ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 431 แนวทางวิทยายุทธ์ ก้าวหน้าไร้ที่สิ้นสุด
ตอนที่ 431 แนวทางวิทยายุทธ์ ก้าวหน้าไร้ที่สิ้นสุด
ตอนนี้คู่ต่อสู้ของเยี่ยเว่ยหมิงคือ BOSS โหมดปกติเลเวลแปดสิบห้า!
นอกจากจุดเด่นตายตัวของ BOSS โหมดปกติที่ตายแล้วจะไม่ถูกรีเฟรชขึ้นมาใหม่ รวมทั้งหลังจากตายแล้วจะดรอปของทั้งหมดบนตัวในรวดเดียว คุณสมบัติอีกอย่างก็คือรับมือยากกว่า BOSS คนอื่นที่มีเลเวลเท่ากันเท่านั้น!
ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงเพิ่งเลเวลสี่สิบแปดเท่านั้น ห่างจากอีกฝ่ายตั้งสามสิบเจ็ดเลเวล บวกกับเป้าหมายเป็นโจรราคะมืออาชีพที่โด่งดังเรื่องวิชาตัวเบาและความสามารถในการปกป้องตัวเอง ถ้าเปลี่ยนเป็นผู้เล่นคนอื่น แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ตัวเองได้เปรียบโดยสมบูรณ์ แต่อย่างมากก็ทำได้เพียงโจมตีอีกฝ่ายเท่านั้น แต่กลับไม่มีทางโจมตีสังหารได้
ทว่า เยี่ยเว่ยหมิงเป็นคนทั่วไปเสียที่ไหน
เขาไม่ใช่คนทั่วไป!
เขามีประสบการณ์โชกโชนกับรับมือคู่ต่อสู้ประเภทโจรราคะ ต่อให้พุ่งเป้าไปที่การโจมตีสังหารอวิ๋นจงเฮ่อ ก็ยังถือว่ามีประสบการณ์มากอยู่ดี
หลังจากโจมตีหนึ่งครั้งสำเร็จจนยั่วโมโหอีกฝ่ายได้ เยี่ยเว่ยหมิงกลับไม่รีบสร้างผลงานการรบขั้นต่อไป เขาเริ่มใช้ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ พร้อมท่าร่าง ‘ชั่วอึดใจหมื่นลี้’ กึ่งวิ่งกึ่งต่อสู้กับอีกฝ่ายแทน
เพียงชั่วพริบตาเดียว การต่อสู้ก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่สองฝ่ายสูสีกัน!
“อามิตตาพุทธ!” พอสู้กันได้สักพัก หลิวอวิ๋นก็มาถึงจุดที่ต่อสู้กันตอนแรก
สหายพระท่านนี้ก็มีพรสวรรค์เหมือนกัน เขาอาศัยวิธีการพูดคุยแบบใจวัดใจ ชี้ให้เห็นความผิดต่างๆ ในพฤติกรรมกระทำชำเราสตรีของอีกฝ่ายอย่างละเอียด ทั้งยังให้อวิ๋นจงเฮ่อเปลี่ยนมุมมองพิจารณา พาตัวเองเข้าไปยืนในมุมของเหยื่อแล้วครุ่นคิด ว่าถ้าตัวเองถูกชายฉกรรจ์คนหนึ่ง…เอ่อ ยกตัวอย่างเช่นถูกเย่ว์เหล่าซานข่มเหงและขืนใจ…นึกถึงฉากต่างๆ ที่บรรยายให้เด็กอายุต่ำกว่าสิบแปดฟังไม่ได้
ด้วยการโจมตีทางคำพูดของหลิวอวิ๋น อวิ๋นจงเฮ่อก็รู้สึกสะอิดสะเอียนอยู่พักหนึ่ง อยากจะอาเจียนออกมาหลายครั้ง อยากกินของเปรี้ยวดับความรู้สึกนี้…ทำให้ความคิดของเขายิ่งผสมปนเปกันมากขึ้น แม้แต่กระบวนท่าที่กำลังใช้ก็เผยช่องโหว่ออกมาเรื่อยๆ เช่นกัน
แต่บุรุษผู้สุภาพอ่อนโยนอย่างเยี่ยเว่ยหมิง เป็นคนต่ำช้าที่ชอบฉวยโอกาสตอนคนอื่นตกอยู่ในวิกฤตอย่างนั้นหรือ
เมื่อเห็นช่องโหว่บนตัวอวิ๋นจงเฮ่อมากขึ้นเรื่อยๆ แต่กลับคงไว้ซึ่งลักษณะของปราชญ์จอมยุทธ์ ไม่ได้เลือกเจาะช่องโหว่เข้าไป เพียงเก็บกระบี่ชิงชัยเงียบๆ เปลี่ยนเป็นกระบี่ทองปัวสวินแทน สลับใช้ ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ และ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ สู้กับอีกฝ่ายต่อไป
ขณะเดียวกัน ก็ยังไม่ลืมส่งข้อความในช่องทีม ให้กำลังใจหลิวอวิ๋นให้พยายามต่อไป
……
หลังจากผ่านไปอีกพักหนึ่ง เพื่อนในทีมคนอื่นๆ ที่เป็นกำลังหลักก็ทยอยกันมาถึงแล้วเช่นกัน เริ่มเข้ามาล้อมอวิ๋นจงเฮ่อแล้ว
จนกระทั่งตอนนี้ หลังจากเยี่ยเว่ยหมิงปล่อยผ่านช่องโหว่สามสิบเจ็ดจุดของอีกฝ่ายไป ในที่สุดก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนดีมามากพอแล้ว จึงถือโอกาสตอนที่อีกฝ่ายเพิ่งคิดจะถอยแต่ยังไม่ทันได้ถอยจริง หาช่องโหว่จุดที่สามสิบแปดของอีกฝ่าย แล้วรีบใช้ท่าง่ายๆ อย่าง ‘ไซซีกุมดวงใจ’ แทงที่หัวใจของอวิ๋นจงเฮ่อ
ทว่าอย่างไรเสีย ตอนนี้อวิ๋นจงเฮ่อก็เป็น BOSS เลเวลแปดสิบห้าโหมดปกติ แม้กระบี่นี้ของเยี่ยเว่ยหมิงจะเจอช่องโหว่ในกระบวนท่าของเขาแล้ว แต่ก็ไม่ถึงขั้นทำให้เขาใช้กระบวนท่าไม่ได้
หลังจากโจรราคะผู้โด่งดังบีบให้ต้วนอาทิตย์อัสดงไร้ซุ่มเสียงที่โจมตีมาจากทางซ้ายถอยไปแล้ว ก็พลันกวาดไม้คฑากรงเล็บเหล็กในแนวขวาง ไม้คฑาสัมผัสกับคมกระบี่ทองปัวสวินที่แทงเข้าไปตรงหน้าอกของเขาพอดี!
แกร๊ง!
ระหว่างเยี่ยเว่ยหมิงกับอวิ๋นจงเฮ่อถึงอย่างไรก็ห่างกันสามสิบเจ็ดเลเวล อีกทั้งไซซีกุมดวงใจก็ไม่ใช่ท่ากระบี่ที่มีพลังอะไรมากมาย ภายใต้สถานการณ์ที่สองฝ่ายศักยภาพสวนทางกัน แค่โจมตีครั้งเดียว เยี่ยเว่ยหมิงก็รู้สึกชาที่ข้อมือแล้ว ถึงขั้นจับกระบี่ได้ไม่มั่นคง ถูกไม้คฑาเหล็กที่เปี่ยมพลังของอีกฝ่ายทุบกระเด็นออกไปแล้วด้วย
เมื่อรู้อยู่แก่ใจว่าในบรรดาคนที่ล้อมโจมตีตนมีเพียงเยี่ยเว่ยหมิงที่รับมือยากสุด อวิ๋นจงเฮ่อก็ย่อมไม่พลาดโอกาสดีที่จะกำจัดศัตรูที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว
เขาหมุนไม้คฑากรงเล็บเหล็กในมือแทงตรงไปยังคอหอยของเยี่ยเว่ยหมิงทันที
เยี่ยเว่ยหมิงที่อาวุธเพิ่งกระเด็นหลุดมือ เมื่อเห็นท่าไม้ตายมาเยือนตรงหน้า เขาก็ตกใจจนหน้าถอดสี ดันสองฝ่ามือรับกับไม้คฑาเหล็กของอีกฝ่ายอย่างไม่ลังเลทันที พลังฝ่ามือปะทุออกมาจนหมดในชั่วพริบตาเดียว
กรรร!
เสียงมังกรคำรามที่เขย่าขวัญดังก้องทะลุฟ้า เป็นกระบวนท่าหน้าเนื้อใจเสือที่มีประสิทธิภาพสูงสุดของ ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ ทั้งยังใช้เสียงมากลบเสียงลอบโจมตีของเพื่อนในทีมได้…สะท้านขวัญร้อยลี้!
พลังฝ่ามือรูปมังกรที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางหนึ่งเมตรทะลักออกมาจากสองฝ่ามือของเยี่ยเว่ยหมิง ยิงตรงไปยังอวิ๋นจงเฮ่อ ทุกคนถึงขั้นเห็นดวงตาสีแดงหนึ่งข้างกับสีน้ำเงินหนึ่งข้างของภาพมายามังกร ราวกับดวงตาหยินหยางในตำนาน ดูประหลาดเหมือนปีศาจ
ในระยะที่ใกล้กันมาก เมื่ออวิ๋นจงเฮ่อเผชิญหน้ากับฝ่ามือที่มาพร้อมพลังแสงสีเสียงสะท้านฟ้าแบบนี้ก็ไม่มีที่เหลือให้หลบ ทำได้เพียงตั้งไม้คฑากรงเล็บเหล็กขวางตรงหน้าอก เตรียมอาศัยค่าสเตตัสที่ได้เปรียบของตัวเองฝืนรับท่า ‘สะท้านขวัญร้อยลี้’ ของเยี่ยเว่ยหมิง
ทว่าตอนที่เขางอขาซ้ายและเหยียดขาขวาเตรียมตั้งท่าป้องกัน จู่ๆ ก็รู้สึกเจ็บขาสองข้างพร้อมกัน ซานเย่ว์ที่ให้ความร่วมมือกับเยี่ยเว่ยหมิงเงียบๆ ถือโอกาสตอนโจรราคะถูกเสียงมังกรคำรามของ ‘สะท้านขวัญร้อยลี้’ กลบการได้ยิน ยิง ‘ตะปูเจาะกระดูกจื่ออู่’ ออกมาสองเล่ม ปักบนข้อต่อหลังหัวเข่าสองข้างของเขา!
‘ตะปูเจาะกระดูกจื่ออู่’ เป็นอาวุธลับที่มีพิษชนิดหนึ่ง ไม่เพียงแค่ทำลายเกราะปราณแท้ บนอาวุธยังมีพิษร้ายอยู่ด้วย ตอนแรกที่ทำภารกิจจวนอ๋องจ้าว อินปู้คุยได้ตำราลับและวิธีการปรุงยาพิษไป อาวุธที่ซานเย่ว์ใช้ก็ได้มาจากเขา ตอนหลังพอแลกอุปกรณ์กันนางจึงได้มาไว้ในมือ
พอใช้มันตอนนี้ ก็เกิดผลลัพธ์อัศจรรย์ทันที!
-537
-486
ถูกพิษ!
เลขพลังชีวิตลดลอยขึ้นเหนือศีรษะอวิ๋นจงเฮ่อสองกลุ่มต่อเนื่อง เขาที่ข้อต่อบาดเจ็บรู้สึกแข้งขาอ่อน พลังที่อัดแน่นก็รั่วไหลทันที
ตอนนี้เอง พลังฝ่ามือสะท้านขวัญร้อยลี้ของเยี่ยเว่ยหมิงปะทะกับไม้คฑากรงเล็บเหล็กในมืออวิ๋นจงเฮ่อพอดี!
บึ้ม!
มีคำกล่าวว่าแรงคือสิ่งที่ขึ้นมาจากพื้น พอข้อต่อขาสองข้างของอวิ๋นจงเฮ่อได้รับบาดเจ็บสาหัส พลังที่ก่อตัวกันจึงถดถอยไปเกินครึ่งทันที ตอนนี้พอมาเจอกับ ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ ที่เต็มไปด้วยพลังหยาง แข็งแกร่ง ดุดัน เจ้าเล่ห์อีก มีหรือที่จะต้านไหว
เมื่ออยู่ในสถานการณ์พิเศษแบบนี้ แม้เยี่ยเว่ยหมิงจะปล่อยเพียงพลังฝ่ามือลอยไปกระทบบนอาวุธของอีกฝ่าย แต่ผลที่ได้กลับไม่ต่างอะไรมากกับการโจมตีบนตัวเขาโดยตรง!
เมื่ออวิ๋นจงเฮ่อถูกโจมตีครั้งนี้ก็กระเด็นถอยหลังออกไปทันที ขณะเดียวกันก็มีตัวเลขดาเมจห้าหลักลอยขึ้นมาเหนือศีรษะ!
-24591
ตอนที่ได้รับดาเมจมหาศาล ร่างของอวิ๋นจงเฮ่อก็กระเด็นไปข้างหลังแล้ว
เมื่อเห็นฉากนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็ยกมุมปากยิ้มอย่างพึงพอใจ
หลังจากเคยทำเฟิร์สคิลกับอวิ๋นจงเฮ่อตรงตีนเขาชิงเฉิงแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็ศึกษาท่า ‘สะท้านขวัญร้อยลี้’ ซ้ำแล้วซ้ำอีก ถึงได้พบว่า ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ สมกับเป็นสุดยอดวิชาของยุทธภพจริงๆ ไม่เพียงแค่มีประสิทธิภาพแข็งแกร่ง ปล่อยได้เก็บได้ เขาถึงขั้นควบคุมความเร็วในการโจมตีของพลังฝ่ามือรูปมังกรหลังจากเปิดใช้งานได้ด้วย
ตอนนี้พอลองใช้วิธีการนี้กับการต่อสู้จริง ก็ได้ผลลัพธ์ดีอย่างที่คาดไว้จริงๆ!
หลักการประลองยุทธ์ ให้ความสำคัญกับระดับที่พอเหมาะพอดี
แต่ในฐานะคนหนุ่มหัวก้าวหน้ายุคอวกาศที่กระตือรือร้นพัฒนาตัวเอง สิ่งนี้ยังไม่ทำให้เยี่ยเว่ยหมิงพอใจ เขารู้สึกว่า ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ หลายท่าที่ตนเคยเรียนมายังมีช่องว่างให้แสดงความสามารถออกมาอีกเยอะ เขาต้องขบคิดซ้ำๆ และดัดแปลงให้ดีขึ้นอีก
แนวทางวิทยายุทธ์ ก้าวหน้าไร้ที่สิ้นสุด เยี่ยเว่ยหมิงยังต้องพยายามต่อไป!
ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงเริ่มสรุปประสบการณ์การต่อสู้ เพื่อนในทีมอีกสามคนก็ลงมือพร้อมกันแล้ว ต้วนอาทิตย์อัสดงไร้ซุ่มเสียงใช้ดรรชนีเอกสุริยันโจมตีไปที่แผ่นหลังตรงหัวใจของอวิ๋นจงเฮ่อ ขุนเขาลำธารย่อมพานพบและเซียนสาวน้อยนักกินชักกระบี่กับดาบตามหลังมาติดๆ รอเพียงคนแรกใช้ดรรชนีเอกสุริยันสกัดจุดอีกฝ่ายไว้ พวกเขาก็จะทำลายสองขาของ BOSS เลเวลแปดสิบห้าคนนี้ให้พิการทันที
เมื่ออยู่ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย อวิ๋นจงเฮ่อก็ปะทุพลังอันน่ากลัวของ BOSS เลเวลแปดสิบห้าโหมดปกติออกมาจนหมด เขาพลันหมุนตัวขณะที่กำลังกระเด็นถอยหลัง เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะทั้งกวาดทั้งฟันไม้คฑากรงเล็บเหล็กอย่างต่อเนื่อง บีบให้สามคนที่โจมตีเข้ามาต้องถอยไป
ทว่าทำได้ถึงขั้นนี้ก็ถือว่าได้ผลเกินระดับของอวิ๋นจงเฮ่อแล้ว ถ้าเป็นเขาตอนนี้คงหมดแรงไปแล้ว แต่อย่างน้อยก็ถือว่าแก้ไขวิกฤติทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้าได้
ขอเพียงสองเท้าเหยียบลงพื้นอีกครั้ง เขาก็จะใช้ท่าร่างอย่างเต็มกำลังเพื่อหนีไป
จนกระทั่งตอนนี้ อวิ๋นจงเฮ่อก็ยังคิดว่าตัวเองไม่ได้มีอันตรายถึงชีวิต เขาเชื่อว่าขอเพียงตัวเองไม่สู้ต่อ เขาก็มีความมั่นใจแปดส่วนว่าจะรอดพ้นจากความตายได้!
เพียงแต่การปล่อยแม่นางน้อยผู้งดงามสดใสอย่างจงหลิงไปโดยไม่ได้เสพสุขจากนาง ก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าเสียดาย
อย่างไรก็ตาม ตอนที่อวิ๋นจงเฮ่อตัดสินใจแล้วว่าจะหนี สองเท้าที่กำลังจะเหยียบลงพื้นอยู่ห่างจากพื้นไม่ถึงครึ่งฉื่อ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงตะโกนขัดจังหวะของเยี่ยเว่ยหมิงดังมาจากข้างหลัง
“กระบี่จงมา!”
อวิ๋นจงเฮ่อคนนี้ ตอนที่อยู่ในโหมดภารกิจก็ถูกเยี่ยเว่ยหมิงฆ่าตายไปแล้วสองครั้ง เพียงแต่อยู่โหมดภารกิจไม่ได้หมายความว่าแยกร่างได้ หลังจากตายแล้วกลับลืมความทรงจำทุกอย่างที่เกี่ยวกับความตาย ดังนั้นตอนนี้เขาจำเยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้
แต่หลังจากผ่านศึกวันนี้ เขาก็เข้าใจถึงความสง่างามไร้ที่เปรียบของผู้ช่ำชองแนวทางกระบี่แล้ว
แม่งเอ๊ย หน้าเนื้อใจเสือเกินไปแล้ว!
ตอนนี้พอได้ยินเสียงตะโกนขัดจังหวะ เขาก็ตกใจจนตัวสั่นแล้วหันไปมองโดยจิตใต้สำนึกทันที เขาเห็นว่าหลังจากเยี่ยเว่ยหมิงโจมตีออกมาหนึ่งฝ่ามือแล้ว ก็ไม่ได้ไล่ตามมาทันที เพียงใช้มือขวาชี้กระบี่ ดึงจากข้างหน้าไปข้างหลัง เหมือนกำลังจูงอะไรสักอย่าง
ตอนที่อวิ๋นจงเฮ่อกำลังชั่งใจว่าเจ้าเด็กนี่กำลังสร้างสถานการณ์ขู่ขวัญอยู่หรือไม่ จู่ๆ หางตาก็เห็นแสงสีทองพุ่งเข้ามาจากข้างหน้า
เขารีบหันกลับไปมองอีกครั้ง แต่กลับเห็นกระบี่ทองปัวสวินที่เขาใช้ไม้คฑาตีกระเด็นออกไปก่อนหน้านี้ถูกพลังอะไรบางอย่างดูดเข้ามา มันแฉลบผ่านตัวขุนเขาลำธารย่อมพานพบกับเซียนสาวน้อยนักกินด้วยความเร็วสูงสุด ตรงมายังอวัยวะท่อนล่างที่เป็นจุดสำคัญของเขา
ก่อเหตุใต้รักแร้[1]!
อวิ๋นจงเฮ่อขวัญกระเจิงเพราะกระบี่ที่เข้ามาอย่างกะทันหัน แต่ช่วยไม่ได้ที่ระยะห่างระหว่างเขากับกระบี่สั้นเกินไป ทั้งยังมาเร็วเกินไป ประกอบกับเขาใช้ปราณแท้หมดแล้วตอนที่ถูกผู้เล่นสามคนโจมตี ตอนนี้อย่าว่าแต่หลบหรือป้องกันเลย แม้แต่จะรวบรวมเกราะปราณแท้ขึ้นมาป้องกันตัวก็ทำไม่ได้แล้ว
แสงกระบี่สีทองลอดผ่านหว่างขาของเขาไป เลือดสาดกระจาย
-1346!
เส้นเอ็นขาด!
การได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้เสียงร้องเจ็บปวดของอวิ๋นจงเฮ่อดังก้องฟ้า!
“อา!…”
[1] ก่อเหตุใต้รักแร้ 变生肘腋 อุปมาว่าเรื่องราวเกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่ข้างกายตัวเอง