ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 175 การเคลื่อนไหวของน้องดาบ
ตอนที่ 175 การเคลื่อนไหวของน้องดาบ
สำหรับการร่วมทีมครั้งนี้ น้องดาบแสดงออกอย่างกระตือรือร้นเป็นพิเศษ ไม่เพียงแค่นำหน้าไปรับมือกับโหวทงไห่เท่านั้น ก่อนที่คนอื่นจะตามไปถึง นางก็โจมตี BOSS เลเวลห้าสิบห้าคนนี้ไปแล้วสามกระบวนท่าเต็มๆ!
หลังจากหยั่งเชิงกันไปสองกระบวนท่า เมื่อถึงกระบวนท่าที่สาม น้องดาบก็อาศัยการเคลื่อนไหวอันงดงามระดับชาเลนเจอร์ของนางกรีดบนต้นขาของโหวทงไห่หนึ่งดาบ แต่ต่อมาโหวทงไห่กวาดสามง่ามเหล็กเข้ามาในแนวขวาง นางหลบไม่พ้น ทำได้เพียงเลือกกวาดดาบออกไปค้ำไว้
-886!
แกร๊ง!
-523!
ตั้งแต่ครั้งแรก การโจมตีของน้องดาบพรากพลังชีวิตของโหวทงไห่ไปแล้วเล็กน้อย
ครั้งที่สอง ก็เป็นโหวทงไห่ที่อาศัยความได้เปรียบด้านค่าสเตตัสและเลเวลของตัวเองโจมตีหนึ่งกระบวนท่าจนน้องดาบต้องถอย ขณะเดียวกันก็โจมตีจนเกิดตัวเลขดาเมจรุนแรงที่ไม่ต่ำเลย!
ดาเมจแบบนี้สมจริงมาก ขณะเดียวกันก็เป็นการควบคุมผู้เล่นไม่ให้อาศัยการเคลื่อนไหวโจมตีมอนสเตอร์ที่เลเวลสูงกว่าตัวเอง ทั้งยังสอดคล้องกับสไตล์กำลังภายในด้วย ขอเพียงเลเวลและค่าสเตตัสสูงมากพอ ต่อให้เจ้าป้องกันได้หนึ่งกระบวนท่า แต่ก็ต้องเสียค่าพลังชีวิตอยู่ดี
การแสดงออกอันห้าวหาญของน้องดาบ แม้จะไม่ได้ตักตวงผลประโยชน์ใดๆ แต่ก็ทำให้เพื่อนร่วมทีมได้เห็นแล้วว่า BOSS เลเวลห้าสิบห้าตรงหน้าก้าวร้าวขนาดไหน เมื่อเห็นนางเสียเปรียบ เสวียนเสี่ยวปี่กับเซียวเหยาถอนใจก็ก้าวขึ้นมาทางฝั่งซ้ายและขวาพร้อมกัน เตรียมจะเข้าช่วยเหลือ แต่น้องดาบกลับตะโกนห้ามไว้
“พวกเจ้าสองคนรอฟังข้าบัญชาการ อย่าผลีผลาม!”
เพียงชั่วพบหน้ากัน หนึ่งดาบสามเฉือนก็เสียเปรียบหนักมาก มิหนำซ้ำโหวทงไห่ก็ยิ่งตามติดมาโจมตี แต่เพื่อนร่วมทีมสองคนที่อยากจะพุ่งเข้ามาช่วยกลับถูกนางสั่งให้ถอยไปแล้ว
เมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ยังจะมีใครช่วยนางได้อีก
คำตอบก็คือเยี่ยเว่ยหมิงกับสะพานสวรรค์น้อย!
หนึ่งดาบสามเฉือนเพียงบอกว่าไม่ให้เสวียนเสี่ยวปี่กับเซียวเหยาถอนใจทำอะไรผลีผลาม แต่กลับไม่ได้บอกว่าเยี่ยเว่ยหมิงกับสะพานสวรรค์น้อยต้องทำอย่างไร ตามที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้า พวกเขาย่อมต้องออกตัวในเวลานี้อยู่แล้ว ทั้งสองก้าวเท้าพร้อมกัน ไปรับมือกับโหวทงไห่ที่กำลังไล่ฆ่าน้องดาบ แทบจะแยกไม่ออกว่าใครไปถึงก่อนไปถึงทีหลัง คนหนึ่งฟันกระบี่ในแนวเฉียง อีกคนฟันตั้งฉากลงมา นี่คือหนึ่งในกระบวนท่าของ ‘เคล็ดกระบี่ดรุณีหยกใจพิสุทธิ์’…
“พเนจรสุดขอบฟ้า!”
นี่คือหนึ่งในกระบวนท่าอันยอดเยี่ยมของ ‘เคล็ดกระบี่ดรุณีหยกใจพิสุทธิ์’ ไม่ใช่กระบวนท่าที่มีประสิทธิภาพสูงสุดหรือทำดาเมจได้สูงสุด แต่เป็นท่าที่ลงมือได้เร็วที่สุดและมีช่องโหว่น้อยที่สุดแน่นอน
กอปรกับทั้งสองเคยชินกับการใช้กระบวนท่านี้ลงมือด้วยกัน เวลาร่วมมือกันจะรู้ใจกันมากกว่า พอลงมือก็ครอบคลุมทุกจุดสำคัญบนตัวโหวทงไห่แล้ว
ทว่า เมื่อเห็นได้การร่วมมืออันเลิศล้ำของทั้งสองคน โหวทงไห่กลับเผยรอยยิ้มเย้ยหยันดูถูกออกมา
เป็น BOSS แท้ในโหมดปกติเหมือนกัน แต่เลเวลของโหวทงไห่สูงกว่าหวันเหยียนคังถึงสิบเลเวล!
กระบี่คู่ผนึกรวมของเยี่ยเว่ยหมิงกับสะพานสวรรค์น้อยที่มีช่องโหว่ชัดเจนจนแม้แต่หวันเหยียนคังก็ยังมองออกได้ง่ายๆ แล้วนับประสาอะไรกับโหวทงไห่ที่เลเวลสูงกว่าและมีศัยภาพมากกว่าล่ะ
เมื่อเห็นกระบี่คู่โจมตีมาถึง มังกรสามหัว[1]ผู้นี้ก็เพียงหมุนสามง่ามฝากฟ้าในมือเบาๆ แล้วแทงออกมา ปลายง่ามชี้ไปบนจุดอ่อนของกระบี่คู่ผนึกรวมอย่างแม่นยำพอดี
เมื่อเห็นท่าของกระบี่คู่ผนึกรวมกำลังจะพังในชั่วพริบตาด้วยฝีมือ BOSS คนนี้ ข้างกายโหวทงไห่กลับมีเงาคนคนหนึ่งแฉลบออกมา เป็นหนึ่งดาบสามเฉือนที่อาศัยท่าร่างอันสุดยอดของนางแฉลบผ่านข้างหลังโหวทงไห่ในช่วงเวลาสำคัญ
นางส่งดาบยาวในมือออกมาข้างหน้าช้าๆ เพียงแต่เมื่ออยู่ภายใต้การขับเคลื่อนโดยท่าร่างอันสุดยอด ความเชื่องช้านี้ก็เปลี่ยนเป็นรวดเร็วสุดขีด ตอนที่โหวทงไห่ยังไหวตัวไม่ทัน คมดาบก็กรีดผ่านด้านหลังกระดูกข้อศอกข้างขวาของเขาแล้ว
-893!
การโจมตีนี้ของหนึ่งดาบสามเฉือนไม่ได้สร้างดาเมจสูงมากให้โหวทงไห่ แต่กลับสร้างผลลัพธ์ที่คนอื่นคาดไม่ถึงแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้อาวุธด้ามยาวคนไหน ก็ล้วนให้ความสำคัญกับความสมดุลของหยินหยางระว่างสองมือ มือซ้ายอยู่ข้างหน้า มือขวาอยู่ข้างหลัง มือซ้ายเป็นหยิน มือขวาเป็นหยาง ขอเพียงมือสองข้างให้ความร่วมมือกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ถึงจะใช้กระบวนท่าได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ทว่าการโจมตีนี้ของน้องดาบ กลับฟันบนเส้นประสาทอัลน่าร์หลังกระดูกข้อศอกของโหวทงไห่ได้อย่างแม่นยำ
เส้นประสาทอัลน่าร์ หรือที่รู้จักกันในชื่อเส้นชา ปกติหากคนทั่วไปเผลอสัมผัสตรงจุดนั้นก็จะทั้งชาทั้งเจ็บ โหวทงไห่ในฐานะ BOSS เลเวลห้าสิบห้า มีเกราะกำลังภายใน แต่กลับยังต้านทานการโจมตีจากดาบที่เตรียมพร้อมไว้นานแล้วของนางไม่ไหว
ภายใต้การโจมตีนี้ ค่าพลังชีวิตที่เสียหายของเขายังเป็นเรื่องรอง แต่เมื่อเส้นประสาทอัลน่าร์บาดเจ็บ การเคลื่อนไหวของมือซ้ายในฐานะที่เป็นมือหยินก็ต้องเปลี่ยนไปในชั่วพริบตาแน่นอน
เมื่อหยินหยางเสียสมดุล กระบวนท่าก็ย่อมปั่นป่วน กระบวนท่าที่เดิมทีจะแทงไปยังจุดอ่อนของกระบี่คู่ผนึกรวม ตอนนี้เบี่ยงออกจากเป้าหมายไปแล้วประมาณสิบเซนติเมตร
เนื่องจากระยะห่างสิบเซนติเมตรนี้ ทำให้เขาโจมตีไม่ถูกจุดสำคัญที่เชื่อมต่อปราณแท้ระหว่างเยี่ยเว่ยหมิงกับสะพานสวรรค์น้อย เพียงชนกับกระบี่จินสยาในมือสะพานสวรรค์น้อยเท่านั้น ทำให้น้องสาวร่างบางคนนี้สะเทือนจนกระเด็นออกไปพร้อมกระบี่
ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงก็ฉวยโอกาสพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง ใช้กระบี่อาญาสิทธิ์แทงบนคอหอยของโหวทงไห่อย่างแม่นยำ
-6608!
ตัวเลขคริติคอลดาเมจอันน่าตกใจลอยขึ้นเหนือศีรษะของโหวทงไห่ ขณะเดียวกันก็ทำให้ BOSS ร่างแท้สุดก้าวร้าวคนนี้ติดสถานะแช่แข็งในเวลาสั้นๆ ด้วย
จากนั้น เยี่ยเว่ยหมิง น้องดาบและสะพานสวรรค์น้อย สามกำลังโจมตีหลักก็ฉวยโอกาสกรูเข้าไปพร้อมกัน ต่างคนต่างโจมตีบนตัวโหวทงไห่อย่างรุนแรง
หลังจากผ่านการโจมตีอันดุดันไปหนึ่งยก ค่าพลังชีวิตเหนือศีรษะโหวทงไห่ก็ถูกพรากไปแล้วเกือบสองหมื่นแต้ม
สะพานสวรรค์น้อยยังโจมตีต่อ แต่เยี่ยเว่ยหมิงและน้องดาบกลับตะโกนเป็นเสียงเดียวกันว่า “ถอย!”
ทว่าสะพานสวรรค์น้อยแทงโจมตีออกไปแล้ว จะเลิกตอนนี้ก็ช้าไปหน่อย ยังดีที่เยี่ยเว่ยหมิงช่วยใช้กระบี่ต้านการโจมตีอันรุนแรงจากบอสให้นางทันเวลา ขนาดว่าอาศัยความได้เปรียบด้านค่าสเตตัสของกระบี่คู่ผนึกรวม ก็ยังโจมตีให้เกิดดาเมจบดขยี้ไม่ได้ ทำได้เพียงใช้ความเร็วที่เทียบเท่ากับสะพานสวรรค์น้อยถอยหลังต่อเนื่องหลายก้าว เท่านี้ก็ลดทอนพลังโจมตีจากสามง่ามของฝ่ายตรงข้ามได้แล้ว
ตั้งแต่ต้นจนจบ เซียวเหยาถอนใจกับเสวียนเสี่ยวปี่ได้แต่มองอยู่ข้างๆ ถึงขั้นว่าขนาดโหวทงไห่ถูกโจมตีจนติดสถานะแช่แข็งแล้วก็ยังไม่ก้าวขึ้นมาแย่งโจมตี
เพราะพวกเขารู้ดีว่าอีกประเดี๋ยวต้องมีที่ให้พวกเขาออกแรงแน่ เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาก็เท่านั้นเอง
ไม่เช่นนั้นแล้ว หนึ่งดาบสามเฉือนแค่ไปร่วมงานกับเยี่ยเว่ยหมิงและสะพานสวรรค์น้อยสองคนก็สิ้นเรื่อง ไม่จำเป็นต้องตั้งทีมให้พวกเขามาได้ส่วนแบ่งค่าประสบการณ์กับค่าตบะที่เป็นรางวัลจากการฆ่าบอสหรอก
ถ้าจะบอกว่าน้องดาบจงใจไม่ให้พวกเขาได้ ‘ค่าผลงาน’ มากกว่านี้ ตอนแบ่งไอเทมดรอปกัน ตัวเองจะได้ได้เยอะกว่าเพื่อน?
นั่นก็ยังดีมากไม่ใช่หรือ
อย่างไรเสีย เดิมทีพวกเขาก็ไม่กล้าคิดถึง BOSS ประเภทนี้อยู่แล้ว หากได้ปะปนเข้ามารับค่าประสบการณ์ ค่าตบะโดยไม่เปลืองแรง ทั้งยังได้ถือโอกาสออกทีวีหนึ่งครั้ง ได้รางวัลเป็นค่าชื่อเสียงยุทธภพกับค่าผลงานสำนัก นั่นไม่ใช่เรื่องอันงดงามหรอกหรือ
คนเรามีค่าก็ตอนที่รู้จักข้อบกพร่องของตนเองนี่แหละ!
พวกเขาสองคนเข้าใจถึงจุดนี้
ความจริงก็เป็นอย่างที่พวกเขาเดาไว้เช่นกัน แม้หนึ่งดาบสามเฉือนจะอาศัยการเคลื่อนไหวและพลังสายตาของนางหยุดการโจมตีของโหวทงไห่ได้ แต่กลับไม่อาจหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บได้เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
ส่วนใหญ่นางต้องใช้ความรุนแรงปะทะด้วยความรุนแรง ใช้ดาบยาวในมือโจมตีสามง่ามในมือโหวทงไห่ให้เบี่ยงทิศทางไป
แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ นางจะต้องถูกบอสสุดแกร่งโจมตีสร้างดาเมจบดขยี้เหมือนก่อนหน้านี้แน่นอน
หลังจากทำแบบนี้ซ้ำสามครั้ง น้องสาวผู้แข็งแกร่งก็เสียค่าพลังชีวิตไปแล้วเกินครึ่ง
ตอนนี้ ในที่สุดนางก็จำเป็นต้องถอยออกจากการต่อสู้เพื่อฟื้นฟูค่าพลังชีวิตของตัวเอง
ตอนนี้เอง ก็ถึงเวลาที่เสวียนเสี่ยวปี่กับเซียวเหยาถอนใจจะได้แสดงบทบาทแล้ว!
ขณะมองเยี่ยเว่ยหมิงกับสะพานสวรรค์น้อยโจมตีกระบี่คู่ออกมาอีกครั้ง โหวทงไห่ก็ยังมองจุดอ่อนในกระบวนท่าของพวกเขาออก ตอนที่โหวทงไห่ชูสามง่ามเตรียมแทงออกไป หนึ่งดาบสามเฉือนข้างๆ กลับตะโกนเสียงแหลมว่า “เซียวเหยาถอนใจ!”
“รับทราบ!” เซียวเหยาถอนใจใช้หมัดถูฝ่ามือรอมานานแล้ว พอได้ยินน้องดาบเรียกก็ฮึกเหิมทันที จากนั้นพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ใช้ฝ่ามือฟันปราณยุทธ์มังกรไปทางโหวทงไห่แล้ว
“โอยย!”
[1] มังกรสามหัว 三首蛟 ฉายาของโหวทงไห่ เนื่องจากบนศีรษะมีรอยปูดสามรอย