ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 430 ฆ่าอวิ๋นจงเฮ่อ พวกเรามีประสบการณ์!
ตอนที่ 430 ฆ่าอวิ๋นจงเฮ่อ? พวกเรามีประสบการณ์!
“ช่วยด้วย!” เสียงร้องขอความช่วยเหลือของจงหลิงดังจากที่ไกลๆ เข้ามาใกล้ ราวกับว่าเมื่อครู่ยังอยู่ที่หุบเขาว่านเจี๋ย แต่ตอนนี้ย้ายเข้ามาตรงทางเข้าหุบเขาฝั่งนี้อย่างรวดเร็ว
ตอนที่นางพูดคำว่า ‘ช่วย’ ออกมา ทุกคนยังรู้สึกว่าอยู่ไกลอยู่เลย แต่ตอนที่พูดคำว่า ‘ด้วย’ เสียงก็เข้ามาใกล้ต้นสนใหญ่ที่เขียนว่า ‘วันแรกของปี ขอบัตรรายเดือนเติมนิยายสองเท่า’ แล้ว
เป็นไปไม่ได้เลยที่จงหลิงจะมีความเร็วแบบนี้!
ถึงขั้นว่าแม้แต่เยี่ยเว่ยหมิงในตอนนี้ เมื่อถามใจตัวเองแล้วก็ได้คำตอบว่าไม่มีทางเพิ่มความเร็วจนถึงระดับที่น่ากลัวขนาดนั้นได้
จงหลิงถูกคนตามจับตัวแล้ว ตอนนี้นางกำลังวิ่งไปทางด้านนอกของหุบเขาว่านเจี๋ย!
ค่าสเตตัสความว่องไวเหนือคนอื่น ทำให้เยี่ยเว่ยหมิงตัดสินได้แม่นยำทันที เขานำทุกคนไปหนึ่งก้าว ไปยังทิศทางที่เขาคาดคะเนไว้ล่วงหน้าว่าอีกฝ่ายจะไปตรงนั้น เป็นต้นไม้ใหญ่ที่สลักตัวอักษรไว้นั่นเอง
‘ชั่วอึดใจหมื่นลี้’ เมื่อเทียบกับ ‘ทะยานบันไดเมฆา’ แล้วถือว่าเคลื่อนไหวเร็วกว่าเยอะ ตอนนี้ใช้ท่าร่างนี้สุดกำลัง ดูเหมือนไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา แต่ความเร็วกลับทำให้พวกสหายที่อยู่ข้างกายตกตะลึง
เดิมทีตอนที่ทุกคนเดินทางพร้อมกัน เนื่องจากเยี่ยเว่ยหมิงต้องผ่อนความเร็วให้เท่าคนอื่น จึงไม่ได้ใช้ท่าร่างนี้สุดกำลัง เพื่อนในทีมเพียงรู้สึกว่าท่าร่างของเงาล่องลอยสง่างาม แต่ก็ไม่ได้รู้สึกตกตะลึงเกินไปนัก
จนกระทั่งตอนนี้ พวกเขาถึงได้รู้ว่าสหายร่วมทีมคนนี้เมื่อใใช้ท่าร่างสุดกำลังแล้ว ความเร็วน่าทึ่งระดับไหน!
ต่อให้เป็นหลิวอวิ๋นที่ความเร็วเป็นรองจากเขาคนเดียว ตอนนี้ก็รู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างกันแล้วจริงๆ
อย่าบอกนะว่าสหายเยี่ยคนนี้เพิ่มเลเวลวิชาตัวเบาระดับสูงถึงเลเวลสิบที่เป็นระดับสมบูรณ์แล้ว
คำตอบก็คือไม่ใช่อยู่แล้ว!
เยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้ฝึกวิชาตัวเบาระดับสูงใดๆ จนถึงระดับสมบูรณ์เลย เขาก็แค่เพิ่มเลเวลวิชาตัวเบาระดับสูงสองวิชาเป็นเลเวลแปดและเลเวลเก้าเท่านั้นเอง!
ตอนที่ร่างของเยี่ยเว่ยหมิงเข้ามาใกล้ต้นไม้ใหญ่ที่สลักตัวอักษรต้นนั้นก็เห็นเงาคนคนหนึ่งแฉลบผ่านหน้าไป
มองไกลๆ กลับเห็นเงาร่างผอมแห้งที่คุ้นเคย
อวิ๋นจงเฮ่อ!
และตรงใต้รักแร้ของอวิ๋นจงเฮ่อยังหนีบสาวน้อยชุดชมพูคนหนึ่งไว้ด้วย นางก็คือจงหลิง ผู้ประสานงานภายในหุบเขาว่านเจี๋ยให้พวกเยี่ยเว่ยหมิงนั่นเอง
เมื่อเห็นอวิ๋นจงเฮ่อยังไม่แก้นิสัยเดิม เยี่ยเว่ยหมิงก็งอนิ้วมือข้างซ้ายเปิดใช้งานเอฟเฟ็กต์ยั่วเย้าของ ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ส่วนมือขวาก็คว้าอากาศ กระบี่ชิงชัยที่พลังโจมตีสูงสุดในบรรดากระบี่ล้ำค่าสามเล่มที่เขามีปรากฏอยู่ในฝ่ามือของเขาแล้ว ดูแล้วเหมือนโผล่มาจากอากาศ เขาใช้คมกระบี่ชี้ไปยังอวิ๋นจงเฮ่อที่อยู่ไกลๆ “เจ้าเข้ามาสิ!”
“หึ!” รู้สึกว่าจิตสังหารที่เยียบเย็นเข้ากระดูกปกคลุมไปทั่วตัว อวิ๋นจงเฮ่อรูขุมขนตึงไปทั้งร่าง พอมองให้ละเอียด สภาพก็เหมือนแมวตัวหนึ่งที่ถูกเหยียบหาง
ทว่าภายใต้การกระตุ้นของ ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ อวิ๋นจงเฮ่อคนนี้แทนที่จะเลี้ยวกลับมาสู้ตายกับเยี่ยเว่ยหมิงแล้ว กลับเร่งความเร็วท่าร่างหนีบจงหลิงวิ่งหนีออกไปนอกหุบเขาว่านเจี๋ยด้วย
“หึหึ ข้าไม่มีเวลามาเล่นกับเจ้าหรอกนะ ลาก่อนไอ้หนู!”
โอกาสหายาก สิ่งที่อวิ๋นจงเฮ่อคิดมาตลอดจนถึงตอนนี้ก็คือหาสถานที่ปลอดภัยสักแห่งแล้วรีบจัดการจงหลิงซะ!
คนที่ประสาทสัมผัสไวกว่าคนทั่วไปอย่างอวิ๋นจงเฮ่อทำให้เยี่ยเว่ยหมิงอดอึ้งไม่ได้ แต่ทันใดนั้นเขากลับเผยสีหน้าดีใจ “สหายทั้งหลาย อวิ๋นจงเฮ่อที่พวกเรากำลังเผชิญหน้าอยู่ตอนนี้เป็นร่างแท้ของ BOSS โหมดปกติ หลังจากฆ่าทิ้งแล้วได้ห่อไอเทมกลับบ้านเยอะแน่นอน ข้าปรับโหมดแบ่งไอเทมของทีมเป็นแบ่งตามค่าผลงานแล้ว ทุกคนเร่งมือเข้า เล่นงานเขาให้ตาย!”
ขณะที่พูด เขาก็ไล่ตามไปทางที่อวิ๋นจงเฮ่อหายไปอย่างสุดกำลัง
ส่วนเพื่อนที่เหลือในทีม พอได้ยินว่ามี BOSS ร่างแท้โหมดปกติให้ฆ่า ทั้งยังมียอดฝีมืออย่างเยี่ยเว่ยหมิงเป็นแนวหน้า ทั้งหมดก็ตามติดอยู่ข้างหลังทันที
แต่พอตามไปเรื่อยๆ ทุกคนก็รู้สึกไร้ความสามารถ
สาเหตุก็ไม่ใช่เพราะอย่างอื่น
เป็นเพราะตามไม่ทัน!
ข้างหลังเยี่ยเว่ยหมิง ความเร็วของหลิวอวิ๋นยังพอถูไถไม่ให้ถึงขั้นตกแถว หลังจากตามไปได้สักระยะ แม้จะมองไม่เห็นอวิ๋นจงเฮ่อแล้ว แต่ก็ยังเห็นเงาหลังเยี่ยเว่ยหมิงอยู่
ส่วนสหายที่เหลือกลับเห็นเพียงเงาหลังของหลิวอวิ๋น…
จะว่าไปแล้ว พอมีสหายหลิวอวิ๋นคอยลดความต่าง ก็ทำให้สหายคนอื่นไม่ได้ตกแถวโดยสิ้นเชิง
กลายเป็นคนสี่กลุ่มที่วิ่งตะบึงออกจากหุบเขาว่านเจี๋ย เมื่อเห็นว่าวิ่งมาได้สักระยะแล้ว แต่อวิ๋นจงเฮ่อกำลังจะหายไปจากขอบเขตสายตาตัวเองโดยสิ้นเชิง ในที่สุดเยี่ยเว่ยหมิงก็เริ่มร้อนใจแล้ว
ที่จริงแล้วอวิ๋นจงเฮ่อที่อยู่โหมดปกติ เขาจะไม่ฆ่าอีกฝ่ายก็ได้ แต่จงหลิงกลับเป็นข้อต่อสำคัญในแผนการที่เขาจะช่วยชีวิตต้วนอวี้ ไม่ช่วยนางไม่ได้เด็ดขาด!
ในเมื่อวิชาตัวเบาของตนด้อยกว่าอวิ๋นจงเฮ่อที่แบกอีกคนไว้กับตัว…เยี่ยเว่ยหมิงยกมุมปากแสยะยิ้ม จากนั้นก็เห็นเขาโบกมือซ้าย วัตถุสีเพลิงโผล่ออกจากฝ่ามือเขาและบินขึ้นฟ้า วัตถุนี้ขยายออกเมื่อเจอลม ชั่วพริบตาเดียวก็กลายเป็นอีกาสีแดงตัวใหญ่ขนาดเท่าลูกวัวตัวหนึ่ง พอกางปีกสองข้างก็บดบังท้องฟ้าไปแล้วสองจั้ง!
ราชันกาโลหิต…เจ้าแดง!
หลังจากเจ้าแดงถูกเยี่ยเว่ยหมิงเรียกออกมา ภายใต้การบัญชาการของเขา มันบินตามไปยังทิศทางที่อวิ๋นจงเฮ่อหนีไปทันที
เจ้าคนทรามเอ๊ย เจ้าคิดว่าตัวเองวิ่งเร็วนักหรือ
ข้ามีกองทัพอากาศโว้ย!
ถ้าเจ้าเก่งนักก็บินให้เร็วกว่าเจ้าแดงสิ!
ความจริงได้พิสูจน์แล้วว่าอวิ๋นจงเฮ่อถึงอย่างไรก็เป็นคนไม่ใช่เฮ่อ (นกกระเรียน) แม้วิชาตัวเบาของเขาจะอยู่แนวหน้าในหมู่ NPC แต่สุดท้ายการวิ่งก็สู้การบินไม่ได้อยู่ดี
พอได้ยินเสียงลมที่ไม่เป็นมิตรดังมาจากข้างหลัง มือข้างหนึ่งของอวิ๋นจงเฮ่อใช้อุ้มจงหลิง ส่วนมืออีกข้างก็รีบโบกไม้คฑากรงเล็บเหล็กรับกับเจ้าแดงที่โฉบลงมา
เจ้าแดงเดิมทีก็ปรับตัวเก่งอยู่แล้ว ไม่มีทางใช้กำลังปะทะกับเขาซึ่งๆ หน้าทันที เมื่อเห็นเขาผ่อนความเร็วเพื่อโจมตีกลับ มันก็กระพือปีกบินขึ้นฟ้า หลบการโจมตีจากไม้คฑากรงเล็บเหล็กของเขา
เมื่อถูกถ่วงเวลาแบบนี้ ระยะห่างระหว่างเยี่ยเว่ยหมิงกับเขาก็เข้าใกล้กันมากขึ้นแล้ว
มองเยี่ยเว่ยหมิงที่ไล่ตามไม่เลิกแวบหนึ่ง แล้วก็มองเจ้าแดงที่บินบนเวียนอยู่บนฟ้าเพื่อรอจังหวะโจมตีอีก อวิ๋นจงเฮ่อรู้ทันทีว่าถ้าวันนี้ไม่จัดการพวกที่ตามหลังมา ก็เลิกคิดไปได้เลยว่าตัวเองจะได้เสพสุขกับสาวน้อยแสนสวยจงหลิง
พอนึกถึงจุดนี้ โจรราคะผู้โด่งดังคนนี้ก็วางจงหลิงที่หนีบอยู่ใต้รักแร้ตัวเองอย่างไม่ลังเล พอจี้สกัดจุดนางแล้ว เขาก็ถือไม้คฑากรงเล็บเหล็กไปเผชิญหน้ากับเยี่ยเว่ยหมิงที่ตามมาถึงแล้ว
ตอนนี้เอง ในที่สุดเยี่ยเว่ยหมิงก็เห็นค่าสเตตัสที่ลอยอยู่เหนือศีรษะ BOSS แล้ว
[อวิ๋นจงเฮ่อ]
น้องเล็กของสี่คนโฉด หนึ่งในโจรราคะผู้โด่งดังในยุทธภพ
เลเวล: 85
พลังชีวิต: 380000/380000
กำลังภายใน: 250000/250000
……
จากเดิมทีที่เป็น ‘ปัญหาการไล่ตามให้ทัน’ กลายเป็น ‘ปัญหาการเจอกัน’ ทันที เมื่อยอดฝีมือวิชาตัวเบาสองคนเคลื่อนที่เข้าหากันอย่างรวดเร็ว ทั้งสองก็เข้าใกล้กันเร็วมาก ใช้เวลาไม่ถึงสิบวินาที ระยะห่างหลายร้อยเมตรก็ลดลงจนเหลือไม่ถึงสามจั้งแล้ว
อวิ๋นจงเฮ่อที่เดิมทีคุ้นชินกับการต่อสู้ตอนเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงอยู่แล้ว พอเห็นว่าระยะห่างเข้าใกล้กันพอสมควร ก็กวาดไม้คฑากรงเล็บเหล็กออกมาในแนวขวางทันที ดูเหมือนเป็นการโจมตีที่ไร้หลักการ แต่เมื่อเชื่อมโยงกับความเร็วอันโดดเด่นของพวกเขาสองคนแล้ว ก็โจมตีบนหัวใจของเยี่ยเว่ยหมิงได้พอดิบพอดี!
ขณะเดียวกันนี้เอง เยี่ยเว่ยหมิงกลับหมุนตัวกะทันหัน ขณะที่รักษาความเร็วตอนพุ่งไปข้างหน้าให้สม่ำเสมอ เขาก็กลายเป็นหันหลังพุ่งใส่อวิ๋นจงเฮ่อแล้ว พอกระบี่ชิงชัยในมือแตะพื้น น้ำหนักของเขาตอนพุ่งตัวไปข้างหน้ากดให้กระบี่งอจนถึงขีดสุด จากนั้นก็ดีดตัวขึ้ามาอีก ขณะที่หลบไม้คฑาที่อวิ๋นจงเฮ่อโจมตีเข้ามาเป็นครั้งที่สอง ร่างกลับเฉียดผ่านอีกฝ่ายไปในองศาที่ประหลาด เขาถือโอกาสกวาดกระบี่ชิงชัยออกมา ปาดขมับข้างซ้ายของอวิ๋นจงเฮ่ออย่างแม่นยำ
-50524!
เพียงชั่วพบหน้ากัน ก็ลงมือโหดใส่ BOSS โหมดปกติเลเวลแปดสิบห้าโดยที่ตัวเองไม่ได้บาดเจ็บสักนิด เยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้รู้สึกผิดคาดกับเรื่องนี้ ไม่ได้รู้สึกพึงพอใจด้วย
เพราะ…
การฆ่าอวิ๋นจงเฮ่ออะไรนั่น เยี่ยเว่ยหมิงรู้สึกว่าตัวเองมีประสบการณ์แล้ว!