ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 377 ผีสาวตอบแทนบุญคุณ
ตอนที่ 377 ผีสาวตอบแทนบุญคุณ
พอได้ยินคำถามของเยี่ยเว่ยหมิง ซานเย่ว์ก็ตาลุกวาว กล่าวอย่างตื่นเต้นทันทีว่า “ตอนนี้ร้านอุปกรณ์เหมือนจะมีอุปกรณ์ระดับทองคำสองชิ้นที่สอดคล้องกับความต้องการพอดี ทั้งยังเป็นกระบี่ล้ำค่าทั้งคู่ หนึ่งในนั้นคือกระบี่ม่วงทองที่มีคุณสมบัติพิชิตมาร ส่วนกระบี่อีกเล่มคือกระบี่เพลิงแดงที่เปลี่ยนการโจมตีกายภาพเป็นการโจมตีธาตุไฟได้ นำมาให้สะพานสวรรค์น้อยใช้กระบี่คู่ผนึกรวมได้พอดี พวกเราไปเอาอาวุธกันเถอะ”
ซู่ ซู่ ซู่
ตอนที่ทุกคนรู้กฎการรับมือกับสัตว์มาร เตรียมจะไปหาอุปกรณ์ที่เปลี่ยนการโจมตีได้ในร้านค้าอุปกรณ์ จู่ๆ ก็มีลมเย็นพัดมาตรงหน้าวูบหนึ่ง แล้วไอสีดำจำนวนมากก็ก่อตัวเป็นร่างของสาวน้อยอยู่ตรงหน้าพวกเยี่ยเว่ยหมิง
สาวน้อยสองคนนี้ มองทีแรกไม่เหมือนคนชั่วร้ายที่กลายเป็นสัตว์มารเหมือนเฟิ่งเทียนหนานได้ ถึงขนาดว่าเมื่อเทียบกับโฉวป้าแล้ว พวกนางเหมือนคนเป็นๆ มากกว่า
จุดเดียวที่ไม่เหมือนคนธรรมดาทั่วไปก็คือตรงหว่างคิ้วของพวกนางต่างมีจุดสีดำนูนคนละเม็ด ดูเหมือนไฝสีดำสองเม็ดมาก
ไฝสีดำสองเม็ดที่ปรากฏบนหน้าพวกนาง แม้จะไม่ถือว่าแต่งแต้มเกินความจำเป็น แต่กลับไม่ได้ดูอัปลักษณ์เช่นกัน
พอเห็นร่างของสองสาว เยี่ยเว่ยหมิงก็อดตะลึงไม่ได้ พร้อมทั้งวิเคราะห์ในช่องทีมว่า [ดูท่าแล้ว ผีที่เจอได้ในภารกิจครั้งนี้ เหมือนจะไม่จำกัดอยู่แค่ BOSS ที่ผู้เล่นเคยฆ่ามาก่อนนะ แต่ขอเพียงเป็น NPC ที่เคยติดต่อด้วย ก็มีโอกาสมาโผล่อยู่ตรงหน้าเจ้าทั้งนั้น]
“สวัสดี จอมยุทธ์น้อยเยี่ย” บนตัวของผีสาวสองตนนี้ เหมือนไม่มีความเคียดแค้นเหมือนที่เจอบนตัวโฉวป้ากับเฟิ่งเทียนหนานเลยสักนิด ทั้งยังมีสติสัมปชัญญะดีมาก หลังจากเจอกันแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าพวกนางจะโค้งตัวคำนับเยี่ยเว่ยหมิงพร้อมกัน จากนั้นก็เป็นฝ่ายเอ่ยทักทายก่อนพอเยี่ยเว่ยหมิงเห็นดังนั้น บนใบหน้าก็เผยรอยยิ้มสดใสเหมือนแสงอาทิตย์เช่นกัน “สวัสดี แม่นาง นึกไม่ถึงว่าจะได้เจอพวกเจ้าที่นี่ เจอกันครั้งแรก อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายด้วยเช่นกัน มาทำความรู้จักกันหน่อยเถอะ ข้าชื่อเยี่ยเว่ยหมิง เป็นมือปราบ”
พอสองสาวได้ยิน ก็เริ่มแนะนำตัวเองเช่นกัน
“ข้าชื่อเหมียวฟู่”
“ข้าชื่อหวังเซิง”
ผีสาวสองตนตรงหน้านี้ ก็คือศพของสาวน้อยสองคนที่ฆ่าตัวตายเพราะความอับอายหลังจากถูกเถียนปั๋วกวงย่ำยี ตอนอยู่ในภารกิจ ‘ทะยานบันไดเมฆา’
เนื่องจากภารกิจนั้นส่งผลต่อการพัฒนาความสามารถในตอนหลังของเยี่ยเว่ยหมิงมาก ถึงขั้นกล่าวได้ว่าเป็นที่มาของ ‘กระบี่เก้าสะท้านฟ้า’ เลยก็ได้ ดังนั้นเยี่ยเว่ยหมิงจึงจำเรื่องนี้ได้ชัดเจน
กระทั่งตอนนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็ยังจำหน้าตาของพวกนางได้ชัดเจน
หลังจากต่างคนต่างรายงานชื่อตัวเองแล้ว เหมียวฟู่ก็บอกว่า “พวกเราสองคนมาจากส่านซี ฉางอัน อำเภอชิงฉวี่ เป็นเพียงมือใหม่สองคนในยุทธภพ บุ่มบ่ามมาเจอจอมยุทธ์น้อยเยี่ย โปรดอย่าถือสา”
หวังเซิงกล่าวเสริม “จอมยุทธ์หญิงขอทักทายจอมยุทธ์ที่เหลือด้วย”
น้องสาวสองคนนี้พูดจามีมารยาทมาก ถึงขั้นกล่าวได้ว่าไม่มีช่องโหว่ เหมือนพูดเปิดงานก่อนแสดงละครสั้นในชีวิตจริง
อย่าบอกนะว่าตอนที่ยังมีชีวิตอยู่สองสาวตรงหน้าคือคนที่แสดงศิลปะการต่อสู้เพื่อหาเงิน ใช้หน้าอกทุบหินก้อนใหญ่แตกอะไรทำนองนั้น?
เอ่อ…
พอคิดแบบนี้ จู่ๆ เยี่ยเว่ยหมิงก็รู้สึกว่าตัวเองชั่วร้ายนิดหน่อย เขากระแอมทันที พยายามทำสีหน้าท่าทางให้ดูจริงจังขึ้นเล็กน้อย
อย่างไรเสีย ในฐานะผู้เล่นอันดับหนึ่งของสำนักมือปราบเทพ เขาต้องสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้สำนักมือปราบเทพ เพื่อสร้างสัญลักษณ์ให้เพื่อนร่วมอุดมการณ์ในยุทธภพที่กว้างใหญ่
เวลาภารกิจมีค่า เมื่อเห็นสองสาวปรากฏตัวแล้วพูดจาตามมารยาทเหมือนทำการค้า มีแนวโน้มว่าจะชวนคุยเรื่องสัพเพเหระก่อนเข้าประเด็น เยี่ยเว่ยหมิงก็รีบเปลี่ยนประเด็นสนทนา “ความแค้นของพวกเจ้า ข้าช่วยชำระให้แล้ว เถียนปั๋วกวงนั่นกรรมตามสนอง หลังจากข้าสังหารเขาแล้ว ศพเขาก็ถูกกาโลหิตจิกกิน กล่าวได้ว่าได้รับบทลงโทษที่สมควรแล้ว พวกเจ้าไปเกิดใหม่ได้อย่างสงบใจแล้ว”
เหมียวฟู่ที่คางยื่นเล็กน้อย ส่ายหน้าเบาๆ แล้วบอกอีกว่า “จอมยุทธ์น้อยเยี่ยเข้าใจผิดแล้ว ที่จริงสาเหตุที่พวกเราถือโอกาสปรากฏตัวในกิจกรรมครั้งนี้ ไม่ได้มาเพื่อขอให้ล้างแค้น”
“วันนี้พวกเรามาเพื่อตอบแทนบุญคุณ” หวังเซิงกล่าวเสริม
ตอบแทนบุญคุณ?
เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วรู้สึกปวดหัวนิดหน่อย
ถ้าบอกว่าความปรารถนาของสองสาวคือการล้างแค้น เขาก็ใช้วิธีการเดียวเหมือนที่รับมือกับโฉวป้าก่อนหน้านี้ได้เลย อีกทั้งคู่แค้นของพวกนางก็คือเถียนปั๋วกวง เป็นบอสร่างแท้โหมดปกติที่ถูกเยี่ยเว่ยหมิงสังหารไปแล้ว ถือว่าทำภารกิจล้างแค้นสำเร็จได้อย่างสมบูรณ์แบบแน่นอน
พอเป็นแบบนี้ เขาก็จะได้ค่าวีรบุรุษโดยที่ไม่ต้องทำอะไร ไม่ใช่เรื่องดีงามหรอกหรือ
แต่ถ้าภารกิจของพวกนางคือการตอบแทนบุญคุณ ก็อาจต้องทำภารกิจอย่างอื่นอีกอย่างเลี่ยงไม่ได้
เยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้กลัวการทำภารกิจ แต่กิจกรรมนี้มีเวลาแค่ยี่สิบสี่ชั่วโมง ประหยัดเวลาได้สักหน่อย ก็จะยิ่งมีโอกาสไปทำภารกิจอื่นมากขึ้น ได้ค่าวีรบุรุษมากขึ้นกว่าเดิม
ถึงขั้นว่าอาจจะได้เจอร่างมารของ BOSS ทำให้เขาปราบปีศาจกำจัดมารและเลื่อนขั้นเป็นปราชญ์จอมยุทธ์ก็ได้
ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงสนใจ BOSS ร่างมารมากกว่าผีสาวสองตนที่อยู่ตรงหน้าไม่รู้ตั้งเท่าไร
ทว่าในเมื่ออีกฝ่ายประกาศภารกิจแล้ว อีกทั้งเมื่ออิงตามกติกาของกิจกรรม ถ้าเขาไม่ทำภารกิจนี้ ภารกิจที่รออยู่ตอนหลังก็จะไม่ปรากฏขึ้นมาเลย ดังนั้นแม้เยี่ยเว่ยหมิงจะไม่ค่อยพอใจ แต่ก็ต้องแสดงออกอย่างพอใจมาก “พวกเจ้าจะตอบแทนอย่างไร บางทีข้าจะช่วยพวกเจ้าได้”
“จอมยุทธ์น้อยเยี่ยเกรงใจกันเกินไปแล้ว” เหมียวฟู่กุมหมัดคารวะเขาอีกครั้ง แล้วบอกว่า “ข้ารู้สึกได้ว่า ‘คัมภีร์ขุนเขามหาสมุทร’ ที่พวกเราสองคนพกติดตัวไว้ตลอดตอนมีชีวิตอยู่ ตอนนี้อยู่บนตัวจอมยุทธ์น้อยเยี่ย จอมยุทธ์น้อยเยี่ยได้โปรดนำหนังสือออกมา พวกเราถึงจะคุยเรื่องตอบแทนบุญคุณได้สะดวก”
เยี่ยเว่ยหมิงนำ ‘คัมภีร์ขุนเขามหาสมุทร’ ออกจากกระเป๋าด้วยความสงสัย เพราะนั่นคือคัมภีร์ที่หมดมูลค่าสำหรับการอ่านศึกษาอีกครั้งแล้ว นำใช้เป็นตำราอาหารได้เท่านั้น เขาอดถามไม่ได้ว่า “พวกเจ้าหมายถึงสิ่งนี้หรือ”
สองสามพยักหน้าพร้อมกัน จากนั้นอ้าปากพ่นไอสีดำใส่ ‘คัมภีร์ขุนเขามหาสมุทร’ ในมือเยี่ยเว่ยหมิงพร้อมกัน หลังจากไอสีดำสองกลุ่มออกมาแล้ว ก็ลอยเข้า ‘คัมภีร์ขุนเขามหาสมุทร’ ในมือเขาแล้วหายไป
เยี่ยเว่ยหมิงเห็นแล้วงง สงสัยว่าผู้หญิงสองคนนี้คิดจะทำอะไรกันแน่ แต่วินาทีถัดมา เขากลับพบว่า ‘คัมภีร์ขุนเขามหาสมุทร’ ในมือมีการเปลี่ยนแปลงแล้ว
เหมือนได้รับผลกระทบจากไอสีดำ ‘คัมภีร์ขุนเขามหาสมุทร’ ในมือเยี่ยเว่ยหมิงรูปลักษณ์ภายนอกเปลี่ยนไปมาก เหมือนเปลี่ยนจากหนังสือปกอ่อนก่อนกลายเป็นหนังสือปกแข็ง จุดเด่นที่ชัดเจนก็คือหน้าปกที่เดิมทีว่างเปล่ามีแค่ชื่อหนังสือ ตอนนี้มีภาพวงกลมแปลกๆ เพิ่มขึ้นมาแล้ว
ในภาพเป็นผู้ชายผมยาวเปลือยท่อนบน มีเนตรสวรรค์ตรงหว่างคิ้วเหมือนเทพเอ้อร์หลาง ในมือถือกระบี่ยาวรูปร่างประหลาด กำลังเข่นฆ่าอยู่บนหลังสัตว์อสูรตัวหนึ่ง
ส่วนสัตว์อสูรตัวนั้นก็หน้าตาเหมือนสิงโต มีเขาเหมือนกวาง ดวงตาเหมือนเสือโคร่ง ตัวเป็นละมั่ง มีเกล็ดมังกร หางวัว คล้ายกับตัวกิเลนที่อยู่ในภาพวาดโฆษณาของเกมบางเกมอยู่หลายส่วน