ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 304 ลิ่งหูชง สละชีวิตเพื่อสัจธรรม!
ตอนที่ 304 ลิ่งหูชง สละชีวิตเพื่อสัจธรรม!
ท่าใช้ขาหนีบมือของเถียนปั๋วกวง ทำไมดูคุ้นตาจังเลย
ใช่แล้ว!
ตอนนั้นที่อยู่เมืองต้าตู อาซานก็เคยทำแบบนี้มาก่อน!
ทว่าจุดจบของอาซานก็เหมือนไม่ได้ดีสักเท่าไร
เห็นได้ชัดว่าครั้งนี้เถียนปั๋วกวงเตรียมตัวไว้นานแล้ว
เช่นนั้นก่อนที่ภัยร้ายจะมาถึงตัว เขาจะตัดมือซ้ายของเยี่ยเว่ยหมิงทิ้งได้หรือเปล่า
คำตอบก็คือไม่ได้!
ดาบของเถียนปั๋วกวงเร็วมากจริงๆ แต่ตอนนี้ความเร็วของเยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วเช่นกัน!
ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็ไม่ต้องเคลื่อนไหวมากเหมือนเถียนปั๋วกวงที่ควงดาบฟันด้วย เขาแค่ดีดนิ้วครั้งเดียวก็พอแล้ว
ดังนั้น ระหว่างที่เยี่ยเว่ยหมิงดีดนิ้ว เถียนปั๋วกวงก็โดนระเปิดเป้าแล้วเช่นกัน!
หลังจากเห็นเยี่ยเว่ยหมิงปะทุพลัง ลิ่งหูชงที่ดูการต่อสู้อยู่ข้างๆ รวมทั้งเฟยอวี๋กับอินปู้คุยที่ค้นพบว่าตัวเองความสามารถไม่ถึงและไม่มีทางแทรกแซงการต่อสู้ได้จึงได้แต่ดูการต่อสู้เฉยๆ ตอนนี้พวกเขาได้เห็นฉากอันแสนโหดเหี้ยมพร้อมกันแล้ว
เห็นเยี่ยเว่ยหมิงเพียงดีดนิ้วเบาๆ ตรงหว่างขาของเถียนปั๋วกวงก็มีภาพโมเสกดอกไม้สีแดงสดงดงามแบ่งบานทันที
“อ๋า!…”
ท่ามกลางเสียงกรีดร้องที่ผิดมนุษย์มนา เถียนปั๋วกวงที่ควงดาบฟันลงมาได้ครึ่งทางขยับต่อไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ เพราะเขาถูกความเจ็บปวดทรมานถึงขีดสุดทำลายเรี่ยวแรงทั้งหมดที่ใช้ต่อต้านแล้ว
ดูจากปฏิกิริยาที่เขาแสดงออก เทียบกับอาซานในตอนนั้นยังถือว่าห่างชั้นกันมาก
แต่นี่ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้เขาเป็นโจรราคะล่ะ ถ้ามองจากบางมุม เขาจะต้องไวต่อความรู้สึกมากกว่าผู้ชายทั่วไปแน่นอน
ตอนนี้เอง เยี่ยเว่ยหมิงก็วาดดาบในแนวขวางแล้ว ท่ากวาดหิมะต้มชาแฉลบผ่านหว่างขาของเถียนปั๋วกวง แล้วก็เกิดภาพโมเสกกระจายทั่วทั้งผาสำนึกตน
ด้วยเหตุนี้เอง เถียนปั๋วกวงจึงพิการหมดทั้งสามขาแล้ว!
กระทั่งตอนนี้ เยี่ยเว่ยหมิงเพิ่งจะนึกบทกวีอวดเก่งท่อนสุดท้ายออก “ตั้งสัตย์ปฏิญาณ ยอมเป็นหยกแหลกลาญ[1] ไม่ขอเป็นกระเบื้องสมบูรณ์!”
ใช่แล้ว!
สาเหตุก่อนหน้านี้เยี่ยเว่ยหมิงผิวแดงทั้งตัว ร้อนผ่าวทั่วร่าง ก็เป็นเพราะทักษะลับที่ทำให้ความเร็วและพลังเพิ่มขึ้นจนน่าตกใจ นั่นก็คือกระบวนท่าของ ‘สามปฏิญาณพิฆาตหมาป่า’ หนึ่งในสุดยอดทักษะเฉพาะของเขานั่นเอง…
หยกแหลกลาญทะลวงเขาคุนหลุน!
หลังจากทำลายความสามารถในการหลบหนีของเถียนปั๋วกวงโดยสิ้นเชิงแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่ได้หยุดโจมตี เขาตวัดกระบี่ไปบนข้อมือที่กุมดาบของอีกฝ่าย สร้างผลตัดเส้นเอ็นได้อย่างงดงาม
ตอนนี้ อวัยวะที่ยื่นออกนอกร่างกายทั้งห้าของเถียนปั๋วกวงใช้การไม่ได้หมดแล้ว!
เยี่ยเว่ยหมิงใช้เท้าเหยียบบนหน้าอกของโจรราคะ หลังจากงอนิ้วคำนวณ ก็ตบฝ่ามือไปบนกลางกะโหลกศีรษะหนึ่งที!
-112752!
ภายใต้โบนัสค่าสเตตัสจากหยกแหลกลาญทะลวงเขาคุนหลุน + ไท้ซัวเป็นไฉน + โจมตีจุดสำคัญ เยี่ยเว่ยหมิงสร้างตัวเลขดาเมจอันน่าหวาดกลัวสูงถึงหกหลักสำเร็จแล้ว!
หลังจากโจมตีหนึ่งครั้ง เถียนปั๋วกวงก็ติดสถานะมึนงง เยี่ยเว่ยหมิงงอนิ้วคำนวณต่อ แต่ตอนนี้เฟยอวี๋กับอินปู้คุยล้อมเข้ามาแล้วเช่นกัน ทั้งสองชักดาบและกระบี่ แล้วก็เอาแต่ทักทายจุดสำคัญบนร่างกายของเถียนปั๋วกวง
ทั้งสองคนโจมตีสุดพลัง บวกกับฝ่ามือพิชิตมังกรของเยี่ยเว่ยหมิง ภายในเวลาสั้นๆ ไม่กี่วินาที พลังชีวิตของเถียนปั๋วกวงก็ถูกโจมตีจนเหลือต่ำกว่าหกหมื่นแล้ว
เมื่อเห็นเยี่ยเว่ยหมิงทำท่างอนิ้วคำนวณเหมือนหมอดูปลอมอีกครั้ง ถ้าตบฝ่ามือลงไปอีกที เถียนปั๋วกวงก็จะกลายเป็นเถียนสื่อกวง[2]ทันที ในที่สุดลิ่งหูชงที่ดูการต่อสู้มาตลอดก็ทนไม่ไหวแล้ว เขาพุ่งตัวมาข้างหน้าพร้อมวาดกระบี่ฟันไปทางสามคนที่หมายจะรุมแยกร่างเถียนปั๋วกวง
การเปลี่ยนแปลงกะทันหันแบบนี้ ไม่เพียงแค่ขัดจังหวะการคำนวณเลขของเยี่ยเว่ยหมิง แต่ยังทำให้เฟยอวี๋กับอินปู้คุยลนลานจนทำอะไรไม่ถูกแล้วเช่นกัน
ชั่วขณะนั้น ทั้งสามก็ต้องหยุดมือพร้อมกัน เพื่อหลบกระบี่ที่เหนือความคาดหมายของลิ่งหูชง
หลังจากใช้กระบี่บีบให้ทั้งสามถอยไป ลิ่งหูชงก็รีบประคองเถียนปั๋วกวงขึ้นมา แล้วพูดกับเยี่ยเว่ยหมิงด้วยสายตาวิงวอนจากใจจริง “ตอนนี้สหายเถียนกลายเป็นอย่างนี้แล้ว พวกเจ้าจำเป็นต้องฆ่าให้ตายเชียวหรือ”
สิ่งที่ตอบกลับเขาก็คือพลังฝ่ามือรูปมังกรสีฟ้าวิบวับ!
อย่าไปมองว่าตอนนี้เถียนปั๋วกวงดูน่าอนาถ เพราะในฐานะ BOSS คนหนึ่ง ขอเพียงไม่ถูกสั่งฆ่าตามบทเหมือนอวี๋ไต้เหยียน โดนตัดมือตัดเท้าจนรักษาไม่ได้ โดยส่วนใหญ่ก็จะฟื้นตัวได้ภายในเวลาสั้นๆ ทั้งนั้น
ดังนั้นใช้เวลาไม่นาน เถียนปั๋วกวงที่กลายเป็นมนุษย์กระบองก็จะกลับมาใช้งานอวัยวะทั้งห้าได้อีกครั้ง กลับไปเป็นมหาโจรราคะที่ทำร้ายชาวบ้านผู้บริสุทธิ์อีก
สำหรับศัตรูประเภทนี้ อย่าว่าแต่เป็นคำขอจากภารกิจของผิงอี้จื่อเลย ต่อให้ไม่มีภารกิจ เยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่ปล่อยให้เขาได้เห็นตะวันในวันพรุ่งนี้ง่ายๆ อีกอยู่ดี!
มิหนำซ้ำ ผลของหยกแหลกลาญทะลวงเขาคุนหลุนก็อยู่ได้เพียงสิบวินาทีเท่านั้น ตอนโจมตีก่อนหน้านี้ก็ใช้เวลาไปเกือบเก้าวินาทีแล้ว
ตอนนี้เขาไม่มีเวลามาอธิบายเหตุผลอะไรให้อีกฝ่ายฟังทั้งนั้น
อิงตามกฎหมาย ผู้ที่เข้าข้างโจรราคะจะถูกมองว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดของโจรราคะ จะต้องถูกฆ่าไปพร้อมกัน!
ภายใต้พลังโจมตีที่รุนแรงของมังกรซ่อนกบดาน ลิ่งหูชงกับเถียนปั๋วกวงสะเทือนจนกระเด็นถอยหลังพร้อมกัน
ตอนที่ลอยอยู่กลางอากาศ ลิ่งหูชงที่ทักษะยังไม่ดีมีน้ำแข็งเกาะหนึ่งชั้นบนร่างกาย แม้จะไม่ถึงขั้นทำให้เขาขยับตัวไม่ได้ แต่กลับทำให้ศิษย์เอกของหัวซานคนนี้สัมผัสถึงความรู้สึกหนาวสะท้านถึงกระดูก
หลังจากโจมตีหนึ่งครั้ง เยี่ยเว่ยหมิงก็พลิกข้อมืออีก ลูกแก้วหลิวหลีเจ็ดสีลูกหนึ่งอยู่ระหว่างนิ้วกลางและนิ้วหัวแม่มือของเขา จากนั้นก็ดีดไปที่ไหล่ซ้ายของลิ่งหูชงอย่างไม่ลังเล
หากถามว่าทำไมต้องยิงไปตรงไหล่ซ้ายแทนที่จะยิงไปยังอวัยวะสำคัญ
ก็เพราะเป้าหมายที่ต้องสังหารไม่ใช่ลิ่งหูชง และตำแหน่งที่อยู่ตรงกับหลังไหล่ซ้ายของเขา ก็คือหว่างคิ้วของเถียนปั๋วกวง!
ลิ่งหูชงที่เพิ่งโดนมังกรซ่อนกบดานของเยี่ยเว่ยหมิงไปหนึ่งที ตอนนี้ถ้าคิดจะชักกระบี่กลับมาป้องกันก็เห็นได้ชัดว่าสายไปแล้ว
ตอนนี้ตรงหน้าเขามีเพียงสองทางเลือกเท่านั้น
ยืนอยู่ที่เดิม ทนรับ ‘ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ ของเยี่ยเว่ยหมิง
หรือไม่ก็หลบ ปล่อยให้เถียนปั๋วกวงที่ใกล้ตายอยู่ข้างหลังรับการโจมตีที่ถึงแก่ชีวิต
เรื่องจริงได้พิสูจน์แล้วว่าการที่ลิ่งหูชงเป็นพระเอกของเส้นเรื่องหลักได้ ก็เพราะเขาไม่เคยสับสนเวลาที่ควรเข้มแข็ง เมื่อเห็นท่าไม้ตายมาถึงตรงหน้า เขากลับก้าวมาข้างหน้าพร้อมหลับตาโดยไม่หลบ ทำท่าเหมือนจะสละชีวิต เตรียมรับท่าไม้ตายนี้ของเยี่ยเว่ยหมิง
ต้องทราบไว้ว่าลิ่งหูชงในตอนนี้ยังไม่ได้เรียนเก้ากระบี่เดียวดายเลย
ถึงขั้นเพิ่งถูกอวี๋ชางไห่โจมตีจนบาดเจ็บสาหัส ยังรักษาตัวหายได้ในวลาไม่นาน เขาในสภาพนี้ ถ้าถูกเยี่ยเว่ยหมิงใช้เคล็ดวิชาพิเศษหยกแหลกลาญทะลวงเขาคุนหลุนบวกกับดรรชนีศักดิ์สิทธิ์โจมตีหนึ่งที ต่อให้ไม่ตายแต่ก็ต้องหนังหลุดแน่นอน!
แต่เมื่ออยู่ระหว่างความเป็นความตาย เขากลับเลือกสละชีวิตเพื่อสัจธรรม!
ช่างน่าร้องเพลงสรรเสริญ น่าหลั่งน้ำตา น่านับถือ…บ้านแป๊ะเจ้าสิ!
ออกหน้าปกป้องโจรราคะอย่างนั้นหรือ
เจ้าวางใจได้เลย หลังจากเจ้าตายแล้ว ข้าจะแพร่ข่าวเรื่องการกระทำอันกล้าหาญของเจ้าให้ทั่วยุทธภพ ทำให้ทุกคนรู้ว่าศิษย์เอกของสำนักหัวซานสละชีพปกป้องโจรราคะที่ชั่วช้าสารเลวอย่างไร!
ตอนเห็นลำแสงเจ็ดสีที่ยิงมาจากมือของเยี่ยเว่ยหมิงกำลังจะระเบิดหัวไหล่ลิ่งหูชงซึ่งเป็นพระเอกของเรื่อง จู่ๆ ก็มีหินบินขึ้นมาจากด้านล่างก้อนหนึ่ง ปะทะกับลูกแก้วหลิวหลีเจ็ดสีของเยี่ยเว่ยหมิงแล้ว
แปะ!
อาวุธลับสองชิ้นชนกันกลางอากาศแล้วระเบิดพร้อมกัน กลายเป็นผงละเอียด!
เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงกะทันหันทำให้เฟยอวี๋กับอินปู้คุยตกใจจนหน้าถอดสีพร้อมกัน
ไม่น่าเชื่อว่าอีกฝ่ายจะมีกำลังหนุนที่เก่งกาจขนาดนี้ซ่อนอยู่บนผาสำนึกตน!
ทันใดนั้นเสียงคนชราพลันดังแว่วอยู่ข้างหูของทั้งสาม “เวลาที่อภัยคนได้พึงให้อภัย ทั้งสามจำเป็นต้องสังหารทั้งหมดด้วยหรือ”
ตอนที่เสียงนี้ดังขึ้น ผลจากหยกแหลกลาญทะลวงเขาคุนหลุนก็หายไปเช่นกัน ทำให้ความกระปรี้กระเปร่าของเยี่ยเว่ยหมิงลดลงในชั่วพริบตาเดียว
แม้ความกระปรี้กระเปร่าหายไป แต่กลับไม่ได้ทำให้เขาเซื่องซึมลง
ตรงกันข้าม ตอนที่ได้ยินเสียงนี้ เยี่ยเว่ยหมิงกลับยกมุมปาก เผยรอยยิ้มขาดศีลธรรมทีละน้อย
ในที่สุดปลาตัวใหญ่ก็ติดเบ็ดแล้ว!
[1] ยอมเป็นหยกแหลกลาญ ไม่ขอเป็นกระเบื้องสมบูรณ์ 宁为玉碎不瓦全 หมายถึงขอตายอย่างมีศักดิ์ศรี ดีกว่าต้องอยู่อย่างไร้เกียรติ
[2] เป็นการเล่นมุกคำในภาษาจีน สื่อว่าจากเถียนปั๋วกวงก็จะกลายเป็นเถียนแสงขาว หรือก็คือแสงที่ปรากฏเมื่อผู้เล่นในเกมตาย