ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 326 เจตจำนงแห่งดาบ
ตอนที่ 326 เจตจำนงแห่งดาบ
[เตียงหินขอบเขตกระบี่] เตียงหินที่อสูรกระบี่ตู๋กูฉิวไป้ตายในท่านั่งสมาธิ ภายในแฝงขอบเขตกระบี่ที่แข็งแกร่ง
เอฟเฟ็กต์พิเศษ: ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย บำรุงกระบี่!
ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย: ปราณกระบี่ปกป้องร่างกาย ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายทุกอย่าง! เมื่อนั่งฝึกบนเตียงหินหลังนี้ จะไม่มีอันตรายจากธาตุไฟเข้าแทรก
บำรุงกระบี่: เมื่อตัวอยู่บนเตียงหิน ทุกสิบวินาทีจะเพิ่มค่าประสบการณ์ให้เคล็ดกระบี่หนึ่งแต้มแล้วสุ่มเพิ่มไปบนเคล็ดกระบี่หนึ่งวิชา!
……
เจ้าหมอนี่มัน…ไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้ว
แม้จะไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่กำลังฝึกกำลังภายใน เตียงหินแทบจะไม่มีผลกับน้องดาบ อีกทั้งนางก็รักษาระยะห่างกับสิ่งของที่คนตายเคยใช้มาตลอด แต่ความรู้สึกเวลาถูกเยี่ยเว่ยหมิงใช้อุบายด้วยแบบนี้ก็ยังทำให้นางไม่พอใจมากอยู่ดี
แต่ไม่พอใจแล้วจะทำอย่างไรได้
นางสู้ไม่ชนะเจ้ามือปราบหน้าเหม็นคนนี้อยู่ดี!
……
ทั้งสองเดินกลับมาตามทางแคบเหมือนเดิม แล้วก็หยุดตอนใกล้จะถึงช่องลม เยี่ยเว่ยหมิงนำเชือกที่เตรียมไว้ล่วงหน้าออกมาแล้วถามว่า “เอ่อ…เจ้าเตรียมพร้อมแล้วจริงๆ ใช่ไหม”
“อื้ม!”
น้องดาบพยักหน้าอย่างจริงจังพร้อมชูสองมือ ทำท่าทางเหมือนปล่อยให้เขาทำอะไรกับนางก็ได้ตามอำเภอใจ
เยี่ยเว่ยหมิงนำปลายเชือกด้านหนึ่งทาบไว้บนเอวบางของนางแล้วมัดให้แน่นเหมือนมัดขาหมู ส่วนปลายเชือกอีกด้านก็จับแน่นไว้ในมือตัวเอง
จากนั้นก็ให้น้องดาบอยู่ข้างหน้า เยี่ยเว่ยหมิงอยู่ข้างหลัง แล้วทั้งคู่ก็กระโดดเข้าไปในช่องลมด้วยกัน
รู้สึกได้ถึงลมแรงที่พัดวูบเข้ามาอีกครั้ง ทั้งสองหุบปากอย่างเป็นอันรู้กัน แล้วก็ถูกแรงลมผลักออกมาบนแท่นหินตรงปากทางเข้า
ชวิ้ง!
ฉึก!
เยี่ยเว่ยหมิงกับน้องดาบต่างคนต่างนำมีดสั้นกัวจิ้งกับกรงเล็บกระดูกขาวที่ได้มาจากหยางคังปักเข้าไปในหน้าผาเพื่อให้ร่างกายตัวเองมีที่เกาะอย่างมั่นคง พอทอดสายตามองไป กลับเห็นว่าด้านนอกยังมีกาโลหิตยี่สิบกว่าตัวบินว่อนเต็มฟ้าเหมือนเดิม ราชันกาโลหิตก็ยังเกาะอยู่บนต้นไม้คอเอียงเหมือนอย่างตอนแรกเช่นกัน หลังจากเห็นทั้งสองปรากฏตัว มันก็ส่งเสียงร้องประหลาดและโผเข้ามาทางพวกเขาทันที แต่เป็นเพราะลมแรงตรงปากทางเข้าทำให้มันไม่มีทางเข้าใกล้ได้ ทำได้เพียงบินวนอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้เพื่อรอโอกาส
เมื่อเห็นสถานการณ์ดังนั้น เยี่ยเว่ยหมิงก็หลุดขำ “ดูท่าแล้ว เจ้าเดรัจฉานมีปีกตัวนี้คงติดใจรสชาติของเถียนปั๋วกวงเข้าแล้วล่ะสิ ตอนนี้เล็งเป้าหมายมาที่พวกเราแล้ว”
“เจ้าเวรนี่ ส่งมันให้ข้าจัดการเถอะ!” น้องดาบเป็นคนอารมณ์ร้อน กับเยี่ยเว่ยหมิงที่นางสู้ด้วยไม่ไหว นางก็ยังอดทนได้บ้าง แต่นางไม่ปล่อยเจ้านกประหลาดที่มาหาเรื่องนางก่อนหน้านี้แน่
เขาเห็นร่างนางพลันไถลไปด้านข้าง หลบลมแรงที่อยู่หลังแท่นหิน กระโดดลงไปที่ก้อนหินไร้ระเบียบขนาดประมาณสามชุ่นที่นูนขึ้นมาบนหน้าผาด้านข้างแล้ว
ก้อนหินไร้ระเบียบเหล่านี้ก็คือจุดส่งแรงที่พวกเขาเลือกไว้ตอนไต่ขึ้นมา!
เมื่อเห็นน้องดาบเป็นฝ่ายหลุดออกจากที่กำบังช่องลมเอง ราชันกาโลหิตก็ส่งเสียงร้องประหลาดทันที มันโน้มตัวพุ่งเข้ามา จิกมาทางตาของน้องดาบที่หันหน้าออกมาจากหน้าผา
แกร๊ง! น้องดาบที่เตรียมตัวมาล่วงหน้าชักดาบจันทราหิมะเงินออกจากข้างหลังฟันไปที่จะงอยปากของราชันกาโลหิต
แกร๊ง!
ตอนที่ดาบล้ำค่ากับจะงอยปากนกปะทะกัน ไม่น่าเชื่อว่าจะมีเสียงโลหะกระทบกันดังขึ้น
ภายใต้การโจมตีนี้ ด้วยความแหลมคมของดาบจันทราหิมะเงิน ไม่น่าเชื่อว่าจะทิ้งไว้เพียงรอยตื้นๆ รอยเดียวบนจะงอยปากของราชันกาโลหิตก่อนที่มันจะบินออกไป
จากการโจมตีนี้ก็ดูออกได้ไม่ยากว่าปากของราชันกาโลหิตแข็งแรงทนทานขนาดไหน ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่เป็นรองอุปกรณ์ทองคำทั่วไปเลยสักนิด!
เมื่อถูกโจมตีครั้งนี้ ราชันกาโลหิตก็บินถอยหลังออกไปทันที แต่มันก็ไม่ย่อท้อ กระพือปีกบินไปด้านข้างอีกสามฉื่อ เตรียมตัวเก็บแรงเพื่อโผเข้ามาอีกได้ทุกเมื่อ
อย่างไรเสีย หน้าผากึ่งลอยฟ้าก็คือสนามหลักของมัน!
มันแค่กระพือปีกสองข้างก็ปล่อยแรงหวดที่ทรงพลังออกมาได้แล้ว ส่วนน้องดาบถ้าคิดจะอาศัยจุดส่งแรงกลับไม่ง่ายอย่างนั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากมันเปลี่ยนมุมแล้ว พอโจมตีครั้งต่อไปก็ถูกน้องดาบฟันถอยไปอีก แต่ก็ส่งผลกระทบต่อจุดเหยียบเท้าของน้องดาบเช่นกัน ทำให้พลาดจุดเหยียบที่คำนวณไว้ก่อนหน้านี้ไปแล้ว
และเมื่อร่างกายมนุษย์กึ่งลอยอยู่กลางอากาศแบบนี้และเสียจุดส่งแรงไปแล้ว ก็ไม่ใช่การปล่อยให้มันมีอำนาจชี้เป็นชี้ตายหรอกหรือ
ทว่าตอนที่ราชันกาโลหิตเพิ่งบินห่างออกไปยังไม่ทันเตรียมตัวโผเข้ามาโจมตี จู่ๆ น้องดาบที่ห้อยอยู่กลางอากาศกลับถีบหน้าผาที่อยู่ข้างหลังตัวเอง พุ่งร่างตรงไปทางราชันกาโลหิตราวกับลูกธนูสีแดง ไม่ไตร่ตรองสักนิดเลยว่าหลังจากโจมตีแล้วจะปกป้องตัวเองเมื่ออยู่กลางอากาศได้อย่างไร
ครั้งนี้น้องดาบเปลี่ยนวิธีการเร็วเกินไป เร็วจนราชันกาโลหิตไม่ทันได้ตอบสนองหรือโจมตีกลับอย่างมีประสิทธิภาพ ก็ถูกนางใช้พลังทั้งหมดที่มีฟันดาบไปตรงโคนปีกซ้ายแล้ว
-11343!
อวัยวะขาด!
อวัยวะขาดเป็นสถานะด้านลบที่ค่อนข้างพบได้ยากในเกม ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’ ตามความหมายก็คือมันอวัยวะของคู่ต่อสู้ขาด ทำให้อวัยวะนั้นหลุดออกจากร่างกาย
และไม่ว่าจะเป็นมอนสเตอร์ร่างคนหรือร่างสัตว์ ก็ล้วนมีเกราะป้องกันหลายชั้นที่ทำให้ร่างกายหลบเลี่ยงดาเมจได้ ยกตัวอย่างเช่นมนุษย์มีปราณแท้ อุปกรณ์ป้องกัน เกราะป้องกันเส้นเอ็น เกราะป้องกันกระดูก แต่มอนสเตอร์ร่างสัตว์โดยทั่วไปไม่มีปราณแท้หรืออุปกรณ์ แต่เกราะป้องกันที่เหลืออีกสองรายการแข็งแกร่งกว่ามาก
การโจมตีที่เจาะทะลุเกราะสองชั้นและสร้างดาเมจให้เป้าหมายได้โดยตรง โดยพื้นฐานมักขึ้นอยู่กับค่าสเตตัสหรือไม่ก็ทักษะยุทธ์ที่เหนือกว่าถึงจะโจมตีจนเกิดผลด้านลบอย่าง ‘เส้นเอ็นขาด’ หรือ ‘กระดูกแตก’ ได้
การโจมตีด้วยของมีคมจะทำให้เกิดผล ‘เส้นเอ็นขาด’ ได้ง่าย แต่การโจมตีด้วยหมัดเท้าหรืออาวุธไร้คมจะทำให้เกิดผลกระดูกแตกได้ง่ายกว่า
กล่าวได้ว่าเมื่อเส้นเอ็นขาดแต่กระดูกยังอยู่ เมื่อกระดูกหักยังมีเส้นเอ็นเชื่อมอยู่
ถ้าคิดจะสร้างผลด้านลบอย่างเส้นเอ็นขาดกับกระดูกแตกพร้อมกัน แล้วค่อยทำให้เกิดผลอวัยวะขาดที่น่ากลัวมากกว่า กลับเป็นเรื่องที่ยากเสียยิ่งกว่ายาก
ตั้งแต่เยี่ยเว่ยหมิงเข้าเกมมา ผ่านศึกเล็กศึกใหญ่มานับไม่ถ้วน แต่ผลอวัยวะขาดแบบนี้ เขาเคยทำได้กับเถียนปั๋วกวงครั้งเดียวเท่านั้น
แต่ครั้งนั้นเขากลับอยู่ในสถานะ ‘หยกแหลกลาญทะลวงเขาคุนหลุน’ ทั้งยังใช้วิชาดรรชนีศักดิ์สิทธิ์โจมตีจนเกิดผลปลิดชีพ ทำให้ปราณแท้ที่ปกป้องร่างกายเขาพังทลาย เขาถึงสร้างวีรกรรมกระบี่เดียวฟันเท้าขาดสองข้างได้
แต่ตอนนี้ น้องดาบอยู่ในสถานการณ์ปกติ แต่กลับทำได้ถึงขนาดนี้ยามเผชิญหน้ากับ BOSS ร่างแท้เลเวลหกสิบห้า
ต่อให้ BOSS เลเวลหกสิบห้าตัวนี้เป็นสัตว์ปีกที่มีความสามารถในการป้องกันตัวต่ำ ไม่มีปราณแท้ป้องกันตัวเหมือนมอนสเตอร์ร่างมนุษย์ ไม่มีขน หนังและเกล็ดที่ทนทานก็ตาม แต่การที่นางจะทำได้ถึงจุดนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
อย่างน้อยๆ ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่มีความมั่นใจว่าจะทำได้
ยามเผชิญหน้ากับ BOSS เจ้าเล่ห์อย่างราชันกาโลหิต หากทำให้มันบาดเจ็บแล้วรั้งมันไว้ไม่ได้ อีกฝ่ายจะต้องเลี้ยวหนีโดยไม่ลังเลแน่นอน แบบนั้นก็ไม่มีทางบรรลุจุดประสงค์แรกที่จะฆ่ามันเพื่อระบายความโกรธได้แล้ว
แต่ยังดีที่น้องดาบทำได้แล้ว!
หลังจากแสงสะท้อนคมดาบแวบผ่าน เลือดก็สาดกลางท้องฟ้า
ราชันกาโลหิตถูกตัดปีกไปแล้วข้างหนึ่ง มันเจ็บปวดจนส่งเสียงร้องโหยหวนออกมา ตกลงไปใต้หน้าผาสูงแล้ว
พวกน้องๆ กาโลหิตที่เดิมทีไม่กล้าเข้ามาล่าอาหารกินใกล้ลูกพี่ ตอนนี้เสียงร้องของราชันกาโลหิตก็เรียกพวกมันให้โผเข้ามาหาน้องดาบที่กำลังตกลงข้างล่างตลอดทางแล้วเช่นกัน
“มือปราบหน้าเหม็น!”
อยู่กลางอากาศไม่มีที่ให้อาศัยแรงเลย น้องดาบทำได้เพียงขอความช่วยเหลือจากเยี่ยเว่ยหมิง
ไม่ต้องให้นางเอ่ยปาก เยี่ยเว่ยหมิงก็คว้าอีกด้านของเชือกที่มัดเอวนางไว้แน่นแล้ว พอเห็นนางโจมตีครั้งเดียวแล้วทำภารกิจเสร็จสิ้นอย่างสวยงาม เขาก็ออกแรงดึงอย่างไม่ลังเล แล้วก็ดึงร่างอรชรของน้องดาบกลับมาบนแท่นหินก่อนที่นางจะถูกกาโลหิตโฉบเข้ามาสังหาร
พร้อมเอ่ยชมว่า “ทำได้งดงาม!”
น้องดาบได้ยินแล้วยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “ถึงอย่างไรก็ไม่เสียเปล่าที่อ่านตำราตกทอดของตู๋กู นี่คือเอฟเฟ็กต์พิเศษที่ข้าเปิดใช้งานได้หลังจากวิชาดาบถึงระดับสมบูรณ์ เมื่อสองวันก่อนเจ้าก็หลอกถามข้อมูลไปแล้วไม่ใช่หรือ…
…ถ้าไม่ใช่เพราะแบบนี้ เจ้าคงไม่กำหนดแผนการสังหารราชันกาโลหิตให้ทั้งง่ายทั้งป่าเถื่อนขนาดนี้หรอกใช่ไหม”
เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วยิ้มอย่างเข้าใจ เขาย่อมรู้ว่าสถานะพิเศษที่น้องดาบบอกคืออะไร
ที่จริงหลังจากเรียนรู้ตำราตกทอดของตู๋กูแล้ว ผลประโยชน์ที่น้องดาบได้อาจไม่น้อยไปกว่าเยี่ยเว่ยหมิง
ในระหว่างที่เรียนรู้ตำราตกทอดและประลองคู่กับเยี่ยเว่ยหมิง นางก็ไม่เพียงเพิ่มเลเวล ‘วิชาดาบโลหิต’ จนถึงระดับสมบูรณ์ ที่มากกว่านั้นคือได้รับผลจากตำราตกทอดของตู๋กู ทำให้เอฟเฟ็กต์พิเศษของวิชาดาบนี้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของนางมากขึ้น
หรือพูดได้อีกอย่างว่า ‘วิชาดาบโลหิต’ ของน้องดาบตอนนี้ทะลวงขีดจำกัดของทักษะยุทธ์เดิมแล้ว ตอนนี้มีลักษณะพิเศษที่ไม่เหมือนใครแล้ว
ชื่อของมันคือ…เจตจำนงแห่งดาบ!