ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 274 อยู่ใกล้กลางคืนย่อมมืด!
ตอนที่ 274 อยู่ใกล้กลางคืนย่อมมืด!
ฝ่ามือที่ดูเหมือนไม่มีอานุภาพของเยี่ยเว่ยหมิง ซ่อนอันตรายอย่างไรเอาไว้กันแน่ เฉินชงจือที่เสียเปรียบให้มันเป็นครั้งหนึ่งแล้วมีหรือที่จะไม่รู้
แต่จนใจที่ฝ่ามือนี้ของเยี่ยเว่ยหมิงโผล่มากะทันหันเกินไป ตอนที่เขาสังเกตเห็นมัน ฝ่ามือของเยี่ยเว่ยหมิงก็อยู่ห่างจากศีรษะของเขาไม่ถึงสามฉื่อแล้ว ถ้าคิดจะหลบหรือชักดาบออกมามีหรือจะทัน
ด้วยความจนใจสุดๆ เฉินชงจือทำได้เพียงแข็งใจชูมือขวาขึ้นมารับกับฝ่ามือของเยี่ยเว่ยหมิง
ทำให้แขนพิการอีกข้างแม้จะรอดยาก แต่ก็ยังดีกว่าโดนตบจนศีรษะระเบิดไม่ใช่หรือ
“อา!…”
กร๊อบ!
-17712
กระดูกแตก!
ตามด้วยเสียงร้องโอดครวญอันแหลมเล็ก แขนขวาของเฉินชงจือหักแล้ว
แม้จะเป็นการโจมตีครั้งเดียว แต่อีกฝ่ายก็เป็นยอดฝีมือเพียงคนเดียวในกระบวนทัพที่พอจะรับมือกับพวกเขาได้ พอเป็นแบบนี้จึงสูญเสียพลังรบไปแล้วโดยสิ้นเชิง กลายเป็นแพะที่รอถูกเชือดอยู่บนเขียงแล้ว!
ขณะเดียวกันนี้เอง กลุ่มลูกสมุนของพรรคฉางเล่อกลับเห็นเงาสีแดงแวบผ่านตรงหน้า หลังจากเยี่ยเว่ยหมิงลงมือแล้ว กลับเห็นน้องดาบชักดาบออกจากฝักทันที เงาร่างสีแดงเพลิงพุ่งไปทางตำแหน่งที่สือจงอวี้อยู่ราวกับลูกธนู
จุดไหนที่นางผ่านไป ก็ไม่มีศัตรูคนไหนต้านไหวเลย!
กลุ่มลูกสมุนพรรคฉางเล่อที่เตรียมจะมาบังตรงหน้าสือจงอวี้ เพียงชั่วพริบตาเดียวก็มีเจ็ดคนที่ได้กลับบ้านเก่าภายใต้กรงเล็บของนาง
กล่าวได้ว่า เทพท่องร้อยแปรเปลี่ยนราวฟ้าแลบ กรงเล็บกระดูกขาวเก้าอิมดุจลมหนาว โจมตีสังหารศัตรูไม่ซ้ำหน้า ดาบโลหิตผ่านเกิดแสงสีแดง!
สังหารจนเกิดทางเลือดท่ามกลางวงล้อมของพรรคฉางเล่อ พอน้องดาบเห็นสือจงอวี้ที่กำลังลนลานหวาดกลัว นางก็เผยรอยยิ้มเหี้ยมโหดออกมาทันที
จากนั้นตัวเดินตามดาบ มุ่งตรงไปยังรังของศัตรู!
แม้ค่าพลังชีวิตของสือจงอวี้กับเฉินชงจือจะกลับมาเต็มแล้ว แต่เมื่อน้องดาบโจมตีสุดกำลัง ประมุขพรรคสือท่านนี้ก็ยังทนรับได้ไม่ถึงสามกระบวนท่า ถูกมือซ้ายของน้องดาบขยุ้มหัวกะโหลกไว้อีกครั้ง
ทว่าครั้งนี้ กลับไม่มีใครห้ามไม่ให้นางโจมตีด้วยพลังทั้งหมดอีกแล้ว นิ้วทั้งห้าที่ขาวดุจหยกพลันออกแรง…
กร๊อบ!
-10010!
ท่ามกลางเสียงกระดูกแตกที่ทำให้คนได้ยินรู้สึกปวดฟัน ความชั่วร้ายทั้งชีวิตของสือจงอวี้ก็ถูกเขียนเครื่องหมายจบประโยคแล้ว
[ติ๊ง! ทีมของคุณสังหารสือจงอวี้ BOSS โหมดปกติเลเวล 33 สำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 20000 แต้ม ค่าตบะ 3000 แต้ม!]
[ประกาศระบบ: เยี่ยเว่ยหมิง ผู้เล่นสำนักมือปราบเทพ หนึ่งดาบสามเฉือนผู้เล่นสำนักดาบโลหิต สังหารสือจงอวี้ BOSS โหมดปกติเลเวล 33]
เนื่องจากสือจงอวี้เป็นบอสโหมดปกติ หลังจากถูกสังหารครั้งนี้จึงรีเฟรชไม่ได้อีก ตั้งแต่นี้ไป ในเกม ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’ จะไม่มีสือจงอวี้อีก!
[ผู้เล่นสองคนที่เข้าร่วมการโจมตีสังหาร จะได้รับรางวัลสังหารสิ้นซาก: ชื่อเสียงยุทธภพ 30000 แต้ม ค่าผลงานสำนัก 5000 แต้ม!]
ประกาศระบบ: สำนักมือปราบเทพผู้เล่นเยี่ยเว่ยหมิง…
……
เสียงประกาศระบบดังอยู่ในหู อีกด้านหนึ่ง ชีวิตของเฉินชงจือเดินมาถึงจุดจบแล้ว
หลังจากเยี่ยเว่ยหมิงพลันใช้ฝ่ามือโจมตีแขนที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียวของเขาแล้ว ก็ใช้ท่าไม้ตายต่างๆ ทักทายบนตัวของอีกฝ่ายต่อเนื่องไม่หยุด
พเนจรสุดขอบฟ้า!
หน้าบุปผาใต้แสงจันทร์!
วิชาดรรชนีศักดิ์สิทธิ์!
ไซซีกุมดวงใจ!
ไซซีกุมท้อง!
ไซซีกุมไต!
ไซซีกุมคอ!
ไซซีกุมลูกตา…
[ติ๊ง! ทีมของคุณโจมตีสังหารเฉินชงจือ BOSS โหมดปกติเลเวล 53 สำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์…]
[ประกาศระบบ: เยี่ยเว่ยหมิง ผู้เล่นสำนักมือปราบเทพ หนึ่งดาบสามเฉือน ผู้เล่นสำนักดาบโลหิต สังหารเฉินชงจือ BOSS โหมดปกติเลเวล 53 ทำเฟิร์สคิลสำเร็จ ได้รับรางวัลเฟิร์สคิล…]
……
ฝั่งน้องดาบเพิ่งจะส่งสือจงอวี้ไปยมโลก เยี่ยเว่ยหมิงก็ส่งเฉินชงจือตามไปติดๆ กัน ให้ไปเคียงข้างกันอยู่ในยมโลก!
ส่วนลูกสมุนเจ็ดแปดคนของพรรคฉางเล่อที่เหลือ หลังจากประมุขพรรคกับนักพิธีการทยอยตายตามกันไปแล้ว พวกเขาก็แตกตื่นเหมือนฝูงนกทันที บ้างก็หนีเข้าป่า บ้างก็กระโดดลงแม่น้ำ ไม่มีความคิดที่จะสู้กับทั้งสองให้ถึงที่สุดเลย ไม่มีความหยิ่งในศักดิ์ศรีเลยแม้แต่น้อย
เยี่ยเว่ยหมิงกับน้องดาบส่งสายตาให้กัน จากนั้นก็แยกกันไปทางซ้ายและขวาอย่างเข้าใจกัน น้องดาบรับหน้าที่เฝ้าตรงป่าภูเขา ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงก็รับหน้าที่โจมตีสังหารลูกสมุนห้าคนของพรรคฉางเล่อพี่กระโดดลงแม่น้ำ
เมื่อเห็นห้าคนนั้นกระโดดลงแม่น้ำโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง เยี่ยเว่ยหมิงก็ตามติดไปทันที แล้วใช้ดาบยาวฟันสังหารสองคน ก่อนจะพุ่งตัวไปข้างหน้าเพื่อขวางอีกสามคนที่เหลือ แล้วพลิกฝ่ามือถล่มมังกรซ่อนกบดานใส่อีกสามคนที่เหลือ
ครั้งนี้เยี่ยเว่ยหมิงทำเพื่อป้องกันไม่ให้ศัตรูหนี จึงไม่ได้ใช้มังกรซ่อนกบดานให้ถึงระดับที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เขาละทิ้งประสิทธิภาพสูงสุดของมัน เปลี่ยนไปใช้ในขอบเขตที่กว้างขึ้นแทน
เห็นเพียงหัวมังกรสีเขียวตัวใหญ่เกือบสามเมตรถูกสาดออกมาจากมือของเขา พลังฝ่ามืออันธพาลแผ่คลุมศัตรูทั้งสามคนไว้ในนั้น
ขอบเขตของกระบวนท่ากว้างเกินไป ทำให้พลังทำลายล้างของมันมีขีดจำกัด ถึงขนาดว่าพอโจมตีถูกตัวของลูกสมุนธรรมดาของพรรคฉางเล่อแล้ว ก็ทำให้พวกเขากระเด็นเท่านั้น แต่กลับโจมตีครั้งเดียวปลิดชีพไม่ได้
แต่เยี่ยเว่ยหมิงเตรียมใจกับสิ่งนี้ไว้นานแล้ว ตอนที่ใช้ฝ่ามือเดียวตบทั้งสามกระเด็นกลับไป สองเท้าก็ออกแรง ทำให้ร่างพุ่งไปข้างหน้าเหมือนพายุในชั่วพริบตาเดียว ออกตัวทีหลังแต่ไปถึงก่อนสามคนที่กำลังบาดเจ็บสาหัสและติดสถานะลอย แล้วใช้มือขวากวาดกระบี่แสงทองในแนวขวาง มือซ้ายใช้วิชาดรรชนีศักดิ์สิทธิ์เสริมไปอีกเบาๆ เท่านี้ก็จัดการทั้งหมดได้แล้ว
ส่วนน้องดาบที่อยู่อีกฝั่ง ตอนนี้ก็สังหารศัตรูที่หนีมาทางนางจนตายหมดแล้วเช่นกัน
การดักซุ่มโจมตีครั้งนี้ แม้จะเกิดความผิดพลาดเล็กน้อยตอนวางแผน แต่ยอดฝีมือผู้เล่นสองคนนี้กลับอาศัยศักยภาพและการเคลื่อนไหวของพวกเขาอุดช่องโหว่เดิมที่มีอยู่ โจมตีสังหารศัตรูตายทั้งกลุ่มได้อย่างสวยงาม!
ace!
victory!
ไม่รู้เพราะอะไร ในหัวเยี่ยเว่ยหมิงมีศัพท์ภาษาอังกฤษสองคำปรากฏขึ้นพร้อมกัน ทั้งยังเป็นเสียงของหุ่นยนต์ผู้หญิงที่น้ำเสียงสูงเป็นพิเศษ
เสียงสูงฝ่าทะลุเมฆ
เยี่ยเว่ยหมิงสะบัดหัวโยนเสียงมายาทิ้งไป แล้วหันไปถามน้องดาบว่า “เจ้าจะคลำศพหรือจะให้ข้าคลำศพ”
น้องดาบกะพริบตา “หนึ่งต่อหนึ่ง”
เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้า “ใครฆ่าคนไหนก็คลำคนนั้น”
น้องดาบพูดเสริม “จากนั้นก็ทำตามกฎเดิม แบ่งผลตอบแทนเท่ากัน”
เหมือนคำกล่าวที่ว่า ‘อยู่ใกล้หมูย่อมอ้วน อยู่ใกล้กลางคืนย่อมมืด[1]’ เพราะอยู่กับเยี่ยเว่ยหมิงมานาน น้องดาบไม่ใช่เด็กสาวไร้เดียงสาที่รู้จักแต่การถือดาบฆ่าคนอีก
พอเยี่ยเว่ยหมิงบอกว่าหนึ่งต่อหนึ่ง นางก็กล่าวเสริมทันที ไม่รอให้เยี่ยเว่ยหมิงเอ่ยเรื่องการแบ่งศพเพื่อหาโอกาสตักตวงผลประโยชน์มากกว่านี้
แต่ในเมื่อน้องสาวคนนี้ไหวตัวทันแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็ทำได้เพียงล้มเลิกความคิดที่จะวางกับดักนาง
อย่างไรเสีย เขาก็เป็นคนที่มีคุณภาพคนหนึ่งเหมือนกัน!
แม้จะเป็น BOSS กระจอกเลเวลสามสิบสาม ต่อให้เป็นร่างแท้ในโหมดปกติ ผลผลิตก็แทบจะเทียบกับ BOSS เลเวลห้าสิบสามไม่ติด
แต่ถึงอย่างไร เขาก็มีขีดจำกัดสูงมาก ต่อให้ดรอปได้ถังหูลู่ที่เขาแย่งมาจากเด็ก แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมีทรัพยากรเยอะเท่า BOSS ใหญ่เลเวลห้าสิบสาม
อย่างไรเสียก็ไม่ใช่ว่า BOSS ร่างแท้ทุกคนจะเหมือนหวันเหยียนคังที่มีฐานะพระรองของเรื่อง
หลังจากบรรลุข้อตกลงเรื่องแบ่งของแล้ว ทั้งสองก็ไม่พูดมากอีก ต่างคนต่างเตะ BOSS ที่ตัวเองฆ่าตาย
จากนั้น น้องดาบก็นึกเสียใจทีหลังที่ก่อนหน้านี้ตัวเองจิตใจต่ำต้อยไร้คุณธรรม
นางมองเยี่ยเว่ยหมิงที่สุขุมเยือกเย็นแวบหนึ่ง แล้วถามหยั่งเชิงว่า “หรือว่าพวกเราจะแบ่งของกันตามผลงาน ฆ่า BOSS คนไหนก็ได้ไอเทมของคนนั้นไป”
“หึหึ เจ้าเดาสิว่าข้าจะตอบตกลงไหม” เยี่ยเว่ยหมิงถาม
“จะตกลง!” น้องดาบพยักหน้า
“ตกลงบ้าอะไร!” เยี่ยเว่ยหมิงพูดเสริมท้ายให้
“แต่ของสองอย่างนี้ล้วนเป็นสินค้าระดับสูงที่มีมูลค่าในตลาด ข้าให้เจ้าเลือกก่อน เลือกมาหนึ่งอย่าง”
[1] กลางคืน ภาษาจีนคือ เยี่ย 夜 ความหมายเดียวกับชื่อของพระเอก