ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 439 สุดยอดวิชาลงสนามพร้อมกัน
ตอนที่ 439 สุดยอดวิชาลงสนามพร้อมกัน
สำหรับเรื่องที่เชิญร่ำสุราผงาดขึ้นมาอย่างรวดเร็วหลังจากถูกโจมตีว่าทรยศสำนัก เยี่ยเว่ยหมิงไม่แปลกใจเลยสักนิด
อย่างไรเสีย ถึงแม้ ‘เคล็ดกระบี่พิชิตมาร’ จะไม่ถือว่าพิเศษมากนักในบรรดาสุดยอดวิชา ถึงขั้นกล่าวได้ว่าเป็นสุดยอดวิชาที่ค่อนข้างอ่อนแอ แตกต่างกับ ‘เก้ากระบี่เดียวดาย’ ที่เป็นสุดยอดวิชาเหมือนกันไม่ใช่น้อยๆ
แต่เมื่อเทียบกับสุดยอดวิชาส่วนใหญ่เช่น ‘เก้ากระบี่เดียวดาย’ และ ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ ‘เคล็ดกระบี่พิชิตมาร’ นี้กลับมีความได้เปรียบโดยธรรมชาติที่สุดยอดวิชาอื่นๆ ไม่มี
ประการแรกก็คือ เงื่อนไขในการเริ่มต้นฝึกของมันต่ำมาก ขอเพียงแข็งใจโบกดาบได้ ก็ฝึกวิชานี้ได้แทบทุกคน
ประการต่อมา เป็นจุดที่สำคัญที่สุดเช่นกัน…เพราะมันใช้ทางลัดฝึกได้!
ตามต้นฉบับเดิมของนิยาย ไม่ว่าจะเป็นเย่ว์ปู้ฉวินหรือว่าหลินผิงจือ หลังจากฝึก ‘เคล็ดกระบี่พิชิตมาร’ แล้ว ความสามารถก็เพิ่มขึ้นเยอะมากภายในเวลาสั้นๆ ได้ โดยเฉพาะหลินผิงจือที่่เปลี่ยนจากมือใหม่ที่ใครจะรังแกก็ได้ กระโดดข้ามไปเป็นยอดฝีมือที่แทบจะถือกระบี่บุกเดี่ยวไปปราบสำนักชิงเฉิงได้เลย!
เคล็ดกระบี่นี้ถ้าฝึกขึ้นมาก็ก้าวหน้าเร็วมาก มองจากจุดเดียวก็เห็นภาพรวมแล้ว
จุดเด่นที่ใช้ทางลัดฝึกได้แบบนี้ สิ่งที่สะท้อนบนตัวผู้เล่นโดยตรงก็คือ ค่าประสบการณ์ที่ใช้เพิ่มเลเวลเคล็ดกระบี่นี้ต่ำมาก ถึงขั้นอาจจะเพิ่มเลเวลได้ง่ายกว่าสุดยอดวิชาระดับกลางบางวิชาด้วย
ยกตัวอย่างเช่น…เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน?
เมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เชิญร่ำสุราย่อมฟื้นพลังโจมตีให้กลับมาเป็นเหมือนตอนที่อยู่สำนักชิงเฉิงได้ภายในระยะเวลาอันสั้นอยู่แล้ว ถึงขั้นโจมตีได้เฉียบคมกว่าเดิมด้วย!
จากนั้นก็อาศัยศักยภาพของตัวเองชดเชยความเสียหายที่เกิดจากการทรยศสำนักก่อนหน้านี้ผ่านวิธีการต่างๆ เช่น ทำภารกิจ ฆ่า BOSS เป็นต้น
สุดท้ายเมื่อผนึกกับวิชาพิษของสำนักดาวดึงส์ ภายในเวลาไม่กี่เดือน ต่อให้ตอนนี้มีคนมาบอกว่าเขาฝึก ‘เคล็ดกระบี่พิชิตมาร’ จนถึงเลเวลสิบซึ่งเป็นระดับสมบูรณ์ได้แล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็จะไม่แปลกใจเลยสักนิด
เชิญร่ำสุราจะฝึก ‘เคล็ดกระบี่พิชิตมาร’ จนถึงระดับสมบูรณ์หรือไม่ เยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่มีทางยืนยันได้ แต่ดูจากตอนที่อีกฝ่ายลงมือ ดูระดับความโหดของท่ากระบี่ เลเวลเหนือกว่าเยี่ยเว่ยหมิงตอนนี้แน่นอน
ต่อให้เป็นเยี่ยเว่ยหมิง ก็ทำได้เพียงอาศัยค่าสเตตัสเลเวล 5 (+1) ของท่าปลุกปั่นกระบี่ ประกอบกับวิชาและค่าสเตตัสที่ได้เปรียบกว่าโดยสมบูรณ์ของตัวเองเพื่อข่มให้อีกฝ่ายเป็นรองอยู่ดี แต่ถ้าอยากทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บภายในเวลาสั้นๆ นี้ นั่นกลับเป็นเรื่องเพ้อฝัน
เชิญร่ำสุราร้ายกาจมาก!
ท่ากระบี่ที่ทั้งสองใช้เน้นการเปลี่ยนแปลงของกระบวนท่าเป็นหลัก แต่วิถีทางกลับใช้การประจันหน้าไปพร้อมๆ กับลอบโจมตี ในสถานการณ์ที่ใช้ความเร็วสู้กัน ชั่วพริบตาเดียวก็ประมือกันไปสิบกระบวนท่าแล้ว
‘เคล็ดกระบี่พิชิตมาร’ ของเชิญร่ำสุรามีทั้งสิ้นเจ็ดสิบสองแนวทาง ส่วน ‘ท่าปลุกปั่นกระบี่’ ของเยี่ยเว่ยหมิงกลับมีเพียงหนึ่งกระบวนท่า ทุกการเปลี่ยนแปลงไม่มีข้อจำกัดของกระบวนท่าที่แน่นอน ตอนสู้กับศัตรูส่วนมากอาศัยความว่องไวของตัวเองเพื่อพลิกแพลงตามสถานการณ์ ให้ความรู้สึกเหมือนสุดยอดเคล็ดวิชาคือไร้ซึ่งกระบวนท่า
เมื่อประมือกันต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเยี่ยเว่ยหมิงหรือเชิญร่ำสุรา ต่างก็อดแอบชมเคล็ดกระบี่ของอีกฝ่ายในใจไม่ได้ ให้ความรู้สึกเหมือนชื่นชมกันและกัน
แน่นอนว่าเมื่ออยู่ในภารกิจ การชื่นชมกันและกันแม้ทำได้ แต่ไม่ส่งผลต่อการลงมือกับเป้าหมายที่ชื่นชมแน่นอน
ก็เป็นอย่างที่เชิญร่ำสุราบอกไว้ก่อนหน้านี้ หลังจากทั้งสองประมือกันไปเกือบยี่สิบกระบวนท่า สหายร่วมทีมของเขาก็มาถึงสนามรบก่อนแล้ว หลังจากกองหนุนทั้งสองของฝ่ายศัตรูสบตากันแวบหนึ่ง ก็เข้าร่วมวงต่อสู้โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย บัณฑิตชุดขาวลงมือก่อน ใช้พัดในมือจี้สกัดจุดผ่านอากาศ แต่กลับครอบคลุมจุดชีพจรบนร่างกายของเยี่ยเว่ยหมิงไปครึ่งหนึ่งแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าจะใช้วิชาสกัดจุดของพู่กันผู้พิพากษา
เยี่ยเว่ยหมิงเพิ่งจะคว้าโอกาสได้ก็ฟันเชิญร่ำสุราจนกระเด็นถอยหลังออกไปทั้งคนทั้งกระบี่ ขณะเดียวกันก็ใช้มือซ้ายผลักบัณฑิต ชั่วพริบตาเดียวก็เกิดเสียงมังกรคำรามสูงทะลุเมฆดังก้องทั่วท้องฟ้ายามราตรี
สะท้านขวัญร้อยลี้!
ทว่าเมื่อเผชิญหน้ากับฝ่ามือที่อึกทึกครึกโครมของเยี่ยเว่ยหมิง บัณฑิตชุดขาวคนนั้นพลันหมุนพัดในมือตัวเอง อาศัยแรงฉุดกลุ่มหนึ่งในอากาศ ลดพลังฝ่ามือของเยี่ยเว่ยหมิงไปได้ประมาณสี่ส่วนแล้ว
นี่มันวิชาอภินิหารอะไรกัน
พอรู้สึกว่าพลังฝ่ามือของตัวเองหายไปเกือบครึ่ง เยี่ยเว่ยหมิงก็ขมวดคิ้วทันที เขาย่อมไม่รู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายใช้ ‘ดาวเคลื่อนดาราคล้อย’ สุดยอดวิชาอันเลื่องชื่อของสกุลมู่หรง
แน่นอนว่า ‘ดาวเคลื่อนดาราคล้อย’ ฉบับสมบูรณ์ที่เป็นสุดยอดวิชาไม่ได้ตกอยู่ในมือผู้เล่นได้ง่ายๆ
วิชาที่บัณฑิตชุดขาวใช้ก็คือส่วนหนึ่งที่ตัดมาจาก ‘ดาวเคลื่อนดาราคล้อย’ มีชื่อว่า ‘วิชาเคลื่อนคล้อย’ ซึ่ง ‘วิชาเคลื่อนคล้อย’ นี้ก็จัดอยู่ในขอบเขตวิทยายุทธ์ระดับสูงเท่านั้น มีเพียงวิธีการลดพลัง แต่กลับอาศัยพลังโจมตีพลังไม่ได้ ทำไม่ได้ถึงขั้น ‘ทำร้ายศัตรูด้วยวิธีการของศัตรู’ แน่นอน จัดเป็นประเภททักษะเสริมที่ช่วยป้องกันตัวเท่านั้น
ก็เหมือนตอนนี้ แม้เขาจะลดพลังฝ่ามือของเยี่ยเว่ยหมิงไปแล้วเกือบครึ่ง แต่พลังฝ่ามือที่เหลือถ้าถูกบนตัวเขา ก็ยังทำให้เขาบาดเจ็บหนักได้อยู่ดี!
น่าเสียดายที่เขาไม่ใช่คนเดียวที่กำลังต่อสู้!
ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงเตรียมจะใช้พลังฝ่ามือที่เหลืออยู่ถล่มไปบนตัวเจ้าหมอนี่ให้หมด จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเหมือนกบร้องดังมา ตามด้วยเงาร่างสีเทาที่โผล่มาจากข้างกายของบัณฑิตชุดขาว ผลักสองฝ่ามือออกมาด้วยท่าที่ไม่สวยงามนัก ชนกับ ‘สะท้านขวัญร้อยลี้’ ที่ถูกลดพลังไปเกือบครึ่งของเยี่ยเว่ยหมิงพอดี
วิชาคางคก!
ตุ้บ!
สู้แบบหนึ่งต่อสาม ทั้งยังเป็นคู่ต่อสู้สามคนที่มีวิทยายุทธ์ระดับสู งหรือถึงขั้นมีสุดยอดวิชาด้วย ต่อให้เป็นเยี่ยเว่ยหมิงแต่สุดท้ายก็ยังดันทุรังเกินไป
ฝ่ามือสะท้านขวัญร้อยลี้ของเขาถูกบัณฑิตชุดขาวทำให้อ่อนลง ตามด้วยถูกวิชาคางคกของผู้เล่นชุดเทาตีกระจาย พลังฝ่ามือที่เหลือก็ยิ่งผลักให้เขากระเด็นออกไปแล้ว
ยังดีที่พลังและค่าสเตตัสของผู้เล่นชุดเทาด้อยกว่าเยี่ยเว่ยหมิงไม่ใช่น้อยๆ ถึงแม้จะอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แต่ก็สร้างคริติคอลไม่ได้
ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็ยังถูกโจมตีจนติดสถานะลอย ตกอยู่ในอันตรายมากเช่นกัน!
เมื่อตัวลอยอยู่กลางอากาศแล้วเผชิญกับการไล่โจมตีของศัตรูอีก เป็นเรื่องยากมากที่จะรับมืออย่างมีประสิทธิภาพได้
และในบรรดาคู่ต่อสู้สามคน นอกจากผู้เล่นชุดเทาที่หลังจากใช้ฝ่ามือกับเขาแล้วไล่ตามทันทีไม่ไหว ก็ยังมีเชิญร่ำสุราและบัณฑิตชุดขาวที่ไม่ได้รับผลกระทบในการเคลื่อนไห
ตอนนี้ สองคนนั้นไล่ตามมาถึงตัวเยี่ยเว่ยหมิงที่กำลังติดสถานะลอยพร้อมกันแล้ว บัณฑิตชุดขาวอยู่ข้างหน้า เชิญร่ำสุราตามหลังมาติดๆ ต้องเคลียร์ภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดอย่างเยี่ยเว่ยหมิงออกจากภารกิจให้ได้!
ทว่าทางฝั่งเยี่ยเว่ยหมิง ปาเทียนสือที่เพิ่งถูกเขาช่วยชีวิตถอยออกไปไกลแล้ว จากนั้นก็ดูการต่อสู้ไปพลางโคจรพลังขับพิษไปพลาง ตอนนี้ต่อให้อยากจะยื่นมือช่วยแต่ก็ช่วยไม่ทันอยู่ดี
ส่วนซานเย่ว์ที่ตามมาถึงแล้วก็เว้นระยะห่างกับสนามรบเล็กน้อย อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งวินาที ถึงจะดึงระยะห่างให้ใกล้กันจนอีกฝ่ายอยู่ในขอบเขตยิงอาวุธลับของนางได้
เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เอื้อประโยชน์แบบนี้ เยี่ยเว่ยหมิงจะช่วยเหลือตัวเองได้อย่างไร
เขามีความมั่นใจที่จะปกป้องตัวเองอยู่แล้ว
ไม่อย่างนั้นตอนนี้เซี่ยเยียนเค่อ หรือหวงเย่าซือก็คงโผล่มากู้สถานการณ์ตั้งนานแล้ว
เมื่อเห็นว่าเชิญร่ำสุราเหมือนจงใจผ่อนความเร็วตัวเองให้ช้ากว่าบัณฑิตชุดขาว เยี่ยเว่ยหมิงก็รู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีทางใช้กระบี่เดียวสังหารพร้อมกันทั้งคู่ได้ ตอนที่แอบบ่นเสียดายในใจ กระบี่แสงทองในมือก็ทำหน้าที่แทนสองเท้าของเขาแล้ว กระบี่ปักลงพื้นข้างหลัง ถูกกดจนงอลงไป
ท่ากระเพื่อมกระบี่!
ในบรรดาสามกระบวนท่าของ ‘กระบี่เก้าสะท้านฟ้า’ ที่เยี่ยเว่ยหมิงเรียนมา เนื่องจากท่าปลุกปั่นกระบี่ใช้งานสะดวก จึงถูกใช้บ่อย แต่สำหรับเยี่ยเว่ยหมิงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพหรือความแม่นยำ ที่จริงแล้ว ‘ท่ากระเพื่อมกระบี่’ มีสเตตัสสูงสุดในบรรดาสามท่านี้ ทั้งยังสัมพันธ์กับค่าสเตตัสท่าร่างด้วย
เห็นร่างของเขาหมุนและทะยานขึ้นกลางอากาศอย่างปราดเปรียว พร้อมกวาดกระบี่แสงทองออกมาในแนวขวาง ฉวยโอกาสช่วงที่บัณฑิตชุดขาวเปลี่ยนกระบวนท่าไม่ทัน ปาดคอหอยอีกฝ่ายเบาๆ
-41073!
ด้านล่างตัวเลขคริติคอลดาเมจที่สะดุดตาสะเทือนใจ ร่างของบัณฑิตชุดขาวกลายเป็นแสงสีขาวในชั่วพริบตาเดียว กลับไปรายงานตัวที่จุดคืนชีพในหุบเขาว่านเจี๋ยแล้ว
ปลิดชีพ!