ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 231 เคราะห์ของหนิวจื้อชุน
ตอนที่ 231 เคราะห์ของหนิวจื้อชุน
ขนาดระบบยังไม่อนุญาตให้โจมตีต่อ ทุกคนต่อให้ไม่อยากฟังก็ต้องฟัง
ส่วนหลวงจีนไว้ผมก็ไม่รอให้พวกเขาตอบ พูดต่อไปว่า “ข้าฟ่านเหยากลัวตายเสียที่ไหน เพียงแต่มีสองความปรารถนาที่ยังไม่ได้ทำให้เป็นจริง ใจข้ายอมไม่ได้!…
…หนึ่งคือยังไม่ได้สังหารเฉิงคุน ฉายาหัตถ์อัสนีบาตจักรวาล คนที่ยุยงให้พรรคจรัสของข้าเกิดความแค้นกับยุทธภพ ปั่นให้ทางยุทธภพวุ่นวายจนเกิดลมคาวฝนเลือด เขาก็คือหลวงจีนหยวนเจินที่ปลุกปั่นพวกเจ้ามาสังหารข้านั่นละ…
…สองก็คือ ข้ารู้มาว่าหยวนเจินวางอุบาย ทำให้ราชสำนักมองโกลส่งยอดฝีมือทั้งหมดออกมาล้อมสังหารไป๋ลู่จื่อเจ้าสำนักคุนหลุนอยู่ที่หุบเขาน้ำเต้าโลหิตซึ่งอยู่ห่างไปทางฝั่งตะวันตกของเมืองสามสิบลี้ คิดจะยัดความผิดให้พรรคจรัส…
…เดิมทีในมือข้ามีจดหมายฉบับหนึ่งที่พิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้พรรคจรัสของข้าได้ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสเปิดเผยความจริงให้ใต้หล้ารู้”
ขณะกล่าว จู่ๆ หลวงจีนไว้ผมก็กวาดสายตาไปบนตัวพวกเขาทีละคน พร้อมบอกว่า “หากจอมยุทธ์น้อยทุกท่านทำความปรารถนาอย่างใดอย่างหนึ่งของข้าให้สำเร็จได้ ข้าฟ่านเหยาต่อให้ตายก็จะตายพร้อมรอยยิ้ม”
เมื่อกล่าวถึงสิ่งที่ทั้งเศร้าสลดทั้งเร้าใจจบ เหนือศีรษะของหลวงจีนไว้ผมก็เปลี่ยนเป็นชื่อฟ่านเหยาแล้ว
ข้างหูของทุกคนได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากระบบดังต่อเนื่องกัน
[ติ๊ง! ฟ่านเหยาฝากฝังให้คุณสังหารเฉิงคุน ฉายาหัตถ์อัสนีบาตจักรวาลที่อยู่ในสถานะบาดเจ็บสาหัส จะรับภารกิจหรือไม่]
[ติ๊ง! ฟ่านเหยาฝากฝังให้คุณนำหลักฐานที่เขารวบรวมได้ส่งต่อให้สำนักคุนหลุน เพื่อเป็นการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของพรรคจรัส คุณจะรับภารกิจหรือไม่]
ทุกคนได้ยินแล้วมองหน้ากันไปมองหน้ากันมา แล้วก็เริ่มปรึกษากันในช่องทีม ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงก็จ้องแถบค่าพลังชีวิตของตัวเองเงียบๆ กระทั่งหลังจากผ่านไปสามนาที แถบค่าพลังชีวิตและแถบสีฟ้าก็กลับมาเต็มเหมือนเดิมเพราะมียาเม็ดช่วยเหลือ เสร็จแล้วถึงได้รับภารกิจทั้งสองอย่างพึงพอใจ แล้วบอกในช่องทีมว่า [ไม่ว่าพวกเจ้าจะคิดอย่างไร ข้าก็รับภารกิจทั้งสองไว้หมดแล้ว]
เดิมทีทุกคนลังเล แต่พอเห็นเยี่ยเว่ยหมิงรับภารกิจมาแล้ว พวกเขาก็ย่อมเรียนรู้พฤติกรรมนี้เช่นกัน แต่ละคนรับภารกิจไว้แล้ว
[โจมตีสังหารเฉิงคุน]
ที่แท้หลวงจีนหยวนเจินที่เรียกตัวเองว่านักพรตเต๋าก็คือต้นกำเนิดของความวุ่นวายหายนะทั้งหมด เฉิงคุน ฉายาหัตถ์อัสนีบาตจักรวาล! ฟ่านเหยาฝากฝังให้คุณสังหารเขาทิ้ง!
ระดับภารกิจ: 6 ดาว
ระยะเวลาภารกิจ: 1 ชั่วโมง (1:58:21)
รางวัลภารกิจ: ค่าประสบการณ์ 350,000 แต้ม ค่าบตะ 60,000 หนึ่งในทักษะยุทธ์ที่มีเลเวลไม่เกินเจ็ดจะได้เพิ่มหนึ่งเลเวล
(หมายเหตุ: เฉิงคุนมีทักษะยุทธ์สูงล้ำ ต่อให้ได้รับได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เขาก็ยังอันตรายมาก กรุณาทำภารกิจด้วยความระมัดระวัง)
ภารกิจนี้ไม่ว่าจะเป็นรางวัล หรือเลเวล ก็เทียบภารกิจของหลวงจีนหยวนเจินไม่ติดเลย นี่เป็นการพิสูจน์การคาดเดาของเยี่ยเว่ยหมิงทางอ้อมเช่นกัน ภารกิจไล่ล่าสังหารกับภารกิจคุ้มครองของพวกอวิ๋นหวาซั่งเซียน คาดว่าคงถูกประเมินอยู่ในระดับภารกิจนี้แล้วเช่นกัน
[ส่งจดหมายให้คุนหลุน]
นำจดมหายที่เขียนเล่าความจริงไปส่งให้สำนักคุนหลุน ล้างความอัปยศแทนพรรคจรัส
ระดับภารกิจ: 6 ดาว
รางวัลภารกิจ: ไม่ทราบ
(หมายเหตุ: ในช่วงที่ทำภารกิจจะเก็บจดหมายไว้ในสัมภาระไม่ได้ กรุณาเก็บรักษาอย่างเหมาะสม)
ในที่สุดทุกคนก็รับสองภารกิจแล้ว ฟ่านเหยาถอนหายใจเฮือกหนึ่ง นำกล่องเหล็กออกมาจากหน้าอกแล้วบอกว่า “จดหมายนั่นซ่อนอยู่ในกล่องเหล็กนี้ เรื่องนี้ต้องฝากฝังจอมยุทธ์น้อยทุกท่านด้วย”
ถังซานไฉ่รับกล่องเหล็กไว้ จากนั้นบอกในช่องทีมว่า [ดูท่าแล้วครั้งนี้พวกเราคงต้องตั้งใจร่วมงานกันอีกสักระยะ]
แต่เยี่ยเว่ยหมิงกลับบอกว่า “ก่อนที่จะทำอย่างนั้น ข้าขอเสนอว่า การร่วมงานกันของพวกเราครั้งนี้ เริ่มจากตอนนี้จนกว่าจะแยกย้าย พวกเราควรเพิ่มกติกาการแบ่งไอเทมดรอปดีไหม”
เมื่อได้ยินเยี่ยเว่ยหมิงพูดแบบนี้ น้องดาบก็เอ่ยทันทีว่า “เจ้าลองว่ามาสิ”
“หลังจากบอสทุกคนโดนกำจัด คนสุดท้ายที่เป็นคนโจมตี จะได้เลือกของหนึ่งชิ้นจากของที่ดรอปจากบอสก่อน แต่จะไม่ร่วมมีส่วนแบ่งกับของอย่างอื่น ทุกคนคิดว่าอย่างไร”
คำแนะนำนี้ของเยี่ยเว่ยหมิงไม่ถือว่าดี ถึงขั้นเรียกว่าแย่ก็ได้ ทำให้ในทีมเกิดการแก่งแย่งช่วงชิงได้ง่ายมาก
แต่เพราะนี่คือคำแนะนำของเยี่ยเว่ยหมิง สะพานสวรรค์น้อยจึงตอบโดยไม่คิดเลยว่า “ข้าเห็นด้วย!”
ถังซานไฉ่ซาบซึ้งใจที่ก่อนหน้านี้เยี่ยเว่ยหมิงยอมทิ้งภารกิจของตัวเองเพื่อรับประกันว่าภารกิจของเขาจะสำเร็จได้อย่างราบรื่น เพื่อเป็นการยื่นหมูยื่นแมว เขาก็พยักหน้าเช่นกัน “ข้าก็เห็นด้วย”
ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ เขากลับไม่ได้เห็นด้วยกับคำแนะนำของเยี่ยเว่ยหมิงเท่าไรนัก
ในทีมมีทั้งหมดหกคน ตอนนี้มีเพียงสามคนที่เลือกเห็นด้วย เขาเชื่อว่าอีกสามคนจะต้องคัดค้านแน่นอน แต่กลับคลาดไม่ถึง…
“ข้าก็เห็นด้วยเหมือนกัน!” ขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น หนิวจื้อชุนก็พลันโบกทวนเถี่ยเจี้ยงในมือ แล้วทุบไปบนศีรษะของฟ่านเหยาที่เหลือค่าพลังชีวิตอยู่เพียงนิดเดียวอย่างแรง
ตุ้บ!
ป้องกันไม่ทัน ทูตขวาฟ่านที่ไม่มีความสามารถในการป้องกันใดๆ ถูกตีจนเลือดกระจายเหมือนดอกท้อ วิญญาณกลับปรโลกไปแล้ว!
[ติ๊ง! ทีมของคุณสังหารทูตขวาพรรคจรัสฟ่านเหยา BOSS เลเวล 65 สำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 250000 แต้ม ค่าบตะ 80000 แต้ม!]
[ติ๊ง! ทีมของคุณสังหารเป้าหมายภารกิจ ทำภารกิจ ‘ลงโทษมือสังหาร’ สำเร็จ ได้รับรางวัลภารกิจ: ค่าประสบการณ์ 500000 แต้ม ค่าบตะ 100000 แต้ม หนึ่งในทักษะยุทธ์ที่เลเวลต่ำกว่าเจ็ดจะได้เพิ่มเลเวลหนึ่งเลเวล (รางวัลนี้รับได้ที่หยวนเจินซึ่งเป็นผู้แจกภารกิจ)]
ประกาศระบบ: ผู้เล่นสำนักถังเหมินถังซานไฉ่…
ระบบประกาศต่อเนื่องสามรอบ แต่ทุกคนที่อยู่ตรงนี้กลับไม่มีใครสนใจ สายตาของพวกเขามองไปยังหนิวจื้อชุนที่ลงมือกระทันหันพร้อมกัน
เมื่อเห็นทุกคนบ้างก็ทำสายตาประหลาดใจ บ้างก็เหยียดหยาม บ้างก็อิจฉา บ้างก็เข้าใจกระจ่างในฉับพลัน หนิวจื้อชุนกลับเผยรอยยิ้มอันสดใสออกมา ยิ้มเหมือนเด็กน้อยที่น้ำหนักตัวร้อยกิโลกรัมคนหนึ่ง
ทว่าวินาทีถัดมา รอยยิ้มของเขากลับค้างนิ่งอยู่บนใบหน้า ตามด้วยด่าทอว่า “บัดซบ! ไม่น่าเชื่อว่าระบบจะตำหนิว่าข้าไร้สัจจะ สังหารนักรบที่มีคุณธรรม หักค่าบุญกุศลของข้าไปห้าร้อยแต้ม ตอนนี้ข้าเปลี่ยนจากวีรบุรุษกลายเป็นโจรแล้ว!”
พอพูดจบ เขาก็พลันหันไปมองฉางซิงอวี่ แล้วถามอย่างหงุดหงิด “ไม่น่าเชื่อว่าสังหารฟ่านเหยาจะถูกหักค่าวีรบุรุษเยอะขนาดนี้ ทำไมเจ้าไม่บอกเรื่องนี้ให้เร็วกว่านี้”
ฉางซิงอวี่ยักไหล่เหมือนถูกใส่ร้าย “ครั้งก่อนตอนข้าสังหารก็ไม่ถูกหักนะ ไม่เพียงแค่ไม่ถูกหัก พอทำภารกิจนี้สำเร็จ ค่าวีรบุรุษของข้ายังเพิ่มขึ้นห้าแต้มด้วย”
หนิวจื้อชุนได้ยินแล้วพูดไม่ออกทันที ได้แต่บ่นอย่างกลุ้มใจว่า “ใครบอกข้าได้บ้างว่านี่เรื่องอะไรกันแน่ ค่าวีรบุรุษถูกหักไปแล้วก็ช่างเถอะ แต่ข้าไม่เข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไรกันแน่ ข้าไม่ยอม!”
ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงกลับหันไปถามฉางซิงอวี่ “ครั้งก่อนตอนที่เจ้ากำจัดเขา ผู้ชายคนนี้น่าจะยังชื่อว่าหลวงจีนไว้ผมสินะ”
ฉางซิงอวี่พนักหน้า “เป็นอย่างนั้นจริงๆ ตอนนั้นพวกเรารับภารกิจฆ่าคน ไม่ต่างอะไรกับภารกิจฆ่าบอสทั่วไป ตอนนั้นเขาถูกพวกเราฆ่าตายแล้ว ก็ไม่มีภารกิจต่อเนื่องอะไรตามมา”
เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้าสื่อว่าเข้าใจ “ข้าว่าต่อให้เขาเปลี่ยนชื่อแล้ว ตราบใดที่พวกเราไม่รับภารกิจ การฆ่าเขาก็จะไม่มีบทลงโทษอะไร แต่ในเมื่อพวกเรารับภารกิจของเขามาแล้ว ก็เท่ากับเชื่อคำพูดของเขาแล้ว หากในเวลานี้ยังลงมือฆ่าเขาอีก…”
หนิวจื้อชุนได้ยินแล้วพลันมองไปทางเยี่ยเว่ยหมิง “เจ้ารู้ผลลัพธ์นี้ตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม ถึงได้เสนอความคิดเห็นอย่างนั้นออกมา”
“เรื่องนั้นสำคัญมากหรือ” หนิวจื้อชุนเพิ่งคิดจะเถียงกลับ แต่ได้ยินเยี่ยเว่ยหมิงพูดต่อว่า “ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ข้อเสนอนั้นถูกยอมรับแล้ว อีกทั้งอิงตามข้อเสนอแนะ…”
“ใช่แล้ว!” หนิวจื้อชุนได้ยินแล้วเอามือตบหน้าผากตัวเองทันที เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา “ตามที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ ในบรรดาไอเทมที่ดรอปจากบอส ข้าจะได้เลือกก่อนหนึ่งชิ้น พวกเจ้าห้ามมาแย่งข้านะ!”