ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 502 ลูกทรพี สือจงอวี้
ตอนที่ 502 ลูกทรพี สือจงอวี้
เมื่อเห็นว่าเยี่ยเว่ยหมิงไม่ต้องให้ตนคลายจุดก็กลับมาเคลื่อนไหวได้เหมือนเดิม สือชิงก็อดถามอย่างตกใจไม่ได้
“จอมยุทธ์น้อยเยี่ย นี่ท่าน…”
เยี่ยเว่ยหมิงยิ้มบางๆ “ก่อนหน้านี้ฉวยโอกาสตอนท่านเหม่อมองนอกหน้าต่าง ทะลวงคลายจุดตัวเองเงียบๆ จากนั้นก็โคจรวิชารักษาบาดแผล ตอนนี้นอกจากจะคลายจุดหมดแล้ว แม้กระทั่งการบาดเจ็บภายในที่ได้รับตอนสู้กับเซี่ยเยียนเค่อก่อนหน้านี้ก็รักษาหายสนิทแล้วเช่นกัน”
เมื่อเห็นสือชิงทำท่าเหมือนเผชิญกับศัตรูที่ร้ายกาจ เยี่ยเว่ยหมิงก็อดพูดอีกไม่ได้ว่า “เจ้าบ้านสือไม่ต้องกลัว ข้าเป็นคนรักษาคำพูด ในเมื่อรับปากแล้วว่าจะไปตามหาภรรยาท่านด้วยกัน ข้าก็ไม่กลืนคำพูดตัวเองแน่นอน พวกเราไปกันเถอะ”
ตอนอยู่บนหน้าผาหมัวเทียนก่อนหน้านี้ สือชิงก็ได้เห็นวิธีการที่เยี่ยเว่ยหมิงสู้กับเซี่ยเยียนเค่อด้วยตาตัวเองแล้ว สือชิงไม่มั่นใจว่าจะชนะหากเผชิญหน้ากับเยี่ยเว่ยหมิงในสภาพที่ค่าสเตตัสสมบูรณ์ จึงไม่พัวพันกับเรื่องนี้อีก ผลักประตูออกนอกห้องไปพร้อมกับเยี่ยเว่ยหมิงแล้ว
พอออกจากโรงเตี๊ยม สือชิงก็ไม่กล้าเดินไปไกล แต่พาเยี่ยเว่ยหมิงไปนั่งที่ร้านแผงลอยร้านหนึ่งริมถนนแทน “บะหมี่หยางชุนสองชาม”
พอพูดจบ สายตาก็มองไปทางโรงเตี๊ยมอีกครั้ง เนื่องจากอยู่ค่อนข้างใกล้ นั่งตรงนี้ทำให้มองเห็นเหตุการณ์ตรงประตูใหญ่ของโรงเตี๊ยมชัดเจน ถ้าหมิ่นโหรวกลับมาก็จะได้เห็นทันที
แต่รอไปแล้วทั้งบ่าย หมิ่นโหรวก็ยังไม่กลับมาเสียที จะบังเอิญโผล่มาตอนนี้ได้อย่างไร
หลังจากนั้นพักหนึ่ง บะหมี่หยางชุนสองชามก็ถูกยกออกมา สือชิงกลับดึงมือพนักงานไว้ ยัดเงินตำลึงแตกให้อีกฝ่ายก้อนหนึ่ง “พี่เสี่ยวเอ้อร์ ข้าสืบข่าวอะไรจากท่านสักหน่อย เคยได้ข่าวเกี่ยวกับประมุขพรรคสือของพรรคสุขนิรันดร์หรือเปล่า”
“บังเอิญแล้ว!” พนักงานเก็บตำลึงอย่างรวดเร็ว แล้วบอกว่า “ตอนบ่ายมีจอมยุทธ์หญิงท่านหนึ่งมาถามคำถามนี้กับข้า ดูจากการแต่งตัวของท่านแล้ว น่าจะรู้จักนางนะ”
สือชิงได้ยินแล้วตกใจ รีบซักไซ้ว่า “ท่านรู้หรือไม่ว่าจอมยุทธ์หญิงคนนั้นไปที่ไหน”
“พอนางถามข้าเสร็จ นางก็ไปทันทีโดยไม่กินอะไร แต่ก็ให้รางวัลผู้น้อยนิดหน่อย” ขณะที่พูด จู่ๆ พนักงานก็กดเสียงต่ำ “ถ้าตอนนี้นางยังไม่กลับมา ข้าเดาว่านางถูกคนของพรรคสุขนิรันดร์จับตัวไปแล้ว”
สือชิงอึ้งทันที รีบซักไซ้ต่อ “คนของพรรคสุขนิรันดร์จะจับนางไปทำไม อย่าบอกนะว่าเพราะนางไปสืบข่าวของประมุขพรรคสือ”
“ไม่ใช่!” พนักงานโบกมือทันที จากนั้นก็เผยสีหน้าที่ผู้ชายรู้กัน พร้อมพูดต่อว่า “เพราะจอมยุทธ์หญิงชุดขาวท่านนั้นสวยมากอย่างไรล่ะ”
เมื่อเห็นสือชิงยังสีหน้าเรียบเฉย พนักงานก็พูดต่อว่า “ท่านไม่รู้สินะ ประมุขพรรคสือเป็นคุณชายจอมเสเพล เจอสาวงามคนไหนก็ไม่ปล่อยไปทั้งนั้น…
…จอมยุทธ์หญิงชุดขาวท่านนั้นแม้จะอายุมากไปหน่อย แต่ก็ยังมีเสน่ห์อยู่ ประมุขสือแห่งพรรคสุขนิรันดร์ดันกินไม่เลือก ขอเพียงเป็นสตรีที่งดงาม มีหรือที่จะสนใจว่าอายุน้อยหรือมาก ชิงตัวกลับไปที่พรรคสุขนิรันดร์ก่อนแล้วค่อยว่ากัน…
…ในเมืองเจิ้นเจียงตอนนี้ ลูกสาวจากตระกูลดีๆ ไม่กล้าออกมาเดินบนถนนแล้ว!”
เมื่อได้ยินดังนั้น เยี่ยเว่ยหมิงก็กล่าวลงดาบซ้ำอยู่ข้างๆ อีก “ประมุขพรรคสือนั่นไม่ใช่ว่าสนใจแค่สาวงามหรอกหรือ ทำไมฟังจากที่ท่านพูดแล้ว เหมือนบอกว่าแม้แต่ผู้หญิงอัปลักษณ์ก็ไม่กล้าเดินถนน”
“เรื่องนี้ข้าก็ไม่รู้แล้ว” พนักงานหัวเราะแห้ง “บนโลกนี้จะมีผู้หญิงคนไหนที่คิดว่าตัวเองอัปลักษณ์ล่ะ”
เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วพยักหน้า จากนั้นพูดกับสือชิงว่า “ที่พี่เสี่ยวเอ้อร์พูดก็มีเหตุผล ข้าเถียงไม่ออกแล้ว”
พอสือชิงได้ยินดังนั้น กลับเค้นคำพูดออกมาจากซอกฟัน “ไอ้ลูกทรพี!”
“เจ้าบ้านสือวางใจได้เลย ข้าว่าที่ฮูหยินของท่านหายตัวไป ต้องไม่เกี่ยวข้องกับสือจงอวี้แน่” เยี่ยเว่ยหมิงทำท่าเหมือนภูมิใจมาก กล่าวอย่างมั่นใจมากกว่า “ท่านลืมไปแล้วหรือ ว่าเขาถูกฆ่าข้าเล่นงานจนตายไปแล้ว!”
สือชิง “?”
ที่แท้เจ้าก็ฆ่าลูกชายข้า ข้ายังต้องขอบคุณเจ้าด้วยไหม
มารดาเจ้าเถอะ ข้าขอขอบคุณบรรพบุรุษแปดรุ่นของเจ้า!
กินบะหมี่ต่อไม่ไหวแล้วโว้ย!
สือชิงทุบชามบะหมี่บนโต๊ะอย่างเดือดดาล แล้วลุกขึ้นบอกว่า “ข้าจะไปสืบที่พรรคสุขนิรันดร์ จอมยุทธ์น้อยเยี่ย ลาก่อน”
สือชิงถือว่าเข้าใจแล้ว
เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว อาศัยกำลังของเขาคนเดียวก็ทำอะไรเยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้เลย มิหนำซ้ำภรรยาจะเป็นตายอย่างไรก็ไม่รู้ ถ้าจะให้เสียเวลากับเยี่ยเว่ยหมิง ไม่สู้บุกไปพรรคสุขนิรันดร์เองดีกว่า อย่างน้อยหาภรรยาให้เจอก่อนแล้วค่อยว่ากัน
เยี่ยเว่ยหมิงเห็นเขากำลังจะไปจึงรีบยืนขึ้นบอกว่า “ที่ฮูหยินของท่านหายตัวไป ที่จริงก็เกี่ยวกับข้าเหมือนกัน ถ้าไม่ทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง เกรงว่าข้าคงกลายเป็นขี้ปากของคนในยุทธภพ…
…เพื่อพิสูจน์ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้า ให้ข้าไปกับเจ้าบ้านสือเถอะ!”
สาเหตุที่จู่ๆ เยี่ยเว่ยหมิงก็เปลี่ยนมากระตือรือร้นขนาดนี้ ไม่ใช่เพราะจิตใจของวีรบุรุษที่รักความยุติธรรม แต่เป็นเพราะ…
[ติ๊ง! พบภารกิจลับ ‘ปฏิบัติการช่วยเหลือ’]
[ปฏิบัติการช่วยเหลือ]
ออกไปสืบข่าวการหายตัวไปของหมิ่นโหรว ฉายาจอมยุทธ์จอมกระบี่ดำขาว คุณเป็นขุนนางปราชญ์จอมยุทธ์ ควรช่วยสือชิงตามหาภรรยา
ระดับภารกิจ: 6 ดาว
รางวัลภารกิจ: ไม่ทราบ
บทลงโทษภารกิจล้มเหลว: ไม่มี
……
ในเมื่อมีภารกิจอยู่ตรงหน้าแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลที่จะปล่อยผ่านไปเฉยๆ
ยิ่งไปกว่านั้น เริ่มตั้งแต่อาจ่งไปจนถึงเซี่ยเยียนเค่อ แล้วก็จอมกระบี่ดำขาว สือจงอวี้ พรรคสุขนิรันดร์ ความซับซ้อนในความสัมพันธ์เหล่านี้หักมุมจนแปลกประหลาด
ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็เป็นภารกิจเนื้อเรื่องขนาดใหญ่เหมือน ‘วีรบุรุษยิงอินทรี’ ‘ยิ้มเย้ยยุทธจักร’ ‘แปดเทพอสูรมังกรฟ้า’
ภารกิจแบบนี้มักจะมีผลประโยชน์ให้คนตักตวงเยอะมาก
อีกทั้งการช่วยตามหาหมิ่นโหรวก็เป็นจุดตัดเข้าเนื้อเรื่องที่ดูไม่เลวเลย ถึงขั้นดูน่าเชื่อถือกว่าภารกิจที่น้องดาบแชร์มาให้ด้วย
ถ้าพลาดแล้วก็น่าเสียดายจริงๆ!
อีกทั้งจอมกระบี่ดำขาวแม้จะรู้ทั้งรู้ว่าเยี่ยเว่ยหมิงฆ่าลูกชายตัวเองตาย แต่ก็ยังใช้เหตุผลคุยกับเขา
อาศัยแค่จุดนี้ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้แล้ว อย่างน้อยถ้าเปลี่ยนเป็นเยี่ยเว่ยหมิง เขามั่นใจมากว่าถ้าตัวเองเจอทางเลือกแบบเดียวกัน จะต้องเลือกเข้าข้างญาติตัวเองโดยไม่สนใจเหตุผลแน่นอน
นับถือคุณสมบัติของอีกฝ่าย ก็คือหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่เยี่ยเว่ยหมิงยินดีช่วย
เมื่อเห็นเยี่ยเว่ยหมิงเสนอตัวช่วยเหลือโดยไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องในอดีต สือชิงก็พยักหน้าอย่างซาบซึ้ง แล้วลุกขึ้นเดินออกจากร้านบะหมี่
บะหมี่หยางชุนร้อนๆ สองชามนี้ ตั้งแต่ต้นจนจบไม่มีใครแตะต้องเลย ตอนที่ยกมาวางมีสภาพเป็นอย่างไร ตอนนี้ก็ยังมีสภาพเป็นอย่างนั้น
เมื่อออกจากร้านบะหมี่แล้ว ทั้งสองก็ตรงไปทางพรรคสุขนิรันดร์ ทว่าออกไปได้ไกลไม่เท่าไร สือชิงก็พบสัญลักษณ์ที่หมิ่นโหรวทิ้งไว้ตรงมุมถนน หลังจากแน่ใจแล้วว่าภรรยาไม่ได้ไปพรรคสุขนิรันดร์ ก็ตามไปทางที่ทำสัญลักษณ์ไว้
การตามไปครั้งนี้ใช้เวลาอีกหนึ่งชั่วยามกว่า
จนกระทั่งสีของท้องฟ้าเริ่มมืดลง ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงวัดร้างแห่งหนึ่งในพื้นที่ทุรกันดารและได้ยินเสียงของหมิ่นโหรว
“ศิษย์พี่ไป๋ สำนักภูเขาหิมะของพวกท่านอาศัยคนเยอะกว่าเพื่อเอาชนะข้า แบบนี้ถือว่ามีความสามารถหรือ…
…หากท่านยังเป็นผู้มีฝีมืออันดับหนึ่งในยุทธภพ เช่นนั้นก็ปล่อยข้าเถอะ แล้วเราสองคนมาสู้กันตัวต่อตัว หากท่านแพ้แล้วก็ปล่อยอวี้เอ๋อร์ของข้า เป็นอย่างไร”
………………………………………………………………