ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 508 กระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดง
ตอนที่ 508 กระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดง
[ติ๊ง! คุณช่วยจอมยุทธ์หญิงหมิ่นโหรวที่ถูกสำนักภูเขาหิมะควบคุมตัวสำเร็จ ทำภารกิจระดับหกดาว ‘ปฏิบัติการช่วยเหลือ’ สำเร็จแล้ว]
[ติ๊ง! คุณช่วยหมิ่นโหรวและอาจ่งที่ถูกสำนักภูเขาหิมะควบคุมตัวสำเร็จ เติมเต็มเงื่อนไขในการทำภารกิจลับของ ‘เคล็ดกระบี่สำนักภูเขาหิมะ’ ทำภารกิจลับสำเร็จส่วนหนึ่งแล้ว]
[ติ๊ง! ‘ปฏิบัติการช่วยเหลือ’ กับ ‘เคล็ดกระบี่สำนักภูเขาหิมะ’ สองภารกิจที่คุณทำสำเร็จมีจุดร่วมกันหลายอย่าง จะแจกรางวัลของสองภารกิจนี้ให้หลังจากรวมรางวัลแล้ว]
[ติ๊ง! รางวัลภารกิจที่คุณได้หลังจากรวมกันแล้ว
กระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดง ×1
‘แก่นสารวิชากระบี่’ ×1]
[ติ๊ง! ตอนนี้แม้จะทำส่วนลับของภารกิจ ‘เคล็ดกระบี่สำนักภูเขาหิมะ’ แต่เส้นเรื่องหลักของภารกิจยังไม่จบลงโดยสมบูรณ์ รางวัลโจมตีสังหารศัตรูยังไม่เปลี่ยนแปลง กรุณาพยายามต่อไป]
หลังจากได้ยินเสียงแจ้งเตือนระบบอย่างต่อเนื่อง ความสนใจของเยี่ยเว่ยหมิงก็ย้ายไปบนไอเทมสองชิ้นที่เป็นรางวัลภารกิจทันที
[กระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดง (อาวุธล้ำค่า)] หนึ่งในสองอาวุธเทพของจอมกระบี่ มีประสิทธิภาพน่าเหลือเชื่อ
โจมตี +900
เพิ่มกำลังภายใน 50%
เลเวลเคล็ดกระบี่ +1
เอฟเฟ็กต์พิเศษ: อาทิตย์แผดเผา!
อาทิตย์แผดเผา: ธาตุพาสซีฟ โจมตีแล้วเปลี่ยนเป็นดาเมจธาตุ ‘ร้อน’ !
…..
พลังโจมตีของกระบี่นี้ เหนือกว่ากระบี่ล้ำค่าเล่มใดๆ ที่เยี่ยเว่ยหมิงมีอยู่ตอนนี้
เพียงแต่การเปลี่ยนการโจมตีธรรมดาให้เป็นธาตุ ‘ร้อน’ ก็อาจส่งผลกระทบบางอย่างกับปราณแท้และทักษะประเภทกระบวนท่าอย่างเลี่ยงได้ยาก
ผลกระทบแบบนี้บอกไม่ถูกว่าดีหรือแย่ ผลลัพธ์โดยละเอียดยังต้องดูค่าสเตตัสวิชาของผู้เล่นเอง
ยกตัวอย่างเช่นทักษะที่เดิมที่มีดาเมจธาตุ ‘ร้อน’ อยู่แล้ว ถ้าใช้ร่วมกับกระบี่เล่มนี้ ยิ่งใช้ก็จะยิ่งต้านทานได้ยาก แต่ถ้าเป็นกระบวนท่าหรือกำลังภายในที่มีธาตุ ‘เย็น’ เมื่อใช้กระบี่เล่มนี้โจมตี ประสิทธิภาพก็จะถูกหักไปเยอะมาก
ซึ่งเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่ต่างกัน การโจมตีเสริมธาตุก็ทำให้เกิดความประหลาดใจหรือปัญหาที่นอกเหนือความคาดหมายได้ง่ายเช่นกัน
ยกตัวอย่างเช่นเยี่ยเว่ยหมิง เขามีค่าสเตตัสที่ต้านไฟได้สูงมาก การโจมตีติดธาตุ ‘ร้อน’ กลับสร้างภัยคุกคามให้เขาไม่ได้เท่าการโจมตีทางกายภาพตัวไป
แต่ถ้าพูดถึงตอนนี้ การใช้งานจริงของกระบี่เล่มนี้เหนือกว่ากระบี่แสงทองกับกระบี่ชิงชัยแล้ว
ไม่ว่าจะใช้ฆ่า BOSS หรือใช้กำจัดวัชพืช ก็ล้วนแสดงประสิทธิภาพที่น่าทึ่งทั้งนั้น!
โดยเฉพาะเมื่อเจอกับคู่ต่อสู้สำนักภูเขาหิมะเหล่านี้ กระบี่เล่มนี้ก็แสดงประสิทธิภาพได้โดนเด่นมาก!
ตอนอยู่ที่ต้าหลี่ก่อนหน้านี้ เขาเคยคุยเรื่องนี้กับขุนเขาลำธารย่อมพานพบจากสำนักภูเขาหิมะมาก่อน วิชากำลังภายในและเคล็ดกระบี่ของสำนักภูเขาหิมะ ล้วนจัดเป็นวิทยายุทธ์ประเภทดาเมจธาตุเย็น เพียงแต่ขุนเขาลำธารไม่ได้ฝึกวิชากำลังภายในและเคล็ดกระบี่จนถึงระดับสูงสุด จึงยังแสดงลักษณะพิเศษของค่าสเตตัสนี้ออกมาไม่ชัดเจน ยังแสดงจุดแข็งของวิชาดาเมจธาตุเย็นออกมาได้ไม่สมบูรณ์แบบก็เท่านั้นเอง
ต่อให้จุดแข็งไม่ชัดเจน จุดอ่อนก็ยังคงอยู่ เพียงแต่ปัจจุบันผู้เล่นและ NPC ที่โจมตีธาตุได้มีน้อยมาก ไม่ได้แสดงตัวก็เท่านั้นเอง
ที่จริงแล้วเป็นเพราะจุดเด่นของวิทยายุทธ์ ประกอบกับสภาพแวดล้อมและสภาพพื้นที่ของสำนักภูเขาหิมะ ทำให้ผู้เล่นและ NPC ของสำนักภูเขาหิมะโดยทั่วไปทนธาตุเย็นได้สูงมาก แต่การต้านธาตุร้อนกลับต่ำจนน่าสงสาร
เมื่อมีกระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดงเล่มนี้ ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงสู้กับศัตรูสำนักภูเขาหิมะเหล่านี้ จะต้องได้เปรียบกว่าหลายส่วนแน่นอน
สำหรับกระบี่ล้ำค่าเล่มนี้ เยี่ยเว่ยหมิงแสดงออกว่าไม่พอใจ จากนั้นสายตาก็ย้ายไปอยู่บนไอเทมรางวัลอีกชิ้น
[แก่นสารวิชากระบี่] ความรู้มากมายจากเคล็ดกระบี่ที่สองสามีภรรยาจอมกระบี่ขาวดำฝึก เมื่อใช้เคล็ดกระบี่ที่กำหนด จะเพิ่มค่าประสบการณ์เคล็ดกระบี่ 300000 แต้ม!
สำหรับ ‘แก่นสารวิชากระบี่’ เล่มนี้ เยี่ยเว่ยหมิงกลับไม่ได้สนใจแต่อย่างใด
ดูจากค่าสเตตัสก็รู้แล้วว่ามันคือตำราลับตระหนักรู้ที่เปลี่ยนชื่อแล้วก็เท่านั้นเอง
อีกทั้งหากพูดตามความจริง ค่าประสบการณ์เคล็ดกระบี่สามแสนแต้มแม้ดูเหมือนไม่น้อย แต่สำหรับ BOSS ระดับจอมกระบี่ขาวดำ ก็ยังถือว่าตระหนี่เกินไปหน่อย
พูดแบบไม่น่าฟัง หากเยี่ยเว่ยหมิงเล่นบทโหดฆ่าพวกเขาสองคนตายขึ้นมาจริงๆ แค่ค่าประสบการณ์เคล็ดกระบี่ที่ได้จากการคลำศพอย่างเดียวก็ได้เยอะกว่านี้ไม่รู้ตั้งเท่าไรแล้ว!
ตอนนี้ยังไม่สนใจ ‘แก่นสารวิชากระบี่’ เยี่ยเว่ยหมิงเก็บกระบี่ชิงชัย แล้วถือกระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดงไว้ในมือ
คมกระบี่เป็นสีแดง แต่ไม่กลับไม่ใช่สีแดงเลือดสวยแปลกตาหรือสีแดงสด แต่เป็นสีแดงประกายทอง เมื่อประกอบกับเกราะมือสีทองเข้มและด้ามกระบี่สีน้ำเงินวิบวับ ก็ยิ่งดูแพงและน่าเกรงขาม เมื่อสะท้อนอยู่ภายใต้แสงจันทร์ก็ยิ่งแพรวพราวสะดุดตาเหมือนดวงอาทิตย์!
เมื่อลองกรอกกำลังภายในเข้าไป เยี่ยเว่ยหมิงก็รู้สึกได้ทันทีว่าระหว่างที่กระบี่ถูกกระตุ้น กำลังภายในของตัวเองกลายเป็นปราณกระบี่ที่ร้อนแผดเผา!
เมื่อปราณกระบี่นี้ปรากฏขึ้นมาแล้ว ก็จะเผาให้น้ำที่อยู่รอบๆ แห้งหมด ทำให้คนรู้สึกหายใจไม่ค่อยคล่อง
ช่างเป็นกระบี่ล้ำค่าที่ร้อนแผดเผาดีจริงๆ!
ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงกำลังประเมินกระบี่ล้ำค่าในมือ มีศิษย์สำนักภูเขาหิมะหลายคนสังเกตเห็นแล้วเช่นกันว่ากระบี่ในมือเขามีการเปลี่ยนแปลง แต่วินาทีต่อมา ตัวกระบี่สีแดงประกายทองก็ถูกสีทองที่สวยหรูดูแพงก่อนหน้านี้กลบหมด เยี่ยเว่ยหมิงใช้อุปกรณ์ภายนอก ‘กระบี่อาญาสิทธิ์’ คลุมรูปลักษณ์ภายนอกของกระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดงไว้
ซึ่งตอนนี้ สองคนที่เยี่ยเว่ยหมิงช่วยออกมาก็สังเกตเห็นการต่อสู้ข้างนอกแล้วเช่นกัน
หมิ่นโหรวพบว่าสามีกำลังต่อสู้กับไป๋วั่นเจี้ยนเพียงลำพัง จึงตะโกนเสียงดังทันทีว่า “พี่สุดหล่อ ข้าจะช่วยท่านเอง” พร้อมชักกระบี่ที่เพิ่งชิงกลับมาได้เข้าไปร่วมวงการต่อสู้ที่สู้สีของสือชิงกับไป๋วั่นเจี้ยน
ส่วนอาจ่งหลังจากเห็นสถานการณ์เปลี่ยนแปลง เขาก็เพียงยิ้มซื่อๆ ให้คนพวกนั้น แล้วโบกมือทักทายเยี่ยเว่ยหมิง แต่ไม่ได้มีท่าทีว่าจะเข้าไปช่วยเลย
เยี่ยเว่ยหมิงแม้จะไม่รู้ชัดว่าตอนนี้ฝีมือของอาจ่งเป็นอย่างไร แต่ถูกคนของพรรคสุขนิรันดร์จับตัวไปง่ายๆ แบบนี้ ตนเองก็ย่อมไม่หวังอะไรกับเขามากอยู่แล้ว
เยี่ยเว่ยหมิงจึงบอกใบ้ให้เขาไปหลบข้างๆ ทันที จากนั้นโบกกระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดง โจมตีไปยังกลุ่มของสำนักภูเขาหิมะอีกครั้ง
การต่อสู้ระหว่าง NPC ค่อนข้างออมมือ ส่วนทางฝั่งผู้เล่นกลับอาศัยที่ตัวเองไม่ตายสู้กันอย่างถึงอกถึงใจ
ผ่านไปไม่นาน เยี่ยเว่ยหมิงก็อาศัยกระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดงที่มีผลข่มเหงกลุ่มสำนักภูเขาหิมะได้ ส่งศิษย์สำนักภูเขาหิมะสิบสามคนซึ่งแบ่งเป็นผู้เล่นเจ็ดคนและ NPC หกคนไปยืนทำโทษนอกสนาม
ส่วนจอมกระบี่ขาวดำทางฝั่งนั้น ในที่สุดก็อาศัยความได้เปรียบที่ร่วมมือกันต่อสู้ แทงกระบี่ยาวสองเล่มที่คอของไป๋วั่นเจี้ยนพร้อมกัน!
ผลแพ้ชนะออกแล้ว!
แม้ตามกฎ NPC สองฝ่ายที่ฝีมือพอๆ กันจะสู้เสมอกันต่อไปได้เรื่อยๆ
แต่ยอดฝีมือเลเวลเดียวกันที่สู้แบบสองต่อหนึ่ง หากยังสู้เสมอกันอยู่ เช่นนั้นก็แสดงว่าเนื้อเรื่องชุ่ยเกินไปแล้ว
หลังจากสู้แพ้ ไป๋วั่นเจี้ยนกลับยิ้มสลดพร้อมบอกว่า “หากอาจารย์เฟิงอยู่ที่นี่ แล้วศิษย์พี่ศิษย์น้องร่วมมือกันสองคน มีหรือที่จะแพ้พวกเจ้า”
พอพูดจบก็หลับตาลง ท่าทางเหมือนเตรียมสละชีพอย่างมีเกียรติ
เหมือนกับที่เขาไม่ได้ตอบตกลงจะสู้ตัวต่อตัวกับหมิ่นโหรวตั้งแต่แรก ตอนนี้เขาก็ไม่หวังว่าอีกฝ่ายจะยึดถือศีลธรรมในยุทธภพเช่นกัน
สาเหตุที่เขาพูดอย่างนั้น ก็เพื่อความสะใจเท่านั้นเอง
ทว่าสิ่งที่ทำให้คิดไม่ถึงก็คือ เมื่อได้ยินคำพูดของไป๋วั่นเจี้ยน อาจ่งกลับเอ่ยขึ้นว่า “อาจารย์ไป๋วั่นเจี้ยน ให้ข้ากับท่านร่วมมือกันเป็นอย่างไร”
เมื่อเขากล่าวคำนี้ออกมา คนที่อยู่ในสนามก็หน้าเหวอไปตามๆ กัน!
น้องชาย นี่เจ้ายืนอยู่ฝั่งไหนกันแน่
ตอนนี้กลับเห็นอาจ่งเกาศีรษะพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้มใสซื่อ “ตอนนี้พวกท่านขาดหนึ่งคน ดังนั้นกระบี่นี้ก็ประลองไม่ได้ หรือไม่อย่างนั้น ให้ข้ากับอาจารย์ไป๋ร่วมมือกัน แล้วเข้าไปร่วมสนุกด้วยดีไหม”
เยี่ยเว่ยหมิงมองอาจ่ง เพื่อนร่วมทีมหมูทึ่มที่ไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง แล้วหันมองกระเป๋าค่าประสบการณ์เคลื่อนที่ได้เกือบสี่สิบใบที่กำลังรอเขาไปเก็บ เยี่ยเว่ยหมิงก็อดแขวะในใจไม่ได้
ทำได้สวยงาม!