ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 456 ระหว่างชัยชนะและความพ่ายแพ้ ไท้ซัวเป็นไฉน!
ตอนที่ 456 ระหว่างชัยชนะและความพ่ายแพ้ ไท้ซัวเป็นไฉน!
ที่จริงจะว่าไปแล้ว สหายร่วมรบสองคนของเชิญร่ำสุราก็ทำได้ยอดเยี่ยมมาก
ในช่วงเวลาสำคัญ ทั้งสองใช้ ‘วิชาเคลื่อนคล้อย’ กับ ‘วิชาคางคก’ พร้อมกัน โจมตีครั้งเดียวก็ทำลายตาข่ายดาบกระบี่ของขุนเขาลำธารย่อมพานพบและเซียนสาวน้อยนักกินได้โดยตรง
ทว่าการคำนวณของเยี่ยเว่ยหมิงครอบคลุมเกินไปหน่อย
ตอนที่เมฆเคลื่อนเดียวดายกับข้ากำลังหาของโจมตีจนศัตรูที่แข็งแกร่งถอยไป เตรียมจะเข้าไปรับมือกับเยี่ยเว่ยหมิงในสนามต่อสู้หลัก แต่จู่ๆ ก็รู้สึกว่าภาพตรงหน้ามืดลง เงาร่างของชายสูงหล่อคนหนึ่งมาบดบังแสงอาทิตย์ที่สาดส่องมาที่พวกเขา
ตอนที่เงยหน้าขึ้นก็เห็นชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าสง่างาม ลักษณะท่าทางแพรวพราวลอยพลิ้วลงมา ขวางตรงหน้าทั้งสองไว้อย่างแม่นยำ ทำให้พวกเขาก้าวไปข้างหน้าไม่ได้
ผู้ที่มาไม่ใช่ใครที่ไหน หนึ่งในยอดฝีมือที่โด่งดังที่สุดของสกุลต้วนต้าหลี่ เขาถึงขั้นทำให้คนทั้งสกุลต้วนต้าหลี่ต้องลำบากแบกรับชื่อเสียงความเจ้าชู้ในหมู่นักอ่านไปด้วย องค์ชายฝั่งใต้แห่งต้าหลี่ ต้วนเจิ้งฉุน!
พอลองนับดู ต่อให้เทียบพลังต่อสู้ของต้วนเจิ้งฉุนกับสี่คนในวัดเทียนหลงก็ยังแย่กว่านิดหน่อย ต่อให้เป็นร่างแท้ แต่เลเวลก็ไม่ถึงร้อย ต่างกับยอดฝีมืออย่างต้วนเจิ้งหมิงกับต้วนเหยียนชิ่งไกลมาก
ตอนนี้เขาปรากฏตัวในหมดภารกิจ ถูกลดทอนความสามารถให้อ่อนแอลงเยอะ ถึงขั้นว่าเมื่อเทียบกับอวิ๋นจงเฮ่อโหมดปกติแล้วก็เก่งกว่าไม่เท่าไรด้วยซ้ำ
แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ เขาก็ยังเป็น BOSS ใหญ่เลเวลเก้าสิบอยู่ดี!
เมื่อเผชิญหน้ากับ BOSS แบบนี้ ขอให้พวกเขากับเชิญร่ำสุราร่วมมือกันสามคน แต่ถ้าคิดจะกำจัดเขาก็ต้องเจอศึกหนักอย่างเลี่ยงไม่ได้
ตอนนี้มีแค่สองคน โอกาสชนะก็ยิ่งน้อยลงไปอีก
ยิ่งไปกว่านั้น ภายใต้การแบ่งหน้าที่ของเยี่ยเว่ยหมิง ที่จริงต้วนเจิ้งฉุนไม่จำเป็นต้องลงมือกับพวกเขาสองคนด้วยซ้ำ
อีกฝ่ายก็แค่มาขวางทางทั้งสองไว้ ไม่ได้ลงมือทำอะไรมากมาย ส่วนลูกศิษย์สำนักภูเขาหิมะและสำนักวิหคทองที่เพิ่งถูกเมฆเคลื่อนเดียวดายกับข้ากำลังหาของบีบให้ถอย ตอนนี้เลี้ยวกลับมาทันที ทั้งคู่ใช้ดาบและกระบี่พร้อมกัน พัวพันพวกเขาสองคนไว้อีกครั้ง ชั่วขณะนั้นไม่มีทางปลีกตัวไปไหนได้!
ก็อย่างที่บอก ก่อนหน้านี้เยี่ยเว่ยหมิงวาดแผนผังความคิดมาทั้งคืน ไม่ได้วาดให้สูญเปล่า!
ตัวแปรใหญ่ๆ ของฝั่งศัตรูถูกคู่ต่อสู้ที่เขาแบ่งหน้าที่ให้ล่วงหน้าก่อกวนอยู่ ไม่มีทางไปช่วยจิวหมัวจื้อที่สนามต่อสู้หลักได้เลย
เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ถูกรบกวนจากภายนอก เยี่ยเว่ยหมิงก็ย่อมคำนวณจุดอ่อนของจิวหมัวจื้อได้สบาย
อิงตามหลักการปกติ ยอดฝีมือระดับสูงอย่างจิวหมัวจื้อ เวลาคำนวณขึ้นมาโจทย์ต้องซับซ้อนแน่นอน แม้จะให้เวลาเยี่ยเว่ยหมิงหลายชั่วโมง แต่ก็ไม่แน่ว่าจะเปิดใช้งาน ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ได้อย่างราบรื่น
แต่ตอนนี้จิวหมัวจื้อกำลังปะทะกำลังภายในกับยอดฝีมืออีกสี่คน ไม่มีทางเคลื่อนไหวได้เลย เท่ากับอยู่ในสภาวะที่อ่อนแอกว่าปกติเช่นกัน
สภาวะแบบนี้ ย่อมทำให้การคำนวณของเยี่ยเว่ยหมิงง่ายขึ้นเยอะ
อาศัยทักษะการคำนวณจิตใจที่พัฒนาขึ้นทุกวันตั้งแต่เข้าเกมมา ประกอบกับค่าสเตตัสความว่องไวที่สูงถึง 2292 แต้ม ประสิทธิภาพที่แสดงออกมาคูณสองเพราะเอฟเฟ็กต์ ‘เงาของเทพกระบี่’ ใช้เวลาไม่ถึงห้านาที เยี่ยเว่ยหมิงก็หยุดการงอนิ้วคำนวณที่มือข้างซ้ายแล้ว
ขณะเดียวกันนี้เอง ในที่สุดบนใบหน้าของเขาก็เผยรอยยิ้มเข้าใจออกมา
เปิดใช้งานแอคทีฟสกิล ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ สำเร็จ!
เมื่อเปิดใช้งาน ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ได้อย่างราบรื่น จิวหมัวจื้อที่อยู่ห่างออกไปสามจั้งก็พลันรู้สึกถึงอะไรบางอย่างชัดเจนขึ้น ความรู้สึกวิกฤติเหมือนก่อนหน้านี้ชัดเจนถึงขีดสุด
ทว่าวินาทีต่อมา เยี่ยเว่ยหมิงกลับใช้การกระทำบอกเขาแล้วว่า นี่ยังไม่ถึงขีดสุด!
ตอนที่จิวหมัวจื้อกำลังต้านรับกำลังภายในกับสี่ยอดฝีมือ สายตาก็ชำเลืองบนตัวเยี่ยเว่ยหมิงด้วยเช่นกัน แต่จู่ๆ กลับรู้สึกว่าคลื่นกำลังภายในที่แปลกประหลาดกลุ่มหนึ่งกำลังปะทุออกมาจากตัวมือปราบหนุ่มคนนี้ เป็นพลังที่ทั้งดุดันทั้งบ้าคลั่ง
ภายใต้กำลังภายในที่โหมซัดสาด ร่างกายของเยี่ยเว่ยหมิงเหมือนแบกรับไม่ไหว ใบหน้า ต้นคอ สองมือและผิวหนังส่วนอื่นที่อยู่นอกร่มผ้าอุณหภูมิสูงขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างที่ตาเปล่าสังเกตเห็นได้ ผิวกลายเป็นสีแดงแล้ว!
ถึงจะอยู่ห่างกันไกล แต่เขาเหมือนรู้สึกได้ถึงไอร้อนที่แผ่ออกมาจากตัวของอีกฝ่าย!
หลังจากเยี่ยเว่ยหมิงปะทุพลัง ความรู้สึกวิกฤตขั้นสุดที่ปกคลุมหัวใจจิวหมัวจื้อมาตลอดก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน เพิ่มจนถึงระดับน่ากลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน!
ขอไถ่ถาม ยามจากกันไยจันทร์มักเต็มดวง
น่าแค้น ความภักดีต่อชาติบ้านเมืองมิอาจมาพร้อมความกตัญญูต่อบิดามารดา
ยอมเป็นหยกแหลกลาญ ไม่ขอเป็นกระเบื้องสมบูรณ์!
หลังจากเปิดใช้งานเอฟเฟ็กต์ปะทุพลังของ ‘หยกแหลกลาญทะลวงเขาคุนหลุน’ และเคล็ดจิต ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ซ้อนกัน ทำให้พลังต่อสู้ของเยี่ยเว่ยหมิงเพิ่มถึงระดับที่น่ากลัวแล้ว
ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นค่าสเตตัสพื้นฐาน พลังชีวิต กำลังภายใน หรือดาเมจของกระบวนท่าของเขาก็เพิ่มขึ้นเยอะมาก
เมื่อเทียบกับเขาตอนปกติ ก็ถือว่าแข็งแกร่งขึ้นเกินหนึ่งเท่า
หลังจากเข้าสู่สถานะที่แข็งแกร่งที่สุด เยี่ยเว่ยหมิงก็พลันพลิกข้อมือ ลูกแก้วหลิวหลีเจ็ดสีลูกหนึ่งคีบอยู่ระหว่างนิ้วกลางและนิ้วหัวแม่มือของเขา เมื่อใช้ ‘วิชาดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ ที่โคจรพลังสิบส่วนดีดออกไป ลูกแก้วก็กลายเป็นลำแสงเจ็ดสีสายหนึ่ง ยิงตรงเข้าไปใต้หว่างขาของจิวหมัวจื้อแล้ว
สาเหตุที่เยี่ยเว่ยหมิงเลือกตรงนั้นเป็นเป้าหมายโจมตี ไม่ใช่เพราะอยากทำตัดความสามารถของจิวหมัวจื้อในการสร้างบอสน้อยมาเพิ่มสมาชิกให้เขาต้าเสวี่ยซาน
แต่เป็นเพราะตอนคำนวณ ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ เขารู้อย่างชัดเจนว่าไม่อาจเล็ง ‘วิชาดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ ให้แม่นยำบนตัวฝ่ายตรงข้ามได้เลย
ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายกำลังประลองกำลังภายในกัน รอบตัวของทั้งห้ามีรัศมีที่เกิดขึ้นจากการผสมผสานกำลังภายในของทั้งห้าคน ร่างกายของทั้งห้าถูกปกป้องอยู่ในนั้นโดยสมบูรณ์
เมื่ออยู่ในสภาวะแบบนี้ ถ้ามีคนต่ำช้าคิดจะลอบโจมตี จะต้องถูกกำลังภายในของยอดฝีมือห้าคนย้อนทำร้ายแน่นอน
แม้จะเป็นเพียงควันหลง แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เกิดผลปลิดชีพต่อทุกสิ่งที่เลเวลต่ำกว่าหนึ่งร้อยได้!
นี่ก็เป็นสาเหตุว่าทำไมหลายครั้งพวกยอดฝีมือถึงกล้าประลองกำลังภายในกันท่ามกลางฝูงชน
ซึ่งเยี่ยเว่ยหมิงก็อยากจะทำลายสถานการณ์ที่แน่นิ่งนี้ หลังจากเปิดใช้งาน ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ แล้ว ประสิทธิภาพที่แสดงออกมาจะต้องเจาะทะลวงรัศมีพวกนี้ก่อน!
ตำแหน่งโจมตีที่เขาเลือกตอนใช้ ‘วิชาดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ ก็คือจุดที่เป็นอันตรายต่อจิวหมัวจื้อที่สุดเมื่อห้ายอดฝีมือกำลังหมุนเวียนกำลังภายในกัน!
ต้องทราบไว้ว่าระหว่างที่กำลังปะทะกำลังภายในกัน กำลังภายในของทุกคนจะไหลเวียนต่อกัน นอกจากทุกจุดเชื่อมต่อจะเป็นความลับสุดยอดแล้ว ยังสลับตำแหน่งกันได้ตลอดเวลาด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะ ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ยอดเยี่ยมมาก ต่อให้เป็นยอดฝีมือระดับเดียวกับจิวหมัวจื้อ แต่ก็ไม่แน่ว่าจะคว้าโอกาสโจมตีได้แม่นยำขนาดนี้
พรึ่บ!
เมื่อถูกลูกแก้วหลิวหลีเจ็ดสีโจมตี รัศมีที่เกิดขึ้นจากการผสานกำลังภายในของห้ายอดฝีมือก็เหมือนลูกโป่งที่เป่าลมจนขยายใหญ่ถึงขีดจำกัดแล้วถูกเข็มเจาะ ความไม่มั่นคงภายในนั้นทำให้ทั้งห้าคนถูกกำลังภายในย้อนทำร้ายอย่างรุนแรง ทำให้พวกเขาต่างคนต่างถอยหลังหลายก้าว เลือดลมในร่างกายปั่นป่วนกันทุกคน
ไม่น่าเชื่อว่าจะได้รับบาดเจ็บภายในเบาๆ ในเวลาเดียวกัน!