก็สูสีกับอวี๋ชางไห่ จุดนี้ไม่ผิดพลาดแน่นอน”
สายตาของหวงโส่วจุนเฉียบคมได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ
อาจจะเป็นทักษะยุทธ์อื่นที่คล้ายกันก็ได้ไม่ใช่หรือ
แม้จะเกิดความสงสัยในใจ แต่เยี่ยเว่ยหมิงก็ยังไม่รีบร้อนถามซานเย่ว์ในช่องทีม ยังคงมองหวงโส่วจุนที่มีความคิดอ่านล้ำลึกต่อไปด้วยสายตาแสดงความนับถือ รอฟังว่าเขายังจะพูดอะไรอีก
หวงโส่วจุนพลันเล่าต่อไปว่า “เดิมที ภารกิจสำคัญในการสืบหาความจริงของคดีนี้ตกอยู่ที่พวกเจ้าสามคน แต่เนี่ยนเสียวเหนี่ยนที่พวกเจ้าจับมาก่อนหน้านี้เป็นพยานบุคคลที่ไม่เลวเลย เขาไม่เพียงแค่เข้าใจคดีที่เกิดขึ้นในสำนักคุ้มภัยฝูเวยอย่างถ่องแท้ แม้แต่สาเหตุการตายของหลินเจิ้นหนานกับฮูหยิน เขาก็เข้าใจแจ่มแจ้งชัดเจนเช่นกัน”
เมื่อได้ยินดังนั้น สายตาของเยี่ยเว่ยหมิงกับเฟยอวี๋ก็ไปหยุดอยู่บนตัวซานเย่ว์พร้อมกัน ส่วนซานเย่ว์ก็ก้มหน้าก้มตาราวกับพระเฒ่านั่งสมาธิ
ในขณะเดียวกันนี้เอง นางก็ส่งข้อความมาในช่องทีม
ซานเย่ว์ [ฮิฮิ เค้าก็โชคดีอย่างนี้แหละ ทำภารกิจสอบสวนครั้งเดียว ก็ได้รางวัลของสองภารกิจแล้ว ดีงามมาก! (*^-^*)]
สำหรับการโอ้อวดที่ดูเหมือนแอ๊บแบ๊วของนางหนูคนนี้ ทั้งสองตอบแสดงความยินดีพร้อมกัน
เยี่ยเว่ยหมิงแม้จะแสดงความยินดีจากใจจริงก็ตาม แต่คำว่า ‘ยินดี’ จากเฟยอวี๋จะมีรสชาติหวานหรือเปรี้ยว ก็มีเพียงตัวเขาเท่านั้นที่รู้
ผู้เล่นทั้งสามคนนั่งตัวตรงเรียบร้อย แต่ในช่องทีมกลับสื่อสารกัน หวงโส่วจุนเห็นแล้วไม่ได้พูดมาก แต่เห็นได้ชัดว่าเขามองออก วาสามคนนี้ไม่ได้ใจจดใจจ่ออยู่กับการบรรยายของเขาเลย
แม้ในใจจะรู้ว่าตัวเขาเองก็เป็นผู้แข็งแกร่งเลเวลสองร้อยที่มีพลังต่อสู้สูงมากในเกม แต่สุดท้ายก็ยังไม่อาจทำให้ผู้เล่นแสดงท่าทีของผู้น้อยฟังคำผู้บังคับบัญชาเหมือนในชีวิตจริงได้
หวงโส่วจุนทำได้เพียงเลิกหวังผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ หลังจากปรับเรียงคำพูดใหม่และตัดคำพูดที่ไม่จำเป็นทิ้ง จึงพูดต่อไปว่า “อิงตามผลการสอบสวนของซานเย่ว์ พวกเรายืนยันตัวผู้ร้ายได้แล้วว่าเป็นอวี๋ชางไห่ เจ้าสำนักชิงเฉิง…
…คนผู้นี้เคลื่อนไหวอยู่ในเขตเมืองฝูโจว จากนั้นก็ก่อคดีที่เมืองลั่วหยาง ไม่เห็นกฎหมายของราชสำนักอยู่ในสายตาสักนิด ในสายตาของเขา สิ่งที่เรียกว่าธรรมเนียมในยุทธภพน่าเกรงขามกว่ากฎหมายราชสำนักด้วยซ้ำ!”
หลังจากนิ่งไปครู่หนึ่ง หวงโส่วจุนก็กล่าวสรุปปิดท้าย “สำหรับเนื้อร้ายของยุทธภพเช่นนี้ เราต้องกำจัดทิ้ง และพวกเจ้าสามคนในฐานะผู้สืบทอดของสำนักมือปราบเทพ ภารกิจนี้ พวกเจ้ามิอาจผลักให้ผู้อื่นได้”
ขณะที่พูด หวงโส่วจุนก็สะบัดมือข้างหนึ่ง กระดาษขาวสามแผ่นยิงออกจากมือแล้ว กระดาษพุ่งมาถึงทั้งสามคนก่อน จากนั้นก็ตกลงข้างกายทั้งสามอย่างมั่นคงและเป็นระเบียบเรียบร้อย ใช้วิธีการเดียวกันกับตอนที่แจกภารกิจ ‘สำนักคุ้มภัยฝูเวย’ ให้พวกเขาก่อนหน้านี้ สิ่งเดียวที่แตกต่างกันก็คือ ครั้งนี้ให้พวกเขาเพียงกระดาษขาวสามแผ่นจริงๆ
“ภารกิจแรกที่ข้ามอบหมายให้พวกเจ้า หลังจากกลับไปแล้ว ก็ต่างคนต่างเขียนแผนปฏิบัติการให้ข้า”
[ติ๊ง! รับภารกิจ ‘ร่างแผนปฏิบัติการ’]
[ร่างแผนปฏิบัติการ]
ร่างแผนปฏิบัติการกำจัดอวี๋ชางไห่แห่งสำนักชิงเฉิง แล้วส่งให้หวงโส่วจุนตรวจทาน
ระดับภารกิจ: 1 ดาว
รางวัลภารกิจ: ค่าประสบการณ์ 100 แต้ม
……
เมื่อเห็นว่าเป็นภารกิจที่ง่ายกว่าภารกิจของหมู่บ้านมือใหม่ ทั้งสามก็พากันงุนงง
หลังจากลังเลครู่หนึ่ง เยี่ยเว่ยหมิงก็ถามขึ้นก่อนว่า “สำหรับภารกิจนี้ ข้ายังมีคำถามนิดหน่อย”
ในช่องทีม
ซานเย่ว์ [อาหมิง เจ้าจริงจังเกินไปหรือเปล่า ก็แค่ภารกิจหนึ่งดาว รางวัลก็มีแค่ค่าประสบการณ์หนึ่งร้อย ภารกิจแบบนี้ต่อให้เจ้าเก่งจนเพิ่มรางวัลได้อีกสิบเท่า ก็เป็นแค่ขายุงที่มีเนื้อน้อยอยู่ดี เจ้าจำเป็นต้องจริงจังขนาดนี้เลยหรือ ( ̄△ ̄;)]
ไม่สนใจคำพูดเหน็บแนมของซานเย่ว์ เยี่ยเว่ยหมิงกล่าวกับหวงโส่วจุนต่อว่า “ในเมื่อต้องร่างแผนปฏิบัติการ อย่างน้อยพวกเราก็ต้องมีข้อมูลพื้นฐานบ้าง ประการแรก หวงโส่วจุนต้องการให้เราร่างแผนถึงระดับไหน ให้กำจัดอวี๋ชางไห่คนเดียว หรือให้กำจัดเครือข่ายของอวี๋ชางไห่ในสำนักชิงเฉิง หรือว่า…ฆ่าล้างสำนักชิงเฉิง!”
เมื่อได้ยินคำถามของเยี่ยเว่ยหมิง นอกจากหวงโส่วจุนจะไม่แสดงความไม่พอใจใดๆ แล้ว กลับพยักหน้าให้อย่างชื่นชม แล้วตอบว่า “สำนักชิงเฉิงอยู่มาหนึ่งร้อยปี ใช่ว่าลูกศิษย์ในสำนักทุกคนจะเป็นคนเลวร้ายทั้งหมด ราชสำนักให้รางวัลและลงโทษอย่างโปร่งใส ไม่ทำให้ผู้บริสุทธิ์ลำบากไปด้วยเด็ดขาด แต่อวี๋ชางไห่กับพรรคพวกมองข้ามกฎของราชสำนัก ต้องกำจัดทิ้ง ไม่ให้คนอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง!”
หวงโส่วจุนพูดไว้ชัดเจนมากแล้ว แต่ความหมายแฝงก็คือ ไม่ต้องฆ่าล้างสำนักชิงเฉิง แต่อวี๋ชางไห่กับพรรคพวกของเขาจะต้องกำจัดให้หมด
สำนักมือปราบเทพต้องจัดระเบียบยุทธภพ เช่นนั้นอวี๋ชางไห่ที่กระโดดออกมาก่อเรื่องก่อน ก็จะต้องเป็นไก่ตัวนั้นที่ถูกเชือดให้ลิงดู!
เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้า ก่อนจะถามคำถามต่อไป “ทรัพยากรที่พวกเราใช้ได้มีอะไรบ้าง มีเพียงผู้เล่นสามคนอย่างพวกเราเท่านั้นหรือ”
“เจ้าสามคนเอาชนะอวี๋ชางไห่ได้อย่างนั้นหรือ” หวงโส่วจุนตอบกึ่งเย้า
ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงกำลังครุ่นคิดถึงคำพูดของเขา หลินผิงจือที่นั่งอยู่อีกฝั่งกลับเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แหลมเล็กมาก “อวี๋ชางไห่สังหารบิดามารดาของข้า ทำให้ข้าบ้านแตกสาแหรกขาด เรื่องกำจัดอวี๋ชางไห่ ข้าหลินผิงจือขอเข้าร่วมด้วย ไม่ว่าต้องจ่ายด้วยอะไรข้าก็ยอมแลก!”
อย่างเจ้าเนี่ยนะ
เฟยอวี๋กับซานเย่ว์ที่เคยรับรู้ถึงความสามารถของหลินผิงจือเมื่อได้ยินก็เม้มปากกลั้นขำพร้อมกัน เห็นได้ชัดว่าไม่หวังอะไรกับเจ้าคนที่อาจจะกลายเป็นภาระมากกว่าออกแรงช่วยเหลือคนนี้เลย