ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 474 ยาสลบกำยาน
ตอนที่ 474 ยาสลบกำยาน
ต้องบอกเลยว่า ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ สมกับเป็นสุดยอดวิชาที่โด่งดังที่สุดในเกม ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’ โดยเฉพาะตอนที่อัปเกรดแล้ว ได้รับโบนัสค่าสเตตัสของสุดยอดวิชาฉบับไม่สมบูรณ์ ประสิทธิภาพของมันก็น่าหวาดกลัวจริงๆ
เมื่อมีเคล็ดฝ่ามือชุดนี้ ก็ถึงขั้นทำให้เยี่ยเว่ยหมิงมีพลังฝีมือน่ากลัวที่สู้กับ BOSS เลเวลเก้าสิบซึ่งๆ หน้าโดยไม่เสียเปรียบได้เลย!
ภายใต้ฝ่ามือเดียว แม้เขาจะพรากพลังชีวิต BOSS ไม่ได้แม้แต่แต้มเดียว แต่ BOSS ก็ทำให้เขาเสียพลังชีวิตไม่ได้เช่นกัน!
แม้จะทำได้ถึงขั้นนี้ แต่ก็เป็นเพราะมีวิชา ‘คำนวณ’ กับ ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ บวกกับเยี่ยเว่ยหมิงมีค่าวีรบุรุษสูงมากพอ
แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ อานุภาพของ ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ ก็เพียงพอที่จะทำให้คนสั่นสะท้านแล้ว
แน่นอนว่าการต่อสู้ที่สูสีกันแบบนี้เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นแบบผิวเผินเท่านั้น
ในฐานะผู้เล่นคนหนึ่ง การสูญเสียพลังสู้กับ BOSS ที่เลเวลสูงกว่าตนสี่สิบเอ็ดเลเวล ถือเป็นการท้าทายความตายจริงๆ!
ความแตกต่างด้านค่าสเตตัสระหว่าง BOSS กับผู้เล่น ยิ่งเลเวลสูงก็ยิ่งสะท้อนให้เห็นชัดเจนที่สุด
แต่วันนี้เยี่ยเว่ยหมิงกลับไม่คิดจะเสียพลังงานอะไรกับอีกฝ่ายทั้งนั้น หลังจากโจมตีมังกรผยองได้สำนึกหนึ่งครั้งแล้ว ยังไม่ทันรอให้อีกฝ่ายตอบโต้ เขาก็ใช้ ‘สะท้านขวัญร้อยลี้’ ที่โคจรพลังเก้าส่วนโจมตีใส่ฝ่ายตรงข้ามอีกครั้งทันที
หากจะถามว่าเหตุใด ‘สะท้านขวัญร้อยลี้’ ของเยี่ยเว่ยหมิงจึงมีพลังเพียงเก้าส่วน แทนที่จะเป็นสิบส่วน?
แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะหลักการ ‘ทุกท่าต้องเหลือพลังไว้’ อะไรทั้งนั้น แต่เป็นเพราะ…พลังที่เหลือหนึ่งส่วนของเขาใช้เพื่อปกป้องหูตัวเอง
กรรร!
สะท้านขวัญร้อยลี้มีอานุภาพมหาศาล เสียงกระหึ่มที่สุด!
เมื่อเจอกับสะท้านขวัญร้อยลี้ที่ลงมือได้รวดเร็วของเยี่ยเว่ยหมิง แม้พระทิเบตจะคูลดาวน์ไม่ทัน แต่เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่รู้ตัวว่าไม่มีทางหลบได้ ก็ทำได้เพียงใช้ฝ่ามือที่โคจรพลังแปดส่วนรับไว้
บึ้ม!
-3721
ครั้งนี้ พระทิเบตถูกเยี่ยเว่ยหมิงโจมตีจนเกิดตัวเลขดาเมจที่ไม่ได้สูงมาก ขณะเดียวกันก็ถูกอานุภาพของฝ่ามือนี้ทำให้สะเทือนถอยหลังต่อเนื่องเจ็ดเก้า
ซึ่งเสียงมังกรคำรามที่เกิดจากสะท้านขวัญร้อยลี้ เนื่องจากถูกขังอยู่ในห้องหินเล็กแคบ ระบายออกไปไม่ได้ ดาเมจเสียงจึงรุนแรงขึ้น เยี่ยเว่ยหมิงเป็นคนใช้ท่านี้โจมตี จึงเตรียมตัวไว้นานแล้ว
ก่อนเขาลงมือจึงโคจรพลังส่วนหนึ่งไว้ปกป้องหูทั้งคู่ของตัวเอง การโจมตีด้วยคลื่นเสียงที่กะทันหันแบบนี้จึงไม่เป็นอุปสรรค แต่คู่ต่อสู้ของเขาโชคร้ายแล้ว
สถานการณ์ที่เขาเผชิญตอนนี้ เหมือนกับที่อินปู้คุยใช้ ‘วิชาราชสีห์คำราม’ กับเหลียงจื่อเวิง เสียงมังกรคำรามทำให้สะเทือนจนวิงเวียนศีรษะ เสียสมาธิอยู่พักหนึ่ง
ซึ่งตอนนี้เอง เยี่ยเว่ยหมิงกลับเข้าใกล้อย่างกัดไม่ปล่อย ใช้มังกรโรมรันกลางไพร มังกรผยองได้สำนึก มังกรซ่อนกบดาน…
ภายใต้การโจมตีต่อเนื่องหลายกระบวนท่าของ ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ ก็ยิ่งบีบให้พระทิเบตรูปนั้นถอยอย่างต่อเนื่อง ตอนสุดท้ายยังโดนเยี่ยเว่ยหมิงโจมตีอีกหนึ่งฝ่ามือ ได้รับบาดเจ็บภายในพอสมควร ถึงได้บีบให้เยี่ยเว่ยหมิงถอยได้
เพียงพบหน้ากันครั้งแรก เยี่ยเว่ยหมิงก็อาศัยลักษณะพิเศษของ ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ ทำให้เขาเป็นฝ่ายได้เปรียบโดยสมบูรณ์ แต่กลับทำดาเมจต่อพระทิเบตที่อยู่ตรงหน้าได้ไม่เยอะมาก
ตราบใดที่อีกฝ่ายยังทรงตัวได้ ผลแพ้ชนะก็ยังตัดสินไม่ได้
ราวกับรู้ว่าสถานการณ์จะเป็นแบบนี้อยู่แล้ว หลังจากพระทิเบตนั่นเช็ดเลือดออกจากมุมปาก ก็ยิ้มยิงฟันพร้อมเผยสายตาดุดันกว่าเดิม
รอยยิ้มนี้เมื่ออยู่กับฟันที่เปื้อนเลือดและแสงไฟสลัวในห้องหินก็ดูพิลึกมาก ทำให้ผู้ที่เห็นเกิดจิตหวาดผวาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้!
แม้แต่เยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่อยากเข้าใกล้คู่ต่อสู้ที่หน้าตาน่ากลัวแบบนี้ต่อไปแล้ว ดังนั้นหลังจากเขาโจมตีฝ่ามือพิชิตมังกรไปหนึ่งชุดแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็พลันพลิกมือซ้าย ระหว่างนิ้วชี้และนิ้วกลางคีบวัตถุสีขาวรูปร่างยาวเอาไว้ จากนั้นก็ดีดออกไปหนึ่งที ลักษณะมือเหมือนวิชา ‘ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ ส่วนวัตถุสีขาวนั่นคืออาวุธลับ ดีดยิงไปทางพระทิเบต
แกร๊ง!
ตามด้วยเสียงฝ่าอากาศที่ระคายหู วัตถุสีขาวนั่นกลายเป็นลำแสงสีขาวบริสุทธิ์ ตรงไปยังกลางอกของพระทิเบตทันที!
พระทิเบตเห็นแล้วกลับแสยะยิ้มอย่างดูถูกราวกับไม่เห็นการโจมตีนี้ของเยี่ยเว่ยหมิงอยู่ในสายตา ขนาดเป็น ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ เขายังกล้ารับเลย ‘ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ ก็ย่อมไม่ต้องพูดถึง!
เขาโบกฝ่ามือขวาหนึ่งที ฝ่ามือที่แฝงกำลังภายในเข้มข้นตบออกมา ทำให้วัตถุสีขาวนั่นแตกละเอียดกลางอากาศ จากนั้นก็กระจายตกลงพื้น ในอากาศเหลือเพียงผงสีขาวกลุ่มหนึ่งเท่านั้น มันก่อตัวกลายเป็นหมอกสีขาวอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็กระจายอยู่กลางอากาศในห้องหิน
วินาทีต่อมา พระทิเบตขยับจมูกเหมือนได้กลิ่นหอมบางอย่าง ในใจร้องว่าแย่แล้วทันที แล้วรีบโคจรแบ่งพลังส่วนหนึ่งมาต้านพิษ พร้อมทั้งกลั้นลมหายใจ
แต่ตอนนี้กลับเห็นเยี่ยเว่ยหมิงพลิกฝ่ามือซ้ายขวาพร้อมกัน วัตถุสีขาวเหมือนก่อนหน้านี้ถูกหนีบไว้ระหว่างนิ้วของเขาอีกครั้ง
จนกระทั่งตอนนี้ พระทิเบตถึงได้เห็นชัดเจนว่าวัตถุที่อยู่ในมือคืออะไรกันแน่
นั่นคือขวดยาใบเล็กที่ขาวหมดจดสองใบ ขนาดเล็กประมาณไฟแช็ค หลังจากเยี่ยเว่ยหมิงคีบไว้ระหว่างนิ้วแล้ว ก็ยิงออกมาต่อเนื่องอย่างไม่ฟังคำอธิบายใดๆ
ครั้งนี้พระทิเบตฉลาดแล้ว ไม่ฝืนรับขวดที่ยิงเข้ามาอีก เลือกที่จะคาดคะเนและหลบหลีกแทน
ทว่ากลับไม่มีประโยชน์อะไรเลย!
หลังจากพระทิเบตหลบได้สองขวด มันก็กระแทกที่ผนังหินด้านหลังเขาอย่างที่คาดไว้ จากนั้นก็มีเสียงเพล้งๆ จุดจบของขวดที่กระแทกกับหินก็คือแตกละเอียดอยู่ดี
จากนั้นผงยาที่อยู่ข้างในก็กระจายออกมาในห้องหินที่ปิดสนิท ทำให้พิษในอากาศเข้มข้นขึ้นหลายส่วน
ที่จริงเยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่ได้ใช้พิษร้ายกาจอะไร ถึงขั้นเป็นของชั้นต่ำในยุทธภพด้วยซ้ำ มันชื่อว่า ‘ยาสลบกำยาน’
ยาสลบที่ถ่ายทอดอยู่ในยุทธภพแบ่งเป็นยาใช้ภายนอกและยาภายใน ยาสลบในรูปแบบกำยานจัดเป็นยาภายนอก
ฤทธิ์ของยาสลบประเภทนี้ไม่แรงมาก แทบจะไม่ได้ผลกับยอดฝีมือในยุทธภพเลย ดังนั้นหลักๆแล้วจะนิยมใช้กับกลุ่มสตรีที่ร่างกายค่อนข้างอ่อนแอ หนึ่งในของที่โจรราคะต้องมีติดตัวไว้
ตอนที่ใช้ ส่วนใหญ่ใช้นิ้วจุ่มน้ำลายเล็กน้อย เจาะกระดาษหน้าต่างในห้องนอนของเป้าหมายให้เป็นรูเล็กๆ จากนั้นใส่ ‘ยาสลบกำยาน’ ไว้ในบ้องไม้ไผ่เล็กนิดหน่อย แล้วเป่าเข้าไปในห้องช้าๆ
เพียงประเดี๋ยวเดียว สตรีที่อยู่ในห้องก็จะไร้เรี่ยวแรง บางคนถึงขั้นสลบไปเลยก็มี
ตอนนี้โจรราคะที่ใช้ยาสลบก็จะเปิดประตูห้องอย่างระมัดระวัง แอบเข้าไปเงียบๆ (เรื่องราวต่อจากนั้นพวกคุณไม่ชอบอ่าน ผมจะไม่เปลืองตัวอักษรแล้วกัน เรากลับเข้าประเด็นหลักกันดีกว่า)
‘ยาสลบกำยาน’ นี้ ระหว่างที่เยี่ยเว่ยหมิงเดินทางมาที่นี่ ได้แวะซื้อวัตถุดิบยามาจากหมู่บ้านซีซาน แล้วก็ใส่สมุนไพรอีกไม่กี่ต้นที่เก็บได้ข้างทาง หลอมยาได้มากถึงสิบเอ็ดขวด สามขวดก่อนหน้านี้เขาใช้สองมือดีดออกมาอย่างต่อเนื่อง แล้วโจมตีจำนวนที่เหลือออกไปจนหมดในคราวเดียวถึงได้หยุด
ชั่วขณะนั้น ในห้องหินที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก พิษของยาสลบจึงเข้มข้นถึงขั้นที่ทำให้คนต้องยกนิ้ว!
เมื่อปริมาณเปลี่ยน หลังจากสะสมถึงระดับหนึ่งแล้ว คุณภาพก็เปลี่ยนไปเช่นกัน
ตั้งแต่เริ่มต่อสู้มา พระทิเบตถูกเยี่ยเว่ยหมิงโจมตีจนวิงเวียนตาลาย จากนั้นก็ได้รับบาดเจ็บภายในอีกนิดหน่อย ตอนนี้กำลังต้านทานฤทธิ์ของยาสลบที่เข้มข้นถึงขีดสุด เดิมทีก็เปลืองแรงมากอยู่แล้ว
ในเมื่อเยี่ยเว่ยหมิงสร้างสภาพแวดล้อมการต่อสู้ที่เอื้อประโยชน์ต่อเขาที่สุดขึ้นมาแล้ว ก็ย่อมพยายามใช้ประโยชน์จากมันให้ถึงที่สุด
มีหรือที่จะให้โอกาสพระทิเบตพักหายใจ
หลังจากยาสลบสิบเอ็ดขวดแตกหมด เขาก็กวักมือเรียกกระบี่แสงทองมาไว้ในมือแล้วจึงพุ่งตัวตามกระบี่ออกไป พลิกมือใช้กระบี่แทงคออีกฝ่าย
ท่าปลุกปั่นกระบี่!