ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 402 เกมถกหลักการสร้างสถานการณ์
ตอนที่ 402 เกมถกหลักการสร้างสถานการณ์
เมื่อเห็นดาบแรกที่เพียงพอจะพลิกสถานการณ์ของน้องดาบ อินปู้คุยที่ยืนอยู่ไม่ห่างจากเยี่ยเว่ยหมิงก็หลุดอุทานออกมา “แม่งเอ๊ย! นี่มันอะไรกัน เซียนเหินจากเหนือฟ้า? แต่เซียนเหินจากเหนือฟ้ามาจากเคล็ดกระบี่ไม่ใช่หรอกหรือ”
“เหมือนเซียนเสียที่ไหนกัน” เยี่ยเว่ยหมิงย่นคิ้ว “ดาบนี้ของนางมีพลังชั่วร้ายแรงมาก ข้าว่าน่าจะเป็นผีเหินจากเหนือฟ้าสิถึงจะถูก!”
แม้ปากพูดเช่นนี้ แต่เยี่ยเว่ยหมิงก็ยังอดตกตะลึงกับดาบที่น่าทึ่งของน้องดาบไม่ได้
เขารู้สึกว่าระดับความยอดเยี่ยมของดาบนี้ไม่เป็นรองกระบี่เก้าสะท้านฟ้าของเขาเลยสักนิด ประกอบกับพลังปราณประเภทเดียวกับคนผีร่วมวิถีที่ปะทุออกมาจากตัวนาง ต่อให้เป็นเยี่ยเว่ยหมิงก็เลิกคิดไปได้เลยว่าจะรับท่านี้ได้โดยไร้การบาดเจ็บ!
เลิศมากน้องดาบ ไม่น่าเชื่อว่าจะซ่อนวิธีการที่ร้ายกาจขนาดนี้ไว้!
น้องดาบตอนนี้ก็เหมือนกับผีสาวชุดแดงที่เสาะหาจิตวิญญาณ โบกดาบล้ำค่าในมือหมายจะฟันทั้งผีทั้งคนที่ขวางอยู่ตรงหน้า!
เมื่อประกายดาบสามสายที่ทำให้เยี่ยเว่ยหมิงตกตะลึงรวมเป็นหนึ่ง ก็ยิ่งทำให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นหลายส่วน ฟันตรงไปที่กลางเอวของตู๋กูฉิวไป้!
แม้แต่ตู๋กูฉิวไป้เห็นแล้วก็ยังอดชมไม่ได้ “ช่างเป็นวิชาดาบที่ดี!”
จากนั้นก็เห็นเขาดีดนิ้วหนึ่งที ปราณกระบี่ไร้รูปร่างยิงตรงไปยังจุดที่ชัดที่สุดของคมดาบที่เกิดจากสามดาบรวมเป็นหนึ่ง
แกร๊ง! ดาบและกระบี่ปะทะกัน เกิดเสียงดังไพเราะเหมือนเสียงระฆังเงิน
-12306
ทำลายกระบวนท่า!
ท่ามกลางเสียงนี้ ลมหนาวหยุดชะงัก จันทร์เสี้ยวแตกสลาย แม้แต่น้องดาบที่กลายร่างเป็นผีสาวก็ถูกโจมตีจนกลับสู่ร่างมนุษย์อีกครั้ง ร่างลอยถอยหลังออกไปเหมือนว่าวสายป่านขาด หลังจากตกลงพื้น ตึ้ง! ตึ้ง! ตึ้ง! ก็ถอยหลังต่อเนื่องสามก้าวอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ จากนั้นก็หย่อนก้นนั่งบนพื้น หน้าซีดขาวไร้เลือดฝาด
ดาเมจบดขยี้!
ตอนที่ค่าสเตตัสและเลเวลถูกกดให้เหลือเท่าน้องดาบ ไม่น่าเชื่อว่าตู๋กูฉิวไป้จะโจมตีสร้างดาเมจห้าหลักบนตัวน้องดาบอย่างง่ายดาย!
ถ้าไม่ได้อยู่ภายใต้การโจมตีนี้ ทั้งยังแถมผลทำลายกระบวนท่าที่ทุกคนไม่เคยเห็นมาก่อน เกรงว่าคงมีคนเริ่มสงสัยแล้วว่าตู๋กูฉิวไป้ถูกกดวิชาและค่าสเตตัสของตัวเองแล้วหรือไม่กันแน่
แต่กระบวนการคิดที่มีเหตุผลได้บอกพวกเขาแล้วว่า ตู๋กูฉิวไป้ไม่เล่นลูกไม้อะไรกับเรื่องอย่างนี้แน่นอน เพราะนั่นไม่สอดคล้องกับระดับความอวดเก่งของ BOSS เลเวลสองร้อยอย่างเขา!
หลังจากโจมตีครั้งเดียวแล้วเอาชนะท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของน้องดาบได้ ตู๋กูฉิวไป้ก็ส่ายหน้าบอกว่า “เป็นวิชาดาบที่ดีจริงๆ ด้วย แต่น่าเสียดายที่ทั้งชีวิตไม่เคยเจอผู้ที่สร้างวิชาดาบนี้แล้วแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากัน ช่างเป็นเรื่องที่น่าเสียใจในชีวิตจริงๆ”
ด้วยสภาพของน้องดาบตอนนี้ แค่ลุกขึ้นยืนก็ยังเปลืองแรงมาก แต่ปากกลับพูดอย่างไม่แสดงความอ่อนแอเลยสักนิด “หากได้เจอท่านผู้นั้นจริงๆ บางทีท่านอาจได้เปลี่ยนชื่อไปแล้วก็ได้”
ตู๋กูฉิวไป้กลับไม่โกรธเพราะสิ่งที่น้องดาบเถียงเลยสักนิด กลับเผยสายตาเฝ้าคอยพร้อมเอ่ยว่า “นั่นคือความปรารถนาทั้งชีวิตของข้า!”
ตอนนี้น้องดาบนำยารักษาบาดแผลหย่อนใส่ปากตัวเอง แล้วเริ่มนั่งขัดสมาธิฟื้นฟูกำลังภายใน
เมื่อเห็นท่าทางแบบนี้ของน้องดาบ ซานเย่ว์ที่อยู่ข้างๆ ก็อดถามอย่างกังวลไม่ได้ “ดูจากท่าทางของนาง คงจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม”
“ไม่หรอก” เยี่ยเว่ยหมิงส่ายหน้า “กระบวนท่าที่ใช้การปะทุพลังแบบนั้นข้าก็ทำเป็น หลังจากกินยารักษาบาดแผลแล้ว ไม่ถึงหนึ่งชั่วยามก็น่าจะหายดี”
“เจ้าผิดแล้ว” ตอนนี้เอง กลับได้ยินตู๋กูฉิวไป้กล่าวอย่างเนิบนาบว่า “วิชาดาบที่นางหนูใช้ก่อนหน้านี้เป็นดาบอสูร! มิหนำซ้ำนางยังฝืนเร่งใช้ท่าดาบและขอบเขตดาบทั้งที่ตัวเองควบคุมไม่ได้ นอกจากร่างกายแล้ว มีการการใช้งานจิตใจหนักกว่า…
…เป็นเพราะในเกมมีการบำรุงร่างกายของแคปซูลถนอมร่างกายจึงไม่ต้องกังวลว่าจะทิ้งโรคเรื้อรังที่ตามมาเอาไว้ในภายหลัง เพียงแต่ภายในสามวันก็เลิกคิดไปได้เลยว่าจะกลับมาสู่สภาพสมบูรณ์ได้ ไม่ว่ายาเทวดาที่ไหนก็ไม่มีประโยชน์”
ผลข้างเคียงแรงขนาดนี้ ไม่แปลกใจที่แม้น้องดาบจะถูกตนรังแกขนาดนั้น แต่ก็ไม่เคยใช้ท่าไม้ตายนี้มาก่อน
ถึงอย่างไร ด้วยค่าสเตตัสและศักยภาพของเยี่ยเว่ยหมิง ถ้าฝืนใช้อีกท่าก็แค่บาดเจ็บสาหัส แต่น้องดาบกลับถูกพลังย้อนทำร้ายก็เห็นได้ชัดว่าผลลัพธ์ของนางรุนแรงกว่ามาก
น้องดาบแพ้แล้ว พ่ายแพ้ยับเยินที่สุด แต่ก็ไม่มีใครประเมินนางต่ำเพราะเรื่องนี้ กลับมองนางด้วยความรู้สึกใหม่ด้วยซ้ำ
เพราะถึงอย่างไรคู่ต่อสู้ของนางก็คือตู๋กูฉิวไป้!
สิ่งที่น้องดาบทำก็ยอดเยี่ยมมากพอแล้ว แม้แต่เยี่ยเว่ยหมิงเอง หลังจากได้เห็นนางสู้กับตู๋กูฉิวไป้ก่อนหน้านี้ ก็แน่ใจแล้วว่าแม้ตัวเองจะใช้ ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ สำเร็จ ก็ไม่มีโอกาสแม้เพียงครึ่งที่จะได้เปรียบเมื่อสู้กับตู๋กูฉิวไป้
แต่ตอนนี้เอง ฉางซิงอวี่ก็ยืนออกมานอกแถวแล้วกุมหมัดคารวะตู๋กูฉิวไป้ “ความสามารถ เคล็ดวิชา โลกทัศน์ ประสบการณ์ความรู้ที่ผู้อาวุโสตู๋กูมีมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ถึงแม้จะถูกควบคุมไว้ แต่ผู้น้อยก็คิดว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้อยู่ดี” ฉางซิงอวี่ชะงักไปครู่เดียว ก่อนจะเปลี่ยนประเด็น “ดังนั้น ผู้น้อยอยากจะใช้วิธีการใหม่ นั่นก็คือถกหลักการกับผู้อาวุโส ไม่ทราบว่าจะได้รับเกียรตินี้หรือเปล่า”
ตอนนี้ตู๋กูฉิวไป้ถึงได้ย้ายสายตากลับมาจากตัวน้องดาบ มองฉางซิงอวี่ที่มีท่าทีไม่แข็งกร้าวหรือถ่อมตัวเกินไปพร้อมตอบอย่างสุขุมว่า “ได้!”
เมื่อสิ้นเสียงตู๋กูฉิวไป้ ตรงกลางระหว่างทั้งสองจู่ๆ ก็มีกระดานหมากผืนหนึ่งโผล่ขึ้นมา ในกระดานหมากกลับว่างเปล่า ไม่มีอะไรทั้งนั้น
เยี่ยเว่ยหมิงเห็นดังนั้นก็อดถามอย่างสงสัยไม่ได้ว่า “นี่มันของเล่นอะไรอีก”
“เป็นการเกมถกหลักการสร้างสถานการณ์” อินปู้คุยยืนอยู่ไม่ไกลจากเยี่ยเว่ยหมิง ตอนนี้เขาอธิบายว่า “เกมถกหลักการเป็นที่นิยมมากที่เขาอู่ตัง เล่นสองคนก็ได้ เล่นพร้อมกันหลายคนก็ได้ แต่ผู้เล่นที่เข้าร่วมจะต้องมีเลเวลกฎเต๋าตั้งแต่หกขึ้นไป ไม่นับรวมเลเวลที่เพิ่มขึ้นจากโบนัสอุปกรณ์นะ”
ขณะชี้เกมถกหลักการสร้างสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าตู๋กูฉิวไป้กับฉางซิงอวี่ อินปู้คุยก็อธิบายให้เพื่อนในทีมฟังต่อ “อีกประเดี๋ยว หลังจากทั้งสองเริ่มพูดกันแล้ว สิ่งที่อยู่บนกระดานหมากนี้ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงโดยอิงตามความเข้าใจที่พวกเขามีต่อกฎเต๋า ผู้แข็งแกร่งคือผู้ชนะ ผู้ที่อ่อนแอก็แพ้ไป…
…อีกทั้งระดับการถกหลักการของฉางซิงอวี่ เมื่อเทียบกับผู้เล่นทั้งสำนักอู่ตัง นอกจากศิษย์พี่ใหญ่อวิ๋นเหมี่ยนแล้วก็ไม่มีใครสู้เขาได้ ต่อให้เป็นคนที่เพิ่มเลเวลกฎเต๋าถึงแปดแล้วก็สู้ไม่ได้…
…ในเมื่อตู๋กูฉิวไป้รับปากจะถกหลักการกับเขาแล้ว ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสอาศัยเรื่องนี้เอาชนะตู๋กูฉิวไป้ ช่วยพวกเราคว้ารางวัลภารกิจมาก็ได้!”
เยี่ยเว่ยหมิงกลับไม่ได้มองโลกในแง่ดีขนาดนั้น พอได้ยินแล้วขมวดคิ้วมุ่น ส่ายหน้าน้อยๆ พร้อมบอกว่า “เกรงว่าจะไม่ได้ง่ายขนาดนั้น”
ตอนที่อินปู้คุยพูดแนะนำเกมถกหลักการสร้างสถานการณ์ ฉางซิงอวี่ที่อยู่ในเกมก็กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึมแล้วว่า “หลักการของข้าคือแนวทางแห่งทวน ทวนยาวชี้ไปทางไหน รุดหน้าไปอย่างกล้าหาญ ไม่ว่าจะเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างไร ขอเพียงทวนยาวยังอยู่ เลือดร้อนยังไม่เย็น จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ก็ไม่ถดถอย!”
เมื่อฉางซิงอวี่กล่าวออกมา บนกระดานหมากก็พลันเกิดการเปลี่ยนแปลง เห็นทหารขี่ม้านับพันหมื่นที่ถือทวนยาวปรากฏขึ้นมาตรงตำแหน่งที่อยู่ใกล้ฉางซิงอวี่ ตะโกนคำว่าฆ่าพร้อมพุ่งโจมตีไปทางตู๋กูฉิวไป้ พลังอันดุดันตอนม้านับหมื่นวิ่งตะบึงพร้อมกัน ทำให้ทั้งกระดานหมากเริ่มสั่นเล็กน้อย!