ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 475 กระบี่จงชง
ตอนที่ 475 กระบี่จงชง
เมื่อเจอการโจมตีของเยี่ยเว่ยหมิง พระทิเบตแอบร้องในใจว่าลำบากแล้ว!
เขาโคจรพลังภายในต้านฤทธิ์ยา แต่ก็ไม่มีทางรับมือกับการโจมตีสุดโหดของเยี่ยเว่ยหมิงอย่างสุดกำลังได้ ซึ่งถ้าจะรับมือกับการโจมตีของเยี่ยเว่ยหมิง ก็ถูกฤทธิ์ของ ‘ยาสลบ’ ที่กระจายอยู่ทั่วห้องหินฉวยโอกาสเล่นงานตอนอ่อนแออีก
ถ้าอยากจะรับมือสองเรื่องในเวลาเดียวกัน ผลก็คือต้องพลาดไปสิ่งหนึ่ง
ภายใต้การโจมตีอันดุดันของเยี่ยเว่ยหมิง อาการบาดเจ็บของเขายิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ความสามารถในการต้านพิษก็อ่อนแอลงเรื่อยๆ เช่นกัน
เมื่อพิษเริ่มโจมตีร่างกาย ความสามารถในการตอบสนองและค่าสเตตัสของเขาก็อ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว การต้านโจมตีของเยี่ยเว่ยหมิงกลายเป็นเรื่องที่เปลืองกำลังมากขึ้นเรื่อยๆ
นี่ก็คือวงจรอุบาทว์ที่ไม่มีทางแก้ไขได้
หลังจากนั้นห้านาที…
กรร! เสียงมังกรคำรามของสะท้านขวัญร้อยลี้ดังขึ้นอีกครั้ง ร่างของพระทิเบตกระแทกกับแผ่นหินที่ปิดประตูใหญ่ของห้องหินจนพลิกออกไปล้มลงบนที่ว่างด้านนอก
หลังจากกลิ้งสองสามตลบเพราะแรงที่เหลือ ร่างของเขาก็หยุดนิ่งอยู่ในท่าประหลาด ตอนนี้หมดลมหายใจสนิทแล้ว
[ติ๊ง! คุณโจมตีสังหารพระทิเบต BOSS โหมดปกติเลเวล 90 สำเร็จ ได้รับรางวัลภารกิจ: ค่าประสบการณ์ 6000000 แต้ม ค่าตบะ 150000 แต้ม!]
ตอนนี้ร่างของเยี่ยเว่ยหมิงก็ลอยออกมาจากห้องหินอย่างสง่างามแล้ว เขามายืนอยู่ตรงหน้าศพพระทิเบต แล้วยกเท้าเหยียบก้นหนึ่งที
ทำให้พระทิเบตที่นอนตายด้วยท่าโก่งก้นเปลี่ยนเป็นท่านอนกางแขนกางขาอย่างผ่อนคลาย
ขณะเดียวกันนี่เอง เยี่ยเว่ยหมิงก็เสร็จงานคลำศพที่ให้ความรู้สึกว่ามีความเป็นพิธีรีตองมากที่สุดแล้ว
[พหูสูตรไร้เทียมทาน (อาวุธล้ำค่า)]
เครื่องประดับลึกลับที่มาจากแดนซีอวี้และชมพูทวีป
ความว่องไว +500
ป้องกัน +200!
……
[ตำรากระบี่จงชง (สุดยอดวิชา) (ไม่สมบูรณ์)]
หนึ่งชีพจรใน ‘ดรรชนีกระบี่หกชีพจร’ ซึ่งเป็นวิทยายุทธ์ที่คุ้มครองต้าหลี่ เป็นท่ากระบี่ที่มีลักษณะองอาจเกรียงไกร
……
ไอเทมดรอปของพระทิเบตเลเวลเก้าสิบแม้จะมีเพียงสองอย่าง แต่คุณภาพก็กล่าวได้ว่าสมบูรณ์แบบจริงๆ
เครื่องประดับระดับอาวุธล้ำค่า แม้จะไม่ได้ช่วยเพิ่มพลังโจมตีโดยตรง แต่ค่าสเตตัสที่้เพิ่มขึ้นกลับเป็น ‘ความว่องไว’ ซึ่งเยี่ยเว่ยหมิงชอบที่สุด ทั้งยังเพิ่มป้องกันสองร้อยแต้มด้วย
ยังไม่ต้องพูดถึงว่าการป้องกันเป็นอย่างไร ค่าสเตตัสความว่องไวห้าร้อยแต้มนั่น พอมาอยู่บนตัวเยี่ยเว่ยหมิงแล้ว เขาก็แสดงผลได้อย่างน่ากลัวถึงหนึ่งพันแต้ม
แต่นั่นคือค่าสเตตัสพื้นฐานหนึ่งพันแต้มเชียวนะ!
ไม่มีอะไรต้องพูดแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงประดับพหูสูตรไร้เทียมทานไว้บนตัวแทนหยกพกกระบี่อวิ๋นไถ
ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงเข้าใกล้กับคำว่างดงามอลังการเพราะมีอาวุธล้ำค่าเต็มตัวแล้ว
แน่นอน เมื่อเทียบกับอุปกรณ์ระดับอาวุธล้ำค่าชิ้นนี้แล้ว ตำรา ‘กระบี่จงชง’ ที่เป็นหนึ่งใน ‘ดรรชนีกระบี่หกชีพจร’ ล้ำค่ามากกว่า
บางทีพระทิเบตรูปนี้อาจจะมีฐานะค่อนข้างพิเศษ แตกต่างกับ BOSS คนอื่นที่มีชื่อแซ่ของตัวเองโดยสิ้นเชิง ดังนั้นเยี่ยเว่ยหมิงแม้จะฆ่าร่างแท้ของ BOSS แล้ว แต่กลับกระตุ้นเงื่อนไขของประกาศระบบไม่ได้
จนกระทั่งเขาทำทุกอย่างเสร็จ เก็บตำรา ‘กระบี่จงชง’ เข้ากระเป๋าตัวเองแล้ว เสียงของประกาศระบบถึงได้ตามมาทีหลัง
[ประกาศระบบ: พระทิเบตที่พกตำรากระบี่ถูกสังหารหนึ่งคน ตำรากระบี่เล่มที่สองถือกำเนิดแล้ว!]
[ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นสำนักมือปราบเทพ เยี่ยเว่ยหมิง ได้รับตำรา ‘กระบี่จงชง’ ส่วนหนึ่งของ ‘ดรรชนีกระบี่หกชีพจรฉบับไม่สมบูรณ์’!]
เมื่อได้ตำรากระบี่มาไว้ในมือ เยี่ยเว่ยหมิงกลับอดขมวดคิ้วไม่ได้ ข้อมูลแนะนำของตำรากระบี่สั้นไปหน่อยหรือเปล่า!
มีแค่ชื่อ คุณภาพและคำแนะนำอย่างง่ายเท่านั้น
เงื่อนไขการฝึกล่ะ?
ของสิ่งนี้ไม่มีเงื่อนไขการฝึก ทั้งยังบอกว่ามีเพียงหนึ่งชีพจร ตำรากระบี่นี้ถือว่าเป็นเพียงฉบับไม่สมบูรณ์เท่านั้น หรือถ้าพูดให้ตรงกว่านี้หน่อย มันก็คือไอเทมภารกิจ ไม่มีทางฝึกฝนได้?
ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงกำลังเพ่งมองตำรากระบี่ที่เหมือนภาพวาดในมือ เตรียมจะเปิดดูว่าเป็นอย่างไรกันแน่ เขาพลันรู้สึกได้ถึงเจตนาสังหารเข้มข้นที่พรั่งพรูเข้ามา
พอหันไปมองก็เห็นจงว่านโฉวกำลังเดินมาหาเยี่ยเว่ยหมิงอย่างโมโห ขณะที่เดินปากก็พูดไม่หยุดว่า “ไอ้หนุ่มหน้าขาวคนนี้ ก่อนหน้านี้ทำลายแผนการของข้าไปแล้วยังไม่รู้จักหยุด วันนี้ยังมาก่อเรื่องถึงบ้านข้าอีก คิดว่าจงว่านโฉวอ่อนแอรังแกง่ายอย่างนั้นหรือ”
อาศัยแค่ท่าทีชั่วร้ายของเจ้าหมอนี่ ยังดีที่ตอนด่ายังไม่ลืมแถมคำชมเรื่องหน้าตาให้ผู้ยอดเยี่ยมในแนวทางกระบี่ ไม่อย่างนั้นเยี่ยเว่ยหมิงต้องทำให้เขาตายคาที่แน่นอน
เจ้าคิดว่าตัวเองกำลังเทียบกับใครอยู่!
แน่นอน ที่สำคัญกว่านั้นก็คือเพิ่งได้สุดยอดวิชามาไว้ในมือ เยี่ยเว่ยหมิงเตรียมจะหาสถานที่เสริมศักยภาพของตัวเองให้มั่นคงก่อนสักหน่อยแล้วค่อยพิจารณาเรื่องอื่นอีกที
ตามความเข้าใจที่เขามีต่อระบบ เกรงว่าของสิ่งนี้ไม่ว่าจะอยู่ในมือผู้เล่นหรือ NPC คนไหน ก็จัดเป็นประเภทที่ตายแล้วต้องดรอปแน่นอน ต้องหาสถานที่เพื่อเรียนรู้มัน หรือไม่ก็นำไปเก็บไว้ในโกดังของสำนักมือปราบเทพจึงจะทำให้เขาวางใจได้
แต่ก่อนหน้านั้นเขาจะต้องนำของที่ตัวเองได้เพิ่มเติมเข้ากระเป๋าก่อน
เยี่ยเว่ยหมิงจึงนำม้วนเสื่อออกมาแผ่นหนึ่ง แล้วห่อศพพระทิเบตเก็บเข้ากระเป๋า
ได้รับ ‘ตระหนักรู้เคล็ดฝ่ามือ’ ×1!
กระเป๋า ‘ตระหนักรู้วิชากำลังภายใน’ ×1!
เป็นของดีทั้งนั้น!
น่าเสียดายที่โลงศพบนตัวเขาถูกใช้ไปหมดแล้วตอนเก็บศพต้วนเจิ้งฉุนกับเสวียนเปย แม้แต่โลงศพคุณภาพระดับกลางก็ไม่มี
ดังนั้นเขาทำได้เพียงใช้เสื่อมาเก็บศพ BOSS ร่างแท้โหมดปกติ
มารดาเจ้าเถอะ ทำไมฟังดูแล้วเหมือนเป็นความสิ้นเปลืองที่น่าละอายล่ะ
มองจงว่านโฉวที่กำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจนแทบจะจับคนกินปราดหนึ่ง เยี่ยเว่ยหมิงก็รู้สึกว่าก่อนที่ตัวเองจะหาโลงศพดีๆ มาใหม่ได้ ก็อย่าเพิ่งลงมือกับเขาดีกว่า
แต่ไม่น่าเชื่อว่าตาแก่นี่จะโมโหถึงขนาดนี้ อย่าบอกนะว่าตอนที่ตนฆ่าพระทิเบต เสียงต่อสู้ดังเกินไป ทำให้น้องชายของเขาตกใจแล้ว
เยี่ยเว่ยหมิงส่ายหน้า ควบคุมตัวเองไม่ให้คิดถึงฉากที่เด็กดูไม่ได้ ตอนที่เตรียมจะใช้ท่าร่างหนีออกไป กลับถูกจงว่านโฉวก้าวเข้ามาขวางทาง
……
เรื่องก็เป็นอย่างที่เยี่ยเว่ยหมิงคิดไว้ ก่อนหน้านี้จงว่านโฉวกับกานเป่าเปากำลังเล่นเกมปะทะฝีปากระหว่างผัวเมียซึ่งเป็นฉากที่บรรยายออกมาไม่ได้
แม้จะเป็นฝ่ายคุกเข่าเลียตั้งแต่ต้นจนจบ แต่จงว่านโฉวก็ยอมลำบากด้วยความเต็มใจ
คนที่ลิ้นดีฝีปากคมคายอย่างเขา ถ้าเปลี่ยนวิธีเอาใจให้เมียมีความสุขได้ เขาก็ยินดีทำอยู่แล้ว
แต่ใครจะคิดว่าเมื่อถึงช่วงเวลาสำคัญนั้น จู่ๆ ข้างนอกกลับมีเสียงมังกรคำรามดังมาก ทั้งยังตามด้วยเสียงตูมตามสั่นสะเทือนที่ดังกว่าเสียงประทัด
ตอนนี้จงว่านโฉวตะลึงค้างเพราะความเคลื่อนไหวที่ดังขึ้นกะทันหันแล้ว
เขาตกใจจนอ่อนปวกเปียกไปทั้งตัว จึงออกมาจากห้องเก็บยาแล้วหน้าคะมำเหมือนสุนัขกินอุจจาระ!
จงว่านโฉวก็เลยโมโห อยากจะสับร่างเจ้าคนภาคกลางที่มาขัดจังหวะเรื่องดีๆ ของเขาสักแปดชิ้น!
นี่เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่ จะรังแกกันให้ถึงที่สุดเลยใช่ไหม
ปล่อยให้คนได้พลอดรักกับภรรยาดีๆ ไม่ได้หรือ
เมื่อเห็นเยี่ยเว่ยหมิงก่อเรื่องเสร็จแล้วจะไปทันที มีหรือที่จงว่านโฉวจะยอมได้
พอตวาดเสร็จ ชายหน้าม้าก็ชูดาบหัวผีในมือขึ้นมา แล้วฟันลงมากลางศีรษะของเยี่ยเว่ยหมิง
เยี่ยเว่ยหมิงเห็นแล้วขมวดคิ้ว ใช้ปลายเท้าแตะพื้นเบาๆ ร่างก็กระโดดขึ้นไปอยู่บนห้องหินข้างหลังแล้ว
เดิมทีเยี่ยเว่ยหมิงเตรียมจะจดบัญชีแค้นนี้ไว้ก่อน รอให้หาโลงศพได้ก่อนค่อยมาชำระแค้นกับเขา แต่ตอนนี้กลับได้ยินเสียงหัวเราะที่คุ้นเคยดังมาจากอีกทิศทางหนึ่ง
เมื่อเสียงหัวเราะเบาๆ นั่นดังขึ้น แสงดาบที่ร้อนจี๋สายหนึ่งก็แฉลบขึ้นมาจากแนวเฉียง ฟันบนคมดาบหัวผีในมือจงว่านโฉวอย่างแม่นยำ
แกร๊ง!
เกิดเสียงดังชัดเจน จงว่านโฉวถูกฟันจนถอยหลังทั้งคนทั้งดาบ ใช้เท้าทรงตัวไม่ได้ ล้มก้นกระแทกพื้นทันที!