ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 208 อาวุธล้ำค่ากระบี่แสงทอง
ตอนนี้ 208 อาวุธล้ำค่ากระบี่แสงทอง
“ว้าว! เป็นกระบี่ล้ำค่าที่งดงามมาก!”
เมื่อเสียงอุทานของซานเย่ว์ดังขึ้น สายตาของเยี่ยเว่ยหมิงกับเฟยอวี๋ก็ไปหยุดอยู่บนไอเทมดรอปชิ้นหนึ่งของอวี๋ชางไห่โดยมิได้นัดหมาย ก็คือกระบี่ล้ำค่าสีทองระยิบระยับเล่มหนึ่ง
บนตัวกระบี่มีแสงสีทองจางๆ ล้อมรอบหนึ่งชั้น ทั้งตัวกระบี่ถูกปกคลุมด้วยสีทองอ่อนละมุน ดูแล้วโดดเด่นจ้าตามาก
เมื่อมองให้ละเอียดก็จะเห็นว่าบนตัวกระบี่ล้ำค่าสลักตัวอักษรหวัดขนาดเท่าแมลงวันเอาไว้ยั้วเยี้ย: ฟ้าดินหยินหยาง รากฐานพลังลึกลับนับหมื่น ฝึกยาวนานร้อยล้านกัลป์ พิสูจน์พลังอภินิหาร สามพิภพ มหามรรคายิ่งใหญ่ แสงทองปกคลุมกายา มิอาจมองเห็น มิอาจได้ยิน…
[กระบี่แสงทอง (อาวุธล้ำค่า)]
กระบี่พกของอดีตเจ้าสำนักคนหนึ่งของสำนักชิงเฉิง เสริมฤทธิ์ด้วยกฎเต๋า มีอานุภาพน่าทึ่ง
โจมตี +500
ป้องกัน +300
กำลังภายใน +40%
เลเวลกฎเต๋า +2
เลเวลเคล็ดกระบี่ +1
เอฟเฟ็กต์พิเศษ: แสงทอง!
แสงทอง: พาสซิฟสเตตัส ปราณแท้ป้องกันตัวแข็งแกร่งขึ้น 50%!
……
เมื่อเห็นสเตตัสของกระบี่เล่มนี้ เฟยอวี๋ก็อดถลึงตาใส่เยี่ยเว่ยหมิงอย่างดุดันไม่ได้ “เจ้านี่มันโชคดีเหนือความคาดหมายจริงๆ!”
เยี่ยเว่ยหมิงยิ้มแห้งแล้วเก็บกระบี่เข้ากระเป๋า “ข้าจะเก็บไว้ก่อน เดี๋ยวแบ่งของทั้งหมดเสร็จแล้วค่อยคุยเรื่องโบนัสกันอีกที”
ทั้งสองล้วนเป็นนักกระบี่ ย่อมไม่คัดค้านกับคำแนะนำนี้ จึงย้ายสายตาไปที่ไอเทมดรอปอย่างอื่นของอวี๋ชางไห่
กระบี่เล่มนี้แม้จะเป็นอาวุธล้ำค่า แต่หากพูดถึงพลังโจมตีอย่างเดียว ก็ถือเป็นอันดับโหล่ในบรรดาอาวุธล้ำค่าแน่นอน พลังโจมตีที่เพิ่มขึ้นมาเหมือนกับหน้าไม้เทพจูเก๋อ แต่หน้าไม้เทพจูเก๋อเป็นแบบยิงต่อเนื่องสิบสามดอก อีกทั้งค่าสเตตัสเพิ่มเติมแต่ละรายการก็ใช้งานได้จริงด้วย เป็นอุปกรณ์คุณภาพสูงสุดในหมู่ธนูหน้าไม้จริงๆ
และกระบี่แสงทองเล่มนี้ก็เป็นอุปกรณ์คุณภาพสูงสุดเช่นเดียวกัน แม้ว่าหากมองที่การโจมตีอย่างเดียว จะโหดไม่เท่าดาบสองคมสามแฉก แต่ค่าสเตตัสเพิ่มเติมของมันกลับเยี่ยมกว่ามาก ดูจากเอฟเฟ็กต์พิเศษ ‘แสงทอง’ ก็รู้แล้ว ว่านี่คือกระบี่ล้ำค่าที่เตรียมไว้ให้ตัวแทงค์โดยเฉพาะ
แต่เยี่ยเว่ยหมิงเป็นตัวแทงค์หรือ
พลังป้องกันสูง (คนโดดเด่นในหมู่ผู้เล่นเลเวลเดียวกัน) เลือดหนา (พลังชีวิตเทียบกับ BOSS ได้) มีความสามารถในการเอาชีวิตรอดสูง (ลองทำความเข้าใจเคล็ดกระบี่มังกรร่อนล่อหงส์ดูสักหน่อย) ยั่วยุได้ (แน่จริงเจ้าก็เข้ามาสิ!)…ความสามารถที่ตัวแทงค์มาตรฐานตัวหนึ่งควรจะมี เหมือนเขาจะมีครบเลยนะ
ส่วนเรื่องโจมตี?
จะดีจะร้ายก็ยังเป็นอาวุธล้ำค่า แม้จะเป็นอันดับโหล่ในบรรดาอาวุธเลเวลเดียวกัน แต่พลังโจมตีก็เหนือกว่ากระบี่มังกรคำรามที่เขาเคยใช้ก่อนหน้านี้แน่นอน!
แม้จะไม่ได้ชอบตำแหน่งตัวแทงค์มาก แต่ก็ต้องบอกเลยว่า ในอนาคตระยะยาวเยี่ยเว่ยหมิงคงไม่ต้องพิจารณาเรื่องเปลี่ยนอาวุธแล้ว
หลังจากติดตั้งกระบี่แสงทองไว้บนตัว ท้ายรายการทักษะเคล็ดกระบี่ทั้งหมดของเยี่ยเว่ยหมิงก็มีคำว่า ( +1) เพิ่ม
แต่เรื่องที่ทำให้เขาผิดหวังก็คือ หลังจาก ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ ถูกอัปเลเวลเพราะติดตั้งกระบี่เล่มใหม่แล้ว สิ่งที่เพิ่มขึ้นก็เป็นเพียงค่าสเตตัสบางรายการเท่านั้น แม้จะเพิ่มขึ้นเยอะกว่าเมื่อก่อน แต่กลับไม่ได้เปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉม
ดูท่าแล้ว ถ้าอยากให้วิทยายุทธ์วิชาใดวิชาหนึ่งแสดงประสิทธิภาพออกมาได้เหมือนตอนเลเวลเต็ม ต่อให้อาศัยอุปกรณ์เป็นกองก็ไม่มีประโยชน์ ต้องฝึกจนมันเลเวลเต็มจริงๆ ถึงจะทำได้
อุปกรณ์ชิ้นที่สอง เจ้าสายฟ้าถล่ม
[เจ้าสายฟ้าถล่ม (ทองคำ)]
อาวุธที่สร้างขึ้นโดยวิธีลับเฉพาะของสำนักชิงเฉิง
โจมตี +300
กำลังภายใน +20%
ประสิทธิภาพอาวุธลับ +30%
เลเวลทักษะอาวุธลับของสำนักชิงเฉิง +1!
……
“อันนี้…” เมื่อเห็นค่าสเตตัสของอาวุธประเภทนวมคู่นี้ ซานเย่ว์ก็ตาเป็นประกายอีกครั้ง
เมื่อเจออุปกรณ์ที่ตัวเองรอคอยมานาน น้องซานเย่ว์เอ่ยคำขออย่างเขินอายมาก “ข้าอยากได้”
“ข้าไม่ขัดอะไร”
เยี่ยเว่ยหมิงย่อมรู้อยู่แล้วว่านางมีวิชาอาวุธลับที่ชื่อเดียวกับอาวุธชิ้นนี้ เป็นทักษะอาวุธลับระดับสูงที่หายไปของสำนักชิงเฉิง เมื่อนำมาใช้คู่กับ ‘เจ้าสายฟ้าถล่ม’ ชิ้นนี้จะได้ผลดีมาก
สำหรับอุปกรณ์พวกนี้ที่แทบจะสร้างขึ้นราวกับวัดตัวซานเย่ว์ เยี่ยเว่ยหมิงย่อมไม่ไปแย่งนางอยู่แล้ว
เฟยอวี๋ก็บอกเช่นกันว่า “ข้าเองก็ไม่สนใจเหมือนกัน”
พอเป็นแบบนี้ เจ้าสายฟ้าถล่มจึงถูกแบ่งให้ซานเย่ว์ล่วงหน้า เหมือนกับกระบี่แสงทองที่รอให้แบ่งอุปกรณ์ทั้งหมดเสร็จก่อนแล้วค่อยดูอีกทีว่าต้องจ่ายเพิ่ม หรือได้รับเงินชดเชย
สำหรับวิธีการแบ่งไอเทมที่พยายามทำให้ยุติธรรมที่สุดแบบนี้ ที่จริงในใจเฟยอวี๋ก็หงุดหงิดอยู่บ้าง เพราะเขารู้ว่าถ้ามีเพียงเยี่ยเว่ยหมิงกับซานเย่ว์สองคน ก็จะต้องเลือกสิ่งที่ตัวเองใช้งานแน่นอน ไม่ต้องมาพูดเรื่องรับเงินชดเชย หรือจ่ายเพิ่มเหลวไหลอะไรนี่เลย
เขาอดเริ่มคิดทบทวนไม่ได้ ว่าการแสดงความสามารถของตัวเองก่อนหน้านี้ เข้ากับคนอื่นในกลุ่มไม่ค่อยได้หรือเปล่า
เพียงแต่การคิดทบทวนของเขาใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งวินาที ก็ถูกเบี่ยงเบนความสนใจจากไอเทมชิ้นหนึ่งแล้ว
[วิชากระเรียนขาวคำรามเก้าชั้นฟ้า (ระดับสูง)]
กำลังภายในที่ยอดเยี่ยมที่สุดของสำนักชิงเฉิง เงื่อนไขการฝึก: ความแข็งแกร่ง 100
ค่าสติปัญญา: 35
ค่าตระหนักรู้: 35
ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นกำลังภายในระดับสูง!
ต้องกล่าวว่ามูลค่าของไอเทมชิ้นนี้ไม่ต่ำกว่าเจ้าสายฟ้าถล่มของซานเย่ว์แน่นอน กระทั่งกระบี่แสงทองก็ยังต้องหลีกทางให้
เยี่ยเว่ยหมิงเคยสัมผัสประสิทธิภาพของ ‘มังกรซ่อนกบดาน’ เลเวลเต็มมาก่อน ตอนนี้จึงไม่รีบร้อนเพิ่มทักษะยุทธ์ใหม่อีก นอกเสียจากจะเจอกับทักษะที่เขาจำเป็นต้องใช้จริงๆ ยกตัวอย่างเช่นตำราลับวิชาตัวเบาระดับสูง ไม่อย่างนั้นแล้ว เขาก็ยังพิจารณาเรื่องอัปเลเวลทักษะยุทธ์ที่มีอยู่ตอนนี้ให้เลเวลเต็มก่อนอยู่ดี
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อครู่เขาก็เพิ่งได้กระบี่ล้ำค่าซึ่งเป็นอาวุธล้ำค่ามา ยิ่งไม่ควรจะโลภเกินไป
ส่วนค่าประสบการณ์ของซานเย่ว์ แม้จะไม่เยอะเหมือนเยี่ยเว่ยหมิง แต่นางก็เพิ่งได้อุปกรณ์ระดับทองคำมาหนึ่งชิ้นเช่นกัน อีกทั้งในบรรดาไอเทมดรอปที่เหลือ ก็ยังมีของอีกชิ้นที่นางสนใจมาก ดังนั้นนางจึงไม่ไปแย่งชิงตำราลับกำลังภายในระดับสูงเล่มนี้
ขณะที่เยี่ยเว่ยหมิงกับซานเย่ว์พากันเป็นฝ่ายปฏิเสธ ตำราลับ ‘วิชากระเรียนขาวคำรามเก้าชั้นฟ้า’ เล่มนี้ก็ย่อมตกอยู่ในมือของเฟยอวี๋
[ฝ่ามือทะลวงใจ (ระดับกลาง)]
เดิมทีเป็นตำราลับเคล็ดฝ่ามือระดับสูง เพียงแต่ระหว่างที่ถ่ายทอดสูญหายไปมาก แม้จะมีประสิทธิภาพมาก แต่กระบวนท่าก็ไม่คล้องจองกันแล้ว ไม่อาจอาศัยมันปะทะกับยอดฝีมือได้
เงื่อนไขการฝึก
พละกำลัง: 80
กำลังภายในสูงสุด: 2000 แต้ม
……
นี่ก็คือสิ่งที่เรียกว่า ‘ใกล้หมึกติดดำ’ เนื่องจากคลุกคลีอยู่กับเยี่ยเว่ยหมิงบ่อย ตอนที่ซานเย่ว์เลือกทักษะยุทธ์และอุปกรณ์ นางก็เรียนรู้ที่จะนำปัญหากลับมาคิดทบทวน
ยกตัวอย่างเช่นตำราลับ ‘ฝ่ามือทะลวงใจ’ เล่มนี้ แม้จะเน้นย้ำไว้แล้วว่ากระบวนท่าของมันไม่สมบูรณ์ แต่นางกลับเล็งเห็นเอกลักษณ์และประสิทธิภาพอย่างอื่นของทักษะยุทธ์วิชานี้แล้ว!
ตอนนี้ซานเย่ว์ฝึก ‘ฝ่ามืออัสนีบาต’ มาถึงระดับหนึ่งแล้ว ถ้าอยากจะอัปเลเวลอีกก็ยากมาก อีกทั้งตามศักยภาพที่เพิ่มขึ้น จุดอ่อนด้านประสิทธิภาพของเคล็ดฝ่ามือระดับกลางวิชานี้ก็ค่อยๆ เผยออกมาแล้วเช่นกัน
และแม้ ‘ฝ่ามือทะลวงใจ’ จะมีกระบวนท่าไม่สมบูรณ์ แต่ถ้านำมันมาปนไว้ใน ‘ฝ่ามืออัสนีบาต’ ใช้งานมันในฐานะท่าไม้ตาย ท่าแปลก จะต้องทำให้พลังต่อสู้ของนางเพิ่มขึ้นมาหนึ่งระดับแน่นอน
ดังนั้น ก่อนหน้านี้นางจึงไม่แย่ง ‘วิชากระเรียนขาวคำรามเก้าชั้นฟ้า’ กับเฟยอวี๋อย่างไม่ลังเล และเก็บเคล็ดฝ่ามือระดับสูงที่ไม่สมบูรณ์วิชานี้เข้ากระเป๋าแทน
เหมือนจะเป็นเพราะอวี๋ชางไห่เป็นเจ้าสำนัก บนตัวจึงดรอปของเยอะมาก ระบบไม่คิดจะเขียนข้อมูลของพวกมันออกมาหมด เพียงนำกระบี่แสงทองหนึ่งเล่มมารับประกันว่าของที่ดรอปจาก BOSS โหมดปกติไม่น้อยลง จึงเลือกเปิดเผยไอเทมที่แสดงถึงฐานะของเขาได้
นอกจากอุปกรณ์สองชิ้น ตำราลับสองเล่มที่บรรยายข้างต้นแล้ว ‘อักษรชิงเก้าโหล’ กับ ‘เคล็ดกระบี่ลมสน’ ก็เป็นตำราลับเคล็ดวิชาของสำนักชิงเฉิงที่ทั้งสามเห็นจนชินแล้ว
ทั้งสามไม่ได้ต้องการทักษะยุทธ์สองวิชานี้ สุดท้ายจึงตัดสินใจขายทิ้งแล้วนำเงินมาแบ่งกัน
ส่วนไอเทมสี่ชิ้นก่อนหน้านี้ หลังจากนำไปประเมินราคาตามสถานการณ์ตลาดแล้วค่อยดูว่าจะได้รับเงินชดเชยหรือต้องจ่ายเพิ่ม
หลังจากใช้ตำราลับกำลังภายในระดับสูงอย่าง ‘วิชากระเรียนขาวคำรามเก้าชั้นฟ้า’ แล้ว เฟยอวี๋ก็อดส่ายหน้าไม่ได้ “น่าเสียดายที่ไอเทมสามชิ้นนี้ไม่ตรงรสนิยมของข้ากับซานเย่ว์ ไม่อย่างนั้นพวกเราคงได้เลือกอีกชิ้น พวกเราก็ไม่ต้องประเมินราคาให้ยุ่งยากแล้ว”
ไอเทมที่พวกเขาสองคนได้ไป ราคาตลาดอย่างมากก็ประมาณสองในสามส่วนของกระบี่แสงทอง ถ้ารวบรวมให้ได้อีกหนึ่งในสามส่วน ก็จะลดความยุ่งยากได้ไม่น้อย
เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็อดแปลกใจไม่ได้ “เจ้าคิดจะฝึกแค่วิชาดาบ ไม่คิดจะฝึกวิชาอาวุธลับหรือวิทยายุทธ์หมัดมวยจริงหรือ”
“ฝึกควบคู่กันก็ยังต้องฝึกควบคู่กัน” เห็นได้ชัดว่าเฟยอวี๋ก็รู้เช่นกันว่าไม่มีเหตุผลที่ต้องทำให้ตัวเองมีจุดอ่อนชัดเจนเกินไป แต่เขากลับมีวิธีพิจารณาเป็นของตัวเอง “แต่ข้ากลับรู้สึกว่าประสิทธิภาพของอาวุธลับมีน้อยเกินไป ตอนทำภารกิจช่วงก่อนหน้านี้ ข้าเพิ่งได้ตำราลับทักษะธนูระดับกลางมาเล่มหนึ่งพอดี เพียงแต่ตอนนี้ยังเลเวลต่ำ กอปรกับยังไม่เจอธนูดีที่เหมาะมือ ตอนนี้จึงยังนำมันมาใช้ต่อสู้จริงไม่ได้”
“อ้อ” พอได้ยินเฟยอวี๋กำหนดเส้นทางเติบโตของตัวเองแล้ว จู่ๆ เยี่ยเว่ยหมิงก็กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที ตบบ่าเขาพร้อมบอกว่า “ในมือข้ามีธนูระดับทองคำอยู่หนึ่งคันพอดี ค่าสเตตัสอะไรนั่นยังนับว่าพอไหว เป็นอย่างไร สนใจไหม”