ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 177 ดาบสองคมสามแฉก
ตอนที่ 177 ดาบสองคมสามแฉก
“ไม่ได้!” x3
มีเพียงสะพานสวรรค์น้อยที่พยักหน้ายิ้มบางๆ เพราะเยี่ยเว่ยหมิงขอให้นางรักษาความลับ เห็นได้ชัดว่าแตกต่างจากคนอื่น
เหมือนรู้สึกได้ว่าข้อมูลที่เยี่ยเว่ยหมิงบอกไม่สอดคล้องกับกติกา น้องดาบจึงรีบอธิบายอีก “ถึงอย่างไรทุกคนก็ร่วมโจมตี BOSS ด้วยกัน พวกเราแปลกใจมากจริงๆ ว่าทำไมของที่ดรอปไปอยู่ในกระเป๋าของเจ้าคนเดียว…
…แน่นอน ต่อให้เจ้าประกาศออกมา พวกเราก็ไม่ทวงหรอก แต่เรื่องบางเรื่องถ้าไม่ทำให้กระจ่างชัดเจน ในใจก็จะค้างคาอยู่ตลอด”
เซียวเหยาถอนใจกับเสวียนเสี่ยวปี่พยักหน้าพร้อมกัน สื่อว่าพวกเขามีความเห็นเหมือนกับน้องดาบทุกอย่าง
เมื่อเห็นคนพวกนี้มองตาปริบๆ เหมือนรอเปิดประสบการณ์ความรู้ เยี่ยเว่ยหมิงก็ทำได้เพียงยอมแพ้อย่างจนใจ “ที่ของพวกนี้เข้าสัมภาระของข้าคนเดียว จะว่าไปแล้วสาเหตุก็ไม่ซับซ้อนเลย ก็เพราะ BOSS ร่างสมบูรณ์ที่อยู่ในสภาพแท้จริงคนนี้ จะดรอปของเพียงอย่างเดียวเท่านั้น”
“เพียงแต่คุณภาพของอุปกรณ์ชิ้นนี้ ระบบอาจจะ…ประเมินค่ามันไว้สูงมาก แต่ความจริงราคากลับต่ำมาก”
เมื่อได้ฟังเขาพูดอย่างนี้ ทุกคนก็ยิ่งอยากรู้อยากเห็นว่าของสิ่งนั้นคืออะไร พากันเร่งให้เขานำของออกมาดู
ครั้งนี้ แม้แต่สะพานสวรรค์น้อยก็เบิกตากว้างมองเขาด้วยความสงสัยใคร่รู้ เห็นได้ชัดว่าคำบรรยายก่อนหน้านี้ของเขาได้ปลุกวิญญาณป้าข้างบ้านที่ซ่อนอยู่ในตัวนางขึ้นมาแล้ว
เมื่อได้เห็นฉากนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็ทำได้เพียงส่งลิงก์อุปกรณ์เข้าไปในช่องทีม
[ดาบสองคมสามแฉก (อาวุธล้ำค่า): แม้จะตั้งชื่อว่า ‘ดาบ’ แต่ความจริงกลับเป็นทวนยาวที่มีรูปร่างพิเศษด้ามหนึ่ง พลังโจมตี +700 กำลังภายใน +50% ความเร็วในการฟื้นฟูบาดแผลลดลง 50%]
“บัดซบ!” x2
คนสบถหยาบคายย่อมเป็นชายหนุ่มป่าเถื่อนอย่างเสวียนเสี่ยวปี่กับเซียวเหยาถอนใจ ส่วนอีกสองสาวค่อนข้างควบคุมตัวเองได้มากกว่า ต่อให้เป็นน้องดาบที่ห้าวหาญยิ่งกว่าชาย ก็ข่มความวู่วามไม่ให้สบถคำหยาบออกมาได้อยู่ดี
เพียงแต่นางกับสะพานสวรรค์น้อยไม่ได้พูดออกมา แต่ในสายตากับเผยความรู้สึกว่า ‘เดินหมากเบ๊จากช่องหกเข้าช่องเจ็ด ขุนพล[1]!’
แต่นี่เป็นเพียงปฏิกิริยาแรกของพวกเขาหลังจากได้เห็นค่าสเตตัสของอาวุธล้ำค่าชิ้นนี้ หลังจากอึ้งไปสักพัก อารมณ์ของพวกเขาก็เปลี่ยนจากอิจฉากลายเป็นเสียดาย
อาวุธดีขนาดนี้ ทำไมเป็นแค่ทวนด้ามหนึ่ง
คุณภาพกับค่าสเตตัสของอาวุธชิ้นนี้ ถ้านำไปใส่ไว้บนอาวุธที่คนค่อนข้างนิยม ในปัจจุบันก็ถือว่าสุดยอดจริงๆ
ไม่ว่าจะเป็นดาบ กระบี่ นวม หน้าไม้ หรืออาวุธลับต่างๆ ที่ใช้กันทั่วไป ถ้ามีค่าสเตตัสอย่างนี้ปรากฏขึ้น ก็ถือว่าเป็นของดีที่จะทำให้ก่อลมคาวฝนเลือดทั่วทั้ง ‘เกมวีรบุรุษนิรันดร์กาล’ ได้เลย
ถ้าเป็นเพียงทวนด้ามหนึ่ง ก็เป็นเหมือนซี่โครงไก่ที่มีประโยชน์ไม่มากแต่จะทิ้งก็เสียดาย
อย่างไรเสีย เยี่ยเว่ยหมิงก็เข้ามาอยู่ในเกมนานขนาดนี้แล้ว แต่ไม่ค่อยเห็นผู้เล่นที่ใช้ทวนมากเท่าไร ในจำนวนนั้นก็ยิ่งไม่มีผู้ที่ถูกเรียกว่ายอดฝีมือสักคนด้วยซ้ำ
ส่วนสถานการณ์ของคนอื่นก็ไม่ต่างจากเยี่ยเว่ยหมิงเท่าไร พวกเขาก็ไม่เคยเห็นยอดฝีมืออาชีพทวนเช่นกัน
ในเมื่อไม่มีแม้แต่ยอดฝีมือที่เข้าท่าสักคน ก็จะเห็นได้ว่าใน ‘เกมวีรบุรุษนิรันดร์กาล’ อาวุธประเภทนี้ใช้กันในกลุ่มเล็กๆ ขนาดไหน
อุปกรณ์ที่ใช้กันในกลุ่มเล็กๆ แบบนี้ ต่อให้เป็นอุปกรณ์คุณภาพสูงสุด แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะขายออกในราคาสูง
หลังจากส่ายหน้าถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ก็ยังเป็นเสวียนเสี่ยวปี่ที่บอกก่อนว่า “ขออภัยที่ข้าพูดตรงๆ อาวุธด้ามนี้ของเจ้า เกรงว่าคงขายในราคาดีได้ยาก ต่อให้เก็บไว้ใช้เอง ก็มีประโยชน์ไม่มากอยู่ดี”
เมื่อเห็นคนอื่นยังเงียบ เขาก็กล่าวเสริมอีกว่า “สาเหตุที่ข้าเลิกใช้พู่กันผู้พิพากษา แล้วเลือกก้าวหน้ากับกระบี่ที่ไม่ได้สอดคล้องกับ ‘วิชากระบี่อิงฟ้าดาบฆ่ามังกร’ ก็เพราะพิจารณาอะไรทำนองนี้เช่นกัน ข้ายังจำตอนนั้นได้ คนหน้าเลือดเคยวิเคราะห์ทักษะยุทธ์ของสำนักใน ‘เกมวีรบุรุษนิรันดร์กาล’ ให้ฟัง ในข้อมูลพวกนั้นเกี่ยวข้องกับการเลือกอาวุธ”
คนหน้าเลือด?
เยี่ยเว่ยหมิงจำได้ นี่คือชื่อเรียกที่ศิษย์อู่ตังบางคนที่ค่อนข้างสนิทกับอินปู้คุยใช้เรียกเขา
ในเมื่อพูดเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการสปอยล์ต้นฉบับเดิม เยี่ยเว่ยหมิงก็เริ่มฟังอย่างจริงจังทันที
กลับได้ยินเสวียนเสี่ยวปี่พูดต่อว่า “เขาบอกว่าในยุคที่วัฒนธรรมยอดยุทธ์คุณธรรมเฟื่องฟู ห้านักเขียนที่โด่งดังที่สุดมี จิน กู่ เหลียง เวิน หวง[2] จากที่เขาสังเกตตอนนี้ ใน ‘เกมวีรบุรุษนิรันดร์กาล’ มีแค่ตัวละครและเรื่องราวในนิยายของอาจารย์จินเท่านั้น แล้วก็มีอย่างอื่นอีกนิดหน่อย มีความเป็นไปได้ว่าผู้ออกแบบเกมสร้างขึ้นมาเอง…
…และในผลงานเขียนของอาจารย์จิน ยอดฝีมือที่ใช้อาวุธประเภทต่างๆ ก็มีฝีมือที่ไม่เท่ากัน มองจากสุดยอดวิชาศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เก่งสุดคือการใช้หมัดเท้า รองลงมาคือกระบี่ รองลงมาอีกคือกระบอง แม้แต่อาวุธที่เห็นได้บ่อยที่สุดอย่างดาบก็ยังเป็นกำลังในช่วงท้าย เมื่อเรื่องราวดำเนินไปจนถึงระดับหนึ่งแล้ว ก็ไม่เจอวิชาดาบที่ทรงพลังมาคุมสถานการณ์เลย”
“ส่วนวิชาทวน…” เสวียนเสี่ยวปี่ส่ายหน้า “ข้ายังจำคำพูดที่คนหน้าเลือดบอกกับข้าตอนนั้นได้ชัดเจน เขาบอกว่าในบรรดานิยายทั้งหมดของอาจารย์จิน ผู้ที่มีวิชาทวนล้ำเลิศที่สุดชื่อว่าฮวาเถี่ยก้าน[3] ระดับความน่ารังเกียจของเจ้าหมอนั่นมากพอที่จะสะท้อนให้เห็นพื้นฐานของบทบาทตัวร้ายที่นักเขียนยุคนั้นสร้างขึ้น”
“ต่อให้ไม่พูดถึงลักษณะนิสัย แต่ทักษะยุทธ์ของเขาอย่างมากก็นับว่าอยู่ระดับกลางท่ามกลางตัวละครของอาจารย์จินเท่านั้น หรือไม่ก็นับว่าเป็นยอดฝีมือทั่วไปในยุทธภพได้ แต่ยังห่างชั้นกับยอดฝีมือระดับบนหรือปรมาจารย์แห่งยุคอยู่มากจริงๆ”
เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วได้แต่ส่ายหน้าอย่างจนใจ “และที่สำคัญที่สุดก็คือ ทักษะยุทธ์ของฮวาเถี่ยก้านนั่นก็เหมือนจะยังไม่มีในระบบเช่นกัน ดังนั้นตอนนี้ในบรรดาผู้เล่นจึงยังไม่มียอดฝีมือวิชาทวนปรากฏตัวขึ้นมา…
…แต่ข้ารู้สึกว่าในเมื่อ ‘เกมวีรบุรุษนิรันดร์กาล’ เป็นเกม ก็ควรจะมีจุดสมดุลระหว่างอาวุธต่างๆ สิ หรือว่าตอนนี้ผู้เล่นก็แค่ยังไม่ค้นพบมัน”
“อาจจะใช่” เสวียนเสี่ยวปี่กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “คนหน้าเลือดนั่นยังบอกอีกว่า ในงานประพันธ์ของอาจารย์จินไม่มีสำนักถังเหมิน”
แน่นอนว่าพูดอย่างนี้ก็ไม่ผิด
แต่ตำราลับวิชาทวนอันแข็งแกร่งที่แท้จริงจะปรากฏขึ้นหรือไม่ จะปรากฏขึ้นเมื่อไร ก็ล้วนเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้
ต่อให้ในอนาคตจะปรากฏขึ้นมาจริงๆ เมื่อถึงตอนนั้นอาวุธล้ำค่ายังจะล้ำค่าหายากเหมือนในปัจจุบันอยู่ไหม
สิ่งที่ทำให้เยี่ยเว่ยหมิงยิ่งไม่เข้าใจก็คือ หลังจากมังกรสามหัวโหวทงไห่ตายแล้ว ทำไมดรอปแต่ของโบราณแปลกๆ ออกมา
นี่มันหลักการของนิทานอะไรกันแน่
‘ภาคแรกของไซอิ๋ว’ หรือว่า ‘ภาคต่อของเรื่องโคมไฟดอกบัว’?
ขณะที่พูด ทุกคนก็นำยาเม็ดมาฟื้นฟูพลังชีวิตกับกำลังภายในมากินให้กลับมาอยู่ในสภาพสมบูรณ์แล้ว ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงก็นำโลงไม้หวงฮว่าออกมาเก็บศพของโหวทงไห่
นี่คือสินค้าที่เขาตั้งใจไปซื้อจากร้านขายโลงศพซูโจวฉี่หลิงก่อนมาที่นี่ ซื้อมาทั้งหมดสามโลง จ่ายไปทั้งหมดสองร้อยยี่สิบเหรียญทองตามราคาสมาชิก
เดิมทีคิดจะเก็บไว้สำรองใช้ แต่กลับนึกไม่ถึงว่าจะเจอ BOSS ที่ควรค่าแก่การบรรจุเข้าโลงเร็วขนาดนี้
[ได้รับ ‘ตระหนักรู้อาวุธยาว’ x1!]
[ได้รับ ‘ตระหนักรู้วิชาตัวเบา’ x1!]
[ได้รับ ‘ตระหนักรู้กำลังภายใน x1!]
ถ้าไม่ใช่เพราะวิชาทวนไม่ได้รับความนิยม คงจัดมันอยู่ในประเภทอาวุธยาวไปแล้ว…
เยี่ยเว่ยหมิงเงยหน้าขึ้นมาพร้อมความไม่พอใจ แต่หลังจากได้เห็นบรรดาเพื่อนร่วมทีม เขาก็อารมณ์ดีขึ้นมาทันที “จะว่าไปแล้ว พวกเราจะลงดาบกับใครก่อน”
พอเห็นเขายิ้มอย่างเบิกบานใจ หนึ่งดาบสามเฉือนก็อดถาอมย่างสงสัยไม่ได้ว่า “ปรับสภาพจิตใจเรียบร้อยแล้ว ไม่กลุ้มใจแล้วหรือ”
“อืม!” เยี่ยเว่ยหมิงออกแรงพยักหน้า “ขนาดพวกเจ้าที่ไม่ได้อะไรเลยยังไม่กลุ้มใจ แล้วข้าจะกลุ้มใจไปทำไมล่ะ”
หนึ่งดาบสามเฉือน “…”
เซียวเหยาถอนใจ “…”
เสวียนเสี่ยวปี่ “…”
สะพานสวรรค์คริสตัล “คิก คิก”
[1] เดินหมากเบ๊จากช่องหกเข้าช่องเจ็ด ขุนพล 马六进七 将军 เป็นวิธีการเดินหมากรุกที่เรียกว่า ว่อเช่าหม่า 卧槽马 พ้องเสียงกับคำว่า what the fuck
[2] จิน กู่ เหลียง เวิน หวง ห้าอัจฉริยะนักเขียนแนวยอดยุทธ์คุณธรรมของจีน จินยง (กิมย้ง) กู่หลง (โกวเล้ง) เหลียงอวี่เซิง (เนี่ยอู้เซ็ง) หวงอี้ เวินรุ่ยอัน (อุนสุยอัน)
[3] ฮวาเถี่ยก้าน 花铁干 ตัวละครจากนิยายเรื่องกระบี่ใจพิสุทธิ์ของนักเขียนจินยง