ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 269 สือจงอวี้ผู้กล้าหาญ
ตอนที่ 269 สือจงอวี้ผู้กล้าหาญ
ยามเผชิญหน้ากับคุณชายที่ถูกเรียกว่า ‘ประมุขพรรคสือ’ ท่าทีของจั่วซือก็คือจงเกลียดจงชังอย่างถึงที่สุด
ท่าทีเย็นชาเช่นนี้ ถ้าอยู่ในสถานการณ์ทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคโบราณที่ให้ความสำคัญกับธรรมเนียมมารยาท ก็ทำให้คนที่ตามจีบตกใจจนถอยเป็นกลุ่มใหญ่ได้เลย
อย่างไรเสีย คนเราก็ต้องการศักดิ์ศรีหน้าตา
ทว่าบนโลกนี้มักจะมีพวกคนประหลาดออยู่แล้ว
และ ‘ประมุขพรรคสือ’ คนนี้ก็เป็นคนประหลาดอย่างไม่ต้องสงสัย
เขาไม่เพียงแค่ประหลาด ทั้งยังประหลาดแบบไร้ยางอายด้วย!
หลังจากได้ยินคำพูดของจั่วซือ ประมุขพรรคท่านนี้ก็ไม่เพียงแค่ไม่มีท่าทีถอดใจ กลับเข้ามาใกล้ด้วยใบหน้าทะเล้น แล้วกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “น้องจั่วซือ วันนี้ข้ามาเพื่อสู่ขอ ขอเพียงเจ้าตอบตกลงข้า เจ้าก็ไปใช้ชีวิตอู้ฟู่ที่พรรคฉางเล่อได้เลย เหตุใดต้องปฏิเสธกันตั้งแต่พันลี้”
“ใครเป็นน้องท่าน” จั่วซือได้ยินแล้วท่าทีกลับยิ่งเย็นชา “ข้าไม่มีทางตอบรับการสู่ขอของท่าน พ่อข้าก็ยิ่งไม่มีทางทำอย่างนั้น ประมุขพรรคสือได้โปรดออกจากร้านโดยเร็ว อย่าขัดขวางการทำธุรกิจของพวกเรา!”
“ไม่ผิดหรอก!” ตอนนี้เอง ชายชราอายุประมาณห้าสิบเดินออกจากโถงด้านหลัง มองประมุขพรรคสือด้วยสายตาโกรธเคืองพร้อมบอกว่า “ท่านเป็นประมุขพรรคฉางเล่อ ใช้อำนาจบาตรใหญ่อยู่อีกฝ่ายของยุทธภพ ซือเอ๋อร์บ้านข้าเป็นสตรีไร้การศึกษา ไม่คู่ควรกับท่าน และยิ่งไม่อาจเอื้อม ประมุขพรรคสือ เชิญท่านกลับไปดีกว่า!”
ประมุขพรรคสือได้ยินแล้วกลับยิ้มมากกว่าเดิม “จะคู่ควรหรือไม่คู่ควร ไม่ใช่สิ่งที่พวกเจ้ากำหนดเองได้ ในพื้นที่เล็กๆ อย่างเจิ้นเจียง มีเพียงข้าเท่านั้นที่มีอำนาจตัดสินใจ! นักพิธีการเฉิน ตอนนี้น้องจั่วซือยังคิดไม่ได้ เช่นนั้นพวกเราก็ ‘เชิญ’ นางกลับพรรคฉางเล่อก่อน ให้นางค่อยๆ คิดก็ได้”
สิ้นเสียงคำสั่งของประมุขพรรคสือ ก็มีชายร่างกำยำสิบกว่าคนบุกเข้ามาจากด้านนอกทันที ผู้ที่นำหน้ามาเป็นชายถือดาบรูปร่างอวบ หลังจากเข้ามาคุ้มกันอยู่ข้างหลังประมุขพรรคสือแล้ว ก็แสดงท่าทีว่าขอเพียงประมุขพรรคสือออกคำสั่ง ก็พร้อมจะลงมือชิงตัวคนทันที
ยามเผชิญสถานการณ์เช่นนี้ จั่วปั๋วเยี่ยนก็ไม่ได้ขมวดคิ้วเลยสักนิด ยังคงมองคนชั่วร้ายพวกนี้ด้วยสายตาดุร้ายน่ากลัว แม้แต่เยี่ยเว่ยหมิงเองก็มองไม่ออกว่าตอนนี้เขากำลังเครียดหรือกำลังโมโหกันแน่
ส่วนคุณชายที่ถูกเรียกว่าประมุขพรรคสือ จู่ๆ เปลี่ยนประเด็นสนทนา บอกชายถือดาบที่อยู่ข้างๆ ว่า “เมื่อครู่น้องจั่วซือบอกว่าข้าส่งผลกระทบกับธุรกิจของพวกเขา แต่ข้าไม่เห็นว่าที่นี่มีกาารค้าขายนะ”
“นักพิธีการเฉิน เจ้าคิดว่าอย่างไร”
นักพิธีการเฉินคนนั้นจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าประมุขพรรคของตัวเองอยากจะโยน ‘ลูกค้า’ ผู้โชคร้ายสองคนนี้ออกไป อาศัยผลของการสร้างอำนาจบารมี ทำให้จั่วปั๋วเยี่ยนและบุตรสาวได้รู้ถึงความน่าเกรงขามของพรรคฉางเล่อสักหน่อย
พอเป็นเช่นนี้ อีกประเดี๋ยวตอนที่ฉุดเจ้าสาวมาแต่งงาน ไม่แน่ว่าอีกฝ่ายอาจจะขัดขืนน้อยลง คงไม่ถึงขั้นวุ่นวายจนน่ากลียดเกินไป
พอนึกถึงตรงนี้ นักพิธีการเฉินก็มองเยี่ยเว่ยหมิงกับน้องดาบด้วยสายตาเห็นใจนิดหน่อย แต่เห็นใจก็ส่วนเห็นใจ คำสั่งของประมุขพรรคเขาก็ยังต้องเชื่อฟัง จึงส่งสายตาให้ชายฉกรรจ์สิบกว่าคนที่อยู่ข้างหลังแล้วนำพวกเขาไปล้อมทั้งสองคนที่ยืนอยู่ทันที
“ช้าก่อน!” ทันใดนั้น ประมุขพรรคสือกลับห้ามนักพิธีการเฉินไว้ จากนั้นหัวเราะคิกคักเดินเข้าไปตรงหน้าน้องดาบ จ้องตาเป็นมันพร้อมกล่าวว่า “นึกไม่ถึงเลย นึกไม่ถึง! นึกไม่ถึงว่าร้านเทพสุราแห่งนี้ นอกจากน้องจั่วซือแล้ว ยังมีสตรีที่สวยตะลึงทั้งยังจับต้องได้อยู่อีกคน แต่น่าเสียดายที่เป็นผู้เล่น ดูได้แต่สัมผัสไม่ได้ น่าเสียดายเกินไปจริงๆ…”
เมื่อเห็นท่าทางไร้ยางอายของประมุขพรรคสือ เยี่ยเว่ยหมิงก็ถึงขั้นอดกดไลก์ในใจไม่ได้
ไม่น่าเชื่อว่าแม้แต่กับน้องดาบก็กล้าพูดจาแทะโลม ช่างกล้าหาญน่าชื่นชมจริงๆ เต็มไปด้วยความกล้าหาญ!
เขาจำได้ว่า NPC ที่เคยพูดประโยคนี้ ตอนนี้เกรงว่าหญ้าบนหลุมฝังศพคงสูงเท่าตัวคนแล้ว
“อ้อ?” เมื่อเห็นประมุขพรรคสือพูดจาเสียมารยาทกับตนอย่างกล้าหาญเช่นนี้ บนใบหน้าน้องดาบก็เผยรอยยิ้มที่สดใสเหมือนดอกไม้ “เจ้าเองก็รู้สึกว่าน่าเสียดายมากเหมือนกันหรือ”
พอเห็นว่าน้องดาบไม่เพียงแค่ไม่โกรธที่ตนพูดหยอก กลับเผยรอยยิ้มที่น่าเย้ายวนใจขนาดนี้ ประมุขพรรคสือก็อารมณ์ดีขึ้นมากทันที “แน่นอนอยู่แล้ว! แม่นางผู้นี้ เจ้าเองก็คิดอย่างนี้เหมือนกันหรือ”
น้องดาบส่ายหน้าเล็กน้อย “ที่จริงก่อนเจอเจ้า ก็มี NPC หลายคนที่เคยมีความคิดอย่างนี้เช่นกัน แต่ตอนนี้พวกเขาไม่มีความคิดอย่างนั้นแล้ว”
ประมุขพรรคสือได้ยินแล้วงง เห็นได้ชัดว่ายังไม่เข้าใจความหมายในคำพูดของน้องดาบ
ตอนนี้เอง น้องดาบกลับโบกฝ่ามือออกมาอย่างแรง ตบบนใบหน้าเล็กขาวของประมุขพรรคสืออย่างไม่ปรานี
เพียะ!
เสียงอันไพเราะกังวานดังขึ้น ดังก้องทั่วทั้งห้องในชั่วพริบตาเดียว ตอนที่ฝ่ามือกับแก้มแนบชิดกันจนเกิดเสียงก้องกังวาน ร่างของประมุขพรรคสือก็ราวกับลูกข่าง หมุนห้าตลบภายในหนึ่งวินาที จากนั้นก้นก็กระแทกพื้น
-233
ต้องบอกเลยว่าการโจมตีกะทันหันของน้องดาบไม่เพียงแค่ทำให้คนสะใจ แม้แต่ตัวเลขพลังชีวิตลดที่ลอยออกมาจากฝ่ามือนี้ก็น่าเฉลิมฉลองเช่นกัน
[สือจงอวี้]
ประมุขพรรคฉางเล่อ ไม่เรียนรู้ทักษะใดๆ ก่อกรรมทำชั่วมากมาย ไม่สนใจกฎเกณฑ์
เลเวล: 33
พลังชีวิต: 24767/25000
กำลังภายใน: 2500/2500
……
ฝ่ามือเดียวของน้องดาบไม่เพียงแค่ตบจนประมุขพรรคสือหัวหมุน ทั้งยังถือโอกาสตบค่าสเตตัสของบอสอย่างเขากับนักพิธีการเฉินให้เผยออกมาด้วย ที่แท้ประมุขพรรคฉางเล่อคนนี้ก็ชื่อว่าสือจงอวี้
เฉินชงจือ
นักพิธีการหอซือเวยของพรรคฉางเล่อ
เลเวล: 53
พลังชีวิต: 160000/160000
กำลังภายใน: 68000/68000
……
“อย่าทำร้ายประมุขพรรคของเรา!” เมื่อเห็นสือจงอวี้เสียเปรียบด้วยน้ำมือน้องดาบ เฉินชงจือก็ตะคอกอย่างเดือดดาล แล้วยื่นมือคว้าดาบที่สะพายอยู่ข้างหลังทันที
ทว่าไม่ทันรอให้เขาชักดาบออกจากฝัก เยี่ยเว่ยหมิงที่อยู่ข้างๆ กลับก้าวขึ้นมาข้างหน้าก้าวหนึ่ง ใช้ฝ่ามือธรรมดาๆ ประทับตรงหน้าอกของเขาก่อนแล้ว
เยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้ชอบเสแสร้งเหมือนน้องดาบ คนที่เน้นผลลัพธ์อย่างเขาแค่ไม่ลงมือเท่านั้นเอง ถ้าลงมือขึ้นมาก็ใช้ท่าไม้ตายที่โหดร้ายที่สุด!
เฉินชงจือตัดสินศัตรูผิดพลาดอย่างร้ายแรง ทำให้เขาต้องจ่ายอย่างแสนสาหัสให้กับความสะเพร่าของตัวเองทันที
“อา โอย!…”
ตอนที่สองฝ่ามือสัมผัสกัน เฉินชงจือที่ไม่ถนัดเคล็ดฝ่ามือถูกพลังฝ่ามือรูปมังกรสีน้ำเงินกลืนทันที แม้แต่ผู้ช่วยพรรคโชคร้ายสองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาก็ถูกฝ่ามือของเยี่ยเว่ยหมิงตบจนกระเด็นถอยหลังเช่นกัน
กร๊อบ! ขณะเดียวกันนี้เอง เสียงกระดูกหักเสียดหูก็ดังขึ้น ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ยินหมด
-17685
กระดูกแตก!
แค่โจมตีครั้งเดียว ลูกน้องเบอร์หนึ่งของประมุขพรรคสือก็แขนพิการไปข้างหนึ่งแล้ว จากนั้นก็กระเด็นออกจากประตูไปกระแทกอยู่กลางถนนอย่างแรง ส่งเสียงโอดครวญผิดมนุษย์มนาอยู่พักหนึ่ง
ลูกน้องที่ช่วยเจ้านายทำชั่วถูกโจมตีจนพิการเพียงชั่วพบหน้ากัน สือจงอวี้กลับไม่สนใจแม้แต่น้อย ไม่เพียงแค่ไม่สนใจความเป็นความตายของลูกน้องตัวเอง ที่สำคัญกว่านั้นคือตอนนี้เขาก็เอาตัวเองไม่รอดเหมือนกัน
หลังจากลุกขึ้นมาจากพื้น สือจงอวี้ก็คิดจะลงมือกับน้องดาบเพื่อกู้หน้ากลับมา แต่คนขี้เมาหยำเปอย่างเขาจะเป็นคู่ต่อสู้ของน้องดาบได้อย่างไร
เพียงชั่วพบหน้ากัน บนตัวก็ถูกน้องดาบโจมตีอย่างรุนแรงหลายครั้งต่อเนื่องกันแล้ว ทั้งยังถูกนางถือโอกาสฉีกแขนเสื้อออกมาครึ่งหนึ่ง แล้วโยนไปด้านข้างอย่างรังเกียจมาก
ครั้งนี้น้องดาบเหมือนเกิดจิตสังหารแล้วจริงๆ ไม่รอให้สือจงอวี้เปลี่ยนท่า นิ้วมือข้างขวาทั้งห้าก็กุมไปบนกะโหลกศีรษะของเขา ทำให้เขาขยับตัวไม่ได้แล้ว เพียงรอให้นางออกแรง ก็จะเกิดคริติคอลดาเมจที่ทำให้ถึงแก่ชีวิตได้เลย!
นี่ก็คือจุดที่ทำให้คนได้ยินชื่อแล้วตกใจจนขี้ขลาดที่สุดของ ‘กรงเล็บกระดูกขาวเก้าอิม’
ทะลวงศีรษะศัตรูเหมือนบีบเต้าหู้!