ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 288 สหายร่วมทีมโง่เง่า ฉินหนานฉิน
ตอนที่ 288 สหายร่วมทีมโง่เง่า ฉินหนานฉิน
ซื้อบื้อ เจ้ามันผู้หญิงโง่!
ข้ากับเจ้าไม่มีบุญคุณความแค้นต่อกัน ไม่ควรมาวางกับดักกันอย่างนี้สิ
พอได้ยินฉินหนานฉินเอ่ยปากขอให้ตนช่วยเหลือ เยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่รู้ว่าจะบรรยายผู้หญิงโง่หน้าอกใหญ่คนนี้อย่างไรดี
อย่าบอกนะว่าในเวลาแบบนี้ จะไม่ควรแสร้งทำเป็นไม่รู้จักข้า จากนั้นปล่อยให้ข้าล่อหลี่คูโหลวออกไปสังหารได้อย่างราบรื่น จากนั้นค่อยช่วยชีวิตเจ้าออกมาอย่างสง่างาม
แต่พอเจ้าพูดแบบนี้ ทุกคนก็รู้กันหมดว่าเป้าหมายของข้าคือมาช่วยชีวิตเจ้า
หลี่คูโหลวคนนี้ ขอเพียงไม่ใช่คนโง่ จะไม่รู้เชียวหรือว่าควรจับเจ้าเป็นตัวประกันเพื่อมาขู่ข้า
เจ้าวางกับดัก!
วางกับดักกันเกินไปจริงๆ!
เจ้ารู้หรือเปล่าว่าเจ้ากำลังเพิ่มความยากให้ภารกิจนี้!
เจ้าวางกับดักกันแบบนี้ พ่อเจ้ารู้บางหรือเปล่า
แต่เยี่ยเว่ยหมิงเป็นใครกัน
เป็นคนโหดที่วางกับดักให้เฉิงคุนตายมาแล้ว!
สหายโง่เง่าอย่างฉินหนานฉินแม้จะวางกับดัก แต่อุปสรรคเล็กน้อยเท่านี้ทำอะไรเขาไม่ได้
เมื่อได้ยินฉินหนานฉินร้องขอให้ช่วยชีวิต เขาก็ไม่รอให้ผู้พิพากษาอำเภอหลี่คูโหลวมีปฏิกิริยาอะไร กลับเบิกตากว้างแล้วตวาดว่า “หุบปาก! เจ้าโจรกบฏ!”
เมื่อกล่าวคำนี้ออกมา ก็ไม่ใช่แค่ฉินหนานฉินพี่ทำอะไรไม่ถูก แม้แต่หลี่คูโหลวที่อยู่ข้างกันก็ตกอยู่ในสภาวะมึนงงเช่นกัน
โจรกบฏบ้าบออะไรกัน
แกร๊ง!
กระบี่อาญาสิทธิ์ออกจากฝัก ราวกับเป็นรุ้งสายหนึ่งที่แวบผ่านในห้องมืดทึบ จากนั้นก็ได้ยินเยี่ยเว่ยหมิงพูดเสียงดังว่า “โจรกบฏฉินหนานฉิน หวันเหยียนคังคนชั่วแคว้นจินเป็นคนส่งมา บุกเข้าวังโดยอ้างเรื่องการคัดเลือกนางใน แต่ความจริงซ่อนงูพิษไว้กับตัว มีเจตนาเข้าใกล้ฮ่องเต้แล้วลอบปลงพระชนม์!”
“วันนี้ข้าได้รับบัญชาให้ถือกระบี่อาญาสิทธิ์มาที่นี่เพื่อสังหารคนชั่ว หากมีใครกล้าปกป้อง จะถือว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด ประหารเจ็ดชั่วโคตร!”
เยี่ยเว่ยหมิงก็แค่ไม่พูดเท่านั้นเอง พอพูดขึ้นมาก็โยนข้อหาที่ทำให้คนถึงตายให้ทันที ทำให้ฉินหนานฉินกับหลี่คูโหลวคิดตามไม่ทัน
โดยเฉพาะหลี่คูโหลว เขารู้สึกว่าตัวเองได้รับความไม่เป็นธรรม รันทดยิ่งกว่ายิ่งกว่าโต้วเอ๋อ[1]เสียอีก!
อย่างมากเขาก็ฆ่าคนไปไม่กี่คน แล้วก็ใช้วิธีการน่ารังเกียจให้ได้ตำแหน่งผู้พิพากษาอำเภอ ใช้อำนาจบาตรใหญ่รังแกประชาชนผู้บริสุทธิ์ในอำเภอ นอกจากนี้ โจรที่เขาทรายพิษ ที่จริงก็ฟังคำสั่งของเขาเช่นกัน เรียกได้ว่าเขาเป็นขุนนางโฉดเต็มตัว
แต่นี่คือความรู้สึกของหลี่คูโหลว เขารู้สึกว่าเขาก็เป็นคนดีคนหนึ่ง!
อย่างน้อยเรื่องใหญ่ๆ อย่างการวางแผนก่อกบฏ ลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้ ยังไม่ต้องพูดถึงว่าเขาจะทำหรือเปล่า แค่คิดเขายังไม่กล้าคิดเลย
ส่วนฉินหนานฉินที่ดูเหมือนอ่อนแอปวกเปียก ไม่น่าเชื่อว่าจะกล้าลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้!
คนเรามองกันที่หน้าตาไม่ได้จริงๆ
ดังนั้น มือปราบแห่งสำนักมือปราบเทพที่ถือกระบี่อาญาสิทธิ์ มองปราดเดียวก็รู้ว่าไม่ได้มาดี ก็คือคนที่ฉินหนานฉินเรียกมาอย่างนั้นหรือ
ข้าไปก่อกรรมทำเข็ญอะไรเอาไว้กันแน่!
ท่ามกลางสายตากลัดกลุ้มไร้ที่เปรียบของหลี่คูโหลว เยี่ยเว่ยหมิงชักกระบี่ออกจากฝักแล้ว ร่างเดินไปตามกระบี่ ใช้ท่าพเนจรสุดขอบฟ้าโจมตีไปทางฉินหนานฉิน “คนที่ไม่เกี่ยวข้องรีบถอยไป หากบาดเจ็บเพราะกระบี่อาญาสิทธิ์ ตายแล้วก็จะถือว่าตายเปล่า!”
“ก็ได้! เชิญท่านทำงานของท่านเถิด…”
ตอนที่พูด หลี่คูโหลวก็ถอยหนีออกมาไกลแล้ว
หลังจากรู้ว่าเป้าหมายของเยี่ยเว่ยหมิงคือฉินหนานฉิน ไม่ใช่ตน หลี่คูโหลวก็รู้สึกว่าตำแหน่งขุนนางของตนอาจจะช่วยชีวิต…
ส่วนตอนที่ฉินหนานฉินเห็นมือปราบคนนี้ก่อนหน้านี้แล้วแสดงท่าทางอย่างนั้นออกมาโดยไม่รู้ตัวก็แสดงว่านางรู้จักเขาแน่นอน สิ่งนี้ยิ่งพิสูจน์ฐานะมือสังหารของนางแล้ว…ช้าก่อน!
แปลกๆ นะ!
หลี่คูโหลวตัดสินใจเรียบเรียงความคิดก่อน…เมื่อครู่ตอนฉินหนานฉินเห็นมือปราบคนนี้แวบแรก เห็นได้ชัดว่านางเผยสีหน้าดีใจ ไม่ใช่สีหน้าหวาดกลัว แล้วก่อนหน้านี้นางเรียกเขาว่าอะไรนะ
จอมยุทธ์น้อยเยี่ย!?
นี่คือคำพูดที่มือสังหารควรพูดกับมือปราบที่จะมาจับนางอย่างนั้นหรือ
ถึงอย่างไรก็เป็นมหาโจรที่ก็กล้าตั้งตัวเป็นศัตรูกับเจ็ดประหลาดแห่งเจียงหนาน ทั้งยังมีชีวิตรอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ หลี่คูโหลวไม่ใช่คนโง่ หลังจากผ่านช่วงตกใจตอนแรกไปแล้ว ตอนนี้เขาสังเกตเห็นจุดที่ไม่ชอบมาพากลทันที
เพียงแต่ความสงสัยแบบนี้ยังไม่เพียงพอให้เขาลงมือทำอะไร
อย่างน้อยเครื่องแบบขุนนางกับกระบี่อาญาสิทธิ์บนตัวเยี่ยเว่ยหมิง ตอนนี้เขาก็ยังแยกแยะความจริงไม่ออก เมื่ออยู่ในสถานการณ์แบบนี้ สังเกตสถานการณ์อย่างเงียบๆ คือวิธีการที่ฉลาดที่สุด
ทว่าวินาทีถัดมา การกระทำของเยี่ยเว่ยหมิงกลับทำให้เขาตัดสินใจที่จะแปรพักตร์แล้ว
เห็นเพียงกระบี่อาญาสิทธิ์ในมือเยี่ยเว่ยหมิงสั่นอย่างรุนแรง ไม่เพียงแค่ไม่ทำให้ฉินหนานฉินบาดเจ็บ กลับทำให้เชือกที่มัดอยู่บนตัวนางขาดหลายท่อนด้วย
เมื่อเห็นฉากนี้ ในที่สุดหลี่คูโหลวก็เข้าใจเรื่องบางอย่างชัดเจนแล้ว
มือปราบที่ถือกระบี่อาญาสิทธิ์คนนี้มาเพื่อช่วยคนจริงๆ อีกทั้งเป้าหมายของเขาก็รวมตนอยู่ในนั้นด้วย!
ถ้าเปลี่ยนเป็นผู้พิพากษาอำเภอทั่วไปเห็นผู้ที่ได้รับอำนาจจากกษัตริย์ถือกระบี่อาญาสิทธิ์มา ต่อให้รู้อยู่แก่ใจว่าไม่เป็นผลดีต่อตัวเอง แต่ก็ไม่กล้าก็กบฏแน่นอน
แต่น่าเสียดาย หลี่คูโหลวไม่ใช่ขุนนางโลภธรรมดาทั่วไป แต่เป็นพวกทำผิดกฎหมายโดยไม่สนใจชีวิตแบบขนานแท้!
ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงโบกกระบี่พันเชือกบนตัวฉินหนานฉิน หลี่คูโหลวที่ตระหนักได้ว่าท่าไม่ดีแล้วก็จู่โจมจากข้างหลังอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย ฝ่ามือสองข้างที่เดิมทีสีขาว ตอนนี้พลันกลายเป็นสีแดงเข้มเหมือนเลือด จากนั้นก็ใช้ฝ่ามือขวาตีมาทางหัวใจข้างหลังของเยี่ยเว่ยหมิง
ฝ่ามือยังไม่ทันโจมตีมาถึง ลมฝ่ามือกลิ่นเหม็นสาบก็ทำให้เยี่ยเว่ยหมิงกับฉินหนานฉินแทบจะหายใจไม่ทันแล้ว
ส่วนสาเหตุว่าทำไมเยี่ยเว่ยหมิงจึงรีบช่วยแก้มัดให้ฉินหนานฉินก่อน ไม่ยอมส่งนางออกจากศาลาว่าการอำเภอในฐานะฆาตกรที่ถูกจับกุม แล้วจากนั้นค่อยย้อนกลับมาสู้กับหลี่คูโหลว
ขุนนางทุจริตธรรมดาคนหนึ่งแม้จะไม่กล้าทำตัวไร้เหตุผลต่อผู้แทนพระองค์ แต่ขุนนางทุจริตธรรมดาคนหนึ่งจะใช้ฝ่ามือทรายพิษเป็นได้อย่างไร
ฟังเสียงเพื่อแยกแยะตำแหน่ง เยี่ยเว่ยหมิงพลันหมุนตัวแล้วผลักฝ่ามือซ้ายออกมาหนึ่งครั้ง ใช้ท่ามังกรซ่อนกบดานรับกลับฝ่ามือผิดของอีกฝ่ายอย่างแม่นยำ
โครม!
ภายใต้การโจมตีนี้ เยี่ยเว่ยหมิงถอยหลังก้าวหนึ่งเพราะแรงสะท้อนกลับ เขากัดฟันฝืนพยุงร่างให้มั่นคง บังคับให้ตัวเองไม่ไปชนกับฉินหนานฉินอยู่ข้างหลังได้
ขณะเดียวกันนี่เอง เหนือศีรษะของเขาก็มีตัวเลขค่าพลังชีวิตลดสีแดงลอยขึ้นมา
-1450!
ส่วนหลี่คูโหลวถอยหลังสามก้าวโดยไม่ต้องกังวลใดๆ เพียงแต่เขาที่รับกับสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรเต็มๆ กลับถูกเยี่ยเว่ยหมิงโจมตีจนเกิดตัวเลขดาเมจไม่ใช่น้อยๆ
-13896!
ขณะเดียวกันนี้เอง แถบพลังชีวิตของทั้งสองคนก็กลายเป็นสีเขียวพร้อมกัน
ที่แท้ค่าตบะฝ่ามือทรายพิษของหลี่คูโหลว ไม่น่าเชื่อว่าจะเหนือกว่าหลี่เปียวก่อนหน้านี้เสียอีก!
แต่เมื่อเทียบกับเยี่ยเว่ยหมิง สถานการณ์ของหลี่คูโหลวแย่กว่า
เมื่อรับสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรซึ่งๆ หน้าหนึ่งที ใต้เท้าผู้พิพากษาอำเภอผู้นี้ก็ได้รับดาเมจสูงกว่าเยี่ยเว่ยหมิง สาเหตุสำคัญกว่านั้นก็คือ ภายใต้ฝ่ามือก่อนหน้านี้ เยี่ยเว่ยหมิงใช้เอฟเฟ็กต์พิเศษของมังกรซ่อนกบดาน หลังจากสะท้อนพิษในฝ่ามือกลับไปสามส่วน สร้างผลธาตุพิษย้อนทำร้ายให้เขา ทำให้เขาถูกพิษร้ายแรงกว่าเยี่ยเว่ยหมิงทันที
ภายใต้อิทธิพลของธาตุพิษ ค่าสเตตัสโดยรวมของเยี่ยเว่ยหมิงลดลงแล้ว 20% แต่ค่าสเตตัสของหลี่คูโหลวกลับลดลงรวดเดียว 40%!
นี่ก็คือการตั้งค่าที่คำนึงถึงความสมดุลในเกม คนที่ใช้วิชาพิษ เมื่อถูกธาตุพิษย้อนทำร้ายขึ้นมา ดาเมจที่ได้รับก็จะเยอะกว่าคนอื่น
ยิ่งไปกว่านั้น เยี่ยเว่ยหมิงยังมีหมวกที่ช่วยต้านพิษได้สูงอีกด้วย
ภายใต้การหักลบหนี้ ทำให้เยี่ยเว่ยหมิงได้เปรียบเยอะมากจากการโจมตีครั้งนี้
ทว่าวินาทีถัดมา การเคลื่อนไหวเดียวของหลี่คูโหลวก็ทำให้สถานการณ์การต่อสู้เลวร้ายลงในชั่วพริบตาเดียว
เมื่อเขาลอบโจมตีแล้วไม่ได้กลายเป็นฝ่ายได้เปรียบ ก็รีบถอยเข้าไปในลานบ้านอย่างรวดเร็ว พร้อมนำยาเม็ดที่อยู่ในหน้าอกใส่ปาก
วินาทีต่อมา สีเขียวเข้มของแถบพลังชีวิตเหนือศีรษะเขาก็เริ่มจางลงอย่างรวดเร็ว
ขณะยืนอยู่ในลานบ้าน หลี่คูโหลวมองเยี่ยเว่ยหมิงอย่างลำพองใจ เขาหัวเราะพร้อมกล่าวว่า “เจ้าหนู ข้ารู้ว่าวันนี้เจ้าพุ่งเป้าหมายมาที่ข้า แต่น่าเสียดายที่เจ้าเดินหมากผิด ต่อให้พลังฝ่ามือแข็งแกร่งแล้วอย่างไร วิชาของเจ้าควบคุมธาตุพิษของข้าได้ชั่วคราวแล้วอย่างไร บีบให้พิษฝ่ามือของใครย้อนกลับมาแล้วอย่างไร ทำให้ข้าถูกย้อนทำร้ายจนบาดเจ็บแล้วอย่างไร…
…ถ้ามียาถอนพิษ!”
มารดาเจ้าเถอะ
เมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว สีหน้าของเยี่ยเว่ยหมิงก็คร่ำเครียดขึ้นมาทันที
ใช่ว่าเขาจะนึกไม่ถึงว่าในมืออีกฝ่ายมียาถอนพิษของฝ่ามือทรายพิษ เขาแค่นึกไม่ถึงว่าตอนที่สองฝ่ามือปะทะกัน หลี่คูโหลวจะต้านทานอนุภาพของมังกรซ่อนกบดานที่ทำให้เขาถูกพิษได้!
เพียงแต่สาเหตุไม่สำคัญ ที่สำคัญก็คือตอนนี้เขาจะแก้ไขสถานการณ์อย่างไร
ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงเริ่มครุ่นคิดแผนรับมือ ฉินหนานฉินที่เพิ่งถูกแก้มัดกลับยืนขึ้น หยิบยาขวดหนึ่งออกมาจากหน้าอก ยื่นให้เยี่ยเว่ยหมิงพร้ออมบอกว่า “จอมยุทธ์น้อยเยี่ย ยาถอนพิษ ให้เจ้า!”
ดูท่าแล้ว ฉินหนานฉินคนนี้นอกจากวางกับดักสหายตัวเอง ก็ยังมีประโยชน์อยู่บ้างนิดหน่อย
[1] โต้วเอ๋อ คือชื่อของนางเอกวรรณกรรมเรื่อง ‘โต้วเอ๋อยวน’ นางถูกใส่ความว่าฆ่าคนตายและฆาตกรติดสินบนให้ศาลตัดสินประหารชีวิตนาง