ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 4 ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่
ตอนที่ 4 ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่
เมื่อเห็นซานเย่ว์คาดการณ์ไปต่างๆ นานาขนาดนั้น เยี่ยเว่ยหมิงก็รีบขัดจังหวะสมมติฐานอันอุกอาจของนางเสีย “ถ้ายังไม่มีหลักฐาน ก็อย่าเพิ่งเอาความเห็นของตัวเองมาตัดสินเลย”
“เช่นนั้นท่าทีที่ผิดปกติของเขาจะอธิบายอย่างไร” สาวน้อยไม่ยอมแพ้
“เจ้าคิดว่าเขาผิดปกติอย่างนั้นหรือ” เยี่ยเว่ยหมิงส่ายหน้า “ข้ากลับคิดว่าออกจะสมเหตุสมผล”
“แต่ทั้งๆ ที่มีจุดน่าสงสัยมากมาย เขากลับทำเป็นมองไม่เห็นมัน” สาวน้อยกล่าว
เยี่ยเว่ยหมิงยักไหล่ “มุ่งหาผลประโยชน์ หลีกเลี่ยงอันตรายนั้นเป็นธรรมชาติของมนุษย์ อะไรที่ไม่มีประโยชน์กับตนเอง เขาย่อมเลือกจะมองข้ามเป็นธรรมดา” เห็นซานเย่ว์ยังคงไม่ค่อยเข้าใจนัก เยี่ยเว่ยหมิงจึงได้แต่ต้องอธิบายให้ตรงไปตรงมายิ่งขึ้น “หากผู้เฒ่าหลี่ฆ่าตัวตาย ตอนนี้เขาคงปิดคดีได้แล้ว ถ้าเขาเป็นคนฆ่า เขาในฐานะหัวหน้ามือปราบก็ต้องหาฆาตกรตัวจริงมาให้ได้ หากทำไม่ได้ อย่างน้อยก็จะโดนข้อหาปฏิบัติหน้าที่ไม่ดี”
“แต่หลังจากที่ท่านปรากฏตัว เขากลับพูดจาเหน็บแนมผู้บังคับบัญชาในหน่วยงานอย่างท่าน หรือว่านี่ก็ถือว่าสมเหตุสมผลเหมือนกัน”
“เขาก็แค่แสดงท่าทีไม่ให้ความร่วมมือเท่านั้น” เยี่ยเว่ยหมิงส่ายหัวเล็กน้อย “แม้การล่วงเกินผู้บังคับบัญชาจะมีความผิด แต่มือปราบในสำนักมือปราบเทพอย่างข้าก็ไม่อาจเอาชีวิตเขาได้ แต่ถ้าเป็นโจรโฉดทักษะยุทธ์สูงส่ง ทั้งยังฆ่าคนได้โดยไม่กะพริบตา แน่นอนว่าทำได้”
“แต่สุดท้ายเขาก็สำนึกผิดได้อย่างรวดเร็ว แถมยังมีท่าทียินดีให้ความร่วมมืออีก…”
“นั่นคือเรื่องหลังจากที่ข้าบอกไปว่าสำนักมือปราบเทพจะรับคดีนี้ต่อ เมื่ออยู่ภายใต้เงื่อนไขที่รับประกันความปลอดภัยของตัวเองได้ เขาก็ย่อมยินดีจะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับเบื้องบน เชื่อข้าสิ หากไปขอให้เขาช่วย เขาจะต้องตอบตกลงอย่างไม่ลังเลแน่ แล้วยังจะพยายามทำให้ดีที่สุดอีกด้วย แต่ขอบเขตในการช่วยเหลือนี้ ไม่ได้รวมถึงการเอาชีวิตไปเสี่ยงไล่จับโจรกับข้าเด็ดขาด”
“ก็ยังไม่ถูกอยู่ดี” หญิงสาวส่ายหน้า “ก่อนที่จะเข้าเกม ทางเกมเขียนไว้ในคำอธิบายเกมแล้วไม่ใช่หรือ เฉพาะ NPC ที่เลเวลสูงเท่านั้น ที่จะมีสติปัญญาสูงตามไปด้วย แต่ตัวหัวหน้ามือปราบหลิวนี่ ดูอย่างไรก็ไม่เหมือน NPC เลเวลสูงนะ…”
“เจ้าคิดผิดไปหนึ่งอย่าง” เยี่ยเว่ยหมิงชูนิ้วขึ้นมาหนึ่งนิ้ว ส่ายนิ้วไปมาพร้อมพูด “ไอคิวสูงต่ำกับกลัวไม่กลัวตายนั้นเป็นคนละเรื่องกัน…
…จะว่าไป คนออกแบบเกมก็ไม่ใช่คนดีอะไรหรอก พวกเขาส่วนใหญ่ชอบกลั่นแกล้งผู้เล่นเพื่อความบันเทิง ข้ารับรองได้เลยว่าถ้าข้าใช้ฐานะของข้าไปบังคับพวกหัวหน้ามือปราบหลิวให้ยอมพลีชีพ ตอนที่จะจับโจร พวกเขาก็จะกล้าขัดขวางในช่วงเวลาคับขัน และทำให้ภารกิจของข้าพังไม่เป็นท่าแน่ ถ้าวิเคราะห์โดยละเอียดแล้วล่ะก็ การกระทำของพวกเขาถือว่าสมเหตุสมผลแล้ว การที่เจ้ายังจับความผิดปกติไม่ได้นี่ต่างหากที่เป็นความเหนือชั้นอย่างแท้จริงของผู้ออกแบบเกม”
ซานเย่ว์เงียบไปครู่หนึ่ง “จู่ๆ ข้าก็รู้สึกว่าเกมนี้เล่นยากมากเลย…”
เยี่ยเว่ยหมิงไม่อยากจะมาเสียเวลาถกปัญหาไร้สาระพวกนี้ จึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที “มาพูดถึงภารกิจของเจ้าดีกว่า”
พอถูกถามถึงภารกิจ ใบหน้าของสาวน้อยก็ปรากฏร่องรอยของความภูมิใจขึ้นพริบตาหนึ่ง “อันที่จริงทุกภารกิจของหมู่บ้านมือใหม่ที่ไม่ต้องใช้เงื่อนไขพิเศษ ข้าก็ทำเสร็จไปหมดแล้ว ภารกิจสุดท้ายคือช่วยท่านหมอหูเอายาสมานแผลทองคำที่ผู้เฒ่าหลี่สั่งไว้ชุดหนึ่งไปส่งให้เขา แต่พอมาถึงจึงได้รู้ว่าผู้เฒ่าหลี่ตายไปแล้ว ภารกิจของข้าก็เลยเปลี่ยนจากการส่งยาเป็นการสืบหาสาเหตุการตายของเขาแทน”
ทำภารกิจทั่วไปของหมู่บ้านตู้คังเสร็จหมดแล้ว?
“เจ้าเลเวลเท่าไหร่แล้ว” เยี่ยเว่ยหมิงอดถามไม่ได้
“เลเวล 13 แต่ยังไม่ได้ไปคารวะอาจารย์ กะว่ารอภารกิจนี้สำเร็จเรียบร้อยแล้วค่อยว่ากันอีกที”
“ว่าแล้วเชียว เลเวลสูงกว่าข้าอีก” เยี่ยเว่ยหมิงถูจมูก พร้อมเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที “ในเมื่อเจ้าทำภารกิจทั่วไปเสร็จหมดแล้ว ก็น่าจะเข้าใจหมู่บ้านตู้คังเป็นอย่างดีเลยล่ะสิ รู้ไหมว่ามีใครที่ดูสนิทสนมกับผู้เฒ่าหลี่บ้าง อาจจะช่วยให้เราเข้าใจเขาได้มากขึ้น”
“วังต้าหลงที่เป็นเพื่อนบ้าน!” ซานเย่ว์พูดออกมาโดยไม่ต้องคิด “เขาเป็นสหายน้ำเมาของผู้เฒ่าหลี่ ทั้งสองมักจะดื่มด้วยกันบ่อยๆ น่าจะคุยกันได้ทุกเรื่อง เพียงแต่ช่วงนี้ผู้เฒ่าหลี่มีท่าทีแปลกๆ และไม่ยอมไปดื่มสุรากับเขา เมื่อก่อนตอนที่ทำภารกิจ วังต้าหลงยังแอบกระซิบบอกข้าเรื่องนี้ด้วย”
“ไป!” เยี่ยเว่ยหมิงท่าทีขึงขัง “ไปถามเขากัน”
……
สิบนาทีให้หลัง เยี่ยเว่ยหมิงยิ้มอย่างขมขื่น ตั้งแต่ออกมาจากบ้านของวังต้าหลง ซานเย่ว์ก็เอาแต่ถามถึงเหตุการณ์ต่างๆ เยี่ยเว่ยหมิงยิ้มเจื่อนพลางส่ายหน้า “เจ้านั่นพอเจอข้าก็กลัวอย่างกับอะไรดี ถามอะไรก็ไม่รู้สักอย่าง กลัวว่าข้าจะจับเขาเพราะคิดว่าเขาเป็นคนร้าย คำตอบของเขาทั้งหมด สรุปได้ในประโยคเดียวนั่นแหละ”
“ประโยคไหน”
“ตัวข้าไม่ขอถกเรื่องในยุทธภพ ไม่เข้าใจความหมายของคำต่าง ๆ ที่ใช้กัน และไม่เคยข้องเกี่ยวกับผู้คนในยุทธภพ ขอประกาศไว้ ณ ที่นี้ ขีดกั้นเส้นแบ่งกันชัดเจน!”
“คิ คิ…” ซานเย่ว์หัวเราะจนตัวโยน ผ่านไปครู่หนึ่งจึงเก็บอาการได้แล้วถามว่า “เจ้าคิดว่าเขาน่าจะรู้อะไรบ้างไหม”
“ยิ่งเขาบอกว่าตัวเองไม่รู้ ยิ่งชัดว่าเขาต้องรู้อะไรบางอย่างแน่นอน” เยี่ยเว่ยหมิงหัวเราะฝืดเฝื่อน แล้วบอกว่า “ปัญหาก็คือ เขาดูจะเป็นพวกรักษากฎเกณฑ์มาก แต่ขี้ขลาดไปหน่อย กลัวจะปากพาซวย ทำอย่างกับข้าจะเอาเขาไปทรมานร่างกายเพื่อเอาคำให้การอย่างนั้นแหละ?”
“ให้ข้าลองดูไหม คราวก่อนข้าเคยทำภารกิจเกี่ยวกับวังต้าหลงอยู่ ถือว่าสนิทกับเขาพอสมควร อีกอย่าง ข้าไม่ได้ใส่ชุดทางการ เขาน่าจะไม่ค่อยระแวงข้าเท่าไรนะ” ซานเย่ว์เสนอ
“ก็ดี” เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้า “เจ้ารับหน้าที่ไปสืบข่าว ไม่เฉพาะวังต้าหลง แต่ลองไปถามคนในหมู่บ้านด้วยว่ามีเบาะแสอะไรอีกไหม ข้าจะกลับไปที่สถานที่เกิดเหตุ ดูว่ายังมีหลักฐานอื่นหลงเหลือไว้อีกหรือไม่”
“อีกอย่าง ถ้าสะดวก ฝากสืบให้หน่อยว่ามีข่าวอะไรเกี่ยวกับ NPC ที่ชื่อ ‘เสี่ยวไป๋น้ำเต้าหู้’ บ้างหรือเปล่า”
เป็นเจ้า NPC ตัวซวยนั่นแหละ ที่หลอกเขาให้เข้าสำนักมือปราบเทพ แต่เจ้านั่นดันไม่ใช่คนของหมู่บ้านตู้คัง ถือว่าปรากฏตัวขึ้นเพื่อสร้างหายนะให้กับผู้เล่นที่นี่ ถ้าทำได้ล่ะก็ เยี่ยเว่ยหมิงก็อยากจะจับตัวเจ้าหมอนี่มา ให้เขาได้รู้ว่าผลของขุดหลุมฝังศพตัวเองเป็นอย่างไร!
“ได้เลย!” ซานเย่ว์กล่าว ก่อนจะก้าวยาวๆ ไปยังบ้านของวังต้าหลง
ในตอนนี้หัวหน้ามือปราบหลิววิ่งส่ายก้นส่ายหางกลับมาแต่โดยดีแล้ว นำเสื่อที่เยี่ยเว่ยหมิงขอไว้ครั้งก่อนมาส่งให้ แถมยังส่งมาตั้งสิบกว่าผืน สำเร็จภารกิจไปแบบเกินจำนวนเลยทีเดียว
[เอาเสื่อกลับมาที่บ้านของผู้เฒ่าหลี่ นำศพของผู้เฒ่าหลี่มาห่อให้เรียบร้อย ได้รับ ‘ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่’ ตำราลับ ×1]
ผู้เฒ่าหลี่นี่เป็นคนในยุทธภพจริงๆ ด้วย!
หลังจากมองตำราลับในมืออยู่ครู่หนึ่ง เยี่ยเว่ยหมิงยิ่งมั่นใจในความคิดของตัวเองมากขึ้นไปอีก แต่เมื่อเขามองเห็นสเตตัสบนตำราลับ กลับต้องอ้าปากค้าง!
[ตระหนักรู้เคล็ดวิชากระบี่: บันทึกวิชากระบี่ของอวี้เซียวจื่อแห่งไท่ซาน ใช้สำหรับกำหนดเคล็ดวิชากระบี่
ใช้เพิ่มค่าประสบการณ์เคล็ดกระบี่ได้ 5000 แต้ม!]
นึกไม่ถึงว่าจะเป็นของดีที่ช่วยเพิ่มระดับความชำนาญทักษะยุทธ์!
เกม ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’ นี้ เยี่ยเว่ยหมิงเล่นมาได้ระยะหนึ่งแล้ว เอาแค่ในหมู่บ้านมือใหม่ก็อยู่ที่นี่มาได้ห้าวันเต็มๆ แล้ว
แน่นอนว่าเมื่อเทียบกับเกมเมื่อสองสามปีก่อนที่เล่นกันต่อเนื่องตลอดทั้งวันทั้งคืนแล้ว ห้าวันคงเทียบอะไรไม่ได้ แต่หากเทียบกับเลเวลแล้วล่ะก็ สิ่งที่อัปเกรดอยากยิ่งกว่าคือค่าประสบการณ์ของทักษะยุทธ์
ประสบการณ์ที่เขาได้รับจากหมู่บ้านมือใหม่ที่ชัดเจนที่สุดคือเลเวลอัปง่าย ทักษะยุทธ์ฝึกยาก!
หากดูจากสเตตัสของเยี่ยเว่ยหมิงตอนนี้
[เยี่ยเว่ยหมิง เลเวล: 12]
……
พลังชีวิต: 620/620
กำลังภายใน: 420/420
ความแข็งแกร่ง: 59
พละกำลัง: 59
ท่าร่าง: 64
ความว่องไว: 59
สติปัญญา: 25
ค่าตระหนักรู้: 28
[ทักษะยุทธ์]
[เคล็ดชำระปราณ (ไม่เข้าขั้น) เลเวล: 5]
ค่าประสบการณ์ : 132/1600
วิธีหายใจชำระปราณเป็นเรื่องพื้นฐานที่สุดในยุทธภพ ไม่มีคุณสมบัติพิเศษ แต่ไม่มีอันตรายจากธาตุไฟเข้าแทรก
พลังชีวิต +250
กำลังภายใน +250
ความทนทาน +25
พละกำลัง +25
ท่าร่าง +25
ความว่องไว +25]
……
[เคล็ดกระบี่วีรสตรี (ไม่เข้าขั้น): เคล็ดกระบี่ที่ตกทอดมาในสมัยชุนชิว ประสิทธิภาพทั่วไป: เลเวล: 3]
ค่าประสบการณ์: 86/400
อานุภาพ +30% แม่นยำ +30%
……
[อุปกรณ์]
[ชุดเฟยอวี๋: อุปกรณ์มาตรฐานสำนักมือปราบเทพ]
ป้องกันกายภาพ +30
ป้องกันกำลังภายใน +30
พลังชีวิตสูงสุด +100
……
[หมวกมือปราบฉางจง: อุปกรณ์มาตรฐานสำนักมือปราบเทพ]
ป้องกันกายภาพ +10
ป้องกันกำลังภายใน +10
กำลังภายในสูงสุด +50
……
[รองเท้าขุนนาง: อุปกรณ์มาตรฐานสำนักมือปราบเทพ]
ป้องกัน +5
ท่าร่าง +5
……
[กระบี่หลงเฉวียน: อุปกรณ์มาตรฐานสำนักมือปราบเทพ]
โจมตี +50
ดาเมจกำลังภายใน +10%
……
‘ไม่เข้าขั้นสองอย่าง’ นี่คือสเตตัสทักษะยุทธ์ปัจจุบันของเยี่ยเว่ยหมิง และยังถือเป็นทักษะยุทธ์ที่ไม่เข้าขั้น เลเวลก็ต่ำจนน่าสงสาร กำลังภายใน ‘ชำระปราณ’ ก็เพิ่งจะเลเวล 5 ทั้งที่เขาทำภารกิจลับทั้งหมดสำเร็จอย่างต่อเนื่อง!
ส่วนเคล็ดกระบี่วีรสตรี เป็นเพราะว่าได้มาช้าเกินไป การอัปเลเวลจึงยิ่งช้าขึ้นไปอีก
แต่ ‘ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่’ ในมือเยี่ยเว่ยหมิงตอนนี้ กลับช่วยเพิ่มค่าประสบการณ์ขึ้นถึง 5000 แต้ม ระดับความล้ำค่ามากมายขนาดไหนไม่ต้องบอกก็รู้!
ลองคิดๆ ดู NPC ที่ชื่อหันเสี่ยวอิ๋ง เยี่ยเว่ยหมิงเพียงแค่ช่วยนางหาสมุนไพรไม่กี่อย่าง ก็ได้รับเคล็ดกระบี่เป็นการตอบแทน แต่เจ้าเสี่ยวไป๋น้ำเต้าหู้นั่น ทำภารกิจลับจนเสร็จทั้งหมด ก็มีแค่ป้ายอาญาสิทธิ์กากๆ ที่สุดแสนจะไม่คุ้มให้เขาชิ้นหนึ่ง
ทำไมสองคนนี้ ถึงได้แตกต่างกันมากมายขนาดนี้นะ