ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 371 คนชั่วร้ายที่แข็งแกร่งขึ้นเพราะปราณหยิน
ตอนที่ 371 คนชั่วร้ายที่แข็งแกร่งขึ้นเพราะปราณหยิน
“อ้อ?” ทั้งสี่หยุดฝีเท้า เยี่ยเว่ยหมิงหมุนตัวกลับมาขมวดคิ้วถาม “เจ้ายังมีธุระอะไรอีก”
เมื่อเห็นเยี่ยเว่ยหมิงใช้สายตาเหมือนตัวเองสูงส่งกว่า ผู้อาวุโสเผิงก็กลืนน้ำลายโดยสัญชาตญาณแล้วกล่าวอย่างระมัดระวังว่า “ข้าไม่ได้เรียกจอมยุทธ์น้อยเยี่ย แต่มีเรื่องต้องบอกจอมยุทธ์น้อยฉางสักหน่อย”
ตอนนี้ฉางซิงอวี่หันกลับมาด้วยความสงสัย ทำท่าทางเหมือนตั้งใจรอฟัง แต่กลับได้ยินผู้อาวุโสเผิงพูดต่อว่า “ในเมื่อพวกท่านถามถึงพี่ซ่งของข้าแล้ว มีข่าวหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับจอมยุทธ์น้อยฉาง ข้ามิอาจไม่บอกท่านได้”
“ข่าวอะไร”
ผู้อาวุโสเผิงยักไหล่ “ในมือของพี่ซ่ง ยังมีทักษะยุทธ์ชุดหนึ่งที่เหมาะกับจอมยุทธ์น้อยฉางมาก เป็นข่าวนี้แหละ ส่วนจะได้มันมาไว้ในมือหรือไม่ ก็ต้องดูที่วาสนาและความสามารถของจอมยุทธ์น้อยฉางเองแล้ว”
พอได้ยินผู้อาวุโสเผิงบอกว่าในมือซ่งปิงอี่มีทักษะยุทธที่ ‘เหมาะสม’ กับตนมาก ฉางซิงอวี่ก็ฮึกเหิมทันที รีบซักไซ้ต่อ “เป็นวิชาทวนหรือ”
“ถ้าอยากรู้ข่าวมากกว่านี้…” เมื่อผู้อาวุโสเผิงเห็นฉางซิงอวี่เกิดความสนใจ รอยยิ้มก็เริ่มเจ้าเล่ห์ขึ้นกว่าเดิม “หลังจากนี้ถ้าทำภารกิจที่เกี่ยวข้องกับข้า ท่านต้องรับประกันว่าท่านกับสหายของท่านจะไม่ลงมือสังหารข้า”
“ไม่ได้!”
ฉางซิงอวี่ตอบอย่างตรงไปตรงมามาก ไม่เหลือที่ว่างให้เจรจาเลยสักนิด พูดจบก็บอกพวกเยี่ยเว่ยหมิง แล้วเดินออกจากศูนย์รับซื้ออุปกรณ์วีรบุรุษแท้ด้วยกันโดยไม่หันกลับมาอีก
ฉางซิงอวี่มีพื้นเพมาจากผู้เล่นมืออาชีพ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเกมทะลุปรุโปร่งกว่าเยี่ยเว่ยหมิง ดังนั้นสำหรับคำเตือนของผู้อาวุโสเผิง เขาจึงไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งใจอะไรเลย
เพราะเขาเข้าใจว่าที่ผู้อาวุโสเผิงบอกเรื่องนี้กับเขา ไม่ใช่เพราะมีเจตนาดี แต่เป็นเพราะเขาบังเอิญเติมเต็มเงื่อนไขสำหรับเรื่องนี้ได้พอดี ผู้อาวุโสเผิงจึงต้องพูดออกมา
นี่คือกติกาสูงสุดที่ระบบตั้งไว้ ไม่ว่า NPC คนไหนก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงตามความตั้งใจส่วนตัวได้
ก็เหมือนกับที่หลังจากค่าความรู้สึกดีของ NPC ที่มีต่อผู้เล่นสูงถึงระดับหนึ่งแล้ว ก็จะยินดีมอบผลประโยชน์บางอย่างให้ผู้เล่น แต่ก็ไม่มีทางส่งตำราลับสุดยอดวิชาให้ถึงมือผู้เล่นได้โดยตรงอยู่ดี
ปกติ NPC จะแจกภารกิจให้ผู้เล่นทำ จากนั้นก็จะแจกรางวัลที่สอดคล้องกับผู้เล่นโดยอิงตามความสำเร็จในการทำภารกิจ
แม้แต่หวงโส่วจุนที่นำสุดยอดวิชามารื้อใหม่เพื่อถ่ายทอด นั่นก็เป็นสิทธิพิเศษที่มีเฉพาะใน NPC ระดับสูงสุดในเกมเท่านั้น ไม่ใช่ว่า NPC ทุกคนจะมีความสามารถทำอย่างนั้นได้หมด
ทั้งสี่คนเดินออกจากร้านค้า เยี่ยเว่ยหมิงอดพูดไม่ได้ว่า “สหายฉาง ที่จริงถ้าเจ้าอยากรู้คำตอบของคำถามนั้น เมื่อครู่นี้ก็ควรรับปากเขาไปตรงๆ นะ”
ฉางซิงอวี่ได้ยินแล้วชะงัก ถามกลับทันทีว่า “สหายเยี่ยจะมั่นใจได้เชียวหรือว่าในภายหลังจะไม่ทำภารกิจที่ต้องเป็นศัตรูกับผู้อาวุโสเผิงนั่น ข้าเห็นท่าทางของผู้อาวุโสเผิงตอนคุยกับเจ้าเมื่อครู่นี้ ไม่เหมือนมีเจตนาดีอะไร”
“สหายฉางเข้าใจผิดแล้ว” เยี่ยเว่ยหมิงส่ายหน้าเล็กน้อย “ข้าเยี่ยเว่ยหมิงเป็นใคร ถ้าคิดจะฆ่าเขา จำเป็นต้องลงมือด้วยตัวเองเสมอไปอย่างนั้นหรือ ถ้าถึงเวลาจำเป็นจริงๆ ความเป็นความตายของเขาจะถูกควบคุมด้วยคำสาบานง่ายๆ ประโยคเดียวได้อย่างไร”
พอได้ยินคำพูดของเยี่ยเว่ยหมิง จู่ๆ ฉางซิงอวี่ก็รู้สึกว่าสาเหตุที่ผู้เล่นมืออาชีพอย่างตัวเองอัปเลเวลได้ไม่เก่งเท่าอีกฝ่าย คงจะเป็นเพราะตัวเองจิตใจดีไร้เดียงสาเกินไปหรือเปล่า
ตอนนี้เอง จู่ๆ ก็มีลมเย็นยะเยือกพัดมาตรงหน้าทั้งสี่อีกแล้ว
ไม่ต้องถามก็รู้ กำลังจะเจอผีอีกแล้วแน่ๆ!
“ข้าต้องการให้ไอ้คนที่แส่เรื่องชาวบ้านคนนั้นมันตาย ใครช่วยข้าสังหารหูเฝ่ยที่ชอบแส่เรื่องชาวบ้านให้ข้าได้บ้าง ข้าต้องการฆ่าเขา ต้องการคลายปมความแค้นในใจ…”
หลังจากไอสีดำค่อยๆ ก่อเป็นร่างคน ก็เห็นชายชราอายุประมาณห้าสิบกว่าที่หน้าตาชั่วร้ายคนหนึ่ง สิ่งที่ต่างจากโฉวป้าก็คือใต้เส้นสีดำที่พุ่งขึ้นตรงหว่างคิ้วของเขาแตกออกเป็นสองเส้น เชื่อมต่อกับดวงตาที่ดุร้ายทั้งคู่ของเขาพอดี ทำให้เขาดูเหมือนผีร้ายที่ขึ้นมาจากนรก พร้อมจะจับคนกินได้ทุกเมื่อ
ในมือของผีร้ายตนนี้ยังถือกระบองทองคำที่ยาวเจ็ดฉื่อ เส้นผ่าศูนย์กลางชุ่นครึ่งไว้แท่งหนึ่งหน่วย ดูจากสีสันก็ตัดสินได้ว่าน่าจะทำจากทองคำเจ็ดส่วนผสมกับโลหะชนิดอื่น
เป็นคู่ต่อสู้ประเภทใช้พละกำลังที่ทั้งโหดทั้งรวย!
พอดวงตาทั้งคู่ที่เชื่อมกับไอสีดำเหนือศีรษะกวาดมองทั้งสี่คน มุมปากของ ‘อสูร’ ก็โค้งยิ้มเผยความดุร้าย “ถ้าพวกเจ้าช่วยข้าสังหารเจ้าหูเฝ่ยจอมแส่นั่น กระบองทองคำในมือข้าแท่งนี้ก็จะเป็นของพวกเจ้า! รู้ไว้ซะว่านี่คือกระบองวิเศษที่ทำจากทองคำหลายร้อยตำลึง มูลค่าไม่ใช่น้อยๆ”
ตอนนี้เอง ฉางซิงอวี่กลับบอกในช่องทีมว่า [เจ้าหมอนี่ชื่อเฟิ่งเทียนหนาน เป็นตัวละครสำคัญจากซีรีส์ ‘จิ้งจอกภูเขาหิมะ’ ฝีมืออ่อนด้อย สร้างหายนะมาไม่น้อย เป็นคนชั่วบริสุทธิ์เลยละ แต่ดูจากลักษณะของเขาตอนนี้ คงจะถูกปราณชั่วร้ายของผีครอบงำเข้าแล้ว ความสามารถจึงเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับตอนยังมีชีวิตอยู่”
ซานเย่ว์ได้ยินแล้วตกใจมาก “BOSS ที่ฟื้นคืนชีพในภารกิจนี้ ความสามารถไม่ได้เหมือนกับตอนก่อนตายหรอกหรือ นึกไม่ถึงว่าจะแข็งแกร่งขึ้น”
“ที่จริงก็เข้าใจได้ไม่ยาก” เยี่ยเว่ยหมิงถือโอกาสอธิบาย “ถ้าวิเคราะห์ตามทฤษฎีลี้ลับบางอย่าง คนที่ชั่วโฉดตั้งแต่หัวจดเท้า จะเข้ากับปราณชั่วร้ายแบบนี้ได้ดีสุดๆ พลังเยอะขึ้นกว่าตอนก่อนตายก็สมเหตุสมผลแล้ว แต่เงื่อนไขก็น่าจะต้องโหดมาก นอกเสียจากจะเป็นประเภทชั่วร้ายสุดๆ เลวเกินเยียวยา พวกกากเดนที่มองไม่เห็นราศีความเป็นมนุษย์เลย ไม่อย่างนั้นก็ไม่สอดคล้องมาตรฐานที่จะถูกเพิ่มพลังจากปราณชั่วร้าย”
“ก็เหมือนกับโฉวป้าที่พวกเราเจอก่อนหน้านี้ ดูแล้วไม่น่าจะโหดเท่าเฟิ่งเทียนหนาน อาจเป็นเพราะคาแรคเตอร์ของเขาจัดเป็นประเภท คนที่น่ารังเกียจก็มีจุดที่น่าสงสารกระมัง”
หลังจากได้ยินคำอธิบายของฉางซิงอวี่กับการวิเคราะห์ของเยี่ยเว่ยหมิง ทุกคนก็เข้าใจผีร้ายที่โผล่มาตรงหน้าตนนี้ในระดับหนึ่งแล้ว ตอนมีชีวิตอยู่เจ้าหมอนี่ก็คือคนบาปที่ชั่วร้ายสุดๆ หลังจากตายแล้วถึงได้กลายเป็นผีร้ายอสูรแบบที่รับมือได้ยากที่สุด!
ตอนนี้เอง เสียงแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นตามมา
[ติ๊ง! เจอวิญญาณของคนโฉดแห่งก่วงตง เฟิ่งเทียนหนาน คุณจะเลือก?
1.ปราบปีศาจกำจัดมาร กำจัดภัยร้ายตลอดกาล (หมายเหตุ: ในฐานะที่เป็นคนบาปที่ชั่วร้ายสุดขีด ไม่มีความเป็นมนุษย์สักนิด เฟิ่งเทียนหนานที่ได้รับผลจากปราณชั่วร้ายกลายร่างเป็นอสูรเต็มตัวแล้ว พลังเพิ่มขึ้นจากตอนก่อนตายไม่ใช่น้อยๆ กรุณาเลือกอย่างระมัดระวัง)
2.ช่วยเขาทำความปรารถนาให้เป็นจริง สังหารจอมยุทธ์หูเฝ่ยที่ยืนหยัดเพื่อความถูกต้อง (หมายเหตุ: เฟิ่งเทียนหนานเป็นคนบาปที่ชั่วร้ายสุดๆ หูเฝ่ยกลับเป็นจอมยุทธ์คนหนึ่ง การช่วยคนชั่วสังหารจอมยุทธ์ จะถูกหักค่าวีรบุรุษจำนวนมาก)
การเลือกมีความเสี่ยง กรุณาตัดสินใจอย่างระมัดระวัง!]